รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/1b/7d/d1/1b7dd1fafc4f764e968d4a9ebdf8d924.jpg

เรื่องที่หลายๆ คนไม่ค่อยให้ความสนใจ แต่พอเป็นขึ้นมาเมื่อไหร่ ก็วุ่นวายใช่ย่อยเลยนะ วันนี้ ขอเข้าโหมดความรู้บ้างดีกว่าเนอะบอกต่อโรคที่เพื่อนๆ จำเป็นจะต้องรู้ทั้งการป้องกัน วิธีแก้ และอาการของโรคแม้จะไม่อยากป่วย แต่รู้ไว้ก่อน ก็ไม่เสียหายนิ!ซัมเมอร์แบบนี้ แดดก็แรง อากาศก็แย่แน่นอนว่า ช่วงหน้าร้อน มักจะมาพร้อมๆ กับโรคต่างๆ ที่เราคาดไม่ถึงวันนี้ เรารวม6 โรคยอดฮิตช่วงซัมเมอร์มาให้ดูจะได้รู้ว่า มีโรคอะไรบ้าง ที่ควรระวังก่อนจะไปดูพร้อมๆ กัน หายใจเข้าลึกๆ โอเค พร้อมยัง ถ้าพร้อมแล้ว เราไปตรวจสุขภาพกันเลยค่ะ

1. โรคอาหารเป็นพิษ


รูปภาพ:https://www.honestdocs.co/system/blog_articles/main_hero_images/000/003/452/large/iStock-903342612_%281%29.jpg

โรคอาหารเป็นพิษ: สาเหตุมาจากเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส และพยาธิอาจจะเกิดจากการที่เราชอบทานอาหารแบบสุกๆ ดิบๆโดยเฉพาะอาหารทะเล หรือการใช้มือหรือภาชนะที่ไม่สะอาดมาประกอบอาหาร หรือใช้ขณะรับประทานอาหาร........................................................................................................................................................................อาการ:จะรู้สึกคลื่นไส้ และมีอาการท้องเสียขั้นรุนแรงสำหรับใครที่เป็นหนักมากๆ อาจจะมีทั้งอาการคลื่นไส้ รวมไปถึงการถ่ายออกมาเป็นมูกเลือดด้วย ถึงแม้บางคนจะอาการไม่หนักหนาแต่โรคนี้ ก็โอกาสเสี่ยงต่อภาวะขาดน้ำอย่างหนักได้เหมือนกันฉะนั้น ถ้าพบความผิดปกติควรรีบไปหาหมอด่วน........................................................................................................................................................................การป้องกันตัวเองจากภาวะอาหารเป็นพิษ:ควรล้างมือทุกครั้ง ก่อนที่เราจะรับประทานอาหาร หรือหยิบจับของกินเข้าปากเลือกรับประทานอาหารที่สุก สะอาดอาหารชนิดไหน ที่เราเก็บไว้นานเกินไป ไม่ควรนำมากินอีก ให้ทิ้งไปซะ แต่ถ้าต้องออกไปกินข้าวนอกบ้านให้เลือกร้านที่สะอาด และถูกสุขลักษณะเพียงเท่านี้ เราก็สามารถป้องกันโรคนี้ได้แล้วค่ะ

2. โรคลมแดด


รูปภาพ:https://www.thaihealth.or.th/data/content/2016/03/30991/cms/thaihealth_c_aceklmptwz36.jpg

โรคลมแดด หรือ Heatstroke: สาเหตุเกิดจากความล้มเหลวในการรักษาอุณหภูมิของร่างกายให้คงที่ส่งผลให้อุณหภูมิของร่างกายสูงขึ้นกว่าปกติ ทำให้เกิดอาการต่างๆ ซึ่งหากอาการรุนแรงอาจเป็นอันตรายต่อชีวิตได้โดยเฉพาะคนที่ไม่ค่อยกินน้ำการที่เรานั้นอยู่ในบริเวณอุณหภูมิที่ร้อนจัด อบอ้าว ถึงแม้จะไม่โดนแสงแดดก็สามารถเกิดอาการนี้ได้เช่นกัน........................................................................................................................................................................อาการ: อาจจะเริ่มจากอาการวิงเวียนหัว ปวดหัว อ่อนแรง และคลื่นไส้เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้นเรื่อยๆ อาจทำให้เกิดอาการผิดปกติ เช่น สับสน พูดไม่ชัดเจน กระสับกระส่าย หรือเห็นภาพหลอนแต่ถ้าใครที่มีอาการรุนแรงมากๆ จะเกิดการชักเกร็งและมีอาการโคม่าได้ในที่สุดสังเกตได้จากการสัมผัสของผู้ที่เป็นโรคนี้ จะพบว่าตัวจะเริ่มร้อน และมีผิวสีที่แดงกว่าปกติ........................................................................................................................................................................การป้องกันตัวเองจากโรคลมแดด: เราควรดื่มน้ำเยอะๆ และหลีกเลี่ยงจากสถานที่ที่มีความอบอ้าว หรือตากแดดเป็นเวลานาน หรือที่ที่มีอุณหภูมิสูงๆ

3. โรคพิษสุนัขบ้า


รูปภาพ:http://www.thaipolice.zocialx.com/wp-content/uploads/2018/03/j2.jpg

โรคพิษสุนัขบ้า: เป็นอีกหนึ่งโรคที่มาแรงมากๆ ในช่วงหน้าร้อนนี้ เรามารู้ถึงสาเหตุของโรคนี้กันหน่อยดีกว่าเนอะเชื้อไวรัสพิษสุนัขบ้านั้น จะอยู่ภายในน้ำลายของสัตว์ช่องทางที่มีโอกาสติดต่อจากสุนัขมาสู่คนได้มากที่สุดคือ การถูกสุนัขกัดและเชื้อก็จะเดินทางจากน้ำลายของสุนัขเข้าสู่แผลที่ถูกกัดนั่นเอง และไม่ใช่แค่น้องหมาเท่านั้น ที่ทำให้เราเสี่ยงต่อโรคนี้นะ สัตว์ที่เลี้ยงลูกด้วยนมทั้งหลายก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุ ที่สามารถทำให้เราติดโรคนี้ได้ด้วย........................................................................................................................................................................อาการ:หากเป็นโรคนี้ขึ้นมา จะมีอาการสมองอักเสบ ปวดเมื่อยตามตัว มีไข้ คันบริเวณที่ถูกกัดหงุดหงิด กระสับกระส่าย ตื่นเต้นและไวต่อสิ่งรอบตัว ไม่ชอบแสง ไม่ชอบลม มีน้ำลายไหล กล้ามเนื้อเกร็งและกระตุก ต่อมาจะเริ่มเพ้อ คลั่ง ชัก กลัวน้ำ หมดสติ และเสียชีวิตในที่สุด มีความน่ากลัวมากกว่าโรคอื่นๆ อีกนะเนี่ย!........................................................................................................................................................................การป้องกันตัวเองจากโรคพิษสุนัขบ้า:อย่าพยายามไปใกล้กับสัตว์ที่ไม่คุ้นเคย หรือเล่นกับสัตว์เวลาอากาศร้อนจัดให้พาสัตว์เลี้ยงที่บ้านไปฉีดวัคซีนป้องกันโรค สำหรับใครที่โดนกัดไปแล้ว อย่างแรกชำระล้างบาดแผลก่อนด้วยน้ำสะอาดและสบู่โดยการถูเบา ๆ เท่านั้น ซับแผลให้แห้งด้วยผ้าก็อซที่สะอาด แล้วฆ่าเชื้อด้วยการเช็ดแผล ด้วยแอลกอฮอล์หรือทิงเจอร์ไอโอดีน เสร็จแล้วรีบไปหาหมอทันที

4. โรคบิด


รูปภาพ:https://health.mthai.com/app/uploads/2017/12/stomach-ache.jpg

โรคบิด: คือโรคที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียหรือการติดเชื้ออะมีบาในลำไส้ซึ่งก่อให้เกิดอาการท้องเสียชนิดมีเลือดหรือมูกปน เกิดจากสาเหตุหลักสองอย่างคือโรคบิดชนิดไม่มีตัว เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย shigella ในอุจจาระซี่งมักพบในประเทศที่มีสุขอนามัยไม่ดีกับโรคบิดที่เกิดจากอะมีบา เกิดจากปรสิตเซลล์เดียวที่มีชื่อว่า Entamoeba histolytica ที่มักพบในเขตร้อน........................................................................................................................................................................อาการ: ถ้าหากติดเชื้อแบบไม่มีตัวช่วงแรกจะมีอาการรุนแรง มีไข้สูง อาเจียน ถ่ายเป็นเลือดและมีหนองปน ถ่ายน้อยแต่บ่อยมาก ถ้าปล่อยให้อ่อนแอ อาจจะเกิดอาการชักได้ แต่ถ้าเป็นแบบติดเชื้อจากอะมีบามักจะไม่ค่อยมีอะไรช่วงแรก แต่อาจจะมีอาการบิดเฉียบผลัน มีไข้สูง หนาวสั่น อุจจาระร่วง เชื้อแพร่ไปตามกระแสโลหิต ซึ่งอาจจะเกิดฝีที่ตับ ปอดหรือสมอง และต้องรีบไปหาหมอเมื่อรู้สึกมีอาการไม่ดี

........................................................................................................................................................................การป้องกันตัวเองจากโรคบิด: คือ การรักษาความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ เป็นวิธีป้องกันโรคบิดที่ดีที่สุดเพราะสุขอนามัยที่ดีจะช่วยลดความเสี่ยงการติดเชื้อโรคบิดได้

5. โรคไข้ไทฟอยด์


รูปภาพ:https://www.progressivenewsdaily.com/images/causes_and_symptoms_of_typhoid_fever_styles_at_life.jpg

โรคไข้ไทฟอยด์: เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย และเชื้อโรคชนิดนึง ที่ก่อให้เกิดการติดเชื้อในทางเดินอาหารซึ่งอาจจะปนเปื้อนมาในอาหารรวมถึงน้ำดื่มนอกจากนี้การขับถ่ายของเสียที่ไม่ถูกสุขอนามัย เช่นการขับถ่ายลงแหล่งน้ำ หรือการทิ้งของเสียและสิ่งปฏิกูลลงแหล่งน้ำ ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการแพร่กระจายของเชื้อได้เช่นเดียวกัน........................................................................................................................................................................อาการ:  จะเริ่มแสดงเมื่อมีแบคทีเรียชนิดนี้อยู่ในตัวหลังจาก 1 - 2 สัปดาห์ จากนั้นจะตามมาด้วยอาการปวดหัว ปวดตามตัว และมีไข้สูง มีอาการท้องร่วง ผื่นขึ้นตามตัว........................................................................................................................................................................การป้องกันตัวเองจากโรคไข้ไทฟอยด์: ปกติ คนที่เป็นโรคนี้จะหายเองภายใน 3 - 4 สัปดาห์   แต่ทางที่ดีเมื่ออาการของโรคนี้เกิดขึ้น แนะนำให้รีบไปหาหมอจะดีกว่าวิธีป้องกัน คือการรักษาความสะอาด อาหารที่เราจะกินเข้าไปนั้น จะต้องสุก แหล่งน้ำที่ใช้ดื่ม ก็ต้องปลอดภัย ไม่มีสิ่งเจือปน และควรไปรับวัคซีนป้องกันด้วยนะ

6. โรคอหิวาตกโรค


รูปภาพ:https://news.mthai.com/app/uploads/2018/01/diarrhea-1.jpg

โรคอหิวาตกโรค: สาเหตุนั้นมาจากแบคทีเรียที่ชื่อว่าVibrio Choleraeที่เข้าสู่ร่างกายของเรา ซึ่งเกิดขึ้นจากการรับประทานอาหารเป็นการติดเชื้อในลำไส้อย่างเฉียบพลันและโรคนี้ เชื่อหรือไม่ว่า สามารถคร่าชีวิตของผู้คนไปได้จำนวนมากเลยทีเดียว........................................................................................................................................................................อาการ: จะมีอาการหลังได้รับเชื้อแล้ว 2 - 3 ชั่วโมงไป จนถึงประมาณ 5 วัน อาการสำคัญคือท้องเสียเฉียบพลัน อุจจาระเป็นน้ำและจะทำให้ร่างกายขาดน้ำอย่างรุนแรงอุจจาระจะมีสีขาวเหมือนน้ำซาวข้าว และมีกลิ่นเหม็นเหมือนคาวปลาร่วมไปถึงอาการคลื่นไส้ แต่ส่วนใหญ่ถ้าคนเป็นโรคนี้จะไม่มีไข้และไม่ปวดท้อง........................................................................................................................................................................การป้องกันตัวเองจากโรคอหิวาตกโรค: อย่างแรกเลยคือ เราต้องระมัดระวังในเรื่องของการกิน และรู้จักรักษาความสะอาดกินแต่อาหารปรุงสุกโดยเฉพาะอาหารทะเลล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่บ่อยๆ ทุกครั้งก่อนกินอาหาร หลังเข้าห้องน้ำ และหลังการดูแลผู้ป่วยยิ่งเรารักษาความสะอาดมากเท่าไหร่ โอกาสเสี่ยงก็จะมีน้อยมากเท่านั้น

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/bb/6f/6c/bb6f6ca94804f80edd5718e22389612f.jpg

บางโรคอาจจะดูน่ากลัว บางโรคอาจจะดูเฉยๆ แต่ก็อย่าละเลย ที่จะดูแลตัวเองนะคะ เวลาที่มันยังไม่เกิด เราก็มองว่า มันเป็นเรื่องเล็กนี่แหละ แต่เมื่อไหร่ก็ตาม ที่ป่วยขึ้นมา ปัญหาหนักเด้อ ฉะนั้นดูแลตัวเองตั้งวันนี้ สุขภาพเรา มันหาซื้อที่ไหนไม่ได้ รู้มั้ยสำหรับวันนี้ ก็หวังว่า จะได้ประโยชน์กันทั่วหน้านะ ไปก่อนละ บ๊ายบาย