ใคร ๆ เค้าบอกกันว่าความรักเป็นสิ่งสวยงามช่วยให้จิตใจสดชื่นมีพลังบางคนก็บอกว่ามันช่างขมขื่นยิ่งกว่ากาแฟอเมริกาโน่บางคนหนักกว่าบอกว่ามันเป็นยาพิษร้าย!!!
โอ๋ ๆๆ ไม่เอานะคะ อย่าได้ดราม่าไป
ถึงใคร ๆ จะบอกว่าที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์ แต่ก็อย่าลืมว่าแม้มันจะมีทุกข์แต่มันก็มีสุขเข้ามาเพิ่มในสัดส่วนที่ไม่ด้อยไปกว่ากันเลย
ดังนั้นถ้าใครโดนเทก็ตั้งสติสักนิด วันนี้เรามีวิธีเยียวยาแผลใจให้หายวันหายคืนมาฝากกันค่ะ
1. ร้องไห้ให้เต็มที่
อยากร้องเท่าไหร่ก็ร้องไปเลย อย่าไปอั้นไว้ มีการวิจัยออกมาแล้วว่า
การร้องไห้นั้นเป็นวิธีระบายความเครียดได้
เพราะในน้ำตาที่เกิดจากการร้องไห้นั้นมีสารที่ทำให้เกิดความเครียดปนอยู่ด้วย ดังนั้นเราจึงควรระบายมันออกมา

พอร้องไห้ออกไปแล้วจะรู้สึกโล่งขึ้น ดังนั้นอยากร้องเท่าไหร่ให้ร้องออกไป
อยากฟังเพลงอกหักก็จัดเลย
ร้องจนเหนื่อยไปเลยก็ได้ จากนั้นก็หลับสักงีบ จะตาบวมก็ช่างมันก่อน นาทีนี้เราต้องถอนความเศร้าออกให้หมด
ว่าแต่
ยังไง ๆ ก็เลือกเวลาและสถานที่ด้วยนะคะ
จะได้ไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่น
สาวซิสสู้ ๆ นะคะ
2. หาเพื่อน

ใครไม่รักเราก็ปล่อยเค้าไป แต่
เพื่อนเรารักเราซะอย่าง
จะกลัวอะไร จริงมั้ยคะ
มีเรื่องอะไรอย่าเก็บไว้คนเดียว อย่าคิดว่าพูดไปเพื่อนก็ช่วยอะไรไม่ได้
อย่าลืมว่า
การระบายความรู้สึกออกมาทำให้ใจเราเบาขึ้น
และช่วยฟื้นฟูสภาวะทางจิตใจให้กลับคืนสู่ปกติได้เร็วขึ้นด้วย

แค่มีเพื่อนที่คอยรับฟังเรา แม้ว่าเขาจะไม่ได้พูดอะไรเลย นั่นก็ถือว่าช่วยเราแล้ว
คิดดูสิถ้าเราอึดอัดใจแล้วไม่มีใครมาสนใจเราเลยมันจะน่าอึดอัดแค่ไหน
เพื่อนน่ะในยามปกติอาจจะด่าเราบ้างไรบ้าง
แต่พอเราร้องไห้มา...
เชื่อสิ เพื่อนเหล่านี้แหละที่จะคอยเคียงข้างเรา
3. เขียนระบายความรู้สึก

บางทีเราต้องการระบายความเศร้าแบบปัจจุบันทันด่วน แล้วเพื่อนก็ยังไม่ว่าง ดังนั้นการเขียนจึงเป็นวิธีแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดีที่สุด

อาจเขียนเป็นจดหมายแล้วเก็บไว้ไม่ต้องส่งนะคะ
หรือเขียนไว้ในสมุดแบบสันห่วง วันหน้าวันหลังกลับมาอ่าน
อาจจะรู้สึกขำจนอยากจะฉีกทิ้งไปก็ให้ฉีกทิ้งเลยก็ได้
หรือใครถนัดพิมพ์ลงในมือถือก็ไม่ว่ากัน แต่
ไม่แนะนำให้เอามาเผยแพร่ออกโลกโซเชียล
เพราะตอนเรากำลังสติหลุดเราอาจใช้ถ้อยคำที่ไม่เหมาะสมออกไป ดังนั้นต้องใช้วิจารณญาณกันด้วยนะคะสาว ๆ
4. หาของกินอร่อย ๆ

กินมันไปอย่าได้แคร์ อย่าเพิ่งนึกถึงแคลอรี่ อย่าเพิ่งกังวลกับน้ำหนัก
นาทีนี้จิตใจเราอ่อนแอ ต้องการบำรุงสุขภาพจิตโดยด่วน
การได้กินอะไรอร่อย ๆ ช่วยให้หันเหความสนใจจากอารมณ์เศร้า ๆ ได้
5. ออกกำลังกาย

ไม่ได้บอกให้กินอย่างเดียวนะ ต้องออกกำลังกายด้วย
หลายคนเบ้หน้าทำท่าขี้เกียจ แต่อย่ากระนั้นเลยนะคะสาว ๆ
เพราะถึงยังไงเราก็รู้กันดีอยู่แล้วว่าการออกกำลังกายนั้นลดความเครียดได้อย่างแน่นอน แบบไม่ต้องไปพึ่งคุณไสย์หรือยาชนิดใด
ก็เพราะการออกกำลังกายเป็นยาวิเศษนั่นเอง

ถ้าใครไม่มีเรี่ยวแรงออกกำลังกายหนัก ๆ ก็ลองเล่นโยคะดู เพราะเป็นการออกกำลังกายเบาๆ แต่ทำให้ใจสงบ
แต่ถ้าใครเป็นสายฮาร์ดคอร์จะขอออกแรงให้มันสะใจจะต่อยมวย ออกไปวิ่ง หรือจะแดนซ์กระจายก็ไม่ว่ากัน
อ๊ะ ๆ อย่ามาอ้างว่าไม่มีตังค์ไปฟิตเนสนะ เพราะเดี๋ยวนี้ยูทูปหรือแอพใน
มือถือเขาก็มีให้ทำตามเยอะแยะ อยู่บ้านก็ทำได้ค่ะ
6. ท่องเที่ยวต่างถิ่น หรือชมธรรมชาติ

ใครพอมีงบก็จัดเลยค่ะ ไปต่างจังหวัดหรือต่างประเทศ จะไปเดี่ยวหรือเที่ยวกับเพื่อนก็ตามแต่สะดวกได้เลย
การพบเจอสิ่งแวดล้อมใหม่ ๆ ทำให้เราไม่จมอยู่กับเรื่องเดิม ๆ
อย่าว่าแต่คนอกหักเลย แม้แต่คนทั่วไปที่เครียดจากเรื่องต่าง ๆ ก็ยังใช้
การท่องเที่ยวเป็นเหมือนเครื่องชาร์จพลังอย่างหนึ่งเช่นกัน

แต่สำหรับคนงบน้อยก็แค่ลองไปเดินเล่นในสวนสาธารณะ สวนหย่อมเล็ก ๆ หรือไปชมธรรมชาติใกล้ตัวดู
สีเขียว ๆ ของต้นไม้ใบหญ้าจะช่วยให้จิตใจเราผ่อนคลายยิ่งขึ้น
อ้อ...แต่พยายามหลีกเลี่ยงสถานที่ที่เคยเป็นความหลังด้วยนะ
เดี๋ยวจะทำให้อาการดราม่ากำเริบหนักกว่าเดิม
7. หยุดคิดถึงเค้าสักพัก

จะให้ถอนรากถอนโคนความหลังฝังใจในคราวเดียวมันอาจจะยาก
ถ้างั้นเราลองมาทำข้อตกลงกับตัวเองดูว่า เช่น สองวันนี้เราจะไม่คิดถึงเค้า แล้วหลังจากนั้นค่อยกลับมาคิดใหม่ได้กี่วันก็กำหนดไป สลับกันดู
วิธีนี้ทำให้ไม่ต้องกดดันตัวเองจนเกินไป

เพราะความเจ็บปวดต้องใช้เวลา แต่ถ้ามีวิธีการที่ถูกต้อง เราก็สามารถลดเวลาแห่งความเจ็บปวดนั้นลงได้
ความเจ็บปวดกับความรักเป็นของคู่กัน แต่ถ้า
เราใช้ความเจ็บปวดมาเป็นบทเรียน เพื่อที่วันข้างหน้าจะได้รู้จักและรักให้เป็น
แล้วจะรู้ว่า
ความเจ็บปวดที่ผ่านมานั้นแสนคุ้มค่ากับความสุขที่ได้มาอย่างยั่งยืนในวันที่เรารักเป็นแล้ว
ขอเป็นกำลังใจให้สาวซิสทุกคนค่ะ