" ไปเที่ยว xx เหรอ ฝากซื้อของหน่อย! "
เป็นแบบนี้ทุกครั้งเลย เวลามีคนรอบตัวเรารู้ว่าเธอกำลังจะไปเที่ยวแดนไกลอย่างต่างประเทศนะ มันต้องมีใครสักคนอะ ฝากเธอให้ช่วยซื้อของอะไรสักอย่างให้ทุกทีเลย แล้วบางคนก็ถึงขั้นฝากเงินมาให้เรียบร้อยแล้วอีก... ใจอยากปฏิเสธเวอร์ๆ เลย
เพราะพวกของที่ฝากซื้อเนี่ย สุดแสนที่จะเป็นภาระ
เราเลย
แต่บอกตรงๆ คงดูไม่ดี...
งั้นมาส่องทริคปฏิเสธไม่รับซื้อของฝากแบบสุขภาพกันค่ะ!
เธอจะได้ไม่มีภาระและเที่ยวสนุกกับทริปนี้ไง เอาล่ะ รีบไปส่องกัน!
+ 1. ถ้าเจอก็จะซื้อกลับมาให้นะ +

อย่ารับปาก!
เวลามีคนมาฝากเธอซื้อของ เธอก็พูดอ้อมๆ ว่า
"ถ้าเจอ เดี๋ยวซื้อกลับมาให้นะ "
ไปเลยค่ะ การบอกกับฝ่ายนั้นไปด้วยประโยคทำนองนี้ มันก็เหมือนว่าเธอกึ่งๆ รับปาก กึ่งๆ ปฏิเสธไปในตัวนั่นแหละค่ะ เพราะไปท่องเที่ยในประเทศที่ไม่รู้จัก บ้านเมืองก็กว้างใหญ่ โอกาสที่จะเจอของที่ฝากซื้อมาเนี่ย เป็นอะไรที่น้อยมาก หากไม่ตั้งใจหาดีๆ
เธอก็ใช้ช่องว่างนี้มาเป็นข้ออ้างในการปฏิเสธแบบเนียนๆ ได้เลย รับรองว่าฝ่ายนั้นไม่มองเธอแย่หรอก เพราะเราก็ไม่ได้ปฏิเสธว่าจะไปซื้อกลับมาให้เสียหน่อย แต่ไปแล้วไม่เจอ ก็เลยไม่ได้ซื้อกลับมาก็เท่านั้นเอง
+ 2. ถ้าน้ำหนักกระเป๋าเกิน ขอไม่ซื้อกลับมานะ +

น้ำหนักกระเป๋าเกิน ที่ว่างไม่พอ อะไรก็อ้างไปเถอะ
ในกรณีที่ฝ่ายนั้นฝากซื้อของ มีชิ้นค่อนข้างใหญ่และหนัก เธอสามารถปฏิเสธฝ่ายนั้นด้วยข้ออ้างเรียบง่าย อย่างน้ำหนักกระเป๋าเกินกับที่ว่างในกระเป๋าไม่พอได้เลยค่ะ เนื่องจาก
ค่าใช้จ่ายสำหรับการซื้อน้ำหนักเพิ่มนั่น มันก็คอ่นข้างแพงเอาเรื่อง
อยู่ คนไหนที่เคยไปเที่ยวต่างประเทศมาก่อนแล้ว เมื่อบอกเรื่องนี้ไปก็จะเข้าใจได้เองค่ะ
+ 3. ปฏิเสธอย่างนุ่มนวล +

บอกไปตรงๆ ด้วยคำพูดที่ฟังดูนุ่มนวลพร้อมอธิบายเหตุผลให้เข้าใจ
หากเธอกับคนที่ฝากซื้อของสนิทกันในระดับหนึ่งแล้ว เธอก็สามารถบอกกับฝ่ายนั้นไปตรงๆ ได้เลย พร้อมอธิบายเหตุผลดีๆ สักข้อสองข้อให้เขาเข้าใจซะ ว่าทำไมเธอถึงไม่อยากรับฝากซื้อเท่าไร มันเป็นเพราะของหายากหรือเปล่า น้ำหนักเยอะ อะไรก็ว่าไป เปิดอกคุยกันเป็นพอ ทำแบบนี้กับคนที่สนิทด้วย จะดูเป็นการจริงใจต่อกันมากกว่าพูดอ้อมๆ ค่ะ
+ 4. เงินไม่พอซื้อ +

ซื้อกลับมาไม่ได้ เพราะเงินไม่พอ
ส่วนใหญ่เวลามีคนฝากเธอซื้อของจากต่างประเทศกลับมาไทยก็จะพูดกันแค่ปากเปล่าอย่างเดียวเลยใช่ไหมล่ะคะ ส่วนเงินน่ะ ไม่ได้มีฝากมาด้วยเลย
มันทำให้เธอสามารถใช้เรื่องนี้มาเป็นข้ออ้างในการปฏิเสธได้ล่ะ ว่าเงินที่เธอเตรียมไปเที่ยวครั้งนี้ มันไม่พอซื้อของฝาก เลยไม่ได้ซื้อกลับมาให้ แล้วอย่าลืมกล่าวคำขอโทษพอเป็นพิธี เพื่อให้อีกฝ่ายได้รู้สึกว่าเราก็ยังใส่ใจคำขอนี้อยู่นะ เพียงแต่ทำไม่ได้เพราะติดขัดปัญหาด้านการเงิน
+ 5. ถ้าโดนเรียกเก็บภาษี จ่ายด้วยนะ +

ตกลงกันก่อน ว่าถ้าโดนภาษี ต้องจ่ายเพิ่มในส่วนนี้นะ
เหตุผลที่เธอโดนฝากซื้อของเวลาไปต่างประเทศ ถ้าไม่ใช่เป็นในกรณีที่ว่ามีขายเฉพาะที่นั่นไปเลย มันก็เป็นเพราะของราคาถูก เนื่องจากไม่โดนเก็บภาษีนำเข้านั่นเองค่ะ กระเป๋าเอย เครื่องประดับเอย ส่วนใหญ่ก็ของแบรนด์เนมนั่นแหละ
ดังนั้นหากมีคนฝากซื้อเยอะๆ เข้า กระเป๋างอกผิดสังเกต ศุลกากรเรียกตรวจเก็บภาษีแน่ๆ และแน่นอนว่าไม่ใช่แค่ร้อยสองร้อยบาท
งั้นเธอก็เอาเรื่องนี้ไปคุยตกลงกับพวกฝากซื้อให้เรียบร้อยก่อนเลย ถือว่าเป็นอีกหนึ่งวิธีที่เตือนกันอ้อมๆ แล้วว่าไม่อยากรับฝากนะ
+ 6. หาร้านไม่เจอ +

อ้างไปเลยว่าหาร้านที่ขายไม่เจอ!
อีกหนึ่งข้ออ้างยอดนิยม ที่ไม่ว่าจะหยิบมาใช้เมื่อไรก็ฟังดูไม่น่าเกลียดอย่าง
" ลองเดินดูแล้ว แต่ไม่เจอร้านที่ขายเลย " หรือไม่ก็ "ไม่เห็นร้านที่ขายเลยนะ "
ข้ออ้างแนวๆ นี้มักจะฟังดูขึ้นเสมอค่ะ เพราะบ้านเมืองที่เธอไปก็กว้างใหญ่ โอกาสหาเจอก็ต่ำมาก เวลากลับมาถึงไทยโดยไม่มีของฝากซื้อสักชิ้น เธอก็อ้างเรื่องนี้ไปเลย! อีกฝ่ายไม่นึกโกรธหรอก
+ 7. เก็บเงียบไว้เรื่องที่จะไปเที่ยว +

จะไปก็ไปเลย ไม่ต้องบอกใคร
วิธีนี้คงเนียนที่สุดแล้วค่ะ ระหว่างเตรียมตัวเที่ยวทริปนี้กับแก๊งเพื่อนที่ไปด้วยกัน เธอก็ไม่ต้องประกาศผ่านเฟส ทวิต ฯลฯ ให้คนรู้จักได้รับรู้ว่าเธอกำลังไปเที่ยวต่างประเทศแล้วนะ เพียงเท่านี้ก็หนีเรื่องใีคนฝากซื้อของได้แล้วค่ะ หรือถ้ามีคนส่งข้อความมาฝากซื้อของทีหลัง เธอก็แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นก็ยังได้เลย แล้วค่อยมาแก้ตัวอีกทีว่าเที่ยวเพลิน ไม่ค่อยว่างเช็คข้อความ อะไรก็ว่าไป
++++++++++++++++
ไม่รู้ว่าจะปฏิเสธคนที่ฝากซื้อของอย่างไร?
หลังจากอ่าน
7 ทริคปฏิเสธไม่รับฝากซื้อของ
จบกันไปแล้ว เธอก็น่าจะได้ไอเดียดีๆ ลองเอาไปทำทริปหน้าที่ตัวเองไปเยอะเลยนะ ทั้งรับฟังไว้แต่ไม่ได้รับปากว่าจะซื้อกลับมาจริงๆ ทั้งตกลงคุยกันให้เรียบร้อย ทั้งการแอบไปเลยไม่ต้องบอกใคร...
เอาเป็นว่าเธอรู้สึกถูกใจวิธีไหนมากที่สุด เธอก็ลองเอาไปปรับให้เข้ากับตัวเองอีกนิด แล้วค่อยเอาไปใช้ปฏิเสธตอนโดนฝากซื้อของตอนไปเที่ยรอบหน้าก็แล้วกันนะ แต่ของแบบนี้ฝึกซ้อมไว้หน่อนก็ดี จะได้ไม่เผลอหลุดพิรุธ ถ้าอย่างนั้น... เราขอไปซ้อมปฏิเสธก่อนนะคะ!
เจอกันใหม่ครั้งหน้า บัยบายจ้า