จากการที่เราได้เห็นโอปอล์มีชีวิตดี แฟนดี
จากการที่เราได้เห็นติช่า ได้ตำแหน่งเดอะเฟสฯ ไปครอง
จากการที่เราเห็นเทรนด์นางงามอย่างน้องแนท-เมญ่า ก็สวยได้ทั้งที่ผิวสี
ตัวอย่างเหล่านี้ยิ่งตอกย้ำชัดเจนว่าความมั่นใจเป็นสิ่งที่ดีมากๆ ที่เราจะสวยในแบบของเรา ไม่ต้องตามใครให้เหนื่อย ไม่ต้องแคร์สายตาของใครมาทำร้ายตัวเองเปล่าประโยชน์ ไม่ขาวก็สวยได้ เตี้ยก็สวยได้ อย่าได้แคร์ เรามีดีอยู่ในตัว
แต่บางทีมันก็มีเส้นบางๆ ระหว่างมั่นใจว่า มีดีจึงสวย VS ดื้อรั้นว่าตัวเองสวย(สวยในโลกของตัวเองนี่แหละ)
สาวๆ จ๋า ถ้าจะสวยมั่น สวยแพงจริงๆ อย่าลืมนะจ๊ะว่า การฟังคนอื่นบ้างก็เป็นสิ่งที่ดีกว่าไม่ฟังใครเลยแน่นอน มาดูกันว่าความมั่นใจแบบไหนที่มันช่างน่าขบขัน ไม่แพง ไม่น่าชื่นชม ไม่มีเสน่ห์เลยสักนิด มาดูว่านิสัยอย่างไรบ้างที่จะทำให้เธอเป็นแบบนั้น!
#1 คิดว่าการไม่ตามแฟชัน = ไม่ดูแลตัวเอง ไม่แต่งสวย

เกิดเป็นเพศหญิง ไม่ว่าจะหญิงแท้ เลสเบี้ยน ทอม ดี้ ก็อย่าหยุดดูแลตัวเองเด็ดขาด ต่อให้หมั่นไส้คนสวยแค่ไหนก็ตาม เราก็ควรดูแลผิวพรรณ รักษาความสะอาดของเรือนร่างบ้าง อย่ามั่นใจที่จะโชว์หน้าสดในทุกโอกาส เพราะการไม่แต่งสวยเลย แม้กระทั่งในงานสำคัญ นอกจากจะไม่ให้เกียรติตัวเอง ยังเป็นการไม่ให้เกียรติเพื่อนร่วมงานคนอื่นด้วย
#2 ตามแฟชั่นที่ไม่เข้ากับตัวเองอย่างแรง

อยากจะเป็นที่สนใจทั้งที ก็ต้องเป็นไปในทางที่สวยจริงๆ ไม่ใช่ตัวตลกให้คนขบขันเพื่อหลุดพ้นแฟชันที่ตลก ไม่เข้าตัวเองอย่างแรง ควรทำการบ้านจากการศึกษาบทความแฟชั่นทั้งหลายในปัจจุบันให้มากๆ (ไม่ว่าจะในแม็กกาซีนหรือบนโลกออนไลน์ก็ตาม) ถ้าเพื่อนทักหรือเสนอความเห็นอะไรก็ตาม ควรฟังบ้างและอย่าโกรธที่จะให้พวกเขาอธิบายว่ามันไม่โอเคตรงไหน เพราะคงไม่มีใครรู้ดีและหวังดีเท่าเพื่อนเราอีกแล้วแหละ : )
#3 คิด-พูด-ทำ โดยเลียนแบบหรืออ้างอิงแต่เซเลบ ไอดอลคนดัง

เครื่องประดับที่เซเลบใส่ ก็ใช่ว่าเราใส่บ้างแล้วจะดูดี
ในมุมกลับกัน เสื้อผ้าที่ไอดอลคนดังคิดว่าไม่เหมาะกับตัวเอง มันอาจเหมาะกับเราก็ได้
ในเรื่องของความคิด-การกระทำก็เช่นกัน เป็นเรื่องดีที่เราจะศึกษาแนวคิด-การกระทำของคนหลายคน เพื่อให้รู้ว่าเขามีมุมมองที่น่าสนใจยังไง ทำให้เราคิดอะไรกับตัวเองได้รึเปล่า แต่มันไม่โอเคสักเท่าไหร่ที่เรามัวแต่เลียนแบบคนอื่น พยายามเดินตามรอยคนอื่น จนลืมไปว่าเราก็ควรมีแนวทางของตัวเองเรามีไอดอลได้ แต่เราก็ต้องมีทางเดินที่เป็นแบบของเรา ไม่เดินซ้ำรอยคนอื่นด้วย
#4 คิดว่าถ่อยคือเท่

คนที่กล้าตบตี ไม่ได้แปลว่าเป็นคนใจนักเลงที่แท้จริง
คนที่พูดคำหยาบจนติดนิสัย ไม่ได้แปลว่าเป็นคนที่จริงใจที่สุดเสมอไป
สาวแกร่งที่แท้จริง คือ คนที่รู้จักปรับตัวเข้ากับทุกสถานการณ์ได้ ถ้าคิดว่าการมีมารยาทคือการดัดจริต ขอให้ลองมองโลกตามความเป็นจริงแล้วคิดเสียใหม่ จริงหรือที่คนในสังคมชอบคนกิริยาแข็งกระด้าง ไม่เป็นมิตร?ไม่ว่าจะเด็กกว่า อายุเท่ากัน หรือแก่กว่า ก็ล้วนแต่ชอบผู้หญิงที่สวยเพราะรู้กาลเทศะ ไม่ใช่สวยแค่การแต่งตัวเป็นแต่เพียงอย่างเดียว( มารยาททำให้คนเราสวยสง่ามาดุจนางพญามานักต่อนักแล้ว )
#4 เปิดเผยมากเกินไปในพื้นที่สาธารณะ
โดยเฉพาะในโลกออนไลน์ จริงอยู่ที่มันก็แค่โลกเสมือน ไม่ใช่โลกความจริง100% แต่ทุกคนที่พบเห็นเราพิมพ์อะไรไป โพสต์อะไรไป ย่อมอดที่จะสรุปเหมารวมนิสัยเราไม่ได้แน่นอน
ถ้าบ่นเหงา บ่นโสดมากไป เป็นใครก็มองออกว่าไร้สาระ เพ้อเจ้อความรักจัง
ถ้าโชว์เนื้อหนังมากเกินไป เป็นใครก็มองออกว่าลึกๆ เป็นคนลามก หมกมุ่นในเรื่อง18+
ถ้าเอะอะก็โพสต์ โพสต์ถี่เกินไป เป็นใครก็มองว่าว่างจัด เรียกร้องความสนใจ
อยากจะให้คนอื่นมองเราแบบไหน เราก็ต้องรู้จักเลือกวิธีแสดงออก รู้จักเก็บ รู้จักปล่อย ใช่ว่าคิดยังไงก็โพสต์ไปเลยให้หมด เบรคตัวเองบ้าง
#5 คิดว่าความเป็นเพศหญิงทำให้เคลมอะไรก็ได้ง่าย

การใช้มารยาหญิงอ่อยไปทุกสถานการณ์มันทำให้เราดูน่าเกลียดมากกว่าน่าทะนุถนอมการเป็นเพศหญิงไม่ใช่คนป่วยตราบใดที่เราดูแลตัวเองได้ ทำเองได้ ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเรียกหาความเป็นสุภาพบุรุษจากคนอื่นก่อน ถ้าทำสุดกำลังแล้วไม่ไหวจริงๆ ค่อยว่ากัน
#6 คิดว่าเป็นหญิงยุคใหม่ ไม่จำเป็นต้องมีสกิลแม่บ้านหรอก

working woman ใช่ว่าจะดูแลตัวเองด้วยการหาเงินเองได้เท่านั้น การหุงหาอาหารกิน ดูแลห้องหับ มีไอเดียจัดแต่งที่อยู่ ก็ยังเป็นสกิลที่สาวๆ ควรมีไม่ใช่เพื่อเป็นเสน่ห์มัดใจแฟนได้ แต่เพื่อการดูแลตัวเองที่เพอร์เฟคสมบูรณ์จริงๆ ต่างหากเชื่อเถอะว่ากินแต่อาหารสำเร็จยังไงก็ไม่ฟินเท่ากินอาหารฝีมือตัวเอง ให้คนอื่นดูแลห้อง ยังไงก็ไม่ได้ดั่งใจเท่าเราดูแลเอง ปัดกวาดเอง
#7 เหยียด รังเกียจ ในสิ่งที่คนอื่นคิดไม่เหมือนเรา
มันเป็นเรื่องธรรมดาที่เราจะมีความเชื่อและความชอบไม่เหมือนกันอย่าก่อศัตรูด้วยการแสดงท่าทีรังเกียจในสิ่งที่ไม่ตรงใจเราอย่างชัดเจนโดยเฉพาะเรื่องเพศ, ศาสนา, เรื่องส่วนตัว เก็บไว้ในใจเพื่อรักษามิตรภาพจะดีกว่า หรือถ้าเราต้องการให้เขาเปลี่ยนแปลงตัวเองจริงๆ ด้วยความหวังดี อยากให้เขาได้รับสิ่งที่ดีกว่า ก็ควรพูดตักเตือนแนะนำกันดีๆนิสัยคนเราไม่สามารถเปลี่ยนอย่างหักดิบได้ภายใน 1-2 วัน และคำพูดของเราก็ไม่ควรไปตัดสินชีวิตใคร
#8 โยนความผิดให้กับวันแดงเดือดทุกครั้งไป

แค่เป็นเมนส์ ไม่ใช่กินเหล้าหนักๆ ที่จะขาดสติในการกระทำ
ถึงแม้วันนั้นของเดือนจะทำให้ฮอร์โมนส์แปรปรวน หงุดหงิดไปหมด แต่มันก็ไม่ใช่เหตุผลที่มีน้ำหนักพอให้แก้ตัวในทุกข้อกล่าวหาได้ว่า
' ที่ฉันงี่เง่าไม่ผิดนะ '
สิ่งที่สาวๆ ควรทำให้ติดเป็นนิสัยก็คือการแสดงความรับผิดชอบต่อความรู้สึกคนอื่นหลังวีนเหวี่ยงด้วยคำขอโทษ และพยายามไม่พูดว่า ' มันเป็นเพราะฉันเมนส์มาพอดี 'ผิดก็ยอมรับผิดตรงๆ ใจแมนๆ ไปเลย อย่าโยนความผิดให้เมนส์อย่างเดียวสิ
#9 ยืนกรานว่าผู้หญิงงี่เง่า คือผู้หญิงน่ารัก

อย่ามั่นอกมั่นใจนักหนาว่านี่คือเรื่องธรรมดา คือเรื่องสากลของโลกเพราะความจริงของโลกก็คือเราต่างก็ชอบพูดคุยและอยู่อย่างสบายใจกับคนที่มีเหตุผลด้วยกัน อีกทั้งผู้หญิงที่ไม่งี่เง่า ไม่ตีอกชกหัว ไม่เจ้าอารมณ์ใส่แฟนก็มีอยู่บ้างแหละในโลกนี้เชื่อเถอะว่าไม่มีคนไหนชอบแฟนงี่เง่าบ่อยๆ หรอก มันน่ารำคาญมากกว่าน่ารักเสียอีก ถ้าวันหนึ่งต้องเลิกกัน ก็ไม่ต้องไปหาเหตุผลไหนไกลเลย+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
อย่าลืมว่าเราใช้ชีวิตร่วมกันคนอีกหลายคนในสังคม
แคร์เสียงคนอื่นบ้างสักนิด เพื่อจะได้ปรับตัวเข้ากับคนอื่นได้เหมาะสม
ไม่โป๊ะเกินไปจนดูเป็นตัวตลก ไม่ตั้งกำแพงสูงไปจนคนอื่นเข้าถึงยาก
ความมั่นใจที่ดีคือความมั่นใจที่พร้อมรับฟังคนอื่น
ไม่ใช่ความดื้อดึงแต่ในโลกส่วนตัว 100% เราต้องเป็นผู้หญิงยุคใหม่ สวย มีสติ และดูแพงค่ะ!!
บทความที่เกี่ยวข้อง

8 คำโกหกที่เราจะพูด เมื่อชีวิตคู่ "เริ่มไปไม่รอด"
https://sistacafe.com/summaries/6699

ไอเดียตกแต่งห้อง DIY ที่จะทำให้ห้องของคุณน่าเลิฟ ♥
https://sistacafe.com/summaries/6421