จะเป็นมือใหม่หัดบินออกนอกประเทศ หรือติดใจเสน่ห์ของญี่ปุ่นจนไปซ้ำบ่อยๆ เราเชื่อว่าเมืองหลวงอย่าง ' โตเกียว ( Tokyo ) ' ก็ยังเป็นจุดหมายปลายทางที่หนึ่งของสาวไทยอย่างเรา เพราะเวลาเดินทางไม่นานเกินรอ แค่ไม่กี่ชั่วโมง แถมสายการบินก็ขยันออกตั๋วโปรฯ บ่อยมากเวอร์! สำหรับใครที่อยากได้พิกัดร้านช้อปของฝากชิคๆ ให้ครอบครัวและเพื่อนๆ แล้วล่ะก็ เราจะพาเธอไปเดิน-ชม-ช้อป ด้วยกันที่ห้าง ' Tokyu Hands ' ค่ะ!!!
ที่จริงห้างนี้จะมีหลากหลายสาขามากๆ กระจายอยู่ทั่วญี่ปุ่นเลยล่ะค่ะ ขายของกระจุกกระจิก ของใช้เยอะมาก สากกะเบือยันเรือรบ แค่เดินเข้าร้านก็ลืมเวลาไปเลย! โดยจะแบ่งเป็น 2 บทความ 2 สาขาที่ของเยอะ หลากหลายและฮิตที่สุด นั่นคือสาขา Shibuya และสาขา Shinjuku รับรองต้องได้ของติดมือกลับไปไม่มากก็น้อย #เหมือนเปิดโลกใบใหม่ไปอี๊ก! พร้อมแล้วเราไปลุยกันเลยดีกว่าค่า (☆▽☆)
สาขา Shibuya
Tokyu Hands Shibuya
ที่อยู่ : 12-18 Udagawa-cho, Shibuya-ku, Tokyo
ไปยังไงนะ ?
วิธีไปร้าน ' Tokyu Hands ' ก็ง่ายมากๆ ค่ะซิส โดยเดินจากสถานีไปประมาณ 10 นาทีเท่านั้น!! มาเดินไปด้วยกันเลยดีกว่า
เริ่มแรกออกมาจากทาง Hachiko Exit

และเราก็จะเจอ ห้าแยกชิบูยะ ( Shibuya Scramble Crossing ) อันโด่งดังของสถานี ก็ข้ามไป ซอยฝั่งตรงข้ามที่เรียกว่า Center Gai ได้เลยค่ะ


แล้วก็เดินตรงมาเรื่อยๆ จนเจอ ร้าน McDonald's แล้วเลี้ยวขวา จะเห็นร้านเสื้อผ้า Bershka ถ้ากลัวมองไม่เห็นป้าย ก็สังเกตเป็น ตึกสีแดง จะเป็นกระจกใสทั้งตึก เลยค่ะ



ต่อมาเดินไปทางซ้าย นั่นแหละ เจอแล้วค่า!!
บรรยากาศข้างนอกก็จะประมาณนี้

จริงๆ มีทางเข้า 2 ทางนะคะ แต่อีกทางกำลังซ่อมอยู่ เลยเหลือแค่ประตูนี้ทางเดียวค่ะ ( บทความนี้เขียนเมื่อวันที่ 17 ก.ค. 2019 ) ซึ่งทางเข้านี้จะอยู่ ชั้น B2 โซน C ค่ะ

ก่อนเข้าร้าน เราไปดู แผนผังร้าน หรือ Floor Map กันหน่อยดีกว่า! โอ้โหวววว นอกจากร้านจะมีถึง 7 ชั้นแล้ว แต่ละชั้นยังแบ่งเป็นโซนอาคาร A B C อีก เดินช้อปกันลืมวันลืมคืนแน่ค่ะซิส แต่ไม่ต้องห่วงว่าจะหลง หรือเดินไม่ครบนะคะ เพราะทั้งสามโซนนั้น ในแต่ละชั้นจะเดินเชื่อมถึงกันได้ แนะนำให้ขึ้นบันไดมา แล้วเดินทวนเข็มนาฬิกาเป็นลำดับ A>C>B ก็จะไม่สับสนว่าบันไดขึ้นลงไปชั้นอื่นอยู่ที่ไหน เดินดูของได้ครบแน่นอน ☆ ~('▽^人)
*ทั้งนี้เพราะโครงสร้างร้าน จะเป็นเหมือนอาคารสามหลังติดกัน ทำให้มีพื้นที่เยอะ จึงมีสินค้าเยอะและหลากหลายชนิดตามไปด้วยค่ะ*

สาวๆ บางคนอาจจะขี้เกียจเดิน ( มันก็มีหลายชั้นอะเนอะ ข้อเข่าไม่ไหวว ) ถ้าถามถึง ' ลิฟต์ ' แน่นอนว่ามีให้บริการค่ะ แต่จะไม่มีบันไดเลื่อน เป็นบันไดแบบเดินเท้าแทน คิดในแง่ดีก็คิดซะว่า ได้ออกกำลังกาย เผาผลาญแคลอรี่ เดินช้อปไปช้อปมา ออกมาผอมพอดี อิอิ~~~

ความเก๋คือ แต่ละขั้นที่เดิน จะมีป้ายบอกด้วยว่า เราเผาผลาญไปกี่แคลแล้ว =w= #เดินเก่ง!!
เข้าลิฟต์มา เราจะเห็นป้าย ' ข้อมูลส่วนลด ' แปะอยู่ บอกเลยว่าตาลุกวาว!

เราขึ้นไปดูจากชั้นบน ไล่ลงมาจากบนลงล่างกันเลยค่ะ โดยออกจากลิฟต์มาเจอ ชั้น 7 ( A ) จะเป็นมุมขายของแฮนด์เมด ( handmade ) ของกระจุกกระจิก มีคาเฟ่ให้นั่งจิบกาแฟชิลล์ๆ และพื้นที่จัดอีเวนต์สไตล์ทดลองทางวิทยาศาสตร์ //มีความล้ำ! บอกเลยว่าบรรยากาศดีมาก ฟีลลิ่งคือคาเฟ่น่านั่ง มีคอมพิวเตอร์วางไว้ให้ใช้งานได้ สมมุติเดินไม่ไหว อยากนั่งพักขาก่อน หรือมาเป็นแก๊งแล้วมีเพื่อนคนไหนเหนื่อย ก็มานั่งพักรอชิลล์ๆ ได้นะคะ อยู่ตึกเดียวกัน นัดเจอกันก็ง่าย ไม่หลงทางชัวร์

พอเดินทวนเข็มนาฬิกามา จะเจอ โซน ' ขายของสัตว์เลี้ยง ' ที่ชั้น 6C ค่ะ

และหันต่อมา จะเจอ โซน ' ขายผ้าและอุปกรณ์ทำงานฝีมือ ' ที่ชั้น 6B พอลงบันไดต่อมาที่ชั้น 6A ก็ยังเจออุปกรณ์ทำงานฝีมืออยู่ค่ะ ซึ่งต้องบอกว่า สาขา Shibuya จะมีความพิเศษกว่าสาขาอื่น คือ ในแต่ละโซนจะมีมุม Studio เป็นบริการพิเศษตาม ' ประเภทของสินค้าที่เราซื้อในแต่ละชั้น ' ด้วยนะคะ เช่น ชั้นที่ขายอุปกรณ์ทำงานฝีมือ จะมีมุมที่เราซื้อพวกผ้า หนัง กระดุม ฯลฯ แล้วใช้บริการสั่งทำเป็นกระเป๋า หรือเครื่องประดับที่โซนนั้นได้เลยค่ะ #เริ่ดมากก

ต่อมา เราก็จะพบกับ ' โซนขายเครื่องเขียน ' ทั้งปากกาโคปิก ( copic ), สมุด Schedule ลายน่ารักๆ มากมาย เครื่องเขียนดีไซน์ล้ำๆ แปลกใหม่ เยอะแยะมากมายสุดๆ คิ้วท์มากเวอร์ บอกเลยว่าเลือกไม่ถูก ไม่หยุดที่ชิ้นเดียวแน่นอน อิอิ >///< ซึ่งในโซนเครื่องเขียน ก็จะเป็น ' Ink Studio ' ที่เราสามารถ ผสมสึหมึกเป็นสีของเราเอง ตามสูตรที่ต้องการได้ด้วยนะ ใครไม่อยากใช้หมึกสีซ้ำใคร ต้องมาที่ร้านนี้ค่ะซิส!

จากโซนเครื่องเขียน เราจะพบกับ ' โซนของแต่งบ้าน ' แล้วล่ะค่า -w- แต่เดี๋ยวก่อน!! อย่าคิดว่าเป็นร้านขายของจิปาถะ แล้วจะขายแค่ของแต่งบ้านกรุบกริบเท่านั้นน้า เขามีเตียง มีหมอนไซส์จริงขายเลยนะเอ้อ!

ซึ่งแน่นอนว่า ตุ๊กตา เก้าอี้สำนักงาน ต้นไม้ตกแต่ง ของแต่งบ้านทั่วไปก็มีให้เลือกช้อปค่ะ

เรายังอยู่ที่เรื่องในบ้าน เครื่องครัว หม้อไหจานชาม กระทะร้อน มีหมด! มีแม้แต่ ' กระติกน้ำเก็บความเย็น ' ที่สาวๆ ห้อยคอกันสมัยเรายังอยู่ประถม มีหลายสีหลากแบบให้เลือกใช้ รุ่นที่กำลังมาแรงช่วงนี้คือ ' กระติกน้ำจิ๋ว ' ที่พกพาใส่กระเป๋าถือได้ค่ะ #เหมาหมดเลยได้มั้ยอ่าา

หลังจากดูพวกเครื่องครัวแล้ว ที่นี่ก็มีขายอุปกรณ์ซักล้าง, ถังขยะ และอุปกรณ์เพื่อสุขภาพ อุปกรณ์ช่วยลดน้ำหนักและเครื่องนวด เรียกว่าครบครันสุดๆ จนนึกว่าอยู่ร้านขายเฟอร์นิเจอร์ เลยล่ะค่า ( ´ ▽ ` )

เสร็จแล้วมาที่โซนสุดโปรดของสาวๆ ซิสต้าอย่างเรา ' Beauty Products ' นั่นเองจ้า! ทั้งเครื่องสำอาง สกินแคร์บำรุงผิว เครื่องหอม แชมพู ทรีทเมนต์หลากชนิด โอยย อันนั้นก็น่ารัก อันนี้ก็น่าสอย อยากซื้อให้ครบสูตร หิ้วจนแขนลากไปเลยเด้ออ

ช่วงนี้ที่ญี่ปุ่นเป็นหน้าร้อน บอกเลยว่าแดดแรง! ไม่แพ้เมืองไทยบ้านเราเลยล่ะค่ะ สินค้ายอดฮิต เลยหนีไม่พ้น ' สเปรย์กันแดด ' ทั้งหลาย เพราะแค่ฉีดก็กันแดดได้ ไม่เหนียวเหนอะหนะ

นอกจากนี้ ทางร้านยังติดตั้ง ' เครื่องแปลบาร์โค้ด ' ไว้ด้วยค่ะ จะได้รู้ว่าสินค้านี้ชื่ออะไร มีส่วนประกอบอะไรบ้าง จะได้ไม่ต้องนั่งดำน้ำ งม google translate ให้ซื้อผิด เย้!! แต่ตอนนี้อุปกรณ์ชิ้นนี้ยังอยู่ในขั้นทดลอง และมีแค่ที่แผนกความงาม สาขา Shibuya เท่านั้นค่ะ
*สำหรับเรา คิดว่าเป็นไอเดียที่ดีมาก!! เพราะเมคอัพญี่ปุ่นส่วนใหญ่ ยังมีแค่ฉลากภาษาญี่ปุ่น จะไม่ค่อยมีฉลากภาษาอังกฤษประกอบเท่าไหร่ ถ้าเราแปลฉลากได้ด้วยเครื่อง ก็ไม่ต้องพลาดซื้อผิดอีกต่อไปล้าว*

ออกจากโซนเขาวงกตได้แล้ว ก็จะเจอ ' โซนขายการ์ด ' อุปกรณ์ตกแต่งการ์ดและเครื่องตกแต่งงานปาร์ตี้ รวมถึงของเล่นหลากชนิด ซึ่งก็เป็นเขาวงกตของสาวๆ อีกเช่นกันค่ะ มันจะคิ้วท์อะไรขนาดนั้นอะ แลกเงินไปเท่าไหร่ก็ไม่พอแล้วจ้า #โปรยเงิน

มาถึงมุม ' กาชาปอง ' หรือตู้หยอดเหรียญของเล่นแล้วจ้าาา วางเรียงกันสุดลูกหูลูกตา ใครสายหยอดกาชา แลกเหรียญใส่กระเป๋ารอเลย หยอดเท่าไหร่ก็ไม่พอเด้อ

เห็นของล่อตาล่อใจ เราก็อดไม่ไหวเนอะ ต้องขอหยอดสักหน่อยค่ะ

หยอดจนพอใจแล้ว ก็พาตัวเองออกจากเขาวงกตที่สองนี้ก่อน เดี๋ยวเสียเงินไปมากกว่านี้ >//< เราก็จะพบกับโซนกระเป๋าและอุปกรณ์ Outdoor ค่ะ

เดินมาอีกนิด เราก็จะเจอโซน ' อุปกรณ์โทรศัพท์ เคสมือถือน่ารักๆ และอุปกรณ์เสริมทั้งหลาย ' ทั้งหูฟัง ลำโพง accessory ทั้งที่จำเป็น และตามความพอใจส่วนตัว ฮ่าๆ ( ̄▽ ̄)

และ Studio ในโซนนี้จะเป็น ' ร้านรับซ่อม Smartphone ' นะคะ

ถัดมาอีกนิดใน floor เดียวกัน จะมี ' มุมขายของที่ระลึกสไตล์ญี่ปุ่น ' แต่เป็นแบบประยุกต์ให้ดูทันสมัย อินเทรนด์เข้ากับยุคนี้ แถมความคิ้วท์ๆ คือมีน้องหมาฮาจิโค ( Hachiko ) ที่โด่งดังนั่งอยู่ด้วย น่าร้ากกกสุดๆ นอกจากจะเป็นจุดถ่ายรูปน่ารักๆ แล้ว ของฝากในชั้นนี้ยังมีความเก๋ไก๋ ไม่ซ้ำใครด้วยค่ะ

คราวนี้ เราก็ลงมาถึงชั้น 1 แล้ว ในส่วนของชั้นนี้จะเป็น ' กระเป๋าเดินทางและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง ' อุปกรณ์จักรยาน และร่มค่ะ ใครยังไม่มีร่มกันฝน หรือกระเป๋าเดินทางขาด อยากได้ใบใหม่ ก็ลองมาเลือกๆ ดูได้เลย

แต่ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ค่ะ!! ลงไปที่ชั้น B1 จะมีขาย ' อุปกรณ์ DIY ' พวกของซ่อม ต่อเติมบ้านและอุปกรณ์งานไม้ ซึ่งในสาขา Shibuya นี้ จะเป็นสาขาที่รวมอุปกรณ์ประเภทนี้ไว้ครบถ้วนที่สุดแล้วค่ะ หาของที่สาขาไหนไม่เจอ มาดูสาขานี้ได้เลย


เสร็จแล้ว เราก็กลับมาถึงปากทางเข้าร้าน ที่เข้ามาในตอนแรก จะมี เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์และเป็นพื้นที่จัดอีเวนต์ ( event space ) ที่จะขายของหมุนเวียนไปเรื่อยๆ ค่ะ ซึ่งความว้าวก็คือ พื้นที่ตรงนี้จะมีสินค้าที่ไม่ได้หาซื้อง่ายๆ ทั่วไปด้วยล่ะค่ะ ชอบอะไรต้องรีบซื้อน้า กลับมาอีกทีอาจจะไม่เจอแล้วก็ได้!!

เคาน์เตอร์ Tax Refund หรือทำเรื่องขอคืนภาษีสำหรับนักท่องเที่ยว ก็อยู่ที่ชั้นนี้นะคะ มาทำเอกสารได้เลย สังเกตว่าเคาน์เตอร์จะเป็นสีเขียวๆ ค่ะ

จบแล้วววว เป็นยังไงบ้างคะกับ ร้าน Tokyu Hands สาขา Shibuya ทั้งมีพื้นที่กว้างขวาง สินค้าหลากหลายจนแทบจะเรียกว่า ' มาที่เดียวช้อปได้ครบทั้งครอบครัว ' เลยล่ะค่ะ หรือถ้าใครเหนื่อย ช้อปไม่ไหว ก็มีที่ให้นั่งพักจิบกาแฟชิลล์ๆ มี event space ที่เด็กๆ และครอบครัวสามารถทำกิจกรรมร่วมกันได้ แถมจุดเด่นของแต่ละชั้นคือ ' Studio ' ที่สาวๆ สามารถประดิดประดอยสิ่งของได้ตามต้องการ มีคนช่วยเลือกสินค้าให้ตรงตามที่อยากได้ หรือแม้กระทั่งซ่อมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และยังอยู่ในย่านที่สามารถเดินทางมาได้ง่ายๆ อย่างสาขา Shibuya และ ไม่ไกลจากสถานีด้วย สิบนาทีเอง แป๊บเดียวก็ถึง!!!
แต่ถ้าใครไม่สะดวกสาขานี้ หรือยังไม่จุใจพอ ไปพบกันต่อที่สาขา Shinjuku เลยค่ะ สาขานี้จะอยู่ในห้างสรรพสินค้า Takashimaya แต่ความหลากหลายของสินค้าก็ไม่แพ้กัน!! แล้วไปเจอกันบทความหน้าค่า วันนี้ลาไปก่อนแล้วว บ๊ายบายส์~
Comments