ฮัลโหลลล~ สวัสดีค่าชาวซิสทุกคน ไหน ๆ มีใครประสบปัญหาเรื่องของการนอนไม่หลับบ้างไหมคะ นอนไม่หลับทำไงดี ? จนแอบคิดแล้วว่าเราเครียดเกินไปรึเปล่า เราดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนหรือว่าเราเป็นโรคนอนไม่หลับกันแน่? คิดแล้วมันก็ปวดหัวนะคะ แต่ ๆ ถ้าเข้ามาในบทความนี้แล้วก็ไม่ต้องปวดหัวแล้วค่าเพราะเราจะพาทุกคนไปเช็กตัวเองกันว่าเรามีปัญหาการนอนแบบไหน ถึงขั้นเป็นโรคนอนไม่หลับไหม แล้่วมีวิธีแก้ไขปัญหาการนอนไม่หลับแบบง่าย ๆ ไม่ต้องพึ่งพายาหรือไอเทมอื่น ๆ ให้วุ่นวายรึเปล่า บอกเลยว่าอ่านจบช่วยแก้ไขปัญหาของทุกคนได้แน่นอน ว่าแล้วก็ไปอ่านกันเลยดีกว่า!



☁ ☁ ☁ ☁ ☁ ☁ ☁ ☁ ☁ ☁ ☁ ☁ ☁ ☁ ☁ ☁ ☁ ☁ ☁ ☁


การนอนสำคัญยังไง?

รูปภาพ:

ก่อนจะเริ่มเรื่องของการนอนไม่หลับ หลาย ๆ คนอาจจะยังสงสัยว่าการนอนหลับหรือก็คือการพักผ่อน มันสำคัญขนาดไหน ทำไมต้องนอนกันนะ? คือการนอนหลับมันคือการพักผ่อนร่างกายและอวัยวะ โดยเฉพาะในส่วนของหัวใจและหลอดเลือดได้พักผ่อนแบบเต็มที่ อีกทั้งยังช่วยฟื้นฟูการทำงานของร่างกาย สารเคมีในร่างกาย ระบบประสาทให้มีความสมดุล รวมถึงยังช่วยเรื่องของความจำ การนึกคิดต่าง ๆ ให้เป็นระบบระเบียบมากขึ้นได้อีกด้วย รู้แบบนี้แล้วทุกคนต้องนอนกันเยอะ ๆ นะคะ


สาเหตุของการนอนไม่หลับ

รูปภาพ:

รู้แล้วว่าการนอนหนะมันสำคัญมาก ๆ แต่เราก็ดั๊นนอนไม่หลับบ่อย ๆ สาเหตุที่นอนไม่หลับมันมาจากอะไรได้บ้างนะ...

  1. ดื่มหรือกินอาหารที่มีคาเฟอีน : คาเฟอีนมีส่วนช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบประสาททำให้เรานอนไม่หลับได้ ซึ่งของที่จะมีคาเฟอีนก็จะเป็นพวกชา กาแฟและน้ำอัดลมต่าง ๆ รวมไปถึงพวกช็อกโกแลตหรือโกโก้ด้วย
  2. นอนไม่เป็นเวลา : คนที่นอนดึกบ้าง นอนตื่นสายเกินไปบ้างจะทำให้ระบบการนอนรวน เมื่อระบบการนอนรวนช่วงดึก ๆ ที่ควรจะง่วงก็เลยไม่ง่วงนั่นเองนะคะ
  3. เปลี่ยนที่นอนหรือนอนแปลกที่ : คนที่ไปต่างจังหวัดหรือไปนอนบ้านคนอื่น อาจจะรู้สึกไม่คุ้นเคยเลยทำให้นอนไม่หลับได้
  4. สภาพห้องนอน : อาจจะมีเสียงรบกวน มีแสงสว่างเกินไป อากาศร้อน/เย็นเกินไป ทำให้รบกวนการนอนหลับได้
  5. เป็นโรคหรือป่วย : อาการของโรคหรือร่างกายที่มีความผิดปกติอาจจะทำให้บางคนนอนไม่หลับได้ เช่น หยุดหายใจขณะหลับ การเคลื่อนไหวแขนขาผิดปกติ เป็นโรคอื่น ๆ เป็นต้น รวมไปถึงอาจจะเสี่ยงเป็นโรคทางจิตเวชได้เช่นกัน
  6. เหตุการณ์ที่สะเทือนจิตใจ : อาจจะเครียด เสียใจ ดีใจหรือกลัวผี เป็นต้น ซึ่งมักจะเกิดการจากกระตุ้นต่าง ๆ เช่น ดูคอนเสิร์ต ดูหนัง โดนบอกเลิกอะไรแบบนี้นะคะ

นอนไม่หลับ VS โรคนอนไม่หลับ ต่างกันยังไง?

รูปภาพ:

เราจะต้องมาสังเกตตัวเองกันก่อนเลยค่ะว่าเรานอนไม่หลับแบบไหน โดยสังเกตจากพฤติกรรมตัวเองอย่างการกิน การนอน การใช้ชีวิตอื่น ๆ ว่าเพราะเรากินกาแฟ/ชาไหม หรือนอนไม่เป็นเวลาเองรึเปล่า เจอเรื่องเครียด/เศร้ามาไหม ลองปรับเปลี่ยนรึยัง ถ้าปรับเปลี่ยนแล้วดีขึ้นก็อาจจะเป็นแค่การนอนไม่หลับทั่ว ๆ ไปนะคะ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่นอนไม่หลับจนกระทบการใช้ชีวิต เช่น เริ่มหลับในจนเกิดอุบัติเหตุ เรียนไม่รู้เรื่อง ทำงานประสิทธิภาพลดลง อารมณ์ฉุนเฉียว เป็นแบบนี้บ่อย ๆ จนทำให้เสียสุขภาพแนะนำให้ไปหาหมอด่วน ๆ เลยนะคะ เราอาจจะมีปัญหาด้านสุขภาพกายอย่างโรคนอนไม่หลับหรืออาจจะเสี่ยงเป็นโรคจิตเวชได้อีกด้วย


การนอนที่ถูกต้องควรนอนแบบไหน?

รูปภาพ:

การนอนที่ถูกและควรจะเป็นมากที่สุดทำได้ไม่ยากและไม่วุ่นวาย แต่อาจจะยากสำหรับบางคน ซึ่งวิธีการก็เป็นตามนี้เลยจ้า

  1. นอนทันทีเมื่อรู้สึกง่วง : อย่าฝืนร่างกายเพราะถ้าฝืนจนเลยช่วงเวลาง่วงไปแล้วอาจจะทำให้เราไม่ง่วงไปยาว ๆ เลย
  2. เลี่ยงการนอนกลางวันที่มากเกินไป : ถ้าง่วงมากจริง ๆ ให้งีบแค่ 15 นาทีหรือไม่เกิน 1 ชั่วโมงครึ่ง ถ้ามากกว่านั้นจะทำให้กลางคืนนอนไม่หลับนะคะ
  3. ปรับการนอนให้เป็นระบบมากขึ้น : เลือกเวลาตื่นและเวลานอนแล้วก็ค่อย ๆ ปรับในทุก ๆ วัน สักพักก็จะเคยชินและนอนเป็นเวลาได้ในที่สุดค่า
  4. ไม่ทานอาหารมื้อเย็นหนักเกินไป รวมถึงไม่ดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนหลังเที่ยงด้วย : เพราะจะทำให้ร่างกายตื่นตัวและนอนไม่หลับได้นั่นเองค่ะ
  5. พยายามไม่เล่นโซเชียลหรือจับมือถือก่อนนอน : เพราะมันอาจจะไปกระตุ้นร่างกายให้รู้สึกตื่นเต้นหรือตื่นตัวได้
  6. เลี่ยงการใช้ยานอนหลับ : เพราะมันจะยิ่งทำให้นอนหลับได้ยากขึ้น หากมีปัญหาการนอนจริง ๆ ให้พบแพทย์นะคะ
  7. ทำให้สภาพแวดล้อมน่านอน : จัดห้องให้สะอาด แสงในตอนนอนควรทึบให้มากที่สุดถ้าทำไม่ได้ให้ใช้ผ้าปิดตา ปรับแอร์หรือเปิดพัดลมให้อุณหภูมิพอเหมาะ อย่าเปิดพัดลมจ่อตัวด้วยเพราะจะทำให้ร่างกายทำงานหนักขึ้นค่า

นอนไม่หลับทำไงดี ? วิธีแก้อาการนอนไม่หลับแบบง่าย ๆ

รูปภาพ:
  1. อ่านหนังสือ : การอ่านหนังสือจะทำให้เราเพลิดเพลิน ไม่ว่าจะอ่านแบบเป็นเล่มหรืออ่านแบบ e-book ก็ตาม และการได้เห็นตัวหนังสือเยอะ ๆ ยาว ๆ ก็มีส่วนทำให้เรารู้สึกง่วงได้ง่ายมากขึ้นด้วย ใครที่ชอบอ่านนิยายแนะนำเลยนะคะ เห็นผลดีเลยล่ะ!
  2. ออกกำลังกาย : วิธีนี้ให้เลี่ยงการทำก่อนนอนนะคะ ไม่อย่างนั้นเราจะตื่นและนอนไม่หลับมากกว่าเดิม โดยสามารถออกกำลังกายตอนเช้าหรือเย็นสักประมาณ 30 นาทีก็โอเคแล้วนะคะ พอร่างกายเพลีย ๆ เหนื่อย ๆ มันก็จะหลับง่ายมากขึ้นค่า
  3. ทำงานบ้าน : อีกหนึ่งสิ่งที่คล้ายการออกกำลังกายเลยก็คือการทำงานบ้านนะคะ ออกแรงเดินกวาด เดินถู ซักผ้า ตากผ้า รีดผ้า บอกเลยว่าเหนื่อยไม่เบาเลยค่ะ แถมยังทำให้ง่วงได้ง่ายมากยิ่งขึ้นด้วย ลองดูกันได้น้า
  4. เปิดซีรีส์ ละคร วีดิโอต่าง ๆ : เราสามารถเปิดสื่อต่าง ๆ ดูก่อนนอนได้นะคะ แต่อย่าเปิดหนังผี หนังแอคชัน หนังที่ทำให้เราตื่นเต้นมากเกินไป อาจจะเปิดพวกเรื่องเก่า ๆ ที่เราเคยดูก็ได้ จะได้ฟังเพลิน ๆ กล่อมให้นอนได้แบบไม่ต้องไปโฟกัสจนลืมการนอน หรืออาจจะเปิดคลิปใน Youtube ดูเพลิน ๆ เช่น คลิปชงเครื่องดื่มในคาเฟ่ คลิปทำความสะอาด คลิปทำขนม คลิปประดิษฐ์สิ่งของ คลิปแต่งห้องอะไรแบบนี้ก็ดูเพลิน ๆ เสียงไม่เอะอะ แถมยังช่วยให้เราง่วงได้ง่ายขึ้นด้วยค่ะ บอกเลยว่าทางเราทำบ่อยมากนะคะ เวิร์คสุด ๆ
  5. เปิดเพลง : ในที่นี่แนะนำให้เปิดเพลงที่จังหวะเบา ๆ สบาย ๆ นะคะ อย่าเปิดเพลงเร็วชวนเต้นหรือเพลงร็อกชวนโยกหัว ไม่อย่างนั้นเราจะไม่ได้นอนเอานะคะ แถมยังทำให้ร่างกายตื่นตัวจนนอนไม่หลับมากขึ้นกว่าเดิมด้วย
  6. เปิด ASMR กล่อมนอน : ASMR ไม่ได้มีแค่การกินเท่านั้นนะคะ มีทั้งเสียงฝน เสียงลม เสียงน้ำไหล เสียงน้ำตก เสียงคีย์บอร์ด เสียงพูดแบบกระซิบและอื่น ๆ อีกมากมาย ถ้าใครยังไม่เคยลองฟัง อยากให้ลองฟังดูค่ะ ถ้าไม่ชอบไม่ว่ากันแต่ถ้าชอบบอกเลยว่าจะติดใจจนหยุดเปิดไม่ได้เลยล่ะ
  7. ไม่กินดึกและไม่ดื่มคาเฟอีน : อย่างที่บอกไปว่าเราไม่ควรกินหนัก ๆ ก่อนนอนนะคะ ดังนั้นพยายามเลี่ยงการกินอาหารก่อนนอนประมาณ 3 - 4 ชั่วโมง และไม่ดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนหลังเที่ยงหรือช่วงเย็น ร่างกายเราจะได้ผ่อนคลายพร้อมนอนหลับฝันดีในคืนนี้กันค่า

    ☁ ☁ ☁ ☁ ☁ ☁ ☁ ☁ ☁ ☁ ☁ ☁ ☁ ☁ ☁ ☁ ☁ ☁ ☁ ☁


    นอนไม่หลับทำไงดี ? เห็นไหมล่ะคะว่าการนอนน่ะสำคัญกับเรามาก ๆ ถ้านอนไม่พอทั้งเสี่ยงเป็นโรคต่าง ๆ เช่น โรคหัวใจ โรคอ้วน ภูมิตกจนมีอาการอื่น ๆ เป็นต้น หรืออาจจะกระทบการใช้ชีวิตทั้งการเรียนและการทำงานให้มีประสิทธิภาพลดลงได้อีกด้วย รู้แบบนี้แล้วทุกคนควรจะนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ นอนให้เร็ว ๆ เพื่อให้ร่างกายได้พักผ่อนเต็มที่ จะได้สุขภาพร่างกายและจิตใจแข็งแรงกันนะคะ แต่ถ้าใครมีปัญหาการนอนจริง ๆ แบบแก้ยังไงก็ไม่ช่วยเลย แนะนำให้ไปพบแพทย์จริง ๆ ค่ะ จะได้แก้ปัญหาได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ซึ่งอาจจะหายขาดได้ง่ายขึ้นด้วยนะคะ เอาล่ะ! ตอนนี้ก็ถึงเวลาต้องลาทุกคนไปก่อนแล้วค่า กลับมาพบกันใหม่ในบทความหน้านะคะ บ๊ายบาย


    บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ