อู๊ยยยยยยย กินอะไรไปนิดเดียวน้ำหนักเจ้ากรรมก็ขึ้นเอาขึ้นเอา
แค่ดื่มน้ำเปล่าฉันก็อ้วนแล้ว!! T^T แล้วชาตินี้ฉันจะผอมได้ไหมเนี่ยยยย??!!
อย่าเพิ่งกังวลไปค่าาสาวๆ วันนี้เรามีบทความดีดีมาฝากเพื่อนๆ ชาว
SistaCafe
กัน ก่อนจะคิดว่าจะกินอะไรไม่ให้อ้วนเรามาดูก่อนดีกว่าว่า
เท่าไหร่ถึงเรียกว่าอ้วน??!!!
เท่าไหร่ถึงเรียกว่าอ้วน
วิธีการประเมินความอ้วนจริงๆแล้วสามารถทำได้หลายวิธี แต่วิธีที่ง่ายและเป็นสากลมากที่สุดก็คือสูตร
>> น้ำหนักตัว = ส่วนสูง - 105 (สำหรับผู้หญิง)
>> น้ำหนักตัว = ส่วนสูง - 100 (สำหรับผู้ชาย)
เช่น นางสาวบีสูง 162 เซนติเมตร ดังนั้นน้ำหนักตัวนางสาวบีควรจะอยู่ที่ 162-105 = 57 กิโลกรัม ( แบบนี้ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติไม่อ้วนนะคะ )
อีกหนึ่งวิธีที่ฮอตฮิตติดสากลก็คือ
การคำนวณค่าดัชนีมวลกาย
ซึ่งทุกคนสามารถคำนวณกันเองได้ง่ายๆโดยใช้สูตร..
>> BMI = นำหนักตัว (กิโลกรัม) หารด้วย ส่วนสูง (ยกกำลังสอง)
น้อยกว่า
18.5
: น้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์
18.5 - 23.4
: น้ำหนักอยู่ในเกณฑ์ปกติ
23.5 - 28.4
: น้ำหนักเกินแล้ว
28.5 - 34.9
: โรคอ้วนขั้นที่ 1
//
35.0 - 39.9
: โรคอ้วนขั้นที่ 2
//
40
หรือมากกว่านี้ : โรคอ้วนขั้นสูงสุด
หลายคนคงอยากทราบว่าอ้าวแล้วรอบเอวล่ะ เท่าไหร่ถึงเรียกว่าอ้วน!!! สามารถคำนวณง่ายๆโดยใช้สูตร
>> เส้นรอบเอว หาร เส้นรอบสะโพก
0.8 สำหรับผู้หญิง = เริ่มอ้วนลงพุง
1.0 สำหรับผู้ชาย = เริ่มอ้วนลงพุง
รายการอาหารน้ำตาลต่ำสำหรับลดน้ำหนัก
Day 1
เมนูอาหารเช้า
เมนูอาหารกลางวัน
เมนูอาหารเย็น
Day 2
เมนูอาหารเช้า
เมนูอาหารเที่ยง
เมนูอาหารเย็น
Day 3
เมนูอาหารเช้า
เมนูอาหารกลางวัน
เมนูอาหารเย็น
Day 4เมนูอาหารเช้า
เมนูอาหารกลางวัน
เมนูอาหารเย็น
Day 5
เมนูอาหารเช้า
เมนูอาหารกลางวัน
เมนูอาหารเย็น
Day 6
เมนูอาหารเช้า
เมนูอาหารกลางวัน
เมนูอาหารเย็น
Day 7
เมนูอาหารเช้า
เมนูอาหารกลางวัน
เมนูอาหารเย็น
เป็นไงกันบ้างคะกับ
เมนูอาหารเช้า - กลางวัน - เย็นกินแบบไหนไม่ให้อ้วน
ที่เราเลือกสรรมาฝากกันในวันนี้
เพื่อนๆ สามารถจัดเมนูสลับทานกันไปในแต่ละวันได้ตามที่สะดวกเลยน้าา แต่ทั้งนี้ไม่แนะนำให้อดอาหารเด็ดขาดเลยน้าา เพราะถึงอย่างไรร่างกายคนเราก็ยังต้องการพลังงานเพื่อดำรงชีวิตในแต่ละวันเนอะ
แ
ละที่สำคัญห้ามโหมลดน้ำหนักเชียวล่ะ! เดี๋ยวจะเจ็บป่วยเอาน้าา วันนี้ขอลาไปก่อนนแล้วคราวหน้าเราจะมีบทความดีดีอะไรมาฝากกันอย่าลืมติดตามที่
แห่งนี้เลยน้าา บ๊ายบายยย~~~
