เอาล่ะสาวๆ บอกก่อนว่าบทความนี้ไม่เหมาะกับสาวใส สาวนั่งเฉยๆ รอผู้ชายมาจีบ สาวไทยใจงามแต่ต้องสาวมั่นใจในตัวเองและมีรสนิยมต่างชาตินะจ๊ะ หลายคนอาจจะกรีดร้องอยู่ในหัวว่า" เหยแก จีบก่อนได้ไงอ่ะ บ้าหรอ ฉันหญิงไทยใจงามนะยะ "
แฮลโล้ววววววว จะโดนเก้งกวางแย่งชายหมดโลกแล้วค่ะ ช้าไม่ได้แล้วค่ะ ถ้าอยากได้ของต่างชาติ เราก็ต้องรุกเท่านั้นค่ะเด็กๆ!
ทริคที่เราจะมาบอกเล่าเก้าสิบกันวันนี้บอกเลยว่าประสบการณ์ตรงและเจเจ้ก็ได้มาแล้ว ( หึหึ ) และวิธีของเจเจ้ก็บอกเลยว่าจะต้องไม่ทำให้ตัวเองดูเสียหายและดูราคาถูกถ้าเธอไม่เชื่อกันก็ไม่เป็นไร ให้ถือว่าฝากเอาไว้ในอ้อมอกอ้อมใจ เผื่อวันไหนอยากลองก็จะได้เก็บไว้ลองใช้กัน#บทความอินเนอร์ก็มา #รออะไรคะอ่านต่อสิ!
ขอชี้แจงเรื่องความมั่นใจที่ว่าก่อนว่าความมั่นใจที่เจเจ้หมายถึงไม่ใช่แค่มั่นใจในความคิดเท่านั้น แต่ต้องมั่นหน้าของเราด้วย ไม่สนว่าเธอต้องสวยเหมือนชมพู่ อารยาหรือเปล่าเจเจ้เชื่อว่าผู้หญิงทุกคนมีความสวยในตัวเอง เพียงแต่เธอต้องมั่นใจในความสวยของตัวเองด้วย( " ฉันสวย " คือประโยคที่เจเจ้ท่องกับตัวเองตลอดเวลา )ดังนั้นขอให้มั่นใจในจุดนั้น
อีกหนึ่งข้อที่ต้องทำความเข้าใจก่อน คือการจีบนั้นมีการ ' จีบติด ' และ ' จีบไม่ติด ' ถ้าจีบติดก็ฟินไป ( ไม่ว่าจะเป็นแฟนหรือ One Night Stand ก็ตาม ) แต่ถ้าจีบไม่ติดขอให้อย่าคิดว่าโลกนี้จะแตกสลาย สะบัดบ๊อบแล้วให้มั่นใจไว้ว่ามันไม่ใช่ สลัดความคิดออกไป แล้วมุ่งหน้าหา target ใหม่
Step 1 :: ส่งสัญญาณ!
การส่งสัญญาณทำได้หลายรูปแบบ แต่ที่เวิร์คที่สุดจะเป็น
"การสบตา"
ถ้าไปเที่ยวแล้วเกิดป๊ะกับคนถูกใจขึ้นมา มองค่ะลูก แต่อย่าไปจ้องเค้านะแก เดี๋ยวเค้าจะหนีไปซะก่อน มองบ่อยๆ มองให้เนียน มองจนเค้ารู้สึกตัว ถ้ามีการประสานสายตากันมากกว่าสามครั้งนี่ถือว่าใช้ได้ ถือว่ามีแววไปได้สวยในสเต็ปต่อไป
Step 2 :: ยิ้มสยามชนะทุกสิ่ง
หลังจากที่เค้าเห็นแล้วว่าเธอมีตัวตน ขอให้อย่าได้รอช้า รีบส่งรอยยิ้มงามๆ ของเธอโปรยตามไป รอยยิ้มไม่ใช่แค่เป็นการหลอกล่อเหยื่อของเรา(อ่อยหรอ?... อืมใช่)แต่เป็นการบอกเค้าว่าI'm friendly นะเฟ้ย
บางคนที่อัพเลเวลแล้วอาจมีเทคนิคการ'กริกตา'เสริมไปกับรอยยิ้มด้วย เวลาเรามีลูกเล่นแบบนี้ก็ทำให้ดูเป็นคนขี้เล่นแถมมีเสน่ห์เบาๆ ด้วยนะ หรือถ้ากริกตาดูจะหนักหน่วงไปแค่ยกแก้วสวยๆ เหมือนเชิญชนกับเค้าก็ได้แค่นี้ก็เป็นการส่งสัญญาณอย่างแรงว่า"ฉันอยากคุยกับยูนะจ๊ะ"จังหวะนี้ถ้าเค้าคลิกกับเธอเหมือนกัน รับรองว่าไม่นานเค้าเข้าปะทะเธอแน่นอน
Step 3 :: แนะนำตัวสวยๆ
หลังจากมีการปะทะระยะประชิดแล้ว การพูดคุยคือการสร้างความประทับใจแรกพบ ชื่อของเธอคือสิ่งแรกที่ต้องบอก
Hi. I'm Niti. What's your name?
ง่ายๆ เฟรนลี่ ไม่ต้องใช้ไวยกรณ์ยากๆ อีกอย่างคือโยนไปได้เลยบทสนทนาทักทายคุณครูในห้องเรียนแบบHow are you? I'm fine. Thank you. And you?น่ะ
ประโยคที่จะถามสารทุกข์สุกดิบของเขาแบบเท่ๆ ชิคๆ มีเยอะมาก เช่นWhat's up? // How's your night going? // Come alone tonight?
Step 4 :: หาเรื่องคุย
ทริคนี้หลักๆ คือพยายามหาประสบการณ์ร่วมเพื่อจะได้หาเรื่องคุยได้ยาวๆ ไงล่ะผู้หญิงคุยสนุก มีอารมณ์ขัน เป็นผู้ฟังที่ดี ผู้ชายที่ไหนก็ชอบใช่มั้ยล่ะ แต่ถ้าเธอบอกว่า ชั้นเป็นคนไม่ค่อยพูดน่ะสิ ชวนคุยก็ไม่เก่ง มาค่ะ เจเจ้จะลิสต์หัวข้อเม้าท์มอยหอยสังข์ให้เธอจำไปถามเค้าดู
Where are you from? // Where do you come from?::
เธอมาจากที่ใดเป็นชนชาติไหนกันจ๊ะ การถามประเทศที่เขามาแล้วอย่าได้คำตอบแล้วจบเลย คุยต่อไปจ้ะ เช่นถ้านางตอบว่า I'm from France. ก็คุยต่อไปโลด ยกตัวอย่างเช่น
From Paris?( คือเค้าอาจไม่ได้มาจากปารีสหรอก แต่มันคือเมืองใหญ่ ถามไปก่อนไม่เสียหาย ถ้าไม่ใช่เค้าก็จะบอกเอง เธอก็จะได้มีเรื่องคุยต่อได้ )
I've never been there before. How's it like?( ไม่เคยไปมาก่อนเลย มันเป็นยังไงหรอ? )
Do you like it there?( คุณชอบที่นั่นมั้ย )
I've heard that French language is the most beautiful langage in the world. Can you say something to me?( เคยได้ยินว่าภาษาฝรั่งเศสเพราะที่สุดในโลก พูดให้ฟังหน่อยได้มั้ย )
ถ้าสมมติว่าเป็นประเทศที่เธอเคยไป ยิ่งง่ายใหญ่เลย!! เธอจะรู้ประเทศของเขา รู้รายละเอียดมากขึ้น ชวนคุยได้ชิวๆ แต่ถ้าเธอไม่เคยไปไหนเลย ไม่ต้องร้องไห้ ถามในไทยนี่แหละจ้ะ เช่นว่า
How long have you been in Thailand?(อยู่เมืองไทยนานเท่าไหร่แล้วคะ ตรงนี้จะทำให้รู้ว่านางรู้จักคนไทยมากแค่ไหน ฝรั่งหลายคนที่อยู่ไทยนานจัดหลายคนกลายเป็นผู้ชายไทยไปแล้วก็มีนะแก )
Just travel here or work?( แค่มาเที่ยวหรือมาทำงานคะ )
Where have you already been in Thailand?( ไปเที่ยวที่ไหนมาแล้วบ้างคะ )
Where do you like to go the most? Mountains or beach?( ชอบไปที่ไหนที่สุดคะ ภูเขาหรือทะเล )
Step 5 :: อย่าเยอะ!!
คำว่า
อย่าเยอะ
ที่ว่ามีสองประเด็นหลักๆ ที่อยากเตือนสาวๆ ไว้คือ 1. อย่าถามเรื่องส่วนตัวเยอะ 2. อย่าทำตัวเป็นเจ้าของเค้า เด็ดขาด!
คนไทยเรามักจะติดเป็นนิสัยกับการถามเรื่องส่วนตัวโดยที่เราไม่รู้ตัว ไม่ใช่ว่าเราไม่ดีนะแต่มันเป็นวัฒนธรรมของเราไปแล้วกับการที่เราเจอเพื่อนแล้วทักทายว่า " หวัดดี ไปไหนเนี่ย? " หรือ " เป็นไงบ้าง ไม่เจอนาน อ้วนขึ้นหรือเปล่า? "อืม.. เราฟังกันจนชินแต่สำหรับชนต่างชาติถือเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมเอาซะเลยเธอ สิ่งที่ต้องหลีกเลี่ยงคือการถามเรื่องละเอียดอ่อนทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น งาน เงินเดือน ครอบครัว อายุ น้ำหนัก อย่าเผลอเด็ดขาดล่ะ
ส่วนเรื่องเป็นเจ้าของนี่ขอเลย อย่าเพิ่งออกตัวแรง เธอขา..ตราบใดที่ยังไม่มีการตกลงเป็นแฟนกันจริงจังก็อย่ามโน อย่าตามจิก อย่าเช็คโทรศัพท์ อย่าโพสต์ Social Media ออกตัวแรงบางคนถ้าเค้ามารู้ทีหลังแล้วก็อาจโกรธเป็นจริงเป็นจริงก็ได้นะ อย่าคิดว่าเป็นเรื่องเล่นๆ เพราะสิทธิส่วนบุคคลของฝรั่งเป็นเรื่องสำคัญมากจริงๆ จ้ะ
Step 6 :: วางตัวให้ดี
พวกนี้เป็นทริคเล็กๆ น้อยๆ ที่อยากฝากกันไว้ เราต้องยอมรับความจริงกันอย่างหนึ่งว่าประเทศไทยของเรามีชื่อเสียงเรื่องสาวๆ ย่านพัฒพงศ์ นานา พัทยา และอีกหลายพื้นที่ ทำใจได้เลยว่าฝรั่งเค้าอาจมองเราไม่ดีได้ แต่นั่นขึ้นอยู่กับวางตัวของเราถึงเราจะอยากได้เค้ามากแค่ไหน ( เฮ้ย.. ใจเย็นๆ ) เราก็ต้องมีสติและทำตัวให้สวย ดูมีค่าเข้าไว้ การจีบก่อนไม่ได้ทำให้ดูไม่ดี แต่การทำตัวง่ายเกินไปจะทำให้เค้าตัดสินเราแบบแย่ๆ ได้
Step 7 :: งานสานต่อก็ต้องมานะคะ
แน่นอนว่าถ้าคนสองคนเกิดคลิกกันขึ้นมา การสานต่อต้องเกิด คุณไม่จำเป็นต้องได้เบอร์ เพราะนี่เราก็กำลังก้าวเข้าสู่ปี 2016 แล้ว ไม่ว่าจะ Facebook, Line, Whatsapp มีแอปอะไรในมือถือโปรดจัดไปอย่าให้เสีย( ครั้งหนึ่งเจเจ้เคยเผลอให้เบอร์ไปแล้วพลาดตลอดกาลจ้ะ ตลอดกาลจริงๆ TT )ถ้าลาจากแล้วก็อย่าเพิ่งติดต่อทันทีเพราะมันจะดูล่าเกินไป ยังไงเพศชายก็ยังอยากเป็นนักล่าอยู่ดีนะเธอ แต่ถ้าไม่ได้อะไรติดไม้ติดมือกลับมา ก็ต้องทำใจ อย่าไปยึดติดเสียใจโลกจะแตก สะบัดบ๊อบแล้วสู้ต่อไป!
นั่นล่ะ ก็เป็นสเต็ปวิธีง่ายๆ ที่เจเจ้เชื่อว่าทำได้กันทุกคนแน่นอน แต่อย่างที่บอกว่าก่อนอื่นต้องมั่นใจไว้ก่อนเลยนะ ทั้งภาษา หน้าตา การแต่งกาย ทุกอย่างมันอยู่ที่อินเนอร์ ถ้าเธอมั่นใจมันต้องรอดแน่นอน ขอให้ทุกคนตกเหยื่อกันได้อย่างสนุกสนานทุกคนนะคะ บายยยยยย...
