งี่เง่าประมาณไหน? ที่ 'มนุษย์แฟน' พอจะรับได้

ไม่จริงเสมอไปที่ว่ากันว่าผู้หญิงงี่เง่าคือผู้หญิงรัก เพราะเรามักจะลืมเช็คความรู้สึกแฟนว่า' เธอโอเคมั้ยถ้าเรางี่เง่า? 'และ' ต้องประมาณไหนเธอถึงจะรับได้? '

ก่อนที่ความรู้สึกของอีกคนจะเจ็บ ชินชา และสายเกินไปที่จะให้ความสัมพันธ์กลับคืนมา ลองเช็คตัวเองกันสักนิดว่าพฤติกรรมเราเข้าข่ายที่แฟนเกินจะรับไหวรึเปล่า ?

#1 เราพร้อมจะเคลียร์ทุกเรื่องที่เรางอนรึเปล่า?

ประเด็นของความไม่เข้าใจกัน ไม่ใช่ต้นเหตุเล็กหรือใหญ่ ? เรื่องที่เรางอนมันงี่เง่าหรือจริงจัง ? แต่มันคือ' เราแมนพอที่จะเคลียร์ให้จบไปรึเปล่า? '

อย่าเลือกเงียบเพื่อปรับอารมณ์ตัวเอง หากว่าอีกฝ่ายพร้อมจะคุยด้วย เพราะนั่นแปลว่าเราไม่ให้ความสำคัญกับความรู้สึกเขาที่ว้าวุ่นจะเป็นจะตาย อีกทั้งมันอาจจะทำให้เหตุการณ์แย่กว่าเดิมก็ได้ เพราะในขณะที่เราเงียบ เขาก็ฟุ้งซ่านไปต่างๆ นานา กว่าเราจะโอเคขึ้น พร้อมเคลียร์ มันอาจสายเกินไปแล้ว

อย่าหวงศักดิ์ศรีตัวเองเกินไปเรื่องที่เราไม่ใช่คนผิดจริงๆ เราก็เป็นฝ่ายขอโทษได้ เพื่อแสดงให้เขาได้อุ่นใจว่า เขาไม่ใช่คนผิดลำพัง ผิดแต่ละครั้งเราก็มีส่วนด้วย ( วิธีการนี้จะทำให้เขารู้สึกสำนึก เห็นใจคุณมากกว่าวิธีที่ปล่อยเขารู้สึกผิดอยู่คนเดียว )

และถ้าผิดจริง อย่าตีเนียน แกล้งทำไม่รู้ไม่ชี้การอ้อนเพื่อกลบเกลื่อนไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นเท่ากับการเอ่ยปากขอโทษได้อย่างไม่รู้สึกอาย อย่าใช้จริตหญิงเพื่อปกปิดความผิดตัวเองนะจ๊ะ มันไม่โอเค

#2 สิ่งที่เราไม่พอใจ มันทำให้ชีวิตส่วนอื่นของเขาพังรึเปล่า ?

มันอาจจะดูว่า' เป็นสิทธิตามสมควรของฉัน 'ที่จะงอนเพราะแฟนเราทำผิดจริง แต่บางทีก็ใช่ว่าจะมีเหตุผลทุกเรื่องไป ของแบบนี้ต้องขึ้นกับการประเมินสถานการณ์แวดล้อมด้วยว่า' มันกระทบต่อด้านอื่นๆ ของเขารึเปล่า? '

มีสติให้มาก รู้จักควบคุมอารมณ์โกรธของเราให้เป็นถ้าความไม่พอใจของเราไปทำให้ชีวิตเขาพัง เช่น เข้าใจผิดทำให้เพื่อนสนิทเขาไม่กล้าคุยกับเรา, โกรธเป็นฟืนเป็นไฟถึงกับทำให้เขาอับอายกลางที่สาธารณะ นั่นมันก็เกินไปหน่อย

ชีวิตคู่ ควรเป็นเรื่องของคนสองคนจริงๆ อย่าต้องถึงกับให้คนอื่นรู้ โลกรู้ มันจะยิ่งพังไปกว่าเดิม และสุดท้ายตัวเราเองจะทุกข์ใจกว่าเก่า

#3 เคลียร์ให้จบเป็นประเด็นๆ ไป อย่าปนกัน

มนุษย์แฟนในสายตาเราที่ซื่อจนรู้สึกว่าซื่อบื้อ บางทีเราอาจลืมมองอีกมุมว่า' เขาต้องการรับฟังเหตุผลแบบตรงๆ ชัดๆ 'พูดให้ตรงประเด็น กระชับ ได้ใจความ รู้เรื่องเป็นอันพอ

สิ่งที่สาวๆ มักจะพลาดทำให้แฟนรู้สึกรำคาญขึ้นทุกวันๆ ก็คือ การบ่นแบบน้ำเยอะ แต่เนื้อนิดเดียวมีอยู่ 10 พูดเป็น 1000 พูดเรื่องนึงโยงไปอีกเรื่องนึงจนตามไม่ทัน เดาไม่ออกว่าจะเอาไงกันแน่ถ้าอยากให้เขาเข้าใจอะไร ทำยังไง สาวๆ ต้องรู้จักพูดตรงๆ ไม่อ้อมค้อมไม่สาธยายเยอะ อย่าลืมว่าเขาก็เป็นคนเหมือนกับเรา ทำไมจะไม่รู้เรื่องล่ะ ? ( มันก็เหมือนกับที่เราชอบผู้ชายที่พูดจริง ทำจริง ไม่ชอบผู้ชายขี้โม้ขี้อวด หาสาระไม่ได้นั่นแหละ )

#4 เช็คความสมัครใจของแฟนเราด้วย

ความเข้าใจผิดที่สาวๆ ส่วนใหญ่มักจะเป็นกันก็คือ' ฉันเป็นผู้หญิง ฉันมีสิทธิก่อนเสมอ 'แต่ลืมนึกถึงความรู้สึกอีกคนว่า' เฮ้! คุณโอเคมั้ยกับสิ่งที่ฉันทำ '

มนุษย์แฟนใช่ว่าจะอายไม่เป็น

มนุษย์แฟนใช่ว่าจะเบื่อไม่เป็น

มนุษย์แฟนใช่ว่าจะอึดอัดไม่เป็น

มนุษย์แฟนใช่ว่าจะรู้สึกแย่ไม่เป็น

การที่เขาไม่พูดออกมาตรงๆ ซะก่อน บางทีมันก็แค่อยากให้คุณสบายใจว่าสิ่งที่คุณทำให้มันก็โอเคแล้ว จุดนี้สาวๆ ต้องหัดสังเกต หัดเช็คความรู้สึกกันเสมอค่ะว่ามันโอเคมั้ย ถ้าไม่โอเคบอกกันได้ตรงๆ นะ มิใช่น้อยใจแล้วน้อยใจอีก ปักใจแต่ว่าตัวเองหวังดีนะ ทำถูกแล้วนะ แต่ไม่คิดเลยว่าอีกคนก็ไม่ได้โอเคกับเราเสมอไปนะ( คนนึงต้องคอยเอาใจ อีกคนก็ชอบเอาแต่ใจ ไปกันไม่นานหรอกค่ะ คนเรามีลิมิตความอดทน ช้าหรือเร็วก็เท่านั้น )

#5 ทุกความผิดอย่าโทษเมนส์

ฮอร์โมนส์แปรปรวนก็แค่' สาเหตุหนึ่ง 'ที่ทำให้ร่างกายจิตใจเราพาลหงุดหงิดไปหมด' ไม่ใช่สาเหตุทั้งหมด 'ของเรื่องวุ่นวายงี่เง่า ในเมื่อผู้ชายกล้าพอที่จะรับฟังเรา เราก็ต้องกล้าพอที่จะโฟกัสว่าความไม่เข้าใจกันจริงๆ เกิดจากอะไร หากผิดก็พร้อมจะขอโทษ โดยไม่อ้างว่า' แหะๆ ก็เค้าเมนส์มาอ่ะตัวเอง '

เราไม่สามารถอ้าง ปจด. เป็นข้อยกเว้นของเรื่องงี่เง่าได้ตลอดไป ลองถ้าคนนั้นไม่ใช่แฟน และสถานการณ์ไม่ใช่ความรัก แต่เป็นเพื่อนร่วมงาน และที่ทำงาน คนอื่นๆ เขามีสิทธิโหวตเราออกไปได้อย่างไม่แคร์นะจ๊ะ

#6 การลากบุคคลที่สามมาเกี่ยวข้องไม่ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้น

" ทีคู่นั้นเค้ายังทำได้เลย "

" เห็นมั้ย มีแต่คนคิดเหมือนฉัน "

" ฉันจะไปฟ้องแม่ให้จัดการเรื่องนี้ "

และอีกเหตุผลร้อยแปดที่เรางี่เง่าอย่าแสดงความคิดเห็นในเชิงที่ว่า' ฉันคิดถูก เพราะคนอื่นก็คิดแบบนั้น คุณต่างหากที่ผิด 'แต่จงแสดงท่าทีที่ว่า' คุยกันหน่อยมั้ย เอายังไงดี 'เพราะสุดท้ายแล้วปัญหาชีวิตคู่จะรอดหรือร่วง คนสองคนก็ต้องช่วยกันคิด ช่วยกันแก้ คนอื่นนั้นก็แค่แนวทางเล็กๆ หรือที่ปรึกษาคนหนึ่งเท่านั้น พวกเขาไม่ได้อยู่กับเราตลอดเท่าแฟนเรา ไม่ได้รู้ดีเท่าแฟนเรา ไม่ได้มีความรักแบบชู้สาวเท่าแฟนเราการลากคนอื่นมารับรู้มันไม่ต่างอะไรกับสาวไส้ให้กากิน เราไม่รู้หรอกว่าสิ่งที่เราพูดออกไป เขาเก็บความลับได้ดี หรือเอาไปพูดต่อให้เราเสียหายกว่าเดิม

ใครว่าความรักไม่ต้องการเหตุผล คิดผิดคิดใหม่นะจ๊ะ คุยกันยังไง้... ยังไงก็ต้องพูดจากันด้วยเหตุผล อย่าอ้างว่ารักเพื่อใช้สิทธิแสดงความงี่เง่ายังไงก็ได้ อย่าอ้างว่าผู้หญิงเป็นเพศแม่ต้องได้รับสิทธิก่อนใคร มันไม่โอเคจ้ะ โตๆ กันแล้ว ทุกคนมีความเป็นคนเท่าเทียมกันหมด ควรคุยกันรู้เรื่องเนาะ