เปิดกรุรองพื้นสำหรับ 'แต่งหน้ารับปริญญา' ใช้แล้วหน้าแน่น ติดทนนาน ปังตั้งแต่เช้ายันค่ำ!

▰ ▱ ▰ ▱ ▰ ▱ ▰ ▱ ▰ ▱ ▰ ▱ ▰ ▱ ▰ ▱ ▰ ▱ ▰ ▱ ▰ ▱ ▰ ▱ ▰

รู้สึกว่าช่วงนี้จะเป็นช่วงที่สาวๆ หลายๆ คนกำลังจะเข้าสู่ช่วงรับปริญญากัน ถูกมั้ย เชื่อว่าก็ต้องมีหลายๆ คนกำลังมองหารองพื้นที่แน่น ปัง ติดทนนานตั้งแต่เช้ายันเย็นอยู่แน่ๆ เลยเพราะงั้นวันนี้ เพื่อนสาวจะมาเปิดกรุรองพื้นสุดปังหน้าแน่น ติดทนนาน แต่งตอนเช้าสวยยาวยันเย็นเริ่ด! มีตั้งแต่หลักร้อยไปยันหลักพันทั้งหมด 5 ตัวแต่ละตัวนะปั๊วะจริงไรจริงแม้ราคาจะแตกต่าง แต่ความแน่นสูสีกันเลยจ้า แต่ก่อนที่จะไปดูรีวิวทั้งหมด ของเกริ่นก่อนว่าเราเป็นคนผิวแห้ง (มาก) ฉะนั้นจะขอรีวิวในมุมของสาวผิวแห้งก็แล้วกันเนอะไปค่ะซิส ไปเปิดกรุรองพื้นทั้งหมดของเราพร้อมๆ กันเลย▰ ▱ ▰ ▱ ▰ ▱ ▰ ▱ ▰ ▱ ▰ ▱ ▰ ▱ ▰ ▱ ▰ ▱ ▰ ▱ ▰ ▱ ▰ ▱ ▰

① Srichand Enchanted Cover Perfect Foundation #120 Beige

มาดูกันที่ตัวแรกSrichand Enchanted Cover Perfect Foundationรองพื้นเจ้าหญิงที่หลายๆ คนรู้จักกันดีเป็นหนึ่งในรองพื้นถูกและดีจริงจังด้วยแพ็กเกจสวยหรูดูแพงมากแม่ โทนสีชมพูโรสโกลว์ หวานจับใจ แม้ราคาจะแค่หลักร้อย แต่แพ็กเกจของเค้าก็ไม่ได้มาแบบง่อยๆ นะจ๊ะ พูดเลยว่าแข็งแรงมากเป็นรองพื้นที่สาวผิวแห้งใช้ได้เราลองแล้วชอบมาก แนะนำเลยค่ะซิส

เนื้อรองพื้นเกลี่ยง่ายอย่างที่บอกเป็นเนื้อรองพื้นที่มีความชุ่มชื้น ให้การปกปิดที่ดีเลยค่ะแต่ไม่หนานะ ยังคงให้ความรู้สึกสบายผิวอยู่ หลังจากที่เกลี่ยเสร็จ ก็จะดูเนียนไปกับผิวเลย ตัวนี้มีสารปกป้องผิวจากแสงแดดด้วย ซึ่งเนื้อรองพื้นของเค้าอะ สามารถใช้ทั้งนิ้วมือ แปรง หรือพัฟเกลี่ยได้เลยนะคะ

สีที่เราใช้จะเป็นเบอร์ 120 จริงๆ คิดว่าพอดีแล้วนะ แต่ก็แอบสว่างไปนิดนึง แต่พอแต่งหน้าเสร็จ ทุกอย่างก็ลงตัวดีค่ะรองพื้นเนื้อแมท แต่ไม่ได้แมทจนแห้งหรือรู้สึกไม่สบายผิวนะคะในความรู้สึกของเราเราชอบรองพื้นตัวนี้มาก ได้ผิวที่ดูแมทแต่ยังคงความชุ่มชื้นดูฉ่ำวาวแบบสาวเกาหลี บางเบาไม่หนักหน้าด้วยเรื่องการปกปิด ถือว่าดีเลยอาจจะมีรอยดำๆ ที่ยังคงเห็นอยู่บ้างประปรายสรุปคือได้ผิวที่ดูเรียบเนียน ไม่หนา ชอบมาก!

② L'Oreal True Match Liquid Foundation #N3 Nude Vanilla

ถัดมาที่ตัวที่สองL'Oreal True Match Liquid Foundationรองพื้นราคาหลักร้อย ถูกและดีเหมือนกันค่ะซิส ตัวนี้เป็นรองพื้นเนื้อแมท แพ็กเกจถือว่าแข็งแรงดี อาจจะมีตรงฝาปิดที่เราต้องระวังหน่อย เพราะเป็นพลาสติกตัวนี้เป็นรองพื้นที่ให้ผลลัพธ์ผิวสวยกลมกลืนไปกับสีผิวธรรมชาติแถมยังมีเฉดสีให้เลือกเยอะด้วย เป็นโทนที่เหมาะกับสาวเอเชียเลย

หลังทาแล้วเนื้อรองพื้นดูกลืนไปกับผิวเลยค่ะเป็นเนื้อแมทที่ไม่แห้งหรือรู้สึกหนักหน้า บางเบา เนียนสนิทแต่ตัวนี้แอบเป็นคราบนิดหน่อยระหว่างวันช่วงข้างๆ จมูกชอบผิวที่ได้นะ มีความโกลว์ๆ ฉ่ำๆ ดูเป็นธรรมชาติดีสามารถปกปิดได้ปานกลาง อย่างพวกรอยดำเล็กๆ อะ พอปิดได้อยู่ สามารถบิ้วต์หลายๆ ชั้นได้ โดยไม่รู้สึกหนาหรือหนักหน้าแต่ถ้ามีสิวชัดๆ ก็อาจจะเอาไม่อยู่นะ

③ Yves Saint Laurent All Hours Foundation #BD25 Warm Beige

ตัวที่สาม แพงขึ้นมาอีกเยอะ ตัวนี้เลยYves Saint Laurent All Hours Foundationเป็นตัวที่ติดทนนานตลอด 24 ชั่วโมงส่วนตัวรู้สึกว่าหนามาก เราว่าน่าจะเหมาะกับคนที่ชอบแต่งหน้าแน่นๆ หรือชอบการปกปิดแบบเนียนกริบก็ถือว่าเอาอยู่ แพ็กเกจสีดำสุดเก๋ ดูเรียบง่าย แต่มีระดับสุดๆ อะ

จริงๆ สีที่เลือกมา ค่อนข้างขาวกว่าผิวจริงเรามากเนื้อรองพื้นคือแน่นจริง ได้ผิวที่เนียนกริบ แมทแบบสุดชีวิตเลยค่ะตอนเกลี่ยอาจจะต้องรีบๆ เกลี่ยนิดนึงนะ เพราะเค้าแห้งไวมาก แนะนำว่าให้ลงและเกลี่ยไปทีละจุด อย่าลงไว้ก่อนแล้วมาเกลี่ยทีหลัง ไม่งั้นอาจจะเป็นคราบได้

ด้วยความที่เราเป็นคนผิวแห้งมากๆ ใช่ป่ะ พอลงไปแล้วรู้สึกว่าหนามากคือเราจะใช้เมคอัพแมทไม่ค่อยได้อยู่แล้ว ฉะนั้นตัวนี้ก็จะใช้เฉพาะงานสำคัญๆ เช่น รับปริญญา หรืองานที่ต้องการการปกปิดและผิวแบบแน่นเวอร์เท่านั้นไม่สามารถใช้ในชีวิตประจำวันได้จริงๆ (ส่วนตัวนะคะ) แต่เค้าคุมมันได้ดีมาก ปกปิดรอยคล้ำ รอยดำจากสิวต่างๆ ของเราได้มิดอย่างสุดๆคือทาไปแล้ว ลืมไปเลยว่ามีรอยสิวถึงแม้เค้าจะบอกว่ารองพื้นมีความชุ่มชื้นในความแมทนะ แต่นี่สัมผัสไม่ได้เราว่าเป็นรองพื้นที่เหมาะสำหรับสาวผิวผสม - ผิวมันมากกว่า

④ Shu Uemura Unlimited Fluid Foundation #664 Medium light shell

ถัดมาที่Shu Uemura Unlimited Fluid Foundationแพ็กเกจมีความปุ๊กปิ๊กน่ารักมากเป็นรองพื้นอีกหนึ่งตัวที่เราชอบมากๆซึ่งรองพื้นตัวนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นรองพื้นหายใจได้คือเค้าเป็นรองพื้นที่ให้การปกปิดแต่บางเบา คุมมัน ติดทนทั้งวัน มีกันแดดขวดแก้วแมท ฝาสีดำ ทรงกะทัดรัด ส่วนตัวชอบนะ มีความมินิมอลดีอะ

เนื้อรองพื้นบางเบา สัมผัสนุ่ม เกลี่ยง่าย ยืดหยุ่นไปกับผิวมอบการปกปิดแบบแมท ทาแล้วดูเนียนไปกับผิวเลยเป็นหนึ่งในรองพื้นที่เราอยากได้มากๆ แม้สีที่เลือกมาจะขาวไปสักนิด ก็ไม่เป็นไร พอแต่งหน้าเสร็จ ก็โอเคนะ พอดีอยู่ อย่างที่บอกว่าเค้ามีสีให้เลือกเยอะมาก ตั้ง 24 เฉดสีไม่ว่าคุณจะผิวขาวหรือผิวเข้ม ก็สามารถใช้รองพื้นตัวนี้ได้ รับรองว่าไม่วอกแน่นอนค่ะ

ขาวมาก!เป็นรองพื้นเนื้อแมทนะคะ แต่สบายผิวมาก ไม่รู้สึกว่าหนาเกินไปสามารถทาได้ในชีวิตประจำวัน ปกปิดได้ปานกลางอาจจะปกปิดได้ไม่มิดในส่วนของรอยดำต่างๆ แต่สามารถบิ้วต์เพิ่มได้หลังลงรองพื้นผิวที่ได้เรียบเนียนมาก แม้จะแมท แต่ไม่ได้แห้งรู้สึกสบายผิวดีด้วยเป็นงานผิวที่สวยมาก ได้ผิวที่ดูเป็นผิวจริงๆ คือเค้าเป็นรองพื้นที่เรามองมาตลอด วันนี้พอได้ลองใช้แล้ว ไม่ผิดหวังเลย ชอบมาก

⑤ Bobbi Brown Skin Long-Wear Weightless Foundation #3 Beige

และตัวสุดท้ายBobbi Brown Skin Long-Wear Weightless Foundationแพ็กเกจแข็งแรง เป็นขวดแบบแมทๆ เพราะเค้าเป็นรองพื้นเนื้อแมทนั่นเอง แต่เป็นแมทที่บางเบาสบายผิวซึ่งโทนสีของแบรนด์นี้ เป็นโทนสีที่ออกเหลืองเหมาะกับผิวของคนไทยอยู่แล้ว เพื่อนๆ สามารถไปเลือกเฉดสีที่เหมาะกับสีผิวของตัวเองได้เลยค่ะซิส

หัวปั๊ม ใช้งานง่ายเหมือนกับทุกๆ ตัวที่หยิบมาแชร์ในวันนี้เลยค่ะซึ่งเนื้อของเค้าอะ ค่อนข้างเข้มข้น จะหนืดๆ หน่อย แต่ก็ไม่ถึงกับเกลี่ยยากอะไรที่สำคัญแห้งไวด้วยนะ ฉะนั้นแนะนำว่าให้ค่อยๆ ลงทีละจุดจะดีกว่า ซึ่งตัวนี้เค้าบอกว่ามีวิตามินบำรุงที่ช่วยบำรุงผิวของเราด้วย แถมมี SPF15 ช่วยปกป้องแสงแดดอีกแรงดีงามมากแม่!

คือเนื้อของเค้าดีมากๆ เกลี่ยง่าย เป็นเนื้อแมทที่บางเบา ไม่หนักหน้าหลังเกลี่ยเสร็จ เนื้อรองพื้นเนียนสนิทไปกับผิวเลยด้วยผิวดูเป็นผิวมากๆ ไม่ดูหนาเตอะเป็นอีกหนึ่งตัวที่ติดทนนานสุดๆ เดี๋ยวเราจะทดสอบให้เพื่อนๆ ได้เห็นกันหลังจากนี้ ตัวนี้สามารถใช้ในวันรับปริญญาได้หรือใช้ได้ในทุกๆ วันเลย

ให้การปกปิดที่ค่อนข้างดีเลยนะ ดูอย่างใต้ตา คือเนียนกริบเลยค่ะ ก็จะมีพวกรอยสิวรอยดำบางจุดที่เข้มๆ อาจจะปกปิดได้ไม่กริบมากเท่าไหร่ หลังทาแล้วไม่รู้สึกหนักหน้านะ ผิวยังคงมีอากาศหายใจได้อยู่แต่แอบดรอปบ้างระว่างวันนิดๆ หน่อยๆผิวดูเป็นผิวมาก สวยเลยแหละแต่ส่วนตัวพอได้ลองตัวIntensive Skin Serum Foundationเรากลับชอบตัวนั้นมากกว่า รู้สึกว่าโอเคกับผิวมากกว่าเนื้อแมทตัวนี้ แต่โดยรวมก็ถือว่าโอเคนะคะ

จากใจคนผิวแห้ง (มาก)

มาสรุปผลหลังใช้ให้เพื่อนๆ ได้รู้กันหน่อย ว่าแต่ละตัวในความรู้สึกของเราเป็นยังไงบ้าง☑ การปกปิด:ตัวที่เรารู้สึกว่าปกปิดได้แน่นที่สุด คงหนีไม่พ้น YSLคือเค้าสามารถปกปิดได้ดีแบบขั้นสุดจริงๆแต่ก็อย่างที่บอก ส่วนตัวรู้สึกว่าหนักผิวไปนิดนึงอาจจะเพราะนี่ไม่ค่อยชอบแต่งหน้าหนาด้วยแหละส่วนรองพื้นตัวอื่นๆ ให้การปกปิดระดับปานกลางซึ่งเราสามารถบิ้วต์เฉพาะจุดที่อยากให้ปกปิดเพิ่มขึ้นได้☑ ความติดทนนาน: ด้วยคอนเซ็ปต์เป็นรองพื้นสำหรับรับปริญญา ฉะนั้นทุกตัวมีความติดทนนานอยู่แล้วแต่เพื่อนๆ อาจจะยังไม่เชื่อ ฉะนั้นเรามีการทดสอบในเรื่องของความกันน้ำมาให้ได้ดูกันด้วย ไปดูกันเลยค่ะ

ซึ่งเราจะสวอชรองพื้นทั้ง 5 ตัวที่แขน แล้วทำการฉีดน้ำลงไปให้ชุ่มๆ แบบในรูปเลย ถัดมาจะใช้นิ้วในการถูกๆ ที่ตัวรองพื้น สุดท้ายจะใช้ผ้าซับออกเห็นใช้มั้ยว่าความติดทนของรองพื้นทุกตัว แน่นมากแม้จะโดนน้ำหรือผ่านการถูมา ก็จะคงเหลือรองพื้นไว้ที่ผิวพูดเลยว่าปังตลอดทั้งวันจริงๆ ค่ะซิส!

☑ คุมมัน: ส่วนตัวรู้สึกว่าตัวที่คุมมันดีที่สุด คือ YSL และ Bobbi Brownส่วนSrichand, L'Oreal และ Shu Uemura อาจจะมีมันบ้าง แต่ไม่ได้มันเยิ้มหรือหน้าเมือกระหว่างวันนะ คือผิวที่ได้จะดูฉ่ำๆ วาวๆ เหมือนผิวสุขภาพดี เลยรู้สึกว่าทั้งสามตัวนี้เหมาะกับคนผิวแห้งอย่างเรามากที่สุดเพราะระหว่างวันได้ผิวที่ดูสวยดี ไม่แมทแห้งจนเกินไป เมื่อเทียบกับตัวที่คุมมันแบบเวอร์วังอย่างสองตัวก่อนหน้านี้

☑ เนื้อสัมผัส: ส่วนตัวชอบSrichandที่สุดเกลี่ยง่ายมาก เนื้อแมทแต่บางเบาได้ผิวที่ดูเป็นผิว แม้จะเป็นรองพื้นเนื้อแมท แต่ยังคงความชุ่มชื้นให้กับผิวอยู่ฟินนิชได้ผิวที่ดูไม่แห้ง มีความฉ่ำวาว ยิ่งพอเทียบกับราคาก็รู้สึกว่าคุ้มมากอีกตัวที่ชอบคือShu UemuraและL'Orealส่วนYSL กับ Bobbi Brown ก็เกลี่ยง่ายนะคะ เพียงแต่เนื้อของเค้าจะแห้งค่อนข้างไวอย่างที่บอกเลยว่า ควรลงทีละจุด ไม่งั้นอาจจะเป็นคราบได้

สรุปก็คือดีทุกตัว ซึ่งจริงๆ ทุกตัวก็คือปังหมด เพียงแต่ก็จะมีบางจุดที่อาจจะไม่เหมาะกับสภาพผิวของเราเท่าไหร่ ความเห็นนี้อาจจะไม่ตรงกับเพื่อนๆ หลายๆ คน ฉะนั้นอย่าว่ากันเนอะ แต่โดยรวม รองพื้นทั้งหมดนี้ เหมาะกับวันรับปริญญาอย่างแน่นอน ความปังติดทนนานมาเต็มร้อยค่ะ ลองไปเลือกตัวที่เหมาะกับสภาพผิวของสาวๆ ดูนะ

สำหรับวันนี้ ก็หวังว่าจะพอช่วยสาวๆ ได้บ้าง ไว้เจอกันรีวิวหน้า บ๊ายบาย