" เราเลิกกันเถอะ! "คู่รักบางคู่อาจเอ่ยคำนี้ออกมานับร้อยครั้ง แต่ครั้งไหนบ้างที่เธอหมายความตามที่พูดจริงๆ!?จากครั้งแรกที่อาจไม่คิดอะไร เมื่อต้องเจอกับเรื่องทะเลาะ ตะโกนด่าทอ ไม่เข้าใจกัน ทัศนคติเข้ากันไม่ได้ซ้ำซากก็เริ่มเกิดรอยร้าว สัญญาณต่างๆ ในชีวิตคู่ทำให้เห็นชัดเจนว่า เธอและเขาไปกันไม่รอดและต้องถึงวัน 'เลิกรา' อย่างแน่นอนเออ ท้านัก เลิกจริงๆ เลยแล้วกัน!

มีเหตุผลมากมายที่คนสองคนจะเลิกกัน แต่ไม่ใช่ทุกคนที่เห็น 'ญาณล่วงหน้า' ว่าไปกันไม่รอดชัวร์ๆรู้ตัวอีกทีก็เลิกกันแล้วถ้าเธอแน่ใจว่าชิวิตคู่เริ่มง่อนแง่น บทความนี้อาจเป็นตัวช่วยที่ดี เช็คว่าคู่ของเธอมีอาการ 1 ใน 12 ข้อนี้หรือไม่ ( หรือครบทุกข้อ -.- ) เพื่อหาหนทางแก้ไข ประคับประคองให้จับมือกันต่อไปได้ค่ะ

ถ้าเตรียมตัว เตรียมใจพร้อมแล้ว ก็เลื่อนลงมาอ่านเลย!


1. หงุดหงิดแฟนแม้ในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ

รูปภาพ:http://38.media.tumblr.com/4373db7b4ddd6279851c59f95829fd59/tumblr_inline_nprpcp1bU51tudnn2_500.gif

เมื่อก่อนแฟนทำอะไรก็ดู 'ดีงาม' ไปซะหมด ท่วงท่าในการเดิน การเขียนหนังสือ การขยับนิ้วมือไปมาของเขา แค่เห็นก็ทรมานใจสุดๆ อะไรจะหล่อจะเท่ขนาดนี้ >w

แค่เขาเข้ามาอยู่ใกล้ๆ เธอก็แทบจะสะอิดสะเอียน ผดผื่นคันจนต้องบอกให้เขา 'ไปให้ไกลๆ' เป็นไปได้ว่าเธอไม่รู้สึกว่าเขา 'มีเสน่ห์' อีกต่อไปแล้ว แต่กลายเป็นสิ่งน่ารำคาญอย่างหนึ่ง และนี่แหละจะนำไปสู่การเลิกรา

2. คุยเมื่อไหร่ ทะเลาะทุกที

เมื่ิอก่อนน่ะเหรอ....เธออยากอยู่กับแฟน 'ตลอดเวลา' 24 ชั่วโมงยังไงก็ไอเลิฟยู ขอตามติดไปทั่วทุกที่ คุยกันได้ทุกเรื่อง คุยจนหลับแล้วตื่นขึ้นมาคุยอีกก็ไม่เบื่อ ขอให้ได้อยู่ด้วยกันก็พอแล้ว! แต่ตอนนี้ ไม่มีอะไรจะคุยด้วยสักนิด ไม่อยากเล่าอะไรให้ฟังทั้งนั้น แค่ขยับปากยังขี้เกียจเลย!

พอเขาอยากคุย เธอก็เริ่มหงุดหงิด ถ้าไม่ทำเงียบๆ ก็หาเรื่องพูดให้เขาอารมณ์เสีย ในที่สุดก็ทะเลาะกันจนได้! ถ้าเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นซ้ำๆ แปลว่าเธอไม่อยากมีเขาอยู่ในความสัมพันธ์แล้ว เตรียมรอวันเลิกได้เลย


3. เถียงกันจากเรื่องเล็กๆ จนบานปลาย

รูปภาพ:http://wac.450f.edgecastcdn.net/80450F/kkyr.com/files/2013/10/Couple-Fighting-Credit-iStock-161824900-630x420.jpg

มันอาจจะเริ่มจากเรื่องเล็กๆ เช่น 'วันนี้ใครจะล้างจาน', 'วันนี้ใครจะจ่ายค่าไอติม' แต่ไม่มีใครยอมอีกฝ่ายจนบานปลาย ทะเลาะกันใหญ่โต ลามไปถึงลักษณะนิสัย พฤติกรรมไม่ดีที่ผ่านมาตั้งแต่ชาติที่แล้ว แล้วสรุปด้วยคำว่า 'เป็นอย่างนี้ไงถึงอยากเลิก!'

บางคู่อาจเก็บอารมณ์ถ้าอยู่นอกสถานที่ แต่พออยู่ในบ้านเท่านั้นแหละใส่ไม่ยั้ง! ทั้งตะโกน กรีดร้อง เขวี้ยงปาข้าวของ ร้องไห้เสียงดังจนข้างบ้านคิดว่ามีการฆาตกรรม -.- ตอนนี้การทะเลาะห่างจากประเด็นหลักไปไกลแล้ว ถ้าอยากให้จบเธอต้องเลือกระหว่าง 'ขอโทษ' หรือ 'ทำเงียบแล้วปล่อยไป' แต่ถ้าอยากเลิก ก็ทำตรงกันข้ามเท่านั้นเอง!

4. ใช้เวลาห่างกันมากขึ้นเรื่อยๆ

จากที่เคยตัวติดกันเป็นตังเม ก็เริ่มมีปัญหาชีวิต / ภาระหน้าที่ / วิถีชีวิตไม่ตรงกัน ทำให้ใช้เวลาห่างกันบ่อยขึ้นเรื่อยๆ อันที่จริงห่างกันบ้างเป็นเรื่องดี เพราะทำให้แต่ละฝ่ายได้ใช้ชีวิตของตัวเอง เว้นระยะให้คิดถึงกันบ้าง แต่ถ้าในใจของเธอกลับไม่อยากเห็น อยากคุยกับแฟนติดต่อกันนานๆ เป็นไปได้ว่าเธอสบายใจกว่า ถ้าเขาไม่มายุ่งกับเธอค่ะ!

วิธีสังเกตตัวเองง่ายๆ คือ ถ้าเธอรู้สึกว่าการนัดเจอ นัดเดทกับแฟนเป็น 'หน้าที่' ที่ต้องทำ ไม่ใช่สิ่งที่ทำตามความรู้สึกหรือหัวใจ แปลว่าเธอกำลังเบื่อและอาจไปหาคนใหม่ที่ตื่นเต้นกว่าได้ทุกเมื่อ ถ้ายังไม่อยากปล่อยมือแฟนก็ต้องจับเข่าคุยกันแล้วล่ะว่า สาเหตุที่ทำให้เธอเบื่อคืออะไรแล้วแก้ไขมันซะ!


5. อยู่ห่างแฟนแล้วรู้สึกสบายใจกว่า

รูปภาพ:http://glossynews.com/wp-content/uploads/2013/04/10-things-not-to-do1.jpg

เธอเริ่มมีความรู้สึกว่า เธอต้องใส่ 'หน้ากาก' ยิ้มแย้ม สดใสร่าเริงตลอดเวลาที่อยู่กับแฟน เพราะต้องคอยซ่อนความรู้สึกจริงๆ เอาไว้นั่นเอง เธอไม่อยากทะเลาะ มีเรื่อง หรือปิดบังความลับบางอย่างไว้ อันที่จริงอยู่กับคนแปลกหน้าอาจสบายใจกว่าด้วยซ้ำ!

จำไว้ว่า อยากมีเวลาส่วนตัวกับเพื่อน กับ อยากอยู่เป็นโสดนั้นต่างกัน คนเราต้องมีระยะห่างบ้างเป็นเรื่องปกติ แต่ในที่สุดก็กลับมาหาแฟน แต่ถ้าอยากอยู่เป็นโสดคือเธอไม่มีเขาในหัวใจอีกแล้ว อยากตัดขาดว่าอย่างนั้นเถอะ! ถ้าเริ่มอึดอัดกับสภาพที่เป็นอยู่ แปลว่าเธอไม่อยากใช้สถานะ 'แฟน' กับเขาแล้วล่ะค่ะ

6. คิดถึงแต่ด้านลบของแฟน เวลาที่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน

แทนที่จะคิดถึง อยากให้เขามาอยู่ด้วยตอนที่ห่างกัน เธอกลับคิดถึงมุมแย่ๆ แง่ร้าย แง่ลบ สิ่งน่ารำคาญทุกเรื่องที่แฟนหนุ่มทำ ถ้าเวลาเดียวที่เธอเลิกคิดเรื่องแย่ๆ คือตอนเขาเอาใจเธอ แปลว่าเธอเห็นค่าของแฟนแค่ตอนที่เขาทำดีกับเธอแค่นั้นเอง

มีคำหนึ่งกล่าวว่า 'ถ้าเธออยากรู้ว่าหัวใจตัวเองอยู่ที่ไหน คนแรกที่เธอนึกถึงก็คนนั้นแหละ' และถ้าในห้วงคำนึงนั้นไม่มีแฟนหนุ่มของตัวเองอยู่เลย ไม่ว่าจะรู้ตัวหรือไม่ เธอไม่ได้รักเขาอีกต่อไปแล้วล่ะค่ะ


7. เธอเอาแต่คิดว่า "ถ้าฉันโสดจะเป็นยังไง"

รูปภาพ:http://cos.h-cdn.co/assets/cm/14/25/53a0857de14f4_-_cos-couple-fighting-lgn-26526260.jpg

"ถ้าฉันโสดจะเป็นยังไง ฉันจะเรียนได้เกรดดีมากขึ้นไหม ทำงานแล้วได้เลื่อนขั้นสูงขึ้นหรือเปล่า หรืออาจจะมีเวลาทำงานอดิเรกที่ชอบมากขึ้น อืม...แล้วถ้าฉันเปลี่ยนแฟนล่ะ จะมีความสุขมากขึ้นหรือเปล่านะ"

ถ้าเธอมีความคิดแบบนี้วนเวียนในสมอง จากนานๆ ทีกลับบ่อยครั้งขึ้นเรื่อยๆ แปลว่าเธออยากมีชีวิตใหม่ และแน่นอน ไม่มีแฟนของเธอรวมอยู่ในนั้นด้วยอีกต่อไปแล้ว

8. เริ่มวิพากษ์วิจารณ์ หาข้อเสียของแฟนมากขึ้นเรื่อยๆ

เจอแฟนทีไรขอให้ได้บ่นว่า ขุดคุ้ย วิพากษ์วิจารณ์ข้อเสียต่างๆ นานา 'เธอน่าจะทำได้ดีกว่านี้', 'ทำไมหาเงินได้แค่นี้เองล่ะ' อยากให้เขาหล่อขึ้น มีชื่อเสียงมากขึ้น รวยขึ้น มีความคิดมากขึ้น เพราะตอนนี้มองยังไงก็ไม่ได้ดั่งใจเธอสักอย่าง มาตรฐานต่ำกว่าเกณฑ์สุดๆถ้าเธอเป็นแบบนี้ แปลว่าเธอไม่ได้มองเขาในฐานะ 'คนรัก' แล้ว แต่มองในฐานะ 'สินค้าที่ต้องปรับปรุง' ผู้ชายที่โดนพูดกรอกหูว่าตัวเองต่ำต้อยซ้ำแล้วซ้ำเล่า นานวันความอดทนก็จะหมดลง เขาจะเริ่มไม่พอใจและหันมาวิจารณ์เธอบ้าง ในที่สุดก็ทะเลาะและเลิกราค่ะ


9. เธอกับแฟนไม่รู้สึกสนิทกันอีกต่อไปแล้ว

รูปภาพ:http://www.thetwoangles.com/wp-content/uploads/2016/01/5-Ominous-Signs-It%E2%80%99s-Time-to-End-Your-Relationship1.jpg

เมื่อแรกคบก็ตัวติดกันตลอด ปล่อยมือกันเกินสองนาทีไม่ได้ ต้องจับมือกันเดินไปนั่นนี่ตลอด แต่ตอนนี้ อย่ามาจับนะ ร้อน เปื้อนเหงื่อ! สำหรับคู่แต่งงานก็ละเลยเรื่องบนเตียงไปโดยปริยาย เพราะรู้สึกกระดากและแปลกๆ ที่ต้องมาสัมผัสร่างกายกัน ก็แค่หอมแก้ม กอดยังไม่อยากทำเลยนี่นา

อาการแบบนี้อธิบายได้สั้นๆ ว่า "ไม่รู้สึกสนิทสนมด้วยแล้ว" ไม่มีอารมณ์จะทำอะไรน่ารัก มุ้งมิ้งด้วยกันอีกต่อไป แค่จะยื่นมือไปสัมผัสก็รังเกียจ ถ้าเธอกำลังเจอเหตุการณ์นี้รีบหาต้นตอและแก้ไขโดยด่วนก่อนจะสายเกินไปค่ะ!

10. เริ่มคิดถึง 'การเลิกรา' ( หรืออาจวางแผนจะเลิกแล้ว )

'ห่างกันสักพัก' อาจช่วยให้ความสัมพันธ์ที่คลอนแคลนดีขึ้น เพราะได้เวลากลับไปคิดทบทวนสิ่งที่ผ่านมา และอาจกลับมาเข้าใจกันอีกครั้ง แต่มันก็คือดาบสองคม ถ้าไม่กลับมาคืนดีแล้วรักกันมากกว่าเดิม ก็เลิกกันไปเลย! ซึ่งคู่รักหลายคู่ก็ใช้เหตุผลนี้เป็นการบอกเลิกอย่างเนียนๆ นั่นแหละค่ะลองสังเกตตัวเองว่า เมื่อใช้สถานะ 'ห่าง' กับแฟนแล้วรู้สึกมีความสุข เป็นอิสระมากขึ้นไหม ถ้าใช่ก็ส่อสัญญาณกลายๆ ว่าต่อไปต้องเลิกกันแน่นอน


11. ขุดความผิดของแฟนมาพูดซ้ำๆ ในการทะเลาะทุกครั้ง

รูปภาพ:http://res.mindbodygreen.com/img/ftr/YoungFightingCouple-850x565.jpg

นี่ถือเป็นนิสัยที่ไม่ดีเลย! เวลาทะเลาะต้องคอยขุดความผิดของแฟนมาพูดซ้ำซาก บางอย่างจบไปตั้งนานแล้วแต่ก็ยังไม่ยอมลืม ขอให้ได้พูด ได้เถียงแล้วชนะเธอก็สะใจแล้ว แต่ไม่สนใจความรู้สึกของฝ่ายตรงข้ามแม้แต่นิดเดียว

เธออาจรู้สึกดี แต่ฝ่ายตรงข้ามจะถูกย้ำเตือนเสมอว่า ไม่ว่าจะขอโทษในความผิดที่ทำสักแค่ไหน เธอก็ไม่เคยให้อภัยเขาเลย! แสดงถึงนิสัยยึดติดและอาฆาตมาดร้าย แน่ล่ะ ไม่มีใครชอบผู้หญิงแบบนี้หรอก... จุดจบไปสู่การเลิกราก็ตามมาโดยไม่ต้องสงสัย

12. เธอให้อภัยความผิดของแฟนไม่ได้

ต่อจากข้อข้างบน เธอไม่ยอมและไม่มีวันให้อภัยความผิดของแฟนได้เลย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อยแค่ไหนก็ตาม! แค่เขาลืมล้างจาน ลืมซักผ้า เธอก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟเหมือนเขาไปฆ่าใครตาย -.-

บางคู่ผู้ชายก็ทำความผิดร้ายแรงจริงๆ เช่น บังคับเธอให้ออกจากงาน, ตะคอกใส่เธอเสียงดังด้วยคำพูดหยาบคาย, ทำให้เธออับอายต่อหน้าสาธารณชน นึกขึ้นมาเมื่อไหร่ก็รับไม่ได้ทุกที แล้วเธอจะแบกความทรงจำเหล่านี้ไปตลอดชีวิตงั้นหรือ

จะมานั่งทบทวนแล้วหาทางออกร่วมกัน หรือจะแยกทางใครทางมัน เธอเป็นคนตัดสินใจเองค่ะ


=======================

คู่รักที่กำลังอยู่ในสถานะ 'ห่าง' ต้องมีสัญญาณบ่งบอกเหมือนในบทความนี้บ้างไม่มากก็น้อย เรามั่นใจ! เพราะแต่ละอาการเป็นความรู้สึกที่สื่อให้เห็นชัดเจนว่า 'เธอไม่รักเขาอีกต่อไปแล้ว' โดยแสดงออกมาผ่านพฤติกรรมต่างๆ เช่น ไม่เห็นอยู่ในสายตา, มองเห็นแต่ข้อเสีย, วิพากษ์วิจารณ์จนเขาเสียความรู้สึก, แค่เห็นหน้าก็หงุดหงิด เป็นต้น

ถ้าเธอเจอสัญญาณเหล่านี้แล้ว มีทางเลือกสองทางคือ กลับมาทบทวนความสัมพันธ์ หรือปล่อยให้หลุดมือไปเลย ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับว่าเธอแค่อิ่มตัวกับความรัก หรือเขา 'ไม่ใช่' อีกต่อไปแล้ว

ลองคิดง่ายๆ ว่าถ้าเธอต้องอยู่อย่างนี้ไปตลอดชีวิต เธอจะทนทุกข์ทรมานหรือเปล่า ถ้าใช่ก็รีบทางใครทางมัน หาคนใหม่มาทำให้ชีวิตสดใสดีกว่า เพราะคนไม่ใช่ก็คือไม่ใช่ค่ะ แต่ถ้าคิดอย่างไรก็ยังรัก ก็รีบฟื้นฟูความสัมพันธ์ให้กลับมามีความสุขไวๆ นะคะ  เป็นกำลังใจให้ โชคดีค่ะทุกคน ^^

=======================