เที่ยว Japan กับบรรยากาศสุดฟิน รวม 8 สวนดอกไม้สุดอลังที่ประเทศญี่ปุ่น 🌼 #ต้องไปสักครั้งในชีวิต
ไปญี่ปุ่นทั้งที เที่ยวแต่ในเมืองได้ยังไง วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปสัมผัสกับบรรยากาศสุดฟิน แถมยังถ่ายรูปสวยสุดๆ ที่สวนดอกไม้สุดอลังในประเทศญี่ปุ่น พูดตรงนี้เลยนะว่า ถ้าไม่ได้ไปเยือนสักครั้ง ถือว่าพลาดมาก!
เผยแพร่: 27 ธ.ค. 2562 10:32 น.
Views: 3,296
รหัสบทความ: 73620
✿‧✿‧✿‧✿‧✿‧✿‧✿‧✿‧✿‧✿‧✿‧✿‧✿‧✿‧✿‧✿‧✿‧✿‧✿‧✿‧✿ช่วงนี้ทุ่งดอกไม้กำลังมาแรง ที่ไทยว่าสวยแล้ววันนี้ขอพาชาวซิสบินลัดฟ้าไปดูสวนดอกไม้สวยๆ ที่ประเทศญี่ปุ่นกันบ้าง รับรองว่าฟินแน่นอนไม่ใช่แค่ดอกไม้สวย สีสันสดใสเพียงอย่างเดียวเท่านั้นที่ควรค่าแก่การไปเช็คอิน แต่บรรยากาศและความอลังการ พูดตรงนี้เลยว่า ที่สุดของที่สุดอะ!ใครที่มีแพลนไปเที่ยวญี่ปุ่น จะต้องไม่พลาดไปแชะภาพที่สวนดอกไม้เหล่านี้ วันนี้หยิบมาแชร์ทั้งหมด8 สวนดอกไม้สุดอลังที่ประเทศญี่ปุ่นจะมีที่ไหนน่าไปเช็คอินบ้าง และจะสวยบาดใจซิสขนาดไหน เราไปดูพร้อมๆ กันเลยค่ะ✿‧✿‧✿‧✿‧✿‧✿‧✿‧✿‧✿‧✿‧✿‧✿‧✿‧✿‧✿‧✿‧✿‧✿‧✿‧✿‧✿
1. Huis Ten Bosch Flower Garden Theme Park
เปิดมาที่สวนดอกไม้แรกที่เราจะพาเพื่อนๆ ไปเช็คอินกัน ที่นี่คือ
Huis Ten Bosch
ธีมปาร์คสไตล์ฮอลแลนด์สุดแสนจะกว้างใหญ่ จริงๆ เค้าเป็น
สวนสนุกสไตล์ฮอลแลนด์ขนาดย่อมที่งดงามอยู่ภายในจังหวัดนางาซากิ
ซึ่งภายในสวนสนุกแห่งนี้มีขนาดที่ใหญ่มาก!
รายล้อมไปด้วยคลอง ป่าเขียวขจีและทุ่งดอกไม้อันงดงาม
ทั้งยังมี
เครื่องเล่นมากมาย ร้านอาหาร โรงแรม พิพิธภัณฑ์ และท่าจอดเรืออีกด้วย
รับรองว่าถ่ายรูปกันฟินๆ ตลอดทั้งวันแน่นอนค่ะ!
แต่วันนี้
เราขอโฟกัสไปที่สวนดอกไม้สุดอลังการของเค้าเพียงอย่างเดียวก่อนแล้วกันเนอะ
ที่นี่มีสวนดอกไม้ที่สวยมาก ซึ่ง
มีให้เพื่อนๆ ได้เดินชมกันแบบฟินๆ ถึง 4 สวน
แต่ละสวนก็มีบรรยากาศและความสวยงามแตกต่างกันด้วยนะรับรองว่าโดนใจคนรักธรรมชาติและคนชอบถ่ายรูปอย่างแน่นอน
สวนแรกชื่อว่า
Art Garden
เป็น
สวนที่ผสมผสานสไตล์ยุโรป ที่จะจัดสรรพืชและดอกไม้เปลี่ยนไปตามฤดูกาล
สวนที่สอง สวนหน้าพระราชวัง
Huis Ten Bosch
เป็น
สวนสไตล์บาร็อคขนาดใหญ่ ที่ซ่อนอยู่ด้านหลังของพระราชวัง
สวนที่สาม
Flower Road
ที่นี่สวยมาก
เป็นทุ่งดอกไม้หลากสีสัน ที่มีฉากหลังเป็นกังหันลม
บรรยากาศดี๊ดี!
สวนสุดท้าย
Floral Clock
เป็น
สวนดอกไม้ที่ถูกจัดเป็นรูปนาฬิกาที่สวยงาม
ไม่ว่าจะแวะไปถ่ายรูปที่สวนไหน รับรองว่าได้ภาพที่ดูสวยโดนใจเพื่อนๆ อย่างแน่นอน ซึ่งก็อย่างที่บอก
ไปแล้วไม่เบื่อ เพราะมีอะไรให้ทำเยอะ
ทั้งเล่นเครื่องเล่น ชมไฟประดับสามมิติสุดอลังการยามค่ำคืนและอื่นๆ อีกมากมาย เป็นอีกหนึ่งที่ที่พลาดไม่ได้เลยค่ะ
2. Kuju Flower Park
สถานที่ที่สอง
สวนดอกไม้คูจู ( Kuju flower Park )
ว่ากันว่าที่นี่เป็น
สวนดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุดอีกแห่งนึงของเกาะคิวชู
ซึ่งภายใน มีดอกไม้มากกว่า 3 ล้านดอก ที่จะ
เบ่งบานตามแต่ฤดูกาล ยกเว้นฤดูหนาว
อยู่ที่บริเวณเชิงเขาทางทิศใต้ของเทือกเขาคูจู
ภายในสวนจะมีดอกไม้หลากหลายชนิด
ไม่ว่าจะเป็น ดอกลาเวนเดอร์, บลูเบอร์รี่, ดอกทิวลิป, ดอกทานตะวัน, ดอกป๊อปปี้, ดอกพิงส์มอสและอีกมากมาย
แต่น่าเสียดายนะ ที่ดอกไม้ของเค้าไม่บานในช่วงหน้าหนาว แต่ก็ไม่เป็นไรเนอะ
เก็บสถานที่นี้ไว้ในใจก่อน รอให้หน้าหนาวผ่านพ้นไป แล้วค่อยแวะไปถ่ายรูปเล่นกัน
นอกจากนี้ทางสวนดอกไม้ เค้าก็ได้มีการจัดแบ่งโซนของดอกไม้ต่างๆ เอาไว้เป็นอย่างดี โดยจะ
รวมเอาชนิดที่บานพร้อมๆ กันเนี่ย มาปลูกไว้ด้วยกัน
เวลาเราไปดู จะได้ไม่รู้สึกว่าตรงนั้นขาด ตรงนี้เกิน
พอดอกไม้บานพร้อมๆ กันแล้ว มันก็จะทำให้สวนดูสดใส สวยงาม
ทั้งนี้ที่นี่ก็ยังมีเรือนกระจกที่จัดแสดงดอกไม้เมืองร้อนอื่นๆ เอาไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ชมกันอีกด้วย แถมยัง
มีร้านขายของที่ระลึก ร้านขนม รวมทั้งร้านอาหารต่างๆ ไว้บริการอีกตั้งมากมาย
ซึ่งเราลองหาลิสต์ช่วงเวลาคร่าวๆ ที่ดอกไม้ต่างๆ จะบานมาให้เพื่อนๆ ได้ดูกันด้วยนะ
ถ้าเป็นใน
ช่วงฤดูใบไม้ผลิ เพื่อนๆ ก็อาจจะได้ชมดอกทิวลิป
(
กลางเมษา - ต้นพฤษภา )
ดอกลาเวนเดอร์( ปลายมิถุนา - กลางกรกฏา
)และดอกไฮเดรนเยีย( กลางกรกฏา - ปลายกรกฏา
)
ส่วนใน
ช่วงฤดูใบไม้ร่วง เราจะได้เห็นเป็นทุ่งดอกคอสมอส(
ต้นตุลา - ปลายตุลา )
อะ! ก็ลองเลือกเอาเนอะว่าอยากจะเห็นดอกไม้อะไร ใครที่ได้ลองแวะไปเที่ยวที่นี่แล้ว อย่าลืมถ่ายรูปพร้อมเช็คอินมาอวดกันบ้างนะ
3. Tottori Hanakairo Flower Park
บุกสวนดอกไม้ในเมืองโยนาโกะ ของจังหวัด Tottori กันดีกว่า! ที่นี่เลยค่ะ
Tottori Hanakairo Flower Park
จะบอกว่า
สวนดอกไม้ของที่นี่ นับว่าเด็ด ความสวยงามไม่แพ้ที่อื่นๆ
เลยนะจะบอกให้ เพราะ
ที่นี่ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสวนดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่นเลย!
พูดเลยว่า
พื้นที่ภายในกว้างมาก! กว้างจนเดินกันไม่หวาดไม่ไหวเลยทีเดียว เดินไม่ไหวแล้วไง ก็นั่งรถสิคะ เพราะ
ที่นี่เค้ามีรถไว้บริการนักท่องเที่ยวด้วยนะจ๊ะ ค่าบริการจะอยู่ที่ 300 เยนต่อคน
ซึ่งเพื่อนๆ
สามารถไปเยี่ยมชมความสวยงามของสวนดอกไม้ฮะนะไคโรได้ตลอดทั้งปี
เลยนะ
แถม
ด้านในยังมีโดมขนาดใหญ่ยักษ์ที่จัดแสดงดอกกล้วยไม้ ดอกไม้น้ำ และดอกไม้จากยุโรปอีกด้วย พูดเลยว่าอลังการงานสร้างมาก!
รับรองว่าตื่นตาตื่นใจกันอย่างแน่นอนค่ะ เป็นอีกหนึ่งสวนดอกไม้ที่น่าไปอีกหนึ่งที่ ใครมีโอกาสไปเที่ยวญี่ปุ่น อย่าลืมแวะไปเที่ยวที่นี่นะ
4. Nabana No Sato Park
นอกจากจะมีงานประดับไฟที่ยิ่งใหญ่ระดับโลกในประเทศญี่ปุ่นแล้ว ที่
Nabana no Sato
ก็ยังมี
สวนดอกไม้ที่สวยที่สุดและดีที่สุดของญี่ปุ่นอีกด้วย!
ซึ่ง
ส่วนใหญ่คนก็จะมาชมดอกไม้และ Illumination ที่สวยงามตระการตากัน
อย่างช่วงนี้ก็จะเป็นช่วงเทศกาลเฉลิมฉลอง ที่นี่เค้าก็จะมีการจัดงานไฟประดับสุดยิ่งใหญ่อลังการ
ต้องบอกก่อนว่าที่นี่เค้าเป็น
ธีมพาร์คสวนดอกไม้ที่มีทุ่งดอกไม้กว้างใหญ่มากๆ มองไปทางไหน เพื่อนๆ ก็จะได้เห็นดอกไม้สีสันสดใสหลากหลายมากมาย
เลยค่ะ มาพร้อมกับบรรยากาศสุดโรแมนติก
รับรองว่าถ่ายรูปกันแบบฟินๆ แน่นอน
ไปแล้วอย่าลืมพกกล้องถ่ายรูปและชาร์จแบตไปให้เต็มด้วยนะ งานนี้มีเมมเต็มแน่ บอกเลย!
ตอนกลางวันเดินเล่นชมสวนดอกไม้สีสันสดใสกันอย่างจุใจกันไปแล้ว อย่าเพิ่งกลับที่พักค่ะ เพราะตกค่ำ
ที่นี่เค้า
จะ
มีแสดงไฟประดับที่สวยและยิ่งใหญ่มากๆ
โดยเฉพาะช่วงเทศกาลปีใหม่แบบนี้ รับรองว่าความอลังการมาเต็มแน่นอน
คุณจะได้เห็นสวนดอกไม้ขนาดใหญ่ ที่เต็มไปด้วยดวงไฟกว่าล้านดวงที่แข่งกันส่องแสงยามค่ำคืน
ไม่ว่าจะมองไปมุมไหน คุณก็จะได้เห็นแสงไฟระยิบระยับส่องแสงในทุกๆ พื้นที่
ซึ่งจะถูกประดับตกแต่งเป็นรูปต่างๆ
ทั้งภูเขาไฟฟูจิ ต้นคริสต์มาส แม่น้ำ ทุ่งหญ้า รวมถึงยังมีการประดับไฟบนน้ำ ให้นักท่องเที่ยวได้เดินชมกันเพลินๆ ท่ามกลามอากาศหนาวอีกด้วยนะ
อย่างภาพด้านบนที่เราหยิบมาให้ดูนั้น ถือว่าเป็นอีกหนึ่ง
ไฮไลท์เด็ด ที่บอกเลยว่าห้ามพลาดเด็ดขาด
อุโมงค์ไฟระยิบระยับ หรือ Tunnel of Light
ที่ตลอดเส้นทางจะล้อมรอบไปด้วยดวงไฟรูปดอกไม้น่ารักๆ งานนี้พูดเลยว่าพลาดไม่ได้ ไปญี่ปุ่นช่วงสิ้นปี ถือว่าดี ได้กำไรครับผม!
5. Hitachi Seaside Park
ถัดมาที่สวน
Hitachi Seaside Park
เป็นอีกหนึ่งสวนที่เราขออุทานดังๆ ว่า โอ้โห! สวยมาก
ที่นี่
เป็นสวนริมทะเลขนาดใหญ่ ที่มีชื่อเสียงด้านทุ่งดอกไม้ที่สวยงาม
โดยเฉพาะ
ทุ่งดอกโคเชีย ( Kochia )
ภาพด้านบนนั่นเองค่ะ คือปกติทุ่งนี้จะมีสีเขียวและจะกลายเป็นสีแดงในช่วงฤดูใบไม้ร่วง มันสวยมากๆ เลยอะ
แถมเพื่อนๆ ยังสามารถเดินทางไปเที่ยวกันได้ตลอดทั้งปีเลยนะ
แล้วไม่ได้มีแค่สวนดอกไม้สวยๆ ให้เดินชมเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยัง
มีโซนของสวนสนุกที่ชื่อว่า Pleasure Garden เปิดให้บริการตลอดเวลา
อีกด้วย
แต่ต้องบอกก่อนว่าที่สวนแห่งนี้ จะ
มีช่วงเวลาของทุ่งดอกไม้บานที่เป็นไฮไลท์สำคัญอยู่ทั้งหมด 4 ช่วงเวลา
อย่างใน
ช่วงฤดูใบไม้ผลิ
ประมาณ
ปลายเดือนมีนาคมถึงกลางเดือนเมษายน
คุณจะได้เห็น
ทุ่งดอกนาร์ซิสซัส ( Narcissus )
ส่วนในช่วง
กลางเดือนถึงปลายเดือนเมษายน
ต่อจากทุ่งดอกนาร์ซิสซัส ก็จะ
มีดอกทิวลิปบานสะพรั่งสีสันสดใส
ตระการตาให้เพื่อนๆ ได้ชมกัน ถัดมาที่ช่วง
ปลายเดือนเมษายนจนถึงปลายเดือนพฤษภาคม
ดอกเนโมฟีเลีย ( Nemophila ) จะบานตามดอกทิวลิป
ค่ะ ซึ่งก็คือรูปด้านบน ที่เป็นดอกไม้สีฟ้าๆ นั่นเอง สวยมากๆ เลยอะ! เหมือนอยู่ในเทพนิยายเลย
ไฮไลท์เด็ดมันอยู่ตรงที่
ทุ่งหญ้าสีเขียวกลายเป็นสีฟ้านี่แหละ
สวยงามและแปลกตามาก หาชมที่ไหนไม่ได้ ต้องที่นี่ที่เดียวเท่านั้น! ปิดท้ายในช่วง
ฤดูใบไม้ร่วง
ปลายเดือนกันยายนถึงกลางเดือนตุลาคม
ทุ่งดอกโคเชีย ( Kochia ) ที่เริ่มเปลี่ยนสีจากเขียวเป็นสีแดง
พร้อมกันนี้ยังมีดอกคอสมอสหลากสีสันบานอยู่ใกล้ๆ กันด้วย พูดเลยว่าสวยมาก ไม่ว่าจะไปในช่วงไหน ก็สวยทั้งนั้น เห็นแบบนี้แล้วอยากไปเลยอะ
6. Tomita Farm
สวนดอกไม้ สวนถัดมาที่เราหยิบมาแชร์ในวันนี้คือ
Tomita Farm
ที่นี่
ตั้งอยู่ในเมือง Furano ของฮอกไกโด
ว่ากันว่า
เป็นฟาร์มที่โด่งดังมากๆ ในเรื่องของดอกไม้ที่สวยงาม
ก็ดูจากรูปสิ อลังการงานสร้างซะขนาดนี้ จะไม่ให้พูดกันปากต่อปากได้ยังไง จริงมั้ย ซึ่งที่ฟาร์มแห่งนี้ ขึ้นชื่อว่าเป็น
“ จุดชมดอกลาเวนเดอร์ที่ดีที่สุดของเมือง ”
เพราะอะไร ก็เพราะวิวของเค้าสวยมาก เหมือนหลุดเขาไปในภาพวาดเลยแม่!
ฉากหน้าเป็นทุ่งดอกไม้ ฉากหลังเป็นภูเขาโทกะชิ โอ้โห! ตระการตาสุดๆ ไปเลยอะ
แถมสิ่งที่ถูกใจนักท่องเที่ยวอย่างเราๆ มากที่สุดก็คือ
เขาเปิดให้เข้าชมฟรีอย่างอิสระ!
ใกล้ๆ กันก็
มีร้านกาแฟ ร้านค้าจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากลาเวนเดอร์อีกด้วย
ไปแล้วอย่าลืมแวะไปลองชิมไอศกรีมลาเวนเดอร์กันดูนะจ๊ะ
ที่ฟาร์มนี้
เค้าจะโด่งดังในเรื่องของดอกลาเวนเดอร์
ซึ่ง
ช่วงที่ดอกลาเวนเดอร์บานสะพรั่งเต็มที่ คือช่วงกลางเดือนกรกฎาคมถึงต้นเดือนสิงหาคม
แต่เค้าก็ไม่ได้มีแค่ดอกลาเวนเดอร์อย่างเดียวนะ
จริงๆ แล้วภายในสวนดอกไม้ยังมีดอกไม้อีกมากมายหลากหลายชนิด
ให้เพื่อนๆ ได้ดูกันด้วย ไม่ว่าจะเป็น ดอกป๊อปปี้ ดอกทานตะวัน ดอกลิลลี่และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งแต่ละดอกไม้ก็จะเบ่งบานในช่วงเวลาที่ต่างกัน ก็ลองไปหาข้อมูลเพิ่มเติมกันดูเนอะ
เป็นอีกหนึ่งสวนสวยๆ ที่อยากให้ลองแวะไปเช็คอินกันดู
รู้สึกว่าสวนดอกไม้แห่งนี้ ดารา เซเลบแวะเวียนไปถ่ายรูปกันเยอะเลยแหละ สายแชะอย่างพวกเรา ก็พลาดไม่ได้เด้อ!
7. Higashimokoto Shibazakura Park
ให้มันเป็นสีชมพู~ พาเพื่อนๆ ไปชมพิงค์มอสกันที่
Higashimokoto Shibazakura Park
ไปแล้วรู้เลย ไม่ต้องรอให้มีความรักหรอก แค่ไปที่นี่ ก็สัมผัสได้ถึงโลกสีชมพูแล้วค่ะ! ว่ากันว่า
สวนแห่งนี้เป็นสวนที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่ง
เขาจะขึ้นชื่อในเรื่องความสวยงามของ
ทุ่งดอกชิบะซากุระหรือดอกมอส ( Moss Phlox )
จากที่เห็นในรูป
ดอกมอสจะเปลี่ยนให้ทั้งเนินเขากลายเป็นสีชมพู
ทั้งสวย ทั้งสดใส
ซึ่งเขาจะเริ่มเบ่งบานตั้งแต่ช่วงต้นเดือนพฤษภาคมไปจนถึงเดือนมิถุนายนของทุกปี
ตัวดอกของเค้าจะมีหลายสี แต่ก็จะคุมโทนสีใกล้เคียงกัน
นั่นแหละ เช่น ชมพู ขาว แดงเข้ม รวมไปถึงสีม่วงด้วย และ
ที่เรียกว่าชิบะซากุระก็เพราะว่ากลีบดอกมีลักษณะคล้ายกับดอกซากุระ
นั่นเองค่ะ
ใครที่กำลังจะไปเที่ยวฮอกไกโด แล้วอยากได้บรรยากาศสดชื่นกับดอกไม้สีสวยๆ ทั่วทั้งเนินเขาแบบนี้ ห้ามพลาด!
แนะนำว่า
อย่าลืมลองชิมซอฟท์ครีมรสพิงค์มอส
ด้วยนะ
เที่ยวฮอกไกโดครั้งนี้ จะแตกต่างจากครั้งก่อนๆ รับรองว่าคุณจะได้รับความประทับใจและรูปสวยๆ กลับไปอย่างเต็มเปี่ยมแน่นอนค่ะ
8. Horomitoge Lavender Garden
สถานที่สุดท้ายที่เราจะพาเพื่อนๆ ไปเที่ยวในวันนี้ก็คือ
Horomitoge Lavender Garden
สวน lavender ใจกลางเมืองซัปโปโร ที่สวยบาดใจมากแม่! เค้าว่าที่นี่เป็นสวนชื่อดัง มีชื่อเสียงด้านจุดชมวิวเมืองที่สวยม้ากมาก
เราสามารถชมทุ่ง lavender ไปพร้อมๆ กับวิวเมืองซัปโปโรจากมุมสูงได้
รู้สึกว่าจะ
ให้ชมฟรีนะ แต่ถ้านำรถยนต์มาเองจะต้องเสียค่าจอด 500 เยน
ในกรณีที่ไม่มีรถยนต์มา การเดินทางมาที่นี่ก็ไม่ได้ยาก
จากตัวเมือง ให้เพื่อนๆ นั่งแท็กซี่มากได้ ใช้เวลาประมาณ 20 นาที ก็ถึงแล้ว
เมื่อขึ้นมาที่นี่นอกจากความสวยงามของดอกไม้และวิวแล้ว ยังมีกลิ่นหอมๆ ที่จะทำให้เพื่อนๆ รู้สึกผ่อนคลายกันอีกด้วยนะ สวนแห่งนี้มีต้นดอกลาเวนเดอร์ปลูกอยู่ประมาณ 5,000 ต้นแถมเค้ายังมีของที่ระลึกขายด้วยไม่ว่าจะเป็นช่อดอกลาเวนเดอร์ โปสการ์ด รวมไปถึงพวกน้ำมันหอมระเหยกลิ่นดอกลาเวนเดอร์ ซื้อเป็นของฝากได้เลยค่ะ มาแล้ว ไม่ได้ได้แค่รูปสวยๆ กลับบ้านไปเพียงอย่างเดียว แต่เรายังได้รับความประทับใจและของฝากจากดอกลาเวนเดอร์กลับไปอีกด้วย ดี๊ดีอะ!
✿‧✿‧✿‧✿‧✿‧✿‧✿‧✿‧✿‧✿‧✿‧✿‧✿‧✿‧✿‧✿‧✿‧✿‧✿‧✿‧✿สวยมาก! เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่พลาดไม่ได้ เมื่อไปเยือนญี่ปุ่นจริงๆ นะ คือวัดก็ไป โตเกียวก็ไป ช้อปก็แล้ว อะไรก็แล้ว แล้วจะพลาดไปเซลฟี่กลางสวนดอกไม้สวยๆ แบบนี้ได้ยังไง ไม่ได้!!! มันต้องแวะไปสักครั้งสิ ใครมีโอกาสไปเที่ยวที่นี่ อย่าลืมไปเช็คอินสวนดอกไม้สวยๆ กันนะคะสำหรับวันนี้ ต้องลาไปก่อนแล้ว บ๊ายบาย
