ขึ้นชื่อว่า'ประเทศญี่ปุ่น'อย่างแรกที่นึกถึงคือ' โตเกียว '


เมืองหลวงซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางของแหล่งท่องเที่ยว เรียกว่าใครมาสายไหนก็สนุกได้ที่นี่ ไม่ว่าเธอจะเป็นสายกิน สายช็อป หรือสายท่องเที่ยว พักผ่อนแช่ออนเซ็นก็ไม่ผิดหวัง ><

ใครเห็นของสวยๆ น่ารักเป็นไม่ได้ ต้องขอเสียเงิน กระจายรายได้ข้ามประเทศสักหน่อย ร้องเฮกันรัวๆ! เพราะวันนี้เราขอนำเสนอ 10 ย่านท่องเที่ยวในโตเกียวสำหรับสาวๆ ที่หลงรักการช็อปปิ้ง!

เมืองนี้มีทั้งของไฮเอนด์ แฟชั่นแปลกๆ ล้ำๆ, งานฝีมือของพื้นเมือง, เสื้อผ้าแนววินเทจ, ของที่ระลึกเฉพาะในญี่ปุ่นเท่านั้นนอกจากนี้ยังมีย่านอุปกรณ์ไอที เทคโนโลยีต่างๆ ที่เธอไม่เคยคิดว่ามีอยู่ในโลกนี้ แต่พอรู้ว่ามีเท่านั้นแหละ อาการอยากซื้อกำเริบทันที! ( เรารู้เธอก็เป็น! )

เตรียมเงินในกระเป๋าไว้ให้ดี แล้วแพ็คกระเป๋า จองตั๋วเครื่องบินเหินฟ้าสู่แจแปนกันเลย เย้ ^0^

1. กินซ่า ( Ginza )

" กินซ่า ( Ginza ) "

เป็นย่านช็อปปิ้งที่ค่อนข้าง

'ไฮโซ'

เพราะร้านที่เรียงรายในละแวกนั้นเป็นบูติคที่ขายสินค้าเนี้ยบๆ ราคาก็สูงตามไปด้วย เช่น ห้างสรรพสินค้า

Mitsukoshi

และตึก

Dover Street Market Ginza

แต่ในทางกลับกัน ย่านนี้ก็ยังมีอาคารขายของเล็กๆ แบบเรียบง่ายอยู่ด้วย เช่นร้านขายงานฝีมือ Takumi ร้านขายของเล่นที่ Hakuhinkan

ถ้าสาวๆ คนไหนเป็นสาวกของอุปกรณ์เครื่องเขียน หลงใหลในการทำสแครปบุ๊ค, เขียนไดอารี่หรือจดหมาย ห้ามพลาดร้านขายเครื่องเขียน Itōya ที่มีของให้เลือกซื้อมากมาย ตึกมีสูงสุดถึง 9 ชั้นเลยนะ!

ร้านขายของในละแวกนี้สะท้อนให้เห็นถึง 'วัฒนธรรมการซื้อ' ของลูกค้าในย่านนี้ นั่นคือ

การผสมผสานในอัตราส่วนเท่าๆ กันของแฟชั่นชั้นสูง และงานฝีมือของคนธรรมดาแต่มีคุณค่าให้ซื้อเก็บเป็นความทรงจำค่ะ

รูปภาพ:http://cdn.wallpaper.com/main/legacy/gallery/17053019/15_12_DSMG-PR-1203-150dpi-numbered-1-15.jpgรูปภาพ:http://images-resrc.staticlp.com/S=W748/O=75/http://www.lonelyplanet.com/travel-blog/tip-article/wordpress_uploads/2010/08/tokyo-shopping-ginza-itoya2.jpg

2. อาซากุสะ ( Asakusa )

ย่าน

'อาซากุสะ'

เป็นแหล่งพักผ่อนคลาย ทำให้จิตใจสงบเพราะเป็นแหล่งที่ตั้งของวัด เป็นแหล่งรวมตัวของช่างฝีมือและพ่อค้า ตรอกแคบๆ เล็กๆ และซอยที่เลี้ยวคดไปคดมา ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของย่านนี้มีเรื่องให้ประหลาดใจมากมาย

ตัวอย่างร้านเช่น

สินค้าวินเทจที่วางขายในร้าน Tokyo Hotarudo

และ '

โนเร็น' ( ผ้าม่านหน้าร้าน ) สวยๆ ในร้าน Bengara

ถ้าสาวๆ คนไหนอยากซื้อของไปฝากเป็นของขวัญให้คนที่บ้าน เพื่อนๆ หรือคนรัก ไปที่

ซอยนากามิเสะ ( Nakamise-dōri ) ทางที่นำไปสู่วัดเซนโซจิ จะมีของที่ระลึกเป็นเครื่องประดับเพชรพลอยกระจุกกระจิก

แต่หากอยากได้แบบคุณภาพสูงหน่อย แนะนำเป็นถนนทางด้านหลังดีกว่าค่ะ

ถนนอีกสายหนึ่งที่อยากแนะนำคือ Kappabashi-dōri ที่มีทางทอดยาว มีสินค้ามากมายที่เป็นถ้วยชามหลากหลาย จุดเด่นคือสินค้าเหล่านี้มีเอกลักษณ์สไตล์ญี่ปุ่น

ต้องลองไปเลือกดู เผื่อได้ของถูกใจไว้ประดับครัวในบ้านค่ะ ^^

รูปภาพ:http://dup17cyn802n.cloudfront.net/2015/06/23533ee.jpgรูปภาพ:https://c2.staticflickr.com/2/1303/5189970706_70da4050fe_b.jpg

3. คากุระซากะ ( Kagurazaka )

จากสถานีชินจุกุไปทางทิศตะวันออกเพียง 2-3 สถานีก็มาถึงย่านนี้'คากุระซากะ'

! อาคารและตึกในย่านนี้จะมีขนาดเล็ก ความสูงเท่ากับตัวคนทั่วไป เนินลาดชันๆ เมื่อเดินขึ้นจาก

สถานีอิดาบาชิ ( iidabashi )

จะเจอร้านค้ามากมายเลยค่ะ

ตัวอย่างร้านเช่น ร้านค้ามากมายที่ขาย

'รองเท้าเกี๊ยะ'

หรือรองเท้าแตะไม้พื้นบ้านของญี่ปุ่นและ

กระเป๋าสตางค์ผู้หญิงร้อยเชือกทำจากเนื้อผ้ากิโมโน

,

ผ้าผืน สิ่งทอย้อมสีด้วยมือที่ร้าน Kikuli

และ

ร้าน Sada's ขายเสื้อผ้า รองเท้าแฮนด์เมด

นอกจากนี้ยังมี

ร้านขายยา ร้านขายของชำและมุม 'ปาจิงโกะ'

ไว้เล่นฆ่าเวลาให้สนุกสนานกันอีกด้วย

สำหรับสาวๆ ที่ชอบตุ๊กตาหรือหุ่นชักรอกน่ารักๆ ย่านนี้ก็มีร้านขายหุ่นชักที่นำเข้ามาจากทั่วโลก และมีร้านขายขนมญี่ปุ่นอีกด้วยนะ

รูปภาพ:https://media.timeout.com/images/102904385/617/347/image.jpgรูปภาพ:http://blog-imgs-31.fc2.com/s/h/i/shidokou/20120124145902dca.jpg

4. รบปงหงิ ( Roppongi )

แม้ว่าย่าน

' รบปงหงิ '

จะเป็นที่รู้จักในด้านแหล่งรวมผับ บาร์ สถานบันเทิงในยามค่ำคืน ( ใครอยากเที่ยวโฮสต์ต้องไม่พลาด )

แต่ย่านนี้ก็ยังมีร้านขายสินค้า โชว์รูมต่างๆ ที่น่าสนใจและมีเอกลักษณ์เฉพาะ ( แบบแปลกๆ ) มีแหล่งช็อปปิ้ง ร้านอาหาร ย่านศิลปะและสถานที่ให้ความสนุกเพลิดเพลินเหมือนกัน

ตัวอย่างเช่น ตึก Roppongi Hills, Tokyo Midtown และ Toranomon Hills


แฟชั่นที่น่าสนใจเป็นพิเศษในย่านนี้คือพิพิธภัณฑ์ออกแบบ Axis มีแกลลอรี่รูปภาพ ร้านค้าต่างๆ สถาปัตยกรรมภายในแบบร่วมสมัยจัดแสดงอยู่ในนั้น ( มีดาบญี่ปุ่นแบบซามูไรให้ดูด้วย! )

ถือเป็นอีกย่านที่สาวๆ สายประวัติศาสตร์ไม่ควรพลาดค่ะ

รูปภาพ:https://c1.staticflickr.com/1/68/227030087_2b73d6b0b5_b.jpgรูปภาพ:http://aasarchitecture.com/wp-content/uploads/Open-Toranomon-Hills-by-Nihon-Sekkei-08.jpg

5. ไดกันยามะ & นากะ-เมกุโระ ( Daikanyama & Naka-Meguro )

ย่าน 'ไดกันยามะ'

อยู่ใกล้กับ Ebisu ชิบูยะ เป็นย่านที่รายล้อมไปด้วยคาเฟ่และบูติคต่างๆ มากมาย

ร้านขายเสื้่อผ้าและเครื่องประดับแฟชั่นที่อยากแนะนำคือร้าน Harcoza และร้าน Okura

ค่ะ

สาวๆ คนไหนเป็น 'หนอนหนังสือ' ต้องไปที่ Daikanyama T-Site ร้านหนังสือในเครือ Tsutaya Books ขายกาแฟและมีไวไฟให้ใช้ฟรี! ( เริ่ดไปอีก )

เดินจากย่านไดกันยามะไปอีกนิดหน่อย จะเจอกับย่าน

'นากะ-เมกุโระ'

เป็นแหล่งของสินค้ามือสองและบาร์ เลานจ์ที่หลบซ่อนอยู่

สินค้าที่เป็นดาวเด่นในย่านนี้คือ 'แจกันแบบวินเทจ' ค่ะ

รูปภาพ:https://www.ana-cooljapan.com/columns/wp-content/uploads/2015/11/harcoza-misha-janette-26.jpgรูปภาพ:http://www.hipshops.com/img/shopPhotos/346/2.gif

6. ชิบูยะ ( Shibuya )

ย่าน'ชิบูยะ'เป็นย่านที่วัยรุ่น ( ทั้งไทยและญี่ปุ่น ) ต้องรู้จัก เพราะใครๆ ก็ต้องมาอัพเดตเทรนด์ที่นี่


ไม่ว่าเธอจะอายุเท่าไหร่ พ้นวัยมัธยมติ่งหูมาแล้วก็ตาม แต่ถ้าหลงเข้ามาในย่านนี้แล้ว ก็ปล่อยตัวปล่อยใจไปกับแฟชั่นหลุดโลกของชิบูยะได้เลย

นอกจากร้านขายเสื้อผ้าแฟชั่นแล้ว ร้านขายแผ่นเสียงก็เป็นที่นิยมเพราะราคาถูก เครื่องแต่งกายที่วางขายในร้านทั่วทั้งย่านนี้ล้วนโดดเด่น สาวฮิปสเตอร์พลาดไม่ได้! เลือกซื้อไอเท็มเหล่านี้ เติมลุคธรรมดาให้ดูสวยชิคให้เพื่อนกดไลค์รัวๆ

ห้างสรรพสินค้าที่แนะนำคือตึกShibuya 109ซึ่งได้ชื่อว่าเป็น 'ศูนย์รวมแฟชั่น' , ย่านรวมบูติคแฟชั่นต่างๆ อัพเดตเทรนด์ นักออกแบบเลือดใหม่ได้ที่Fake Tokyo


ถ้าช็อปปิ้งเสื้อผ้าจนเบื่อแล้ว แวะมาที่

ร้านTokyu Handsเพื่อเลือกดูอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน, อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และของประดับกระจุกกระจิก

นะคะ ^^

รูปภาพ:https://c2.staticflickr.com/8/7144/6460512329_21a752fe17_b.jpgรูปภาพ:http://expatsguide.jp/wp/wp-content/uploads/Photo_TokyuHandsShibuya3.jpg

7. ชิโมะ-คิตาซาวะ ( Shimo-Kitazawa )

ย่าน 'ชิโมะ-คิตาซาวะ' เป็นย่านเล็กๆ ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของชิบูยะ( มีชื่อย่อว่า ชิโมคิตะ shimokita )

เป็นที่นิยมในหมู่นักเรียนที่ชื่นชอบงานทางศิลปะ, ร้านค้ามากมายที่มีเอกลักษณ์และจุดเด่นของตัวเอง, ร้านอาหาร, บาร์ที่ออกแบบให้มีโพรงบนผนัง

หากเดินลัดเลาะไปตามถนน ตรอกซอยแคบๆ เธอจะเจอกับแหล่งรวมร้านเสื้อผ้าสไตล์วินเทจ

ร้านที่ได้รับการจัดอันดับว่า 'ดีที่สุด' คือ Haight & Ashbury, ร้านแผ่นเสียง Otonomad และตลาดขายเสื้อผ้า Shimokita Garage Department

ที่ให้พื้นที่เหล่าศิลปินทั้งหลายนำผลงานมาวางขายและจัดแสดงมากมาย มีตั้งแต่ผ้าพันคอยันเครื่องประดับ

ใครเป็นสาวกของมือสองต้องไม่พลาด อาจได้ของดีราคาถูกติดไม้ติดมือกลับไปก็เป็นได้!

รูปภาพ:http://images.lacarmina.com/130303_shimokitazawa_tokyo_street_style_vintage_shopping_secondhand_stores_21.jpgรูปภาพ:http://www.nuok.it/wp-content/uploads/2015/10/vintage_shimokita-garage-departiment_shimokitazawa_tokyo_japan-592x395.jpg

8. ฮาราจูกุ & อาโอยามะ ( Harajuku & Aoyama )

ย่าน'ฮาราจูกุ'และ'อาโอยามะ'ถือว่าเป็นย่านที่คล้ายคลึงกันมาก เป็นฝาแฝดกันก็ว่าได้!

เป็นแหล่งรวมของเด็กสาวและเด็กหนุ่มที่โด่งดังในย่านนี้ แต่งตัวให้หลุดโลกผสมผสานด้วยความคิดสร้างสรรค์ ดูกันจนตาลายไปเลย,

ถนนสายช็อปปิ้ง 'ทาเคชิตะ'

ซึ่งมีร้านเสื้อผ้า ร้านเครปและร้าน Daiso สาขาใหญ่ และ

ถนนสายชิคๆ เก๋ๆ ชื่อ Omote-sandō

ค่ะ

แฟชั่นสุดหรูไฮ เก๋ๆ ต้องยกให้ย่านอาโอยามะ ย่านที่อยู่ปลายสุดของ Omote-sandō แต่ถ้าเธอเป็นสาวฮิปสเตอร์ กำลังทดลองค้นหาตัวเอง ต้องไปที่ย่านฮาราจูกุ เธอจะพบแฟชั่นแบบโอกูตูร์ผสมผสานกับวินเทจ

ย่านขายของน่ารักๆ ที่อยากแนะนำคือร้าน Ura-Hara ตั้งอยู่ที่ถนนด้านหลัง Omote-sandō เป็นพื้นที่ของร้านขายสินค้าเล็กๆ กระจุกระจิกและร้านขายเสื้อผ้ามือสอง


ลุยช็อปปิ้งเสื้อผ้าและเครื่องประดับที่ร้าน Laforet, ุ6% Doki Doki และร้าน Sou-Sou, ซื้อของที่ระลึกที่ร้าน Tokyo's Tokyo และเสื้อผ้าแฟชั่นที่ตึก RagTag ค่ะ

รูปภาพ:http://40.media.tumblr.com/2be7b3325e3bcbeb18169a6e851fecc2/tumblr_nr4ijjdMs91qfvrzvo1_1280.jpgรูปภาพ:http://turbo.paulstamatiou.com/p/sets/japan-2013/day-1/DSC02327-2000.jpg

9. ชินจูกุ ( Shinjuku )

คิดจะช็อปปิ้งที่ย่าน'ชินจูกุ'ต้องกุมกระเป๋าสตางค์ให้มั่น เพราะทุกอย่างล้วนดึงดูดให้สูญเสียเงินได้ทั้งสิ้น!

วินาทีที่เธอก้าวออกมาจากสถานีรถไฟ เธอจะเจอกับห้างสรรพสินค้าและตึกต่างๆ เสียงจ้อกแจ้กจอแจวุ่นวาย จะทำให้เธอรู้สึกคึกคักเหมือนมาเสี่ยงโชคที่คาสิโนกันเลยืทีเดียว!

แม้จะอยู่ท่ามกลางฝูงชนจนตาลาย แต่ก็ยังมีร้านค้าดีๆ อยู่บ้าง อีกทั้งย่านนี้ยังเหมาะสำหรับสาวๆ ที่ไม่ค่อยมีเวลา เพราะเธอสามารถช็อปปิ้งแบบ one-stop shopping หรือซื้อของทุกอย่างแบบครบวงจร เพราะมีทุกอย่างจริงๆ

เริ่มจากห้าง

'อิเซตัน'

ห้างสรรพสินค้าชื่อดังที่สุดในโตเกียวที่มีสาขาในเมืองไทยแล้ว, ร้านขายของทุกอย่าง ( เรียกว่าครอบจักรวาลก็ว่าได้ ) อย่าง

'ดองกิโฮเต้ Don Quijote'

,

RanKing RanQueen และร้านขายแผ่นเสียงไวนิลและซีดีมือสอง Disk Union

ที่คนรักเสียงเพลงสามารถใช้เวลาอยู่ได้ทั้งวัน เพราะร้านนี้มีถึง 8 ชั้นเลยล่ะ!

ถ้าเธอขี้เกียจไปอากิฮาบาระ ชินจูกุยังเป็นย่านรวมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ชั้นดีอีกด้วย

*เลยสถานีชินจุกุไป 2-3 ป้าย เธอจะเจอย่าน Kōenji ดังนั้นอย่าลืมไปเยี่ยมชมร้านขายเสื้อผ้าแฟชั่นที่ตึก Kita-Kore Building นะคะ ^^

รูปภาพ:http://tokyostory.net/wp-content/uploads/DSCF7858.jpgรูปภาพ:http://www.nippon.com/ja/files/b00504_ph05.jpg

10. อากิฮาบาระ ( Akihabara )

ย่าน 'อากิฮาบาระ' เป็นสถานที่สุดฮิตในโตเกียวที่ขึ้นชื่อในเรื่องอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์

ไปย่านนี้ต้องไม่พลาดแหล่ง Akihabara Electric Town และร้านรวงต่างๆ เช่น  Akihabara Radio Center ( ร้านค้าแผงขนาดเล็กที่ขายชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ ชิปและสายเคเบิล ) เป็นต้น

อีกทั้งย่านนี้ยังเป็นศูนย์รวมของพวก 'เซียน / เทพ' ( geeks ) และคนที่ชืนชอบในอนิเมะ, การ์ตูน ( มังงะ ) และวัฒนธรรม J-pop บางคนอาจถึงขั้นเป็น 'โอตาคุ' กันเลยทีเดียว!

ตึกที่แนะนำคือMandarake Complexและมีพื้นที่วางขายใต้ชั้นรถไฟ ขายงานฝีมือชื่อ2k540 Aki-Oka Artisanและย่านJimbōchōที่มีร้านหนังสือมากกว่า 170 ร้าน แหล่งที่ตั้งก็อยู่ไม่ไกล แค่ไปทางทิศตะวันตกของอากิฮาบาระค่ะ

รูปภาพ:https://images.trvl-media.com/media/content/shared/images/travelguides/destination/179900/Akihabara-Electric-Town-69517.jpgรูปภาพ:http://image.mcha.jp/wp-content/uploads/2015/08/mandarake_outside.jpg

======================

โอย แค่อ่านคำบรรยายในบทความนี้ คนเขียนเองยังรู้สึกถึงการสั่นระรัวของเงินในบัญชี เตรียมจองตั๋วเครื่องบินไปหมดตัวที่แดนอาทิตย์อุทัยแล้วนะเนี่ย *_* เก็บอารมณ์แป๊บ!

แค่ไปโตเกียวเมืองเดียวก็ได้ครบ ทั้งเสื้อผ้า รองเท้า เครื่องประดับ เครื่องสำอาง บางย่านสามารถเลือกซื้อของทุกอย่างได้ในครั้งเดียวด้วยนะ! ถ้าเป็นสายความงามเธอจะพบกับเครื่องสำอางและสกินแคร์สัญชาติญี่ปุ่นมากมายที่ไม่มีในไทย นำเทรนด์กันรัวๆ

แต่ถ้าเธอหลงใหลในสายแฟชั่นมากกว่า เสื้อผ้าหลากหลายสไตล์ทั้งแบบล้ำๆ ไฮแฟชั่น โอกูตูร์ วินเทจหรือจะฉีกแนวไปอินดี้ ฮิปสเตอร์ก็มีให้เลือกสรร หรือหากเธออยากอัพเทรนด์ไอที อากิฮาบาระก็เป็นคำตอบของแหล่งขายของอิเล็กทรอนิกส์ทั้งคอมพิวเตอร์ กล้อง โทรศัพท์มือถือและแกดเจ็ตมากมายค่ะ

รู้อย่างนี้แล้ว จะไปญี่ปุ่นเมื่อไหร่ สาวขาช็อปอย่าลืมทำ Checklist สิ่งที่อยากได้ตามย่านต่างๆ ด้วยนะคะ จะได้ไม่พลาด ถ้าจะให้ดี ใช้บทความของ sistacafe ประกอบการพิจารณาด้วยก็ยิ่งแจ่ม อิ๊อิ๊ ^^ แล้วพบกันใหม่ค่า

======================


บทความที่เกี่ยวข้อง