ช่วงนี้หลายคนอาจจะเหงา ๆ นิดนึง เพราะไม่ค่อยได้ออกไปไหน แต่อยากบอกว่าทนกันอีกหน่อยนะ เพราะถ้า
สถานการณ์กลับคืนสู่สภาวะปกติเมื่อไรแล้ว มีสถานที่ท่องเที่ยวให้ชาร์จพลังดี ๆ เพียบเล้ย!
ซึ่งแหล่งชาร์จพลังที่ว่านั้น หลายคนอาจจะมีในใจอยู่แล้ว แต่ไม่ว่ายังไง เราอยากให้เก็บ
หมู่บ้านอันบันเดกิ ที่คังนึง
เอาไว้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นักเดินทางสายธรรมชาติ สายชมวิวชิลลมต้องไปให้ได้สักครั้งในชีวิต เพราะที่นี่ไม่ได้มีแค่อากาศดี แต่คุณจะ
ได้ไปเที่ยวสองที่ ภายในที่เดียว
เอ๊ะ? ฟังแล้วงง ๆ ล่ะซี่ เอาเป็นว่าไปดูกันเลยดีกว่าจ้า
หมู่บ้านอันบันเดกิ

ที่หมู่บ้านอันบันเดกินี้ เป็นหมู่บ้านที่เงียบสงบในคังนึง ซึ่งแม้แต่ชาวเกาหลีเองก็ยังอยากไปเที่ยวสักครั้ง ที่หมู่บ้านแห่งนี้อบอวลไปด้วยบรรยากาศแห่งความเป็นธรรมชาติ เพราะเป็น
ไร่กะหล่ำบนแนวเขาซึ่งตั้งอยู่เหนือน้ำทะเลประมาณ 1,100 เมตร
เมื่อคุณมาถึงที่แห่งนี้ คุณจะต้องตกตะลึงกับวิวทิวทัศน์ที่กว้างขวางและทอดยาว ซึ่งเป็นวิวที่เกิดขึ้นจากผลงานของคนในหมู่บ้าน จึงทำให้พิเศษกว่าการเกิดขึ้นตามธรรมชาติ
ไร่กะหล่ำทีทอดยาวบนแนวเขาแห่งนี้ เกิดเป็นวิวที่สุดแสนสวยงาม และนี่แหละคือ อันบันเดกิ

โดยตามจริงแล้ว ชื่อตามเขตการปกครองของที่นี่คือ
Daegi-ri
แต่ชาวเกาหลีมักจะเรียกที่นี่กันว่า
อันบันเดกิ
"อันบัน"
นั้นเป็นชื่อของกระดานไม้ที่มีรอยบุ๋มตรงกลาง ซึ่งเอาไว้ใช้สำหรับการนวดเค้กข้าว ส่วน
"แดกิ"
นั้น คือภาษาท้องถิ่นที่หมายถึงแหล่งที่ราบ ดังนั้นเมื่อนำมารวมกันก็จะหมายถึง
สถานที่ราบสุดกว้างขวาง
ตามชื่อเล้ย

หลังจากสงครามเกาหลี ผู้คนต่างพากันมาสู่แนวหุบเขาลึก ทำไร่ ปลูกผัก และก่อสร้างแหล่งที่อยู่อาศัยเพื่อเอาชีวิตรอด
สำหรับไร่กะหล่ำปลีคุณภาพสูงบนแนวเขาแห่งนี้ ถูกปลุกขึ้นบนพื้นที่กว้างกว่า 2 ล้าน ตร.ม.
ซึ่งนับว่าเป็นจำนวนมากเกือบครึ่งหนึ่งของไร่กะหล่ำปลีบนแนวเขาในประเทศเกาหลีเลยก็ว่าได้
เส้นทาง และไร่สวนบนแนวเขาแห่งนี้ มีรูปร่างที่ดูเหมือนกับใยแมงมุม สร้างความแปลกตา และน่าตื่นใจให้กับไร่แห่งนี้

เมื่อคุณมาถึงไร่แห่งนี้ คุณสามารถเดินขึ้นเขาไปยังหอสังเกตุการณ์ที่สร้างขึ้นจากหินเพื่อชมวิวสวย ๆ พร้อมท้องฟ้าสุดกระจ่างใสได้อย่างชัดเจน

วิวทิวทัศน์ของที่นี่อาจจะแตกต่างไปตามฤดูกาล
ถ้ามาช่วงที่กะหล่ำเต็มไร่ คุณก็จะได้เห็นทุ่งกว้างเขียวขจีตามแนวเขา แต่หากมาหลังฤดูกาล ก็จะได้เห็นแนวเขาสีน้ำตาล
ซึ่งเป็นวิวที่ให้ความชิลไปอีกแบบ
แต่ไม่ว่าคุณจะมาฤดูไหนก็บอกได้เลยว่า จะได้พบกับท้องฟ้าสีฟ้าคราม และอากาศที่แสนจะปลอดโปร่งเห็นแล้วสบายตา สบายใจ
อย่างแน่นอน



และนอกจากนักท่องเที่ยวที่ต้องการมาพักผ่อนหย่อนใจแล้วที่อันบันเดกิแห่งนี้ ก็ถือเป็นสถานที่ยอดนิยมของเหล่าช่างภาพทั่วโลกด้วยเช่นกัน เพราะนอกจากวิวไร่กะหล่ำในยามกลางวันแล้ว คุณจะได้เห็นมุมสวย ๆ ของพระอาทิตย์ขึ้น / พระอาทิตย์ตก ทับซ้อนกับไร่กะหล่ำตามแนวเขา รวมถึงคุณจะได้เห็นดวงดาว และกาแล็กซี่ที่ส่องเป็นประกายภายใต้ท้องฟ้ายามค่ำคืน ที่หมู่บ้านอันบันเดกิแห่งนี้ด้วย


บรรยากาศที่แสนน่าตื่นตาตื่นใจของไร่แห่งนี้ มีมากมายหลายรูปแบบที่รอให้คุณมาสัมผัส ไม่ว่าจะเป็นวิว
กังหันลมท่ามกลางหิมะ หรือบรรยากาศอันเย็น และสงบในฤดูร้อน
ซึ่งถึงแม้จะเป็นฤดูร้อน ก็ยังมีอุณหภูมิอยู่ที่ 10 องศา ในยามเช้า
ดังนั้นหากใครต้องการมาดูเช้า ๆ หรือข้ามคืน อย่าลืมนำเสื้อที่สามารถใส่เพิ่มความอบอุ่นกันมาด้วยน้า
ข้อมูล : gangneungtours
https://www.gangneungtours.com/anbandegi.html?fbclid=IwAR21u6nWoxSzyO5ZKVWUkdsq4LMkogQpaMqQZ6Tt7tfcJVedqY-cwBg5ueQ
ข้อมูล : Gangneung Autumn Trip
https://m.blog.naver.com/bling0430/221686124754?fbclid=IwAR346f9WnXCq-8_p39VjuhC-t85FZiYLCfB6v9BlG_nfwKhzsRKVz5U3RU0
ข้อมูล : Visit Korea
https://www.kto.or.th/