ฉีกการเที่ยวแบบเดิม! ต้องมาเจิม "หมู่บ้านมาบิจอง" ลองใช้ชีวิตแบบในซีรีส์ 😍

โอ้!! อากาศมันร้อนอะไรขนาดนี้เนี่ยเนอะ อากาศแบบนี้เราควรจะไปเดินตากแอร์อยู่ที่ไหนซักแห่ง

หรือจัดทริปรีแลกซ์ซักทริปเอาให้ลืมร้อน

กันไปแล้วไม่ใช่เหรอเนี่ย แต่ในสถานการณ์แบบนี้ก็ทำได้แค่นั่งมโนไว้ก่อน ไว้ได้โอกาสเมื่อไหร่ จะเที่ยวรัว ๆ เลยคอยดู๊!

พอคิดแบบนี้ก็เริ่มจะนึกถึงการเดินเล่นชิลล์ ๆ ในเกาหลีอีกแล้วสิเนี่ย (´ε｀*)

รู้นะว่าที่คิดแบบนี้ไม่ได้แค่เราหรอก ผู้อ่านก็คิดเหมือนกันใช่มั้ยล่าาาา (เปิดมาอ่านขนาดนี้แล้ว กล้าถามเนาะ!) เอาล่ะ.. ในเมื่อใจตรงกันขนาดนี้ ในบทความนี้เราจะพาทุก ๆ คนไปเที่ยวกันในแบบที่ฉีกออกไป เพราะจะไม่ได้ไปเที่ยวคาเฟ่ เที่ยวในแหล่งที่เคยได้ยินกันมาหลายครั้งแล้ว

แต่เราจะพาไปสัมผัสกับบรรยกาศแบบเกาหลี๊....เกาหลีในแบบโบราณ

ที่ได้ชื่อว่าเป็น

Hidden Gem of Korea

และที่นี่ก็คือ...

หมู่บ้านมาบิจอง (마비정 벽화마을)

หมู่บ้านมาบิจองนี้

เดิมทีเป็นหมู่บ้านทำฟาร์มเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยคุณค่าทางประวัติศาสตร์และศิลปะ

ซึ่งแต่ก่อนก็เป็นเพียงหมู่บ้านธรรมดา แต่หลังจากมีการรีโนเวทใหม่ ก็กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวอันเลื่องชื่อ

ที่แม้แต่คนเกาหลีก็ยังพากันมาเที่ยว

จนกลายเป็นหมู่บ้านอันโด่งดังในแดกูไปเลย

ซึ่งในสัปดาห์หนึ่ง ๆ นั้น ก็จะมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวไม่ต่ำกว่า 2,000 คน เลยทีเดียว

โดยชื่อหมู่บ้านหากแปลตรงตัวคร่าว ๆ แล้ว อาจจะแปลได้ว่า"ศาลาม้าบิน"ซึ่งเป็นเหมือนสถานที่ย้ำเตือนความทรงจำเรื่องราวอันเก่าแก่ในอดีตที่ข้องเกี่ยวกับม้า โดยมีการกล่าวว่า ในสมัยก่อนนั้นจะมีการนำม้ามาวิ่งแข่งกับลูกธนู เพื่อทดสอบสมรรถนะการวิ่งของม้าหากม้าตัวไหนวิ่งแข่งกับลูกธนูได้ก็จะรอด แต่ถ้าหากตัวไหนวิ่งแพ้ลูกธนู ก็จะถูกฆ่า เพราะฉะนั้น จึงมีการทำรูปปั้นม้าเพื่อย้ำเตือนความทรงจำไว้ ถ้าใครมาที่นี่ก็จะเห็นรูปปั้น หรือของตกแต่งเป็นรูปม้าเต็มไปหมดเลยค่ะ