รูปภาพ:http://i-exc.ccm2.net/iex/1280/1035032101/823362.jpg

อาการท้องอืดจุกเสียดแน่นท้อง หลายๆคนต้องเคยเป็นอย่างแน่นอน นานๆเป็นทีไม่เท่าไหร่ แต่ถ้าเกิดขึ้นบ่อยคงต้องกุมขมับเป็นแน่ อาการท้องอืดเหล่านี้เกิดจากการกินอาหารเข้าไปแล้วกระเพาะไม่ย่อย ทำให้เกิดอาการท้องแน่นจุกเสียด และเกิดลมในกระเพราะอาหาร ถ้าปล่อยทิ้งไว้นานๆหรือเกิดขึ้นบ่อยๆนั้นคงไม่ดีต่อสุขภาพและอาจกลายเป็นโรคร้ายแรงตามมาก็เป็นได้ค่ะ คนที่มีอาการแบบนี้อยู่ควรรีบรักษาดีกว่าปล่อยไว้นานจะรักษายากขึ้น ง่ายๆเลยลองมองผักหรือส่วนประกอบในอาหารที่เราทานในชีวิตประจำวันสิค่ะ หลายอย่างเป็นสมุนไพรที่สามารถบรรเทาอาการท้องอืดท้องเฟ้อนี้แถมยังให้ประโยชน์ต่อสุขภาพมากกว่าทานยาปฏิชีวนะด้วยนะ ไปดูกันเลยว่ามีอะไรบ้าง

รูปภาพ:http://www.myreadyweb.com/storage_cache/images/18/89112/cache/image/8a1/8a166cb7d8f8f133baab4661f1514d95/66a8f3b180b7fa5841ac4e8de5277a7f.jpg

1. กะเพรา

กระเพรานอกจากจะนำมาทำอาหารได้อร่อยแล้วยังมีสรรพคุณมากมาย ทั้งช่วยขับลมแก้พิษตานซาง แก้ท้องขึ้น จุกเสียดแน่นท้อง ปวดท้อง ช่วยในการย่อยอาหาร และช่วยบำรุงธาตุในร่างกาย ในอินเดียถือว่ากะเพราเป็นราชินีแห่งสมุนไพรเลยก็ว่าได้

วิธีการรักษา

- ใบและยอด 1 ก ามือ ต้มกับน้ำสะอาด ใช้ดื่มครั้งละ 1/2-1 แก้ว 3 เวลาหลังอาหาร หรือเมื่อมีอาการ (ใช้ได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่)

- ใช้ใบสด 3-4 ใบ ใส่เกลือเล็กน้อย บดให้ละเอียดผสมกับน้ำผึ้ง หยอดให้เด็กอ่อนที่เพิ่งคลอด 2-3 หยด เป็นเวลา 2-3 วัน เพื่อให้เด็กถ่ายและขับลมออกมา

- ใช้ใบกะเพราแห้งบดให้ละเอียด ประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ ละลายกับน้ำต้มสุก ดื่มหลังอาหาร หรือเมื่อมีอาการ

รูปภาพ:http://www.acupofherb.com/images/about-herbs/Yellow-ginger.jpg

2. กระชาย

ในวงการสมุนไพรไทยนั้นกระชายจัดเป็น “โสมไทย” เลยก็ว่าได้ เพราะมีสรรพคุณคล้ายโสม กระชายนั้นสามารถช่วยแก้อาการวิงเวียน แน่นหน้าอก แก้โรคหัวใจ บำรุงสมอง ส่วนที่เป็นเหง้าที่อยู่ใต้ดินนั้นจะมีรสเผ็ดร้อนและขม มีสรรพคุณช่วยแก้อาการปวดท้อง มวนในท้อง อาการท้องอืด ท้องเฟ้อได้

วิธีการรักษา

- ใช้เหง้าและรากประมาณครึ่งกำมือ (สด 5-10 กรัม, แห้ง 3-5 กรัม) ต้มนำมาดื่ม

รูปภาพ:http://tamilsnow.com/wp-content/uploads/2014/07/fat_food_006.jpg

3. กระเทียม

กระเทียมนั้นเป็นเครื่องปรุงอาหารหลักของอาหารไทยที่มีสรรพคุณมากมาย กินกับข้าวขาหมูเพื่อดับความเลี่ยนของไขมัน ทั้งยังช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล และน้ำตาลในเลือด นอกจากนั้นแล้วกระเทียมยังมีสรรพคุณช่วยในการขับลม ช่วยรักษาอาการจุกเสียดแน่นท้อง ท้องอืด ท้องเฟ้อ และช่วยป้องกันโรคท้องผูกด้วย

วิธีการรักษา

- ใช้หัวกระเทียมแห้ง 5-7กลีบ ปอกเปลือกให้เรียบร้อย แล้วตำให้ละเอียด เติมน้ำส้มสายชูลงไป 30ซีซี หรือ 2ช้อนโต๊ะ เติมน้ำตาลและเกลือเล็กน้อย กินหลังอาหาร 3 มื้อ หรือเมื่อมีอาการ

- ใช้กระเทียม 5-7 กลีบ ปอกเปลือกแล้วหั่นเป็นแว่นบางๆ กินหลังอาหารทุกมื้อ

รูปภาพ:http://media-cache-ec0.pinimg.com/736x/91/3f/17/913f1760ced1e7ca5c06ac1c774542c5.jpg

4. ชะพลู

ใบชะพลูนั้นมีวิตามินเอ ธาตุแคลเซียม และธาตุเหล็กต่างๆในปริมาณสูงซึ่งเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย สรรพคุณของชะพลูคือช่วยบำรุงธาตุ ขับลม แก้อาการท้องอืดท้องเฟ้อ และช่วยในการขับเสมหะได้ แต่การกินใบชะพลูควรกินในปริมาณที่เหมาะสมและไม่ควรทานติดต่อกันเป็นเวลานาน เพราะมีสารแคลเซียมออกซาเลตซึ่งอาจทำให้เกิดโรคนิ่วในไตได้

วิธีการรักษา

- ใช้รากสดหรือแห้งก็ได้ 1 กำมือ ล้างให้สะอาด ต้มกับน้ำ ดื่มวันละ 3-4 ครั้ง ครั้งละ 1 แก้ว หลังอาหาร

รูปภาพ:http://image.ohozaa.com/i/578/7859ny.jpg

5. ขิง ข่า และขมิ้นชัน

ขิงข่าและขมิ้นชันนั้นจัดเป็นพืชตระกูลเดียวกัน สมุนไพรทั้ง 3ชนิดสามารถช่วยบำรุงร่างกาย และรักษาโรคต่างๆมากมายรวมทั้งช่วยป้องกันการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร ช่วยในเรื่องการขับถ่าย และการทำงานของลำไส้

วิธีการรักษา (ขิง)

- ใช้เหง้าสดล้างให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นต้มกับน้ำ ใช้ดื่มวันละ 3-4 ครั้ง หลังอาหาร หรือเมื่อมีอาการ

- ใช้เหง้าสดล้างให้สะอาด ตากแดดให้แห้ง แล้วนำมาบดเป็นผง ใช้ชงกับน้ำต้มสุกเวลาดื่มจะเติมน้ำตาลลงไปก็ได้ค่ะ เพื่อให้ดื่มได้ง่ายขึ้น

วิธีการรักษา (ข่า)

- ใช้เหง้าแก่สด ยาว 1-2 นิ้ว ล้างน้ำให้สะอาด ตำให้ละเอียด เติมน้ำปูนใสลงไป 1แก้ว ใช้ช้อนคนให้เข้ากันดี กรองเอาน้ำดื่ม โดยดื่มครั้งละ 1แก้ว หลังอาหาร 3 มื้อ

- ใช้เหง้าแก่สด ล้างน้ำให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นต้มกับน้ำดื่มหรือจะใส่น้ำตาลลงไปด้วยก็ได้ เพื่อให้กินง่ายขึ้น โดยดื่มครั้งละ 1 แก้ว หลังอาหาร 3 มื้อ หรือเมื่อมีอาการ

วิธีการรักษา (ขมิ้นชัน)

- ใช้เหง้าสดล้างน้ำให้สะอาด ขูดเอาเปลือกออก หั่นเป็นแว่นบางๆ ประมาณ 200 กรัม แล้วนำไปตากแดดจนแห้ง จากนั้นมาบดให้ละเอียด ผสมน้ำผึ้งลงไปแล้วคนให้เข้ากัน ปั้นเป็นลูกกลอน กินวันละ 3-4 ครั้ง หลังอาหาร มื้อละ 2-3 เม็ด

รูปภาพ:http://1.bp.blogspot.com/-HxxZoEcgYKo/UvJhTuC6LPI/AAAAAAAAFUE/sxQr6QzxyR8/s1600/Lemongrass-1.jpg

6. ตะไคร้

ตะไคร้เป็นสมุนไพรที่รักษาโรคได้มากมาย ทั้งยังบำรุงร่างกายให้แข็งแรง ช่วยรักษาอาการท้องอืดท้องเฟ้อ และบรรเทาอาการปวดท้องได้ และช่วยรักษาโรคนิ่วได้ด้วย

วิธีการรักษา

- ใช้ลำต้นแก่สุดๆ ทุบพอแหลก ประมาณ 1 กำมือ (ราว 40-60 กรัม) เอามาต้มทำเป็นน้ำดื่ม หรือ ประกอบเป็นอาหารกิน

เป็นยังไงบ้างคะ สรรพคุณของสมุนไพรไทยมหัศจรรย์มากเลยใช่มั้ย แถมยังหาซื้อไม่ยากอีกด้วย นอกจากสมุนไพรจะเป็นตัวช่วยแก้ท้องอืดท้องเฟ้อได้แล้ว ยังมีสรรพคุณมากมายที่จะบำรุงร่างกายเราอีกด้วยค่ะ ที่สำคัญเราควรหันมาใส่ใจสุขภาพกินอาหารให้เป็นเวลา รู้จักเลือกอาหารที่เป็นประโยชน์และออกกำลังกายสม่ำเสมอด้วยนะคะ เจอกันใหม่ครั้งหน้าค่ะ