เซย์ไฮ สาวSistaCafeคนสวยที่น่าเลิฟทุกคน จุ๊บๆ ♡\( ̄▽ ̄)/♡เราเชื่อว่าผู้หญิงอย่างเรา หากยังอยู่ในช่วงวัยรุ่นหรือผ่านมาแล้ว ต้องเคยเจอเหตุการณ์ ' อกหัก ' สักครั้งในชีวิต!ไม่ใช่ทุกคนจะโชคดีเจอเจ้าชายที่ครองคู่กันไปตลอดกาลเหมือนในเทพนิยาย กับบางคนเรารักไปแล้วทั้งใจ เสนอตัวช่วยเหลือ ทุ่มเททุกอย่างให้แต่สุดท้ายกลับบอกว่าเป็นแค่เพื่อนกัน หรือสลัดมือเราทิ้งไปคบคนอื่นหน้าตาเฉย ต้องกลับมาร้องไห้คนเดียว รู้สึกว่ารักคนอื่นเนี่ยมันเหนื่อยจัง ชีวิตเราจะไม่เจอรักดีๆ บ้างเลยหรือยังไงนะ T^T

บางทีอาจจะถึงเวลาแล้วที่สาวๆ ควรเริ่มให้ความรักจาก ' ตัวเอง ' ก่อน! เพราะความรักตัวเองเป็นรักที่ทรงพลังและมั่นคงที่สุด ไม่ต้องกลัวความไม่แน่นอนจากผู้อื่น เรารักตัวเองได้เต็มที่โดยไม่มีวันถูกทรยศ ทำให้เรารู้สึกเติมเต็ม มั่นใจในการใช้ชีวิตมากขึ้นในบทความนี้เราจึงมาบอกต่อ' 7 วิธี มอบรักแท้ให้ตัวเอง สร้างความสุขให้ตัวเองได้ โดยไม่จำเป็นต้องมีแฟน 'จะต้องปรับความคิด ปรับ mindset อะไรยังไงบ้าง ไปอ่านกันได้เลยค่ะ ♡(。- ω -)

1. ใช้ชีวิตอยู่กับ 'วันนี้' มีความสุขกับปัจจุบันเท่านั้น!

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/6b53130b22b0ccf8de092dff3190c5e5.jpg

หนึ่งในสาเหตุที่สาวๆ มักผิดหวังหรือเสียใจกับความรัก นั่นเพราะเธอใช้ชีวิตอยู่กับ' อดีต 'หรือ' อนาคต 'มากเกินไปโดยไม่คิดถึงปัจจุบัน ช่วงเวลาที่จบไปแล้วกับช่วงเวลาที่ยังมาไม่ถึง ล้วนเป็นสิ่งที่ไม่นอน คาดเดาไม่ได้

หากเธอไปตั้งความคาดหวังกับสิ่งเหล่านั้น ก็รังแต่จะทำให้ตัวเองรู้สึกแย่ซะเปล่าๆ ( หรือที่เรียกว่า

' ไม่มูฟออน '

นั่นล่ะค่ะ )

จงพึงระลึกไว้เสมอว่า ' ปัจจุบัน ' เท่านั้นที่จะทำให้เธอมีความสุข เพราะเรายังมีชีวิต ยังหายใจอยู่ในช่วงเวลานี้ อยากจะแก้ไขหรือวางแผนอะไรก็ทำได้แค่ในปัจจุบันเท่านั้น ทำวันนี้ให้ดีที่สุด

อย่ามัวแต่จมปลักกับอดีตหรือกลัวอนาคต ไม่อย่างนั้นเธอก็จะยังย่ำอยู่ที่เดิม ยิ่งถ้าทำปัจจุบันให้ดี ภาพฝันในอนาคตที่วาดไว้ก็จะเข้าใกล้ความเป็นจริงมากขึ้นด้วยนะ (≧◡≦) ♡

2. ขอบคุณ 'ตัวเอง' ในทุกๆ วันที่ยังมีชีวิตอยู่

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/ea1643403e101e68ec7db0d6ce5a2901.jpg

สาวๆ หลายคนที่ผ่านมรสุมในชีวิตมามากมาย พอมีแฟนก็เจอ toxic relationship เบาหน่อยก็พูดจาดูถูกเหยียดหยาม หนักเข้าก็ทำร้ายร่างกาย ทนไม่ไหวอยากบอกเลิกก็ถูกขู่ฆ่า ตามมาเอาชีวิต ต้องหนีหัวซุกหัวซุน

บางคนกลายเป็นโรคซึมเศร้า มีปัญหาทางจิตใจ อยากฆ่าตัวตายเพราะทุกข์เหลือเกิน ทั้งที่สาเหตุก็แค่จากการมอบความรักให้ผิดคนแท้ๆ!

แผลในใจกว่าจะหาย อาจต้องใช้เวลานานหลายเดือนหรือหลายปี แต่เวลาจะช่วยเยียวยาให้ทุกอย่างดีขึ้น จงขอบคุณตัวเองมากๆ ที่ยังมีชีวิตอยู่ เพราะหากเรายังไม่ตาย ก็ยังเปลี่ยนแปลงแก้ไขสิ่งต่างๆ ได้

อะไรที่เคยทำผิดพลาดไปก็แค่ยอมรับ แก้ไขเท่าที่ทำได้แล้วก้าวต่อไป ยังมีเพื่อนๆ และครอบครัวคอยซัพพอร์ตเธออยู่เสมออยู่แล้ว เข้มแข็งไว้นะคะ

3. ยอมรับความจริงว่า 'เราควบคุมทุกอย่างในโลกนี้ไม่ได้'

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/84d4389fdcbb358572e1333bf131a889.jpg

สาวๆ ที่เป็น Perfectionist มากมายที่ตั้งใจ คาดหวังกับความรักไว้สูง อยากให้แฟนเป็นแบบนั้นแบบนี้ ต้องแต่งงาน มีลูกตามไทม์ไลน์ที่วางไว้ เมื่อชีวิตไม่เป็นไปตามที่ฝัน เช่น เลิกกับแฟนหรือแฟนเสียชีวิต ก็เหมือนโลกทั้งใบลงมาถล่มตรงหน้า

ทำอะไรต่อไม่ถูก ได้แต่จมอยู่ในความเสียใจ โทษตัวเองซ้ำๆ ซากๆ จนไม่กล้ารักใครใหม่แม้แต่ตัวเอง แล้วแบบนี้เมื่อไหร่จะมีความสุขล่ะคะซิส (╥_╥)

ใครที่กำลังเจอปัญหานี้อยู่ เราอยากบอกเธอว่า เธอไม่ได้ทำผิดอะไรเลย ทุกอย่างมันเป็นไปตามครรลองของมัน เราไปบังคับหัวใจคนอื่น ทางเลือกของคนอื่นไม่ได้ เหมือนที่เรากำหนดสภาพดินฟ้าอากาศไม่ได้นั่นแหละ


แต่เราเชื่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วย่อมดีเสมอ แค่เราต้องรู้จักรับมือกับมัน หาด้านดีที่เกิดขึ้นแล้วใช้ชีวิตต่อไป แล้วทุกอย่างจะเข้ารูปเข้ารอยของมันเอง ไม่แน่ว่ามองย้อนกลับมา เธออาจจะรู้สึกว่าดีแล้วที่เลิกรากับคนแบบนี้ก็ได้!

4. เช็ค 'สภาพจิตใจตัวเอง' ในทุกเช้า หากรู้สึกแย่ ต้องรีบเยียวยาทันที

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/c1d526de734d96636b491d02089c80e4.jpg

คนส่วนใหญ่โดยเฉพาะชาวเอเชีย มักให้ความสำคัญกับตัวเลข หรืออะไรเป็นรูปธรรมที่วัดค่าได้ ทำงานหนักจนกดดัน บีบคั้นทุกทาง แต่ลืมที่จะนึกถึงสภาพจิตใจว่ายังมีความสุขอยู่หรือเปล่า จึงไม่แปลกที่คนแถบนี้จะมีปัญหาทางจิตกันเยอะ


แม้ยุคนี้จะเปิดใจว่าการไปหานักจิตวิทยาหรือจิตแพทย์เป็นเรื่องปกติแล้วก็ตาม แต่ยังมีอีกหลายคนกลัวถูกมองว่า ' บ้า ' และใช้ชีวิตพังๆ นั้นต่อไปจนร่างกายรับต่อไปไม่ไหว หากไม่ล้มป่วยก็อาจคิดสั้น หรือก่อเหตุทำร้าย-ฆ่าคนอื่นได้เลย ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ากังวลมากๆ ค่ะ

ลองเริ่มจากก้าวแรกด้วยการ ' เช็คสภาพจิตใจตัวเอง ' สมมุติว่าตัวเองเป็นหมอ นั่งเงียบๆ หน้ากระจกในห้องนอน แล้วถามตัวเองว่า ' เธอรู้สึกไม่ดีหรือเปล่า ยังโอเคอยู่ไหม ' แล้วฟังเสียงหัวใจแบบไม่หลอกตัวเอง ถ้ารู้ว่าตัวเองเริ่มดิ่งแล้วต้องรีบหาหนทางแก้ไข


จะไปหาหมอจริงๆ ปรึกษาเพื่อนหรือไปคลายเครียดก็ได้ แต่อย่าซุกปัญหาไว้ใต้พรม รังแต่จะทำให้ทุกอย่างแย่ลง แคร์ตัวเองบ้าง เชื่อเรานะคะ

5. เผชิญหน้ากับ 'ความคิดด้านลบ' ของตัวเองให้ได้

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/6c83fc6924dea4e9e34b63f492fb0ae7.jpg

เป็นมนุษย์ธรรมดา ย่อมต้องมีทั้งความคิดด้านบวกและด้านลบเป็นปกติ ไม่ใช่นางฟ้านางสวรรค์ที่จะโลกสวย อยู่ในทุ่งดอกไม้ตลอดเวลาเสียหน่อย เราควบคุมความคิดทุกอย่างไม่ได้ก็จริง แต่เราเลือกที่จะไม่พูดทุกอย่างที่คิดได้นะ!

หากเกิดเหตุการณ์ใดๆ ขึ้น ให้ฉุกคิดเสมอว่า ' มันจริงรึเปล่า ', ' พูดไปแล้วจะช่วยอะไรได้ไหม ', ' คนฟังจะรู้สึกยังไง ' ไม่ใช่แค่คุมคำพูดไว้ใช้กับคนอื่นนะ แต่ควบคุมความคิดที่เธอมีต่อตัวเองด้วยเช่นกัน!

บางครั้งคนที่ทำร้ายจิตใจเรามากสุด ก็คือตัวเราเองนี่ล่ะค่ะ โทษตัวเอง ด่าตัวเองในเรื่องต่างๆ ทำให้สภาพจิตใจหม่นหมอง กลายเป็นคนคิดลบไปโดยไม่รู้ตัว นานเข้าเธอก็จะคิดว่าการพูดจาแย่ๆ เป็นเรื่องปกติ และเอาไปพูดกับคนอื่นด้วย

ดังนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหานี้ ต้องสกัดตั้งแต่ในหัวตัวเองเลย เมื่อเราปล่อยพื้นที่ให้อารมณ์ทางบวก ทัศนคติลบก็จะค่อยๆ หายไป เราจะคิดบวกและรักตัวเองมากขึ้นค่ะ

6. รักทุกสิ่งในร่างกายของตัวเอง แม้ว่าหุ่นของเธอจะ 'ไม่เพอร์เฟกต์'

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/b2b95af0f4363154208afaa82352f050.jpg

เราเชื่อว่าสาวๆ มากมายที่อยากมีหุ่นสวย ผอมเพรียวเหมือนนางแบบ ดารา ไอดอลที่ใฝ่ฝัน แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะได้รูปร่างนั้นมาครอบครอง ด้วยสาเหตุทางพันธุกรรม ยิ่งถ้าใครรูปร่างต่างจากมาตรฐานมากๆ โดนตำหนิ โดนล้อเลียน ก็จะกลายเป็นปมด้อย เกลียดรูปร่างของตัวเองซะงั้น

ทั้งที่เธอเองก็เป็นคนธรรมดา ไม่จำเป็นต้องหุ่นดี ผอมสูง หน้าอกโตเพื่อเอาใจคนอื่นหรือสังคมซะหน่อย เธอก็เป็นคนสวยในแบบของตัวเองได้เหมือนกัน

พระเจ้าปั้นแต่งรูปร่างนี้ให้เธอ ให้เธอได้ใช้ชีวิตในโลกใบนี้ หากยังมีอวัยวะครบ 32 ก็ถือว่าเธอโชคดีมากๆ แล้ว ไม่จำเป็นต้องลดน้ำหนักเอาเป็นเอาตาย เสพติดศัลยกรรม ทำเท่าไหร่ก็ไม่พอ พยายามเป็นคนสวยในบรรทัดฐานสังคมปลอมๆ สุดท้ายก็รู้สึกกลวงโบ๋ ว่างเปล่า เพราะเป็นได้แค่เงาของคนอื่นเท่านั้น

จงรักและมีความสุขกับรูปร่างของตัวเอง เพราะนี่คือตัวตนของเธอ และไม่มีใครจะมาแทนที่ได้ค่ะ

7. เคลียร์ กำจัด เก็บกวาด 'คน Toxic' ทั้งในชีวิตจริงและโลกโซเชียล

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/faf785969b9fd1083cfe2a5140d4f923.jpg

เคยได้ยินไหมคะว่า ถ้าเราอยู่ในสภาพสังคมแบบไหน เราก็จะค่อยๆ กลืนเข้าไปเป็นพวกเดียวกับเขาในที่สุด ดังนั้นหากอยากมีสภาพจิตใจที่ดี ก็ควรจัดสภาพแวดล้อม จัดประเภทคนรอบข้างของตัวเองอย่างจริงจัง


หากในวงสังคมมีคนที่ความคิดเป็นพิษ toxic ชอบดูถูก หาเรื่องคนอื่น หรือทัศนคติในการใช้ชีวิตไม่ตรงกัน ก็ได้เวลาปัดกวาดทิ้งทั้งในชีวิตจริงและโซเชียลมีเดีย เหมือนจัดบ้านหรือจัดโต๊ะทำงานใหม่นั่นแหละ!

หาเวลาว่างสักวันเคลียร์ friend list ในเฟซบุ๊กหรือไอจี เลื่อนดูว่าใครที่เราอ่านโพสต์ อ่านสเตตัสแล้วรู้สึกหดหู่ เศร้า หรือขัดใจกับทัศนคติของเขา แล้วจัดการตามสะดวก

ถ้ายังต้องติดต่อกันอยู่ก็อันฟอล ถ้าไม่ต้องเจอกันแล้วก็อันเฟรนด์หรือบล็อก ผู้สร้างแอปเขาก็ทำปุ่มไว้เพื่อการนี้นั่นแหละค่ะ! ในชีวิตจริงก็เช่นกัน

ถ้าใครที่เราอยู่ด้วยแล้วมีแต่พลังลบ ไม่สบายใจ เราก็ค่อยๆ เฟดตัวออกมา รักษาสภาพจิตใจตัวเองไว้ก่อน เก็บไว้แต่เพื่อนดีๆ ที่พึ่งพากันได้ในยามยาก พอโตขึ้นถึงจุดนึง เธอจะรู้ว่าเพื่อนน้อยแต่มีคุณภาพ ดีกว่าเพื่อนเต็มไปหมดแต่ไม่มีใครรักเราจริงสักคนค่ะ

---------------------------------

ความรักก็เหมือนดาบสองคม มีทั้งด้านสวยงามที่ใครๆ ต่างก็ถวิลหา และด้านของความเจ็บปวดเหมือนถูกเข็มนับล้านทิ่มแทง เมื่อเราไม่ได้รักนั้นจากคนที่ต้องการ หากเธอเลือกเส้นทางผิด ไล่ตามแต่คนที่ไม่เห็นคุณค่าของเธอ ในชีวิตนี้เธออาจไม่มีวันรู้ว่า' ความสุขที่แท้จริง 'เป็นอย่างไรเราไม่อยากให้เธอต้องอยู่กับความเศร้าจากสิ่งที่ไม่แน่นอน เช่นความรู้สึกของคนอื่น จึงเขียนบทความนี้เพื่อบอกทุกคนว่า ไม่ว่าใครจะไม่รักหรือไม่เห็นเธออยู่ในสายตา แต่เธอจะยังมีคนในกระจกคอยกอด คอยเตือนสติเธออยู่เสมอความสุขอยู่ข้างหน้าเธอเสมอ แค่ยื่นออกไปไขว่คว้ามัน เมื่อรักตัวเองเป็นแล้ว สุดท้ายรักดีๆ จะเข้ามาในวันเวลาที่เหมาะสมเอง เราเชื่ออย่างนั้นค่ะ  (*˘︶˘*).。.:*♡