รูปภาพ:https://i.pinimg.com/originals/f0/d1/05/f0d10559bd3abd750d5d17414189963f.jpg

Hi Sis! เปิดสตอรี่ใหม่อีกแล้วจ้า สำหรับหมวดนี้ เราจะมาแชร์เรื่องราวทั้งหมดในชีวิต ที่ดิฉันประสบพบเจอมา ต้องบอกก่อนว่า สตอรี่#เขาว่ากันว่าทั้งหมด มาจากความคิดเห็นและประสบการณ์ส่วนตัวซึ่งอาจจะตรงหรือไม่ตรงกับเพื่อนๆ ก็ได้ ในวันนี้เรามากันในหัวข้อสุดฮิตในหมู่เด็กมัธยมเชื่อว่าต้องมีความคิดนี้แว็บเข้ามาในหัวเพื่อนๆ บ้างแหละตอนสมัยเรียน เราก็เคยเหมือนกัน!จริงหรือไม่ เรียนมหาลัยสบายกว่าเรียนมันธยมเป็นไหนๆวันนี้ขอแชร์ความรู้สึกส่วนตัวหน่อยจะมาเล่าให้ฟังว่า สรุปแล้วความคิดแบบนี้ มันจริงมั้ยเผื่อว่าจะได้ช่วยไขข้อข้องใจให้กับเพื่อนๆ น้องๆ หลายๆ คนได้เนอะ เอางี้ เราไปอ่านพร้อมๆ กันเลย!

1. เขาว่ากันว่า เรียนมหาลัย ไม่ต้องตื่นเช้าเท่าเรียนมัธยม

รูปภาพ:https://kenh14cdn.com/2020/9/14/photo-1-16000449376901903328453.jpg

เปิดมาที่ประเด็นแรกเรื่องของการตื่นนอน แน่นอนอยู่แล้ว ว่าเรียนมัธยมจะต้องตื่นเช้าหลายๆ คนเลยคิดว่า คนที่เรียนมหาลัยนั้น สบ๊ายสบาย! ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ก็ถือว่าจริงนะเพราะพอเราเข้าเรียนมหาลัยอะ เวลาเรียนในแต่ละวันมันก็จะไม่เหมือนกัน มีเช้าบ้าง บ่ายบ้างวันนึงเรียนสองตัว สามตัว คือถ้าเปรียบกับตอนที่เรียนมัธยม มหาลัยก็ถือว่าสบายกว่าจริงๆ แหละ แต่จุดที่เรารู้สึกว่า มัธยมดีกว่าคือ ถึงต่อให้เรามาช้า ก็อาจจะได้เข้าแค่แถวสาย มีทำโทษบ้างนิดหน่อย พอขึ้นห้องก็มีคาบโฮมรูม แค่มาให้ทันคาบแรก ก็จะได้เช็คชื่อเข้าเรียนปกติแต่ถ้าเป็นมหาลัย มาสาย ถือว่าขาดนะจ๊ะก็ไม่แน่ใจว่าที่อื่นเป็นมั้ย แต่ที่ที่เราเรียนมา เป็นแบบนั้น ซึ่งมันก็จะมีผลต่อคะแนนจิตพิสัยฉะนั้นต่อให้มหาลัยจะมีเรียนเช้าบ้าง บ่ายบ้างยังไง สุดท้ายแล้ว ก็ต้องมาให้ทันเวลาอยู่ดี

2. เขาว่ากันว่า เรียนมหาลัยสบ๊ายสบาย ใช้ชีวิตได้ตามใจฉัน!

รูปภาพ:https://data.whicdn.com/images/344415255/original.jpg

ในความรู้สึกเรา ขึ้นชื่อว่าเรียนไม่มีคำว่าสบายเหมือนคนที่ทำงานทุกวันอะ มันก็มีทั้งช่วงเวลาที่หนักหน่วง และช่วงเวลาที่เราจำต้องพักร่างบ้างเราว่าไม่ว่าจะเป็นมหาลัยหรือมัธยม มันก็เหนื่อยเหมือนกันหมดในช่วงวัยเรียน ไม่ว่าจะเป็นช่วงไหน มันก็หนักเหมือนกันหมดค่ะช่วงเวลาของคนเรา ไม่ว่าจะมัธยมหรือมหาลัย มันจะมีโหมดสบ๊ายสบายเหมือนกัน นั่นก็คือ ช่วงปิดเทอมอย่างคิดว่าเรียนมหาลัยสบาย ใช้ชีวิตยังไงก็ได้ บอกเลยว่า NO! เพราะพอเราโตขึ้น ความรับผิดชอบเรามากขึ้นเรียนมหาลัย ไม่ได้มีแค่แก้โจทย์ในหนังสือเรียน เหมือนตอนเราเรียนมัธยมนะ แต่มันมีทั้งการทำโปรเจกต์งาน การทำพรีเซนต์งาน ซึ่งหนักกว่ารายเท่าฉะนั้นจะบอกว่าสบ๊ายสบาย คงพูดได้ไม่เต็มปาก เพราะเมื่อเวลางานรุม ก็ตายได้เหมือนกัน!

3. เขาว่ากันว่า เรียนมหาลัยชิลล์เวอร์ การบ้านไม่เยอะเท่ามัธยม

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/originals/8c/d0/0f/8cd00f422b409e5a64817804bf0054e5.jpg

เราว่ามันเยอะเหมือนกัน แต่คนละแบบ คนละอารมณ์มากกว่าอย่างมัธยมอะ มันเยอะ เพราะทุกวิชาดันชอบสั่งการบ้านแบบพร้อมกันแล้วบอกให้ส่งคาบถัดไป What! ซึ่งถ้าเปรียบกับมหาลัย ก็มีการบ้านเหมือนกัน อาจจะไม่ทุกวิชาและอาจจะน้อยกว่า แต่งานที่เข้ามาส่วนใหญ่ มักจะเป็นงานหนักเช่นทำโปรเจกต์ ทำพรีเซนต์หน้าชั้นเรียน แต่มันก็จะดีตรงที่ งานชิ้นใหญ่ส่วนมากจะมีเวลาในการทำค่อนข้างมาก เครียดแหละ แต่ไม่กระชั้นชิดจนถึงขนาดจิตตก และอีกจุดที่หลายคนมักจะเถียงกันคือ เรียนมหาลัย หนังสือน้อย พกแค่ปากกาไปเรียน จบ! ซึ่งเราก็เคยคิดแบบนั้นแต่คุณค่ะ กระเป๋าดิฉันตอนเรียนมหาลัยกับมัธยม หนักไม่ต่างกันเลยค่ะอาจจะไม่ใช่ทุกวิชาที่มี แต่ก็มีบางวิชาที่ต้องใช้หนังสือหรือชีทเรียนเหมือนกันนะฉะนั้นในส่วนของการบ้าน มัธยมก็หนัก เพราะต้องทำทุกวัน มีให้ส่งทุกวัน ไม่วิชานี้ ก็วิชานั้น ส่วนมหาลัยก็หนักเหมือนกัน อาจจะไม่เยอะเท่ามัธยม แต่ก็มากมายอยู่พอสมควร

4. เขาว่ากันว่า เรียนมหาลัย อิสระเพียบ! ไม่ต้องยึดกฎเกณฑ์อะไรมาก

รูปภาพ:https://pbs.twimg.com/media/ERHd1R5UcAAegM-.jpg

ถ้าเทียบกันแล้ว มหาลัยได้อิสระมากกว่ามัธยมจริงๆ นะคืออย่างสมัยนี้ เรื่องทรงผมมันก็ดูเหมือนจะไม่ได้เคร่งครัดเท่ากับตอนที่เราเรียนเมื่อก่อนแล้วอะเนอะ แต่ในเรื่องของการแต่งกาย ก็ยังคงต้องรักษาระเบียบเอาไว้อยู่ ซึ่งในตอนนั้น ใส่กระโปรงสั้นไม่ได้ ผมไม่ถูระเบียบไม่ได้ ก็จะมีครูคอยตรวจ คอยเตือนตลอดเวลาแต่พอเราเข้ามหาลัย โมเมนต์แบบนี้มันจะหายไปเครื่องแบบยังต้องใส่ แต่ก็จะได้อิสระมากขึ้นเช่น ใส่กระโปรงสั้นมาเรียนได้ ใส่รองเท้าอะไรก็ได้มาเรียน กระเป๋าจะใช้แบบไหนก็ได้ ทรงผมแบบไหนก็ไม่มีใครว่า จะแต่งหน้าหรือไม่ก็แล้วแต่ อะไรประมาณนี้ มันก็จะไม่มีคนมาคอยตรวจอะไรมากมาย แต่!มหาลัยเขาก็จะมีกฎในแบบของเขา ซึ่งมันก็จะแตกต่างจากมัธยมด้วยความที่พอเราเข้าเรียนมหาลัย นั่นแปลว่าเราโตขึ้นมาอีกระดับ ความรับผิดชอบเยอะขึ้น อิสระมีมากกว่าก็จริง แต่ก็ต้องเคารพกฎและมีความรักผิดชอบในหน้าที่ไม่ต่างกัน

5. เขาว่ากันว่า เรียนมหาลัย ครูไม่จิกเท่ากับมัธยม

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/1200x/34/3c/fb/343cfba7226f9c5dae81474195086844.jpg

อันนี้ขอตอบในมุมมองตัวเองว่าไม่จริงแต่มันก็จะเป็นความเหมือนที่แตกต่าง เอามุมที่แตกต่างก่อน ในเรื่องกฎระเบีย มัธยมจะมีครูฝ่ายปกครอง ที่คอยดูแล คอยจับจองแต่ในมหาลัย ไม่มีอะไรแบบนี้แต่ความเหมือนกันคือไม่มีครูคนไหนที่แย่ 100% หรือว่าดี 100%ถ้าถามว่าจริงหรอที่มหาลัยครูไม่จิกเท่ามัธยมเราคงตอบได้ไม่เต็มปาก เพราะครูแต่ละวิชาไม่เหมือนกัน มันก็จะมีทั้งดีและไม่ดีปะปนกันไปอย่างมัธยม เราเลือกไม่ได้ว่าจะต้องเจอครูแบบไหน คนไหน เพราะตารางเรียนมันวางมาแบบนั้น ยังไงมันก็ต้องเจอ แต่มหาลัยเราจะได้เห็นชื่อครูตอนลงทะเบียน ซึ่งถ้าถามว่า มันดีกว่ามั้ย เรามีสิทธิ์เลือกครูนะ ก็คงพูดแบบนั้นไม่ได้ เพราะเรารู้แค่ชื่อไงค่ะ ไม่ได้รู้นิสัย สุดท้ายแล้วมันก็ต้องไปเสี่ยงดวงกันเอา ว่าจะได้ครูใจดีหรือเจ้ากี้เจ้าการ

6. เขาว่ากันว่า เราจะค้นพบตัวเองได้ตอนเรียนมหาลัย

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/originals/05/de/6c/05de6ce7d4ae9d4bae570471484afab4.jpg

ในเรื่องของการค้นพบตัวเอง เราว่าไม่ว่าจะวัยไหนก็ตาม คนทุกคนมีโอกาสที่จะค้นพบตัวเองได้ทั้งนั้นบางคนค้นพบว่าตัวเองอยากเป็นอะไร ชอบอะไร ต้องการอะไร ตั้งแต่วัยมัธยมแล้ว หรืออาจจะเร็วกว่านั้นด้วยซ้ำ แต่บางคนอาจจะช้าหน่อย มารู้ว่าตัวเองต้องการอะไร ตอนมหาลัย ก็มีเหมือนกัน ฉะนั้นถ้าจะบอกว่า มหาลัยเป็นช่วงที่ทำให้เราค้นพบตัวเอง ก็อาจจะไม่ถูกเสมอไป จริงมั้ย

7. เขาว่ากันว่า เรียนมหาลัยเท่ากับโตแล้ว!

รูปภาพ:https://shorturl.asia/YiBqW

เอาจริงๆ ในมุมมองของเราถึงต่อให้เราเรียนมหาลัยแล้ว เราโตแล้วนะ แต่ในสายตาผู้ใหญ่บางคน ก็ยังคิดว่าเราเด็กอยู่ดีสำหรับตัวเราเองการก้าวเข้าสู่รั้วมหาลัย หมายถึงเราโตขึ้นอีกระดับ มีความรับผิดชอบมากขึ้น มีความคิดความอ่านมากขึ้นจะมาอ้างว่า รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ไม่ได้แล้ว เพราะอะไร เพราะเราไม่ใช่เด็กแล้วไงค่ะ วัยนักศึกษาเป็นวัยที่ควรจะคิดเองได้แล้วว่า อะไรถูกอะไรผิด อะไรควรอะไรไม่ควร ข้ออ้างที่ว่านั้น มันเป็นข้ออ้างของเด็ก ถ้าเราอ้างแบบนี้ ในขณะที่ตอนนี้ เราโตแล้วนะ มันจะกลายเป็นว่า เราไม่มีความรับผิดชอบ กลับกันในมุมมองของผู้ใหญ่คนโตแล้วในความคิดของเขาคือคุณจะต้องหาเลี้ยงตัวเองได้แล้ว ต้องไม่เดือนร้อนครอบครัว หรืออาจจะต้องทำงานได้แล้ว มีความรับผิดชอบมากพอแล้ว ถึงจะเรียกได้ว่า โตจริงๆซึ่งมุมมองนี้ มันก็อยู่ที่ความคิดของแต่ละคนแหละเนอะถ้าคุณคิดว่า การที่คุณเข้าเรียนมหาลัย = โตแล้ว นั่นก็แล้วแต่

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/originals/c5/9e/31/c59e3149b048ed48e20faddab5ad6f25.jpg

คำตอบของหัวข้อในวันนี้ จริงหรือไม่ เรียนมหาลัยยังไง้ยังไงก็สบายกว่ามัธยม ขอตอบเลยว่า NO! เอาจริงๆ นะ มันมีความดีและไม่ดีแตกต่างกัน แต่สิ่งนึงที่อยากจะบอกคือ พอเราเข้าเรียนมหาลัยแล้ว แน่นอนว่าเราโตขึ้นไปอีกขั้น การที่เราโตขึ้น หมายความว่าความรับผิดชอบของเรามากขึ้น ฉะนั้นการเรียนจบป.ตรี ไม่ใช่เรื่องง่ายนะ ถ้าเพื่อนๆ ไม่มีความมุ่งมั่ง ขยัน และความเพียรพยายาม โอกาสตกก็มีเหมือนกัน เพราะงั้นอย่ามองว่า การเรียนมหาลัยสบาย เพราะมันไม่สบาย นี่กว่าจะจบมาได้ ก็เลือดขึ้นหน้าเหมือนกันนะจ๊ะ!

ก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆ นะ ลองเก็บไปคิด ไปปรับใช้กันดู สำหรับวันนี้ บ๊ายบาย