สวัสดีค่า สาวๆSistaCafeคนน่ารักที่อยากผิวดี ผิวสวยทุกคน (.❛ ᴗ ❛.)ถ้าเป็นไปได้ ผู้หญิงแทบทุกคนก็อยากมีผิวใส เป็นธรรมชาติ มั่นใจที่จะเปลือยหน้าสดออกไปพบเจอผู้คนได้โดยไม่ต้องแต่งหน้ากลบ คนทักว่าผิวสวยมาตั้งแต่รัศมีร้อยเมตร หรือที่เรียกว่า' คนมันมีออร่า! 'เพราะผิวหน้าเรียบเนียนคือมีชัยไปกว่าครึ่ง แต่งหน้าเบาๆ ก็รอด จะแต่งจัดเต็มก็ไม่ต้องโบกคอนซีลเลอร์จุดบกพร่องบนใบหน้าให้หน้าแข็งโป๊ก สาวๆ จึงต้องใส่ใจในการใช้ ' สกินแคร์ ' เพื่อฟื้นฟูบำรุงผิวให้ไม่ต้องแก้จุดด้อย หรือแก้ให้น้อยที่สุดค่ะถ้าสาวๆ อยากแสตนด์บายผิวสวยไว้ตลอด เผื่อต้องไปออกงานหรือพบปะผู้คนอย่างกะทันหัน ก็ต้องมีวินัย เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับสภาพผิวหน้า ดูแลผิวทุกขั้นตอนไม่ให้ขาดตกบกพร่อง เพื่อดึงความงามของผิวโดยธรรมชาติออกมาให้มากที่สุด ซึ่งที่จริงก็ไม่ได้ทำยาก หรือต้องเข้าคลินิกให้หมอฉีดสารเข้าหน้า หรือทำเลเซอร์เสมอไปเพียงทำตาม' 7 เคล็ดลับใช้สกินแคร์ กระตุ้นออร่าจากภายใน 'ก็ผิวดูดี ดูแพงเหมือนดารานางแบบ เน็ตไอดอลคนดังได้เหมือนกัน ถ้าอยากรู้ว่าต้องทำอะไรบ้าง ก็ตามมาทางนี้เลย!

1. ล้างหน้าให้สะอาด เพื่อชำระสิ่งสกปรก คราบน้ำมันต่างๆ ที่ตกค้างอยู่

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/2ba3ced9b884367acfe6c9b206058ad6.jpg

ผิวหน้าจะสวยใสเข้าขั้นเพอร์เฟกต์ไม่ได้เลย หากมาตายรังที่การ ' ล้างหน้า ' เพราะสภาพผิวที่เรียบเนียน ไม่มีคราบและสิ่งสกปรกตกค้าง คือพื้นฐานสำคัญที่สุด จะแต่งหน้าหรือลงสกินแคร์ใดๆ ต่อจากนั้นก็ดูสุขภาพดี ผิวใสเป็นธรรมชาติ

ในทางกลับกัน ถ้าผิวยังมีสิ่งตกค้างแต่ถมเมคอัพหรือครีมทาผิวลงไป สิ่งสกปรกนั้นก็จะถูกดันลงใต้รูขุมขนลึกขึ้นเรื่อยๆ จนสุดท้ายสิวก็ผุด! ถ้าอยู่ดีๆ หน้ามีตุ่มบวมๆ ไร้หัว กดแล้วเจ็บ อาจเป็นเพราะเธอล้างหน้าไม่สะอาดมากพอ!

สาวๆ ควรเลือกคลีนซิ่งที่เหมาะกับสภาพผิวมากที่สุด และต้องล้างหน้า ' เป็นอันดับแรก ' ก่อนลงสกินแคร์ในขั้นตอนอื่นๆ เพื่อการทำความสะอาดผิวอย่างล้ำลึกเราแนะนำให้ใช้


' ไมเซลลาร์วอเตอร์ '


ชุบสำลีแผ่นเช็ดทั่วผิวหน้า กำจัดคราบฝุ่นต่างๆ ในเบื้องต้นก่อน ให้ผิวสะอาดชุ่มชื้น จึงใช้คลีนซิ่งโฟมล้างอีกรอบ วิธีนี้ใช้ได้กับทุกสภาพผิว แม้มีผิวแพ้ง่ายนะคะ

╰(*´︶`*)╯


2. ให้รางวัลผิวด้วยการ 'มาส์กหน้า' บำรุงเป็นประจำ

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/6d3dd5da0d36ee0dddecde9d99bd2361.jpg

การบำรุง ให้รางวัลผิว เราขอมอบให้ตำแหน่ง ' มาส์กหน้า ' ที่ให้ความผ่อนคลาย เย็นสบายผิว แต่ยังเติมสารอาหารเข้าผิวหน้าอย่างล้ำลึก แก้ไขปัญหาผิวที่สาวๆ กังวล เช่น ผิวแห้ง ผิวหมองคล้ำ ผิวมีริ้วรอยแก่ก่อนวัย ช่วยปรับสภาพให้ผิวหน้าโดยรวมของสาวๆ ดูดีขึ้น

สาวซิสทุกคนจึงควรมีขั้นตอนมาส์กหน้าใน Skincare Routine ซึ่งควรใช้ทั้งแบบแผ่นและแบบโคลนพอก เพราะแต่ละชนิดก็มีจุดเด่นแตกต่างกันไปค่ะ

แผ่นมาส์กหน้าที่เป็นรูปทรงหน้ากาก จะเหมาะกับการเติมความชุ่มชื้น ผิวเนียนนุ่มเด้งอ่อนกว่าวัยซะส่วนใหญ่ แต่มาส์กโคลนจะเน้นเรื่องการดักจับสิ่งสกปรก น้ำมันส่วนเกิน ดึงสิวเสี้ยน ดีท็อกซ์ผิวและป้องกันโอกาสการเกิดสิว

สามารถใช้มาส์กแผ่นได้ทุกวัน แต่มาส์กโคลนใช้เพียงสัปดาห์ละ 1-2 ครั้งก็เพียงพอ เพื่อไม่ให้รบกวนหรือระคายเคืองผิวหนังมากจนเกินไป ♡(。- ω -)

3. บำรุงผิวด้วย 'เซรั่ม' แทนเดย์ครีม ในช่วงกลางวัน

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/0c87215887bffee7d6ae0a3603435738.jpg

ในขั้นตอนบำรุงผิว สาวๆ ส่วนใหญ่มักใช้โทนเนอร์ หรือเดย์ครีมในช่วงกลางวัน ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องผิด แต่สำหรับคนที่มีสภาพผิวแห้งเป็นพิเศษ มอยส์เจอไรเซอร์เหล่านั้นอาจให้ความชุ่มชื้นได้ไม่เพียงพอ

หากทาครีมในช่วงเช้า แต่พอพักเที่ยงจับหน้าอีกทีเริ่มแห้งอีกแล้ว เราแนะนำให้เปลี่ยนเป็น ' เซรั่ม ' แทน ด้วยเนื้อที่บางเบา ซึมง่าย ไม่ไหลไปปนเปื้อนกับเครื่องสำอาง ยังให้ประสิทธิภาพที่ดีกว่าครีมแบบปกติอีกด้วยค่ะ

เพียงทาเซรั่มเป็นขั้นตอนแรกหลังล้างหน้า ตามด้วยไพรเมอร์ รองพื้นแต่งหน้าตามปกติ หน้าจะดูโกลว์ฉ่ำมากขึ้นกว่าใช้แค่เดย์ครีมเพียงอย่างเดียว เพราะเซรั่มจะเข้าไปทำให้คอลลาเจนใต้ผิวอิ่มเต็มขึ้นจากภายใน ทำให้ผิวดูแวววาว อิ่มเด้งแบบไม่ต้องพึ่งไฮไลท์ช่วย

ยิ่งใช้เซรั่มที่มีส่วนผสมของ ' วิตามิน C ' ด้วยแล้ว ก็ยิ่งทำให้ผิวไบรท์ กระจ่างใสแบบคูณสิบ แถมช่วยลดริ้วรอย ผิวดูเฮลตี้ขึ้นกว่าเดิม

4. ใช้ 'Tinted Moisturizer' เตรียมผิว ในวันที่อยากแต่งหน้าใสๆ

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/e4736a9246f0944a1069980055247d04.jpg

แม้จะชอบแต่งหน้ามากแค่ไหน แต่ก็ต้องมีวันที่สาวๆ อยากพักหน้า หรือแต่งแค่พอให้หน้าไม่ซีด คนเจอแล้วไม่ตกใจ, วันที่ตื่นสาย เร่งรีบจนไม่มีเวลาลงรองพื้น หรือบางคนก็ชอบแต่งลุคใสๆ โชว์ผิวมากกว่าลุคแต่งหน้าจัดเต็ม

ใครที่อยู่ในเงื่อนไขเหล่านี้ เราแนะนำให้ใช้' มอยส์เจอไรเซอร์เนื้อทิ้นท์ 'หรือมอยส์เจอไรเซอร์ที่มีสีเนื้อเหมือนรองพื้น แต่ให้สรรพคุณบำรุงผิว และมักมีสารกันแดดผสมอยู่ด้วย จึงเหมือนทาสกินแคร์ที่แต่งหน้าไปด้วยแบบ 2 in 1 ค่ะ

เมื่อทา Tinted Moisturizer ลงบนผิวหน้าแล้ว จะให้ความชุ่มชื้นได้ทันที เติมพิกเมนต์สีผิวให้เรียบเนียนสม่ำเสมอ ดูฉ่ำวาวอย่างเป็นธรรมชาติ!

แต่คำเตือนคือชื่อก็บ่งบอกว่าเป็นเนื้อทิ้นท์ซึ่งค่อนข้างบางๆ ใสๆ ดังนั้นใครที่มีปัญหาผิวค่อนข้างเด่นชัดอาจกลบไม่อยู่ ต้องผสมกับรองพื้น Full-coverage ก่อนทา หรือจะใช้คอนซีลเลอร์เนื้อลิควิดแต้มทีหลังก็ได้เช่นกัน

5. ใช้ 'ออยล์บำรุงผิวหน้า' แทนไฮไลท์แต่งหน้า ให้ผิวโกลว์เป็นธรรมชาติ

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/bf5dbe9e467ba1dd1cec75b96399e4da.jpg

จะเสียเงินซื้อบรอนเซอร์ หรือไฮไลท์แต่งหน้าไปทำไม ในเมื่อเราสามารถใช้ ' ออยล์บำรุงผิวหน้า ' ให้ลุคดูฉ่ำโกลว์แถมบำรุงผิวไปด้วยในเวลาเดียวกัน! สำหรับสาวๆ ที่ชื่นชอบลุคหน้าฉ่ำ นุ่มเด้งอิ่มน้ำ

เพียงหยดออยล์ทาหน้า 2-3 หยดลงบนโหนกแก้ม ใช้นิ้วแท็ปเกลี่ยให้เรียบเนียนไปกับผิวหน้า ก็เหมือนเปิดไฟไฮไลท์ให้ผิวบริเวณนั้นวิบวับ เป็นประกายขึ้นมาโดยทันที ไม่ต้องปัดไฮไลท์เพิ่มแต่อย่างใด

หากเป็นสาวผิวมัน ต้องควบคุมปริมาณการใช้ให้น้อยลง เราแนะนำให้ใช้แค่ปลายนิ้วก้อย แท็ปแค่ส่วนที่แสงตกกระทบพอดีเป็นจุดเล็กๆ เช่น โหนกแก้ม โหนกคิ้ว รอยหยักเหนือปาก และสันจมูก


อย่าลากเป็นเส้นยาวหรือทากว้างเกินไป เพราะระหว่างวันเมื่อผสมกับเหงื่อจะดูเยิ้มเป็นกระทะทอดไข่แทนค่ะ

6. ห้ามลืมทา 'ครีมกันแดด' โดยเด็ดขาด

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/6bd5c76ca3dd460ca72c05c8630cfa74.jpg

จะสวยดูดีมีออร่าจากภายใน สกินแคร์ลำดับต้นๆ ที่ต้องเริ่มใช้ตั้งแต่เด็ก เพราะจะช่วยลดปัญหาผิวได้เมื่ออายุมากขึ้นก็คือ ' ครีมกันแดด ' ต้องทาทุกวันห้ามขาด ไม่ว่าจะเป็นวันแดดจัด วันฝนตก หรือวันที่เมฆปกคลุมจนแทบไม่เห็นรังสียูวี ก็ต้องทาอย่างสม่ำเสมอทั่วผิวหน้าและผิวกาย


ยิ่งสาวๆ คนไหนที่มีไลฟ์สไตล์ต้องอยู่กลางแดดบ่อย รังสี UVA/UVB ทะลุทะลวงเข้าผิวเต็มๆ ยิ่งเสี่ยงผิวไหม้ คล้ำเสียจากแดด ผิวดูแก่กว่าวัย และอาจพัฒนาเป็นโรคมะเร็งผิวหนังได้ในอนาคต! #น่ากลัวเวอร์

เลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF50+ PA+++ ขึ้นไป เพื่อป้องกันไม่ให้รังสียูวีทำร้ายผิว ในท้องตลาดจะมีครีมกันแดดสองประเภทคือ Chemical ( ดูดซึมแสงเข้าผิว ) กับ Physical ( สะท้อนแสงออกจากผิว ) ซึ่งแบบหลังจะดีต่อสุขภาพผิวหนังในระยะยาวมากกว่า แต่ราคาก็จะสูงกว่าด้วยที่สำคัญควรทาซ้ำทุก 2 ชั่วโมง ไม่ใช่ทาครั้งเดียวแล้วอยู่กลางแดดทั้งวัน นั่นก็ผิวเกรียมอยู่ดีนะ! ปกป้องผิวอีกทางด้วยการแต่งตัวด้วยเสื้อผ้ามิดชิด ใส่แว่นกันแดด หมวกปีกกว้าง เพื่อไม่ให้แดดเผาผิวหนังนอกร่มผ้าจนเกิดผิวทูโทนนะคะ

7. ใช้ 'ไพรเมอร์' เบลอรูขุมขน ในวันที่ไม่อยากลงรองพื้น

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/79163a2e441a9ca3b59f5affcd3570ef.jpg

อยากให้ผิวเรียบเนียน ไร้รูขุมขนเหมือนผ่านโปรแกรมรีทัช แต่ขี้เกียจมานั่งลงรองพื้นอย่างประณีต เพราะเร่งรีบ ไม่ค่อยมีเวลาหรืออะไรก็ตามแต่ เราแนะนำให้ใช้


' ไพรเมอร์ '


ที่แม้จะไม่ได้เติมสีสันเหมือนเมคอัพชิ้นอื่นๆ แต่จะทำหน้าที่เหมือนตัวช่วยปรับผิวให้เรียบลื่น ให้ความขรุขระ รูขุมขนกว้าง ริ้วรอยร่องลึกบนผิวหน้าดูจางลง เพื่อเตรียมผิวให้พร้อมลงเครื่องสำอางอื่นๆ ในขั้นตอนถัดไป

ใครที่ไม่ชอบแต่งหน้า ก็สามารถใช้ไพรเมอร์ได้! หลังล้างหน้า ทาโทนเนอร์และครีมกันแดดเสร็จแล้ว ก็แต้มไพรเมอร์ 5 จุดทั่วใบหน้า แล้วค่อยๆ ใช้นิ้วเกลี่ยให้เนื้อไพรเมอร์เบลอๆ เนียนๆ ไปกับผิวหน้า


ทาเสร็จลองส่องกระจกดู จะเหมือนหน้าสดที่ผิวรีทัชมาแล้วอย่างไรอย่างนั้น เติมลิปบาล์มมีสีหรือทิ้นท์ใสๆ ที่ปากสักนิด ก็พร้อมเฉิดฉายออกจากบ้านได้เลย ^^

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/originals/c1/d2/f1/c1d2f123131569f5c96282a48309d280.gif

-----------------------------------------------

ไม่มีหรอกผู้หญิงไม่สวย มีแต่ผู้หญิงขี้เกียจ ละเลยการดูแลผิวเท่านั้นแหละ! แม้หน้าตาไม่ได้สวยโดดเด่น แต่ขยันบำรุงเพิ่มออร่าให้ผิวหน้าและผิวกายอยู่เสมอ ก็มีเสน่ห์ดึงดูดได้ไม่แพ้กันเลย ผิวที่ดูดีเปล่งประกาย เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าเราเป็นคนดูแลตัวเอง อย่าปล่อยให้ผิวโทรมไม่ว่าจะโสดหรือมีแฟนก็ตาม เพราะผลลัพธ์ผิวสวยก็ได้ประโยชน์กับตัวเธอเองล้วนๆ ทำให้บุคลิกดี มั่นใจ ถ่ายรูปขึ้น เมื่อส่องกระจกเห็นผิวฉ่ำวาว อิ่มน้ำ นุ่มเด้ง ก็ทำให้สุขภาพจิตดี มีความสุขในชีวิตมากยิ่งขึ้นตามไปด้วยนะคะ

ลองนำทริค 7 ข้อนี้ไปปรับใช้ดู เพราะความสวยอยู่กับผู้หญิงอย่างเราๆ ทุกคน และความสวยของแต่ละคนนั้นแตกต่างกัน ไม่มีใครสมควรถูกเหยียดหรือบุลลี่เพียงเพราะหน้าตาไม่ตรงตามมาตรฐาน เกิดมาเราเลือกใบหน้าไม่ได้ แต่เราเลือกที่จะดูแลผิวให้สวยปังได้!

°˖✧◝(⁰▿⁰)◜✧˖° ขอให้ซิสมีความสุขกับการใช้สกินแคร์ทุกคนนะคะ สำหรับวันนี้ขอตัวลาไปก่อน พบกันใหม่คราวหน้า บ๊ายบาย