รูปภาพ:https://pa1.narvii.com/6856/41e86061f4481c8e433db0c119c2dc5f8dddb648_hq.gif

สวัสดีค่ะ สาวๆSistaCafeที่กำลัง' เหนื่อยหัวใจ 'ทุกคนเวลาเห็นคู่ตายายที่ได้ครองรัก ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันจนแก่เฒ่าจนตายจากกันไป ย่อมเป็นรักในฝันของทุกคน แต่น่าเศร้าที่พระเจ้าไม่ได้ใจดีขนาดนั้น สำหรับบางคน รักคือการได้เจอกับเนื้อคู่ที่ได้ใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุข อาจมีไม่เข้าใจกันระหว่างทางบ้างเป็นเรื่องธรรมดาแต่ในขณะเดียวกัน บางคู่มีความรัก ( หรืออาจจะแค่ความหลง ) อยู่ในช่วงแรกๆ แต่เมื่อเวลาผ่านไป จากสายตาหยาดเยิ้มที่มองเธอเป็นเจ้าหญิงน่าทะนุถนอม ก็ค่อยๆ เปลี่ยนไปทีละน้อย จนรู้ตัวอีกทีก็ไม่รู้ว่าเธอยังสำคัญกับเขาอยู่จริงๆ หรือเปล่า #เจ็บ

ความรักช่วงแรกมักสวยงามเสมอ แต่หลังจากนั้นคือของจริง! หากเธอกำลังรู้สึกว่ารักที่เคยทำให้เธอยิ้มได้ กลายเป็นยาพิษที่ทำให้เธอต้องเบือนหน้าหนี รักที่เฮลท์ตี้เริ่มกลายเป็นรักพังๆ ขึ้นทุกวัน ถ้าปล่อยไว้คงได้เลิกกันเข้าสักวัน!มาเช็ค' 7 สัญญาณของรักเป็นพิษ ที่ปล่อยไว้จะพัง พร้อมวิธีซ่อมรักกลับมาเหมือนเดิม 'ในบทความนี้กัน เพื่อให้รักครั้งนี้ยังสามารถไปต่อได้กันค่ะ

1. เขาเริ่ม ' ไม่สนใจ ไม่แยแส ' มองเธอเป็นอากาศธาตุ

รูปภาพ:https://www.i-pic.info/i/EGva39176.jpg

จากที่เคยเทคแคร์ ดูแล เห็นเธอสำคัญเป็นที่หนึ่งเสมอ ทั้งไลน์ทั้งแชทเฟสตอนจีบแรกๆ นี่เด้งรัวทุกห้านาที กินอะไร ทำอะไรอยู่ที่ไหนก็รายงานตลอดโดยไม่ต้องบอก ตอนเช้าก็โทรปลุกทุกวัน วันเกิดอะไรจำได้หมดไม่ตกหล่น แต่ตอนนี้เหมือนกลายเป็นคนละคน

แชทเริ่มร้างเป็นป่าช้า อยู่ที่ไหนก็ติดต่อไม่เคยได้ ถามคำตอบคำ เวลามีปัญหาเคลียร์กันก็ชอบตัดจบ ไม่พยายามฟังเหมือนเมื่อก่อน วันสำคัญก็ลืมเหมือนเธอไม่มีตัวตน แบบนี้คืออาการของคน ' หมดใจ ' แล้วละค่ะ

เมื่อแฟนรู้สึกไม่เหมือนเดิมแล้ว การพยายามฝืนไปต่อ เติมความรักให้มากขึ้นทั้งที่เขาไม่ได้ต้องการ สุดท้ายแฟนจะอึดอัดและกลายเป็นความ Toxic  เพราะใจลึกๆ เขาไม่ได้รักเธอแล้ว แต่ที่ยังอยู่เพราะรู้สึกผิดยังไม่กล้าบอกเลิกทันทีเฉยๆ การที่ยังคบเพราะสงสารน่ะ บอกเลยว่ามันทรมานยิ่งกว่าเลิกไปให้จบๆ ซะอีก

วิธีแก้ไข :หาวันว่างที่ตรงกัน นัดเจอสถานที่ที่สงบเพื่อเปิดใจ เริ่มเปิดจากความรู้สึกของตัวเองก่อนเป็นอันดับแรก เช่น" ตอนนี้เรารู้สึกว่าเธอทำตัวเหินห่างจัง ดูเครียดๆ นะ มีอะไรรึเปล่า เราพร้อมรับฟังนะ "พยายามทำตัวเป็นมิตรและเข้าใจ แม้ว่าใจลึกๆ จะรู้สึกเจ็บปวดก็ตาม เพื่อทำให้เขายอมคายความจริงทุกอย่างออกมาหากเป็นสาเหตุที่เธอแก้ไขได้ก็ลองปรับดูก่อน แต่ถ้าเป็นสิ่งที่เธอทำอะไรไม่ได้ เช่นมือที่สาม หรือใจเขาเปลี่ยนไปแล้ว ไม่ต้องรอแล้วค่ะ ตัดให้ขาดอย่างเดียว!

2. เขาชอบ ' ควบคุม ออกคำสั่ง ' ไม่ได้ดั่งใจก็หน้าบึ้ง เหวี่ยงใส่เฉย!

รูปภาพ:https://www.i-pic.info/i/1wdG39170.jpg

ความสัมพันธ์ของคนสองคนที่จะเรียกว่า ' เฮลท์ตี้ ' ได้ ต้องมีอิสระระหว่างกัน ต่างคนควรมีสิทธิ์ของตัวเองที่จะใช้ชีวิตได้ในแบบที่อยากเป็น

หากแฟนของเธอจากที่เหมือนจะเอาใจ เริ่มขยับขึ้นมาออกคำสั่ง จัดแจงโน่นนี่ในชีวิตของเธอ นั่นคือสัญญาณ Toxic สุดอันตรายที่ต้องระวังค่ะ

ตอนแรกก็เริ่มจากเรื่องเสื้อผ้าหน้าผมก่อน หนักเข้าก็ติเรื่องน้ำเสียง มารยาท วิธีการพูด หรือแม้แต่อาหารที่กิน งานอดิเรกที่ชอบ นี่มันชักจะไปกันใหญ่แล้ว พอเธอแย้งเข้าหน่อยก็หน้าบึ้งหน้าบูด

บางคู่ไปถึงจุดที่ว่า จะใส่ชุดไหนไปทำงาน หรือไปหาเพื่อนยังต้องรอแฟนอนุมัติ อันนี้ไม่โอเคมากๆ แสดงถึงความขี้ระแวงและไม่ให้เกียรติเธอสุดๆ นี่ไม่ใช่การเป็นห่วง แต่คือการครอบงำ เหมือนเธอเป็นตุ๊กตาในกำมือ

วิธีแก้ไข :


ต้องจับเข่าคุยกันตรงๆ ว่าพฤติกรรมที่เขาทำเป็นสิ่งยอมรับไม่ได้ ไม่เหมาะสม  และเธอจะไม่ยอมให้เขามาบงการอีกต่อไป แม้ว่าจะมีข้อแก้ตัว เหตุผลแถข้างๆ คูๆ แค่ไหนก็อย่าใจอ่อน

โดยเฉพาะคำว่า

" เราแค่รักเธอมากเกินไป อยากให้เธอได้แต่สิ่งดีๆ ( ที่เขายัดเยียดให้ ) เท่านั้นเอง "

กำหนดขอบเขตให้ชัดเจน

ถ้ายอมครั้งนี้ เธอจะไม่มีวันได้สิทธิ์ของตัวเองกลับคืนมาอีก จำไว้!

3. เขาชอบ ' วิพากษ์วิจารณ์ ' ทุกอย่างในตัวเธอ ให้รู้สึกอับอายตลอดเวลา

รูปภาพ:https://www.i-pic.info/i/KyvX39175.jpg

เมื่อก่อนก็รู้สึกว่าเขาหวังดี วิจารณ์เพื่อให้เธอปรับปรุงตัวเป็นคนที่ดีขึ้น แต่นานวันเข้าชักจะไม่แน่ใจว่าเป็นต้องดีแค่ไหนถึงจะพอ?

ถ้าเธอรู้สึกตัวหดเล็กจิ๋วเหลือสองนิ้วทุกครั้ง รู้สึกเป็นคนที่แย่ ห่วยแตกเมื่ออยู่กับแฟน เจอกันทีไรต้องได้วิพากษ์วิจารณ์ ติอันนั้นอันนี้บนร่างกาย เสื้อผ้าที่ใส่ เมคอัพที่แต่งอยู่ตลอดเวลา นี่คือนิสัยที่ Toxic มากถึงมากที่สุด

เจอกันทีไรก็จะมีคำพูดประเภทว่า

" ใส่ชุดรัดรูปจังเลย เธออ้วนจะแย่อยู่แล้ว ยิ่งใส่แบบนี้ก็ยิ่งเป็นหมูรัดแหนมสิ ", " หน้าก็กลมบาน ยังจะตัดผมสั้นอีก ", " สีตาอะไรของเธอ ยังกะคนโดนชกมา "

หรืออะไรแบบนี้บ่อยๆ ก็แน่ใจได้แล้วว่าคนคนนี้ไม่ได้วิจารณ์เพื่อก่อแล้ว แต่ด่าเอาสนุก ด่ากลบปมด้อยตัวเอง ใดๆ เอาเป็นว่าคนคนนี้ไม่โอเคที่จะคบต่อแล้วล่ะค่ะ

วิธีแก้ไข :

คนที่ชอบทำให้คนอื่นอับอาย นั่นเพราะตัวเองลึกๆ มีปม อยากรู้สึกโดดเด่นและเหนือกว่าคนอื่น จึงเอามาลงกับคนใกล้ชิดเช่นคนในครอบครัวหรือแฟน

ถ้าเธอรู้สึกเจ็บปวดแม้แต่นิดเดียว ก็เป็นเหตุผลมากพอที่จะบอกไปตรงๆ ว่า


" หยุดพูดแบบนี้ซะที เราไม่ชอบ "

เตือนแค่ครั้งเดียวพอ ถ้าเขายังไม่ฟังและยังวิจารณ์เธอต่อไปอย่างไม่หยุดยั้งแล้วล่ะก็ รีบสะบัดมือทิ้งจากคนพรรค์นี้ให้ไว สันดอนขุดได้ แต่สันด... ขุดไม่ได้จริงๆ ค่ะ อย่าไปทน

4. เขาชอบทำ ' พฤติกรรมชวนหงุดหงิด ' รู้ทั้งรู้นะว่าไม่ชอบ แต่ก็ทำอยู่ได้!

รูปภาพ:https://www.i-pic.info/i/wBhD39174.jpg

มีพฤติกรรมหนึ่งที่คนไทยน่าจะรู้จักในชื่อว่า

' ชวนโมโห '

คือไม่ใช่การบุลลี่หรือทำร้ายโดยตรง แต่ทำสิ่งที่เขาเองก็รู้ว่าเธอไม่พอใจ เธอไม่ชอบ แต่ก็ยังหน้าตายทำต่อไปอย่างไม่สนใจ เวลาขอให้ช่วยก็ตอบรับนะ แต่จริงๆ ไม่ทำหรือไม่ก็บ่นเป็นหมีกินผึ้งไม่หยุด แบบนี้ฝรั่งเขาเรียกว่า

' passive aggressive '

หรือถ้าจะบอกว่ากวนที... ก็คงได้ จะว่า Toxic ขนาดต้องเลิกเดี๋ยวนี้ก็ไม่ใช่ แต่ถ้าปล่อยไว้ก็บั่นทอนสุขภาพจิต แอบลำบากใจอยู่เหมือนกัน

วิธีแก้ไข :เอาจริงๆ คนที่มีพฤติกรรมเหล่านี้ ลึกๆ คือเก็บกดค่ะ ไม่รู้การแสดงออกหรือสื่อสารความรู้สึกของตัวเองอย่างถูกต้อง เขาไม่ชอบนิสัยบางอย่างของเธอ แต่คิดเอาเองว่าเธออ่านใจเขาได้ เธอต้องรู้สิว่าเขากำลังโกรธเรื่องอะไรอยู่ ซึ่งแน่นอนว่าเธอไม่รู้! ที่เป็นแบบนี้เพราะเขากลัวว่าถ้าพูดออกไปตรงๆ เธอจะผิดหวังและจบความสัมพันธ์เป็นการแคร์ความรู้สึกกันที่เหมือนจะดีแต่ toxic ในระยะยาวแน่นอนควรเปิดใจคุยกันตรงๆ และทำให้เขาสบายใจมากพอที่จะบอกความรู้สึกจริงออกมา จะเป็นวิธีแก้ที่ดีที่สุดค่ะ ( แต่จะทำได้ไหมนั่นเป็นอีกเรื่องนะ )

5. เขาเป็นคน ' เจ้าคิดเจ้าแค้น ' เรื่องตั้งแต่ชาติที่แล้ว ก็ขุดมาพูดตอนทะเลาะกัน

รูปภาพ:https://www.i-pic.info/i/5dcS39173.jpg

คนบางคนก็มีนิสัยเจ้าคิดเจ้าแค้นฝังอยู่ในสายเลือด แม้แต่คนรักก็ไม่เว้น จะต้องอยากเอาชนะ แม้จะเคยทำผิดพลาดกับเขาแค่หนเดียว เขาก็จะเก็บฝังไว้ในใจไม่เคยลืม หากมีเรื่องต้องทะเลาะกันขึ้นมา ความผิดของเธอหนนั้นก็จะถูกขุดขึ้นมาพูดครั้งที่ 999++

ก็งงว่าจะฟื้นฝอยหาตะเข็บไปเพื่ออะไร พอขอโทษให้จบเรื่อง ครั้งหน้าก็เอาอีก วนลูปไปเรื่อยๆ เหมือนเสพติดการได้ด่า ได้อยู่เหนือกว่า ไม่ยอมให้อภัยกันสักที //เออ จะเอายังไงบอกที!!

เมื่อความสัมพันธ์ของคู่รักผ่านไปสักระยะ ก็มนุษย์อะเนอะ มันไม่ได้มีแต่ความโรแมนติกหรอก ก็ต้องมีเรื่องดราม่า เรื่องแย่ๆ เผลอทำผิดกันบ้างเป็นธรรมดา

ตราบใดที่ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตรุนแรง เช่นนอกใจหรือทำร้ายร่างกาย เธอก็คงไม่อยากถูกรื้อฟื้นความทรงจำที่อยากลืม

รีเพลย์ตลอดเวลาเหมือนแผ่นเสียงตกร่องหรอกค่ะซิส แล้วแบบนี้ความสัมพันธ์จะก้าวต่อไปข้างหน้าได้ยังไง?

วิธีแก้ไข :

ถ้าแฟนของเธอโกรธไม่หยุด โมโหไม่เลิก ผ่านไปห้าปีสิบปีก็ยังไม่ยอมมูฟออนกับเรื่องเท่าขี้ประติ๋ว ลองถามตรงๆ ไปเลยว่า "

เรื่องมันก็นานแล้ว เธอยังโกรธเราเรื่องอื่นอีกรึเปล่า "


เพราะบางคนอาจรู้สึกว่าการขอโทษของเธอเป็นการพูดส่งๆ ไม่ได้พูดจากใจจริง หรือมีเรื่องอื่นที่เธอยังไม่เข้าใจ หากเขาอธิบายเหตุผลที่รับได้ เรื่องนี้อาจขุดขึ้นมาเป็นครั้งสุดท้าย

แต่ถ้าถามแล้วก็ไม่มีคำตอบ แค่อยากพูดให้เธอรู้สึกผิดไปเรื่อยๆ เท่านั้น ก็ลองคิดอีกรอบนะว่ายังจะอยากคบกับคน Toxic แบบนี้ต่อไปรึเปล่า

6. เขาไม่เคารพและให้เกียรติ ' พื้นที่ส่วนตัว ' ของเธอเลยสักนิด

รูปภาพ:https://www.i-pic.info/i/H4sx39172.jpg

จะพ่อแม่ พี่น้อง หรือสามีภรรยาที่แต่งงานกันแล้วก็ตาม ทุกความสัมพันธ์ต้องมีขอบเขตหรือ boundaries ระหว่างกันเสมอ นึกถึงวงกลมสองวงทับซ้อนกัน ส่วนที่ซ้อนกันคือการใช้ชีวิตคู่ และส่วนนอกเหนือจากนั้นก็คือชีวิตส่วนตัวที่เธอมีสิทธิ์จะมีไลฟ์สไตล์ การเลือกเส้นทางชีวิตต่างๆ ได้อย่างอิสระ ตราบใดที่ไม่ทำให้อีกฝ่ายเดือดร้อน

แน่นอนว่าเมื่อผูกมัดกันในทางกฎหมายแล้ว อาจจะมีเงื่อนไขบางอย่างเพิ่มขึ้นที่ไม่คล่องตัวเท่าคนโสด 100% แต่ชีวิตหลักๆ ก็ไม่ควรมีใครมาบังคับ

หากยังเป็นแค่สถานะแฟน เขาก็ก้าวล้ำเข้ามา ไม่ให้โอกาสเธอได้หายใจในทุกๆ วินาทีของความสัมพันธ์ เช่น

โทรมาตอนตีสาม, โผล่มาหน้าบ้านตอนเที่ยงคืน, มาดักรอหน้ามหาลัยหรือที่ทำงาน งอแงจะให้ไปอยู่ด้วยทั้งที่เธอบอกแล้วว่ามีนัดต่อกับเพื่อนหรือนัดกินเลี้ยงทำงาน, แอบแฮ็กพาสเวิร์ดเข้าไปดูโซเชียลส่วนตัว etc.

แบบนี้คือการ

ไม่ให้เกียรติและล้ำเส้นกันอย่างรุนแรง เป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ค่ะ

วิธีแก้ไข

:

ต้องใจแข็งเด็ดขาด หนักแน่นให้มากที่สุด กำหนดขอบเขตให้ชัดเจน ไม่ก็คือไม่!

มันอาจจะยากช่วงแรกๆ เพราะเธอก็ไม่อยากด่าหรือทำตัวร้ายกับคนเป็นแฟน ลึกๆ ก็ยังแคร์และห่วงใยอยู่ แต่ที่จริงแล้ว ยิ่งรักนี่แหละยิ่งต้องทำให้เขาเข้าใจ

เพราะถ้าปล่อยให้ล้ำเส้นไม่จบไม่สิ้น เธอเองจะเป็นฝ่ายเก็บกดทรมาน สุดท้ายรักครั้งนี้อาจจบไม่สวย ช้ำเลือดช้ำหนองกว่าที่คิดก็เป็นได้

หากอธิบายแล้วไม่เข้าใจ ไม่ทำตาม ก็คงได้เวลาเดินหน้าหาคนใหม่ที่แคร์เธอมากกว่านี้แล้วละค่ะ

7. เธอรู้สึกว่าความสัมพันธ์ครั้งนี้ ' เปราะบาง ' เหลือเกิน แตะนิดหน่อยก็พร้อมเลิก

รูปภาพ:https://www.i-pic.info/i/HnDZ39171.jpg

เวลาที่ความสัมพันธ์มันกำลังสั่นคลอน ดูออกว่ามีแนวโน้มสูงว่าจะไม่ได้ไปต่อ มันจะมีสัญญาณเตือนชัดอย่างหนึ่งก็คือ

' ไม่กล้าแสดงความรู้สึกต่ออีกฝ่ายตรงๆ อีกต่อไป '

เหมือนมีกำแพงล่องหนที่มองไม่เห็นมากั้นเอาไว้ ต้องระแวดระวังทุกอย่าง ทั้งน้ำเสียง คำพูด สีหน้าท่าทาง กลัวว่าอีกฝ่ายจะไม่พอใจ กลัวมีปัญหาต้องมาทะเลาะกันตลอดเวลา

นั่นแหละความ toxic กำลังเกิดขึ้นแล้ว

เมื่อก่อนเธออาจจะส่งมุกตลกสนุกๆ เกี่ยวกับคู่รักเลิกกัน ทะเลาะกันได้แบบขำๆ ไม่ต้องคิดอะไร เพราะความสัมพันธ์แนบแน่นอยู่แล้ว แต่ตอนนี้จะส่งอะไรให้ต้องอ่านเช็กหลายรอบ กลัวอีกฝ่ายจะตีความไม่ดีแล้วได้ทะเลาะกันแทน

นี่แหละคือความสัมพันธ์ที่สุดแสนจะไม่เฮลท์ตี้ นี่ไม่ใช่การเป็นห่วงความรู้สึกแบบปกติแล้ว และเชื่อว่าลึกๆ เธอก็เครียดและไม่รู้ว่าฟางเส้นสุดท้ายจะขาดเมื่อไหร่

วิธีแก้ไข :


ส่วนใหญ่คู่รักที่มาลงเอยในรูปแบบนี้ แสดงว่าอีกฝ่ายแสดงออกชัดเจนว่า ' ระแวง ' หรือ insecure ในความสัมพันธ์ หรืออาจมีการทะเลาะกันรุนแรงมาก่อนจนกลายเป็นแก้วที่ร้าวฉาน พยายามซ่อมยังไงก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป


สิ่งที่จะแนะนำและทำยากที่สุดคือเปิดใจคุยกันตรงๆ ว่าทำแบบนี้ต่อไปมันอึดอัดและเหนื่อย จะปรับอะไรตรงไหนได้บ้างเพื่อให้สบายใจเหมือนเดิม ถ้ายังอยากจับมือกันไปต่อจริงๆ ต่างฝ่ายก็ต้องปรับกันใหม่

แต่ถ้าเขายังปล่อยวางไม่ได้ เขาเปลี่ยนตัวเองไม่ได้ ก็ต้องเลือกแล้วว่า จะคบแบบระแวงๆ แบบนี้ทั้งชีวิต หรือหาคนใหม่ที่อยู่ด้วยแล้วสบายใจมากกว่านี้ค่ะ

รูปภาพ:https://pa1.narvii.com/6856/41e86061f4481c8e433db0c119c2dc5f8dddb648_hq.gif

--------------------------------------------

มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ทั้งความคิด ความรู้สึก พฤติกรรม หรือแม้แต่ความรักต่อคู่ของตัวเอง แค่คบกันไปเรื่อยๆ ไม่มีเรื่องดราม่า วันนึงยังเบื่อและเลิกกันได้เลย ยิ่งถ้ามีเรื่องให้ผิดใจทะเลาะกันบ่อยๆ มันก็ยิ่งเข้าใกล้จุดแตกหักได้ง่ายยิ่งขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก่อนจะเกิดผลลัพธ์ที่รุนแรง มักจะมีสัญญาณเตือนก่อนเสมอ อยู่ที่ว่าเธอจะสังเกตเห็นหรือไม่  หากเขาเริ่มหมางเมินไม่สนใจ แคร์เธอน้อยลงจนกลายเป็น Toxic Relationship เพราะเธอใส่อารมณ์กับเขา ไม่สนใจเขามาก่อนหรือเปล่า หากใช่นี่คือโอกาสกันดีที่จะได้ปรับปรุงตัวค่ะแต่ถ้ามาจากปัจจัยอื่น เช่น เขานอกใจ มีบุคคลที่ 3 ในความสัมพันธ์ หรือเขาอยากกลับไปโสดด้วยเหตุผลใดๆ ก็ตาม พยายามปรับแก้เข้าหากันแล้วก็ไปต่อไม่ได้ ก็จงอย่าลังเลที่จะมูฟออนออกมา และเริ่มต้นกับชีวิตใหม่ การรักกันเป็นเรื่องธรรมดา การเลิกกันก็เป็นเรื่องธรรมดา ไม่มีใครถูกใครผิด หากรู้ว่ารักครั้งนี้จะไม่มีวันกลับมาเฮลท์ตี้ ยื้อต่อไปต่างหากที่จะเสียเวลาและเป็นพิษกว่าเดิมนะ ยังไงก็ลองกลับไปทบทวนตัวเองให้ดีๆ ก่อนตัดสินใจนะคะ :)