ในยุคที่เศรษฐกิจไม่ค่อยสู้ดีเท่าไหร่ นอกจากรอรับเงินเดือนในแต่ละเดือนแล้ว หลายคนมักเสี่ยงโชคเพื่อหวังลุ้นรางวัลไปกับสลากกินแบ่งรัฐบาลหรือที่เรามักเรียกสั้นๆ ว่าหวยบางคนเฝ้าตามหาเลขเด็ดจากหลายสำนัก บางคนตั้งใจนอนให้ฝันเพื่อตีเป็นเลข แต่เราเคยคิดถึงโอกาสที่จะถูกรางวัลกันหรือไม่

รูปภาพ:

จากตารางพบว่า หากเราลองคำนวณโอกาสการถูกรางวัล ใน 1 งวด จะมีสลากที่มีตัวเลขแตกต่างกันทั้งสิ้น 1 ล้านฉบับ และในนั้นจะมีรางวัลที่ 1 อยู่เพียงหนึ่งรางวัล คิดเป็นโอกาสที่จะถูกอยู่ที่ 0.0001% หรือพูดง่ายๆ ก็คือ โอกาสถูก 1 ในล้าน!! หรือหากลองคำนวณหาโอกาสถูกรางวัลเลขท้าย 2 ตัว ซึ่งดูจะมีมากที่สุดถึง 10,000 รางวัล ก็ยังพบว่าโอกาสถูกมีเพียง 1% หรือคิดเป็น 1 ในร้อยนั่นเอง แม้ว่ารางวัลในแต่ละงวดจะมีมูลค่าสูงถึง 48 ล้านบาท แต่โอกาสที่จะถูกรวมทั้งสิ้นมีเพียง 1.4168% หรือหากในงวดนั้นคุณไม่ถูกรางวัลอะไรเลย และยังซื้อสลากด้วยต้นทุนที่มากกว่า 2,000 บาท นั่นแปลว่า นอกจากไม่ได้กำไรแล้ว คุณยังจะติดลบเข้าเนื้อตัวเองด้วย

และทุกครั้งที่คุณไม่ถูกหวย เงินทุนของคุณก็จะหายไป ซึ่งแตกต่างจากการลงทุน แม้อาจขาดทุน แต่การลงทุนแบบ DCA ( Dollar-Cost Averaging ) หรือลงทุนในระยะยาวแบบสม่ำเสมอก็จะช่วยลดความผันผวนของพอร์ต ทำให้เงินลงทุนของคุณจากที่ขาดทุนกลับมาเท่าทุนหรือมีกำไรได้ เรียกได้ว่าแทนที่จะสูญเงินไปเปล่าๆ คุณกลับมีเงินออมที่งอกเงยออกดอกผลไว้ใช้ในอนาคต เรามาลองคำนวณเป็นตัวเลขดังตารางด้านล่างกันค่ะ

รูปภาพ:

จะเห็นว่าหากคุณนำเงินที่ซื้อหวยเดือนละ 500 บาท ไปลงทุนใน

https://bank.kkpfg.com/th/personal-banking/investment/fund/phatra-sg-aa

ที่ให้ผลตอบแทน 5% ต่อปีโดยลงทุนทุกเดือนเป็นระยะเวลา 3 ปี คุณจะมีเงินออม 19,376.67 บาท และหากลงทุนโดยได้รับผลตอบแทนเช่นเดิมทบต้น เป็นระยะเวลา 30 ปี คุณจะมีเงินออมทั้งสิ้น 416,129.32 บาท

แต่หากคุณเป็นคนที่เสี่ยงโชคในหวยถึงเดือนละ 2,000 บาท คุณลองเปลี่ยนนำเงินดังกล่าวไปลงทุนตามตัวอย่างข้างต้น พบว่า เมื่อระยะเวลาผ่านไป 30 ปี คุณจะมีเงินออมก้อนใหญ่สูงถึง 1,664,517.27 บาท ซึ่งเงินก้อนนี้คุณสามารถเก็บออมเพื่อไว้ใช้ได้ยามเกษียณ และในความเป็นจริงเงินเดือนเราปรับขึ้นทุกปี ดังนั้น เงินออมต่อเดือนของคุณอาจจะมากกว่า 2,000 บาท และหากคุณทำแบบประเมินความเสี่ยงแล้วพบว่าสามารถรับความเสี่ยงได้ในระดับสูง คุณอาจเลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าตัวอย่างข้างต้น และเมื่อเวลาผ่านไป 30 ปี เงินออมของคุณก็จะโตขึ้นเป็นเงินก้อนใหญ่เลยทีเดียว

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ชอบเสี่ยงโชคในทุกงวด อาจลองเปลี่ยนเงินที่ใช้เสี่ยงโชคดังกล่าว มาออมในกองทุนรวมทุกๆ เดือน คุณอาจพบว่าเงินออมของคุณโตขึ้นมากกว่าการถูกรางวัลใหญ่จากหวยก็เป็นได้

อ่านคอนเทนต์ทางด้านการเงิน การลงทุนดีๆ จากผู้เชี่ยวชาญได้ที่ KKP Advice Center คลิกhttps://kkpadvicecenter.kiatnakin.co.th/th/home