1. SistaCafe
  2. ติดปีกโบยบิน ฉันต้องติดทุน! บอกต่อ 7 เคล็ดลับ " การเขียนเอกสารขอทุนเรียนต่างประเทศ " ให้โดดเด่นโดนใจกรรมการ

ใครอยากโบยบินเชิญทางนี้จ้าาา





แบบว่าช่วงนี้กระแส go to abroad

โยกย้ายเปลี่ยนประเทศกำลังมาแรงเลยทีเดียว




สำหรับการย้ายประเทศจากที่ตามไปส่องมา ก็เห็นว่าสามารถทำได้หลายทางเลยนะคะซิส

ไม่ว่าจะเป็นวีซ่าทำธุรกิจ วีซ่าแรงงาน แต่งงานกับคนในประเทศ หรือเสี่ยงดวงวีซ่าลอตโต้ก็มีเหมือนกัน

แต่ถ้าเพื่อน ๆ อยากย้ายที่อยู่ แถมเพิ่มความรู้มาพัฒนาตัวเองไปด้วยขอวีซ่านักศึกษา แล้วทำงานต่อที่ประเทศนั้น ๆ ก็เป็นอีกทางหนึ่งที่น่าสนใจ




แต่การไปเรียนต่างประเทศค่าใช้จ่ายก็สูงอยู่นะ!



สำหรับใครที่กังวลเรื่องค่าใช้จ่าย บางคนงบยังไม่ถึง

ลองขอทุนเรียนต่อก็จะประหยัดค่าใช้จ่ายเราไปอีกหน่อย

ซึ่งการขอทุนมันก็มีหลายขั้นตอนอยู่เหมือนกัน ต้องเขียนเอกสารขอทุนต่าง ๆ

เราก็เป็นคนหนึ่งที่ดู ๆ เรื่องทุนอยู่บ้างเหมือนกัน

วันนี้เลยเอา

เคล็ดลับเขียนเรียงความขอทุน ให้โดดเด่นโดนใจกรรมการ

ที่เราไปเจอมาฝากเพื่อน ๆ กันด้วย จะเป็นยังไงลองตามไปดูกันเลยค่า







เขียนให้กระชับได้ใจความ


ในการขอทุนคงไม่ได้ทีแค่เราเท่านั้นที่เลือกสาขาวิชาหรือคณะนี้อยู่

คณะกรรมการที่รับคัดเลือกเขาคงต้องอ่านเอกสารขอทุนเป็นร้อย ๆ ฉบับ และคงไม่ได้มีเวลามากมานั่งพิจารณาแต่ละฉบับนาน ๆ เพราะฉะนั้นควรเลี่ยงการเขียนยืดยาว

เกริ่นแต่น้ำไม่มีเนื้อ อะไรแบบนี้เสี่ยงต่อการโดนปัดตกได้ง่ายค่ะ

ทางที่ดีควรเขียนให้กระชับได้ใจความ ตรงประเด็นบอกให้ชัดถึงเป้าหมายของเรา จากที่ไปส่องมาเขาบอกว่าความยาวประมาณ 500 คำพอดีที่สุดค่า





ไม่จำเป็นต้องใช้ศัพท์ยากมากมาย


สำหรับเพื่อน ๆ ที่กำลังคิดว่าควรใช้ศัพท์ระดับสูงหรือศัพท์ยาก ๆ ดีมั้ยในการเขียนขอทุน

จากที่เราดูมาหลายที่เขาแนะนำว่าไม่จำเป็นนะคะ เพราะบางทีถ้าศัพท์ยากเกินไป เราไม่คุ้นชินอาจจะทำให้ประโยคดูแปลก ๆ ผิดแกรมม่าได้ง่าย

คนอ่านก็อาจจะต้องตีความหลายชั้นด้วย

การใช้ศัพท์ที่เราคุ้นเคยและสื่อสารให้ตรงประเด็นเลยเป็นทางเลือกที่ดีกว่าในการเขียนขอทุนค่า





เขียนให้ดูเป็นรูปธรรม จับต้องได้


คำแนะนำการเขียนขอทุนหลายที่เลยนะคะ ที่เขาเน้นเรื่องการเขียนให้ดูเป็นนามธรรมจับต้องได้ ตอนแรกก็ยังไม่ค่อยเข้าใจว่าเขียนให้นามธรรมหมายความยังไง แต่สรุปเอาเองได้ว่า

ไม่ควรเขียนอะไรที่มันดูลอย ๆ ควรเขียนให้ดูเป็นเหตุเป็นผล มีเหตุผลมา support สิ่งที่เราจะเล่าเพื่อให้ประโยคดูมีน้ำหนักมาขึ้น

อย่างเช่น เราอธิบายว่าเราเลือกเรียนสาขานี้หรือคณะนี้ เพราะชอบวิชานี้ หรือสาขานี้น่าสนใจ อาจจะยังไม่พอเราควรจะบอกด้วยว่าชอบเพราะอะไร

สาขานี้น่าสนใจยังไง ส่งผลยังไงกับเรา

ประมาณนี้ค่า





เขียนอวยมหาลัย/คณะมากเกินไป เป็นความคิดที่ผิด


และถ้าเกิดเพื่อน ๆ กำลังคิดว่าขอทุนจากเขา งั้นขออวยหนัก ๆ ไว้ก่อนแล้วกัน ใจเย็นก่อนเพื่อน ๆ

การอวยมหาลัยเขาอาจจะทำให้เราตุ้บทุนก็ได้นะคะ ที่มันเป็นอย่างนั้นก็เพราะว่าเราอาจจะหลงประเด็นในการเขียน

เพราะการที่ทางมหาวิทยาลัยให้เราเขียนขอทุน ก็เพื่ออยากทำความรู้จักเราให้มากขึ้น



อยากรู้ทัศนคติ เป้าหมาย หรือการแก้ปัญหาของเรามากกว่า

และไม่ใช่ว่าเราอวยไม่ได้เลยนะ แต่เราต้องอวยอย่างถูกจุดค่ะ

อย่างเช่นเลือกสาขานี้ เพราะมีความรู้น่าสนใจสามารถทำไปต่อยอด พัฒนาตัวเองได้ยังไงบ้าง มีบางวิชาที่แตกต่างจากมหาวิทยาลัยอื่น ให้เขารู้ว่าทำไมเราถึงเลือกมหาวิทยาลัยเขาอะไรประมาณนี้

น่าจะโดนใจคณะกรรมการอยู่บ้างค่า





ไม่ควรเชื่อมโยงข้อมูลจากเรียงความแต่ละส่วน


สำหรับเรียงความขอทุน

ส่วนใหญ่น่าจะมีอยู่ประมาณ 3 ส่วน อย่าง Study Plan, Statement of Purpose และ Motivation Letter

ถึงเนื้อหาของเรียงความจะมีความใกล้ ๆ กันอยู่หน่อย ๆ

แต่ไม่ควรคัดลอกหรือเขียนเนื้อหาให้เชื่อมกันเด็ดขาดนะคะ

อย่างแรกเลยถ้าเรา copy บางส่วนจากส่วนใดส่วนหนึ่งมาทั้งดุ้น หรือเขียนเหมือน ๆ กันตัดบางประโยค อาจจะดูรีบ ๆ ไม่ได้ใส่ใจเท่าที่ควร




กรรมการอาจจะไม่ได้เห็นความตั้งใจของเราชัด

และกรรมการคัดเลือกมีหลายคน เขาไม่ได้อ่านเรียงลำดับเหมือนที่เราเขียนไป ถ้าเราเชื่อมโยงประมาณว่าเหมือนที่ได้กล่าวไปใน Statement of Purpose กรรมการอาจจะไม่เข้าใจสิ่งที่เราจะสื่อได้

ครบถ้วน เพราะฉะนั้นลองเรียบเรียงใหม่ในแต่ละส่วน แสดงให้เขาเห็นถึงความใส่ใจและความตั้งใจในการเรียนของเราค่ะ





เขียนแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจ จุดมุ่งหมายของเราต้องชัด


อย่างที่ได้บอกไปว่าเรียงความขอทุน

มหาวิทยาลัยเขาต้องการจะเห็นว่าทัศนคติเราเป็นยังไง จุดหมายของเราไปทางไหน มีเหตุผลเพียงพอที่เขาจะสนับสนุนมั้ย

ความ

ตั้งใจเลยเป็นอีกหนึ่งเรื่องสำคัญ ที่ทำให้กรรมการมั่นใจว่าเราจะนำความรู้ที่เรียนมาสามารถพัฒนาตัวเองให้มีความรู้และเก่งขึ้นได้

ลองทำให้เขาเห็นภาพขัด ๆ ว่าเราจะสามารถต่อยอดความรู้ที่ได้รับมาได้ยังไง

อย่างเช่น Paln อีก 5 ปีข้างหน้า เราทำอะไรต่อ นำความรู้ที่ได้มาสร้างอาชีพของเรายังไง

ทำให้เขารู้ว่าเราสามารถใช้ทุนของเขาได้อย่างคุ้มค่าประมาณนั้นค่า






ตรวจทานให้ดีก่อนส่ง


หลังจากเขียนจนเสร็จหมดแล้ว ลองพักและหาสิ่งที่น่าสนใจอื่น ๆ ทำก่อน

แล้วค่อยกลับมาตรวจทานดูอีกครั้ง เผื่ออาจจะเจอข้อผิดพลาด หรือมีประเด็นตกหล่นที่ลืมเขียนไป มีรูปประโยคไหนที่ดูแปลก ๆ ไปมั้ย

ลองเอาเรียงความไปตรวจทานอีกรอบในเว็บเช็กแกรมม่าดูก่อนได้ ที่เราใช้บ่อย ๆ คือonline correction

สามารถตรงดูแกรมม่า ตรวจคำผิดได้ด้วย แถมยังมีอธิบายให้ด้วยว่ารูปประโยคนี้ผิดหลักแกรมม่าตรงไหน

ยังไงก็เอาให้เป๊ะ ให้มั่นใจชัวร์ ๆ แล้วก็กดส่งได้เลยค่ะซิสส








และนี่ก็เป็น

เคล็ดลับการเขียนเอกสารขอทุนเรียนต่อต่างประเทศ

พอกรุบกริบที่เราเอามาฝากเพื่อน ๆ ในบทความนี้ค่า

หวังว่าน่าจะพอช่วยเพื่อน ๆ ในการเขียนเอกสารขอทุนได้บ้างนะคะเราเชื่อว่าถ้าเรามุ่งมั่น แสดงให้เห็นว่าเรามีจุดมุ่งหมาย และตั้งใจในการเรียนครั้งนี้จริงๆ คงน่าจะมีแววเข้าตากรรมกาาอยู่บ้างแหละ

ยังไงก็ขอเอาใจช่วยซิสทุกคนเลยนะคะ รวมถึงตัวเราเองด้วย 5555

ว่าแล้วขอตัวไปร่างเรียงความของตัวเองบ้างแล้วจ้า แล้วเจอกันใหม่บทความหน้าค่า บ๊ายบาย



เว็ปไซต์นี้ใช้คุกกี้

SistaCafe ให้ความสำคัญต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้โดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ แสดงว่าท่านยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา และ นโยบายการใช้คุกกี้

🔮 ดูดวงกับ SistaCafe ผ่าน Line Official !
รูปภาพสำหรับป๊อปอัพลอย:1