พอถึงวันหยุดใคร ๆ ก็อยากไปเที่ยว แต่พอไปเที่ยวแล้วกลับมาหน้าหมองคล้ำดำแดด หน้าไหม้แดด หน้าแพ้แดดแบบนี้ก็ไม่ไหว สำหรับใครที่อยากไปเที่ยวแต่กลัวหน้าพังห้ามพลาด“ วิธีปกป้องผิวจากแสงแดด ”ซึ่งจะสามารถทำได้ยังไงบ้างนั้น เราจะพาทุกคนไปดูกัน!
ไปเที่ยวไม่กลัวดำ ปกป้องผิวด้วยครีมกันแดด
ทุกคนคงรู้กันดีอยู่แล้วว่าประเทศไทยนั้นแดดแรง แดดร้อนยิ่งกว่าไฟนรก เวลาที่ผิวกายของเราโดนแดดแรง ๆ ยังเกิดอาการไหม้แดดได้ นับประสาอะไรกับผิวหน้าที่บอบบาง ไปเที่ยวทั้งทีอย่าลืมเตรียมผิวหน้าให้พร้อมรับมือกับแสงแดดด้วยการทาครีมกันแดดหน้าเป็นประจำ เพื่อปกป้องผิวหน้าจากแสงแดด ไม่ทำให้เกิดปัญหาผิวหน้าหมองคล้ำ หน้าไหม้แดด และที่สำคัญทุกคนควรหลีกเลี่ยงการกระทำเหล่านี้ ถ้าไม่อยากมีผิวหน้าหมองคล้ำดำแดด อย่าทำสิ่งเหล่านี้เป็นอันขาด
ระวัง! “ หน้าไหม้แดด ” หากทำสิ่งเหล่านี้
•ไม่ทาครีมกันแดดหน้าถ้าคุณไม่ทาครีมกันแดดเลยจะยิ่งทำให้คุณ หน้าไหม้ได้ง่ายเพราะแสงแดดจะทำลายความชุ่มชื้นบนผิวของคุณ ทำให้เกิดริ้วรอยและการเหี่ยวย่นได้ง่าย แถมยังทำให้หน้าไหม้ หน้าลอก และเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งผิวหนังอีกด้วย
•สัมผัสแสงแดดโดยตรงการสัมผัสแสงแดดโดยตรง ถึงแม้ว่าคุณจะทาครีมกันแดดแล้วแต่ก็ใช่ว่าครีมกันแดดจะกันได้ 100% ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงแสงแดดด้วยการสวมใส่เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว และสวมหมวกปีกกว้างจะดีที่สุด
•ไม่ทาครีมกันแดดซ้ำถ้าหากว่าคุณจำเป็นต้องออกแดดเป็นเวลานาน ควรจะพกครีมกันแดดติดตัวและทาซ้ำทุก ๆ 2 ชั่วโมง เพื่อทำให้ครีมกันแดดทำงานอย่างต่อเนื่อง เพราะถ้าหากคุณไม่ได้ทาครีมกันแดดซ้ำจะส่งผลให้ ผิวหน้าหมองคล้ำ ดำแดด หน้าไหม้แดดได้ง่ายนั่นเอง
สำหรับใครที่ไปเที่ยวแล้วหน้าไหม้แดดกลับมา เพราะไม่ได้เตรียมตัวไปอาจเกิดความสงสัยว่า ผิวไหม้แดดใช้ครีมอะไรดี หรือ ผิวไหม้แดดกี่วันหาย บอกเลยว่าไม่ต้องเป็นกังวลไปเพราะผิวไหม้แดดได้ ก็สามารถทำให้ผิวหน้ากลับมาผิวขาวกระจ่างใส สีผิวสม่ำเสมอได้เช่นเดียวกัน เพียงแต่ต้องใช้เวลานานสักหน่อยเพื่อฟื้นฟูผิวหน้าหมองคล้ำ หน้าไหม้แดด หรือหน้าแพ้แดดให้กลับมาเป็นปกติวิธีฟื้นฟูผิวหน้าไหม้แดดจะสามารถทำได้ยังไงบ้างนั้น เราไปดูกันเลยดีกว่า
วิธีฟื้นฟูผิวหน้าไหม้แดด
1.ปรับอุณหภูมิผิวหลังโดนแดดทันทีหลังจากโดนแดดต้องปรับอุณหภูมิผิวหน้าให้กลับมาเป็นปกติ โดยใช้ผ้าเย็นหรือผ้าที่แช่เย็นเช็ดหน้า ทำแบบนี้ซ้ำไปเรื่อย ๆ ให้ผิวหน้าของคุณคลายความร้อนออกมาจนหมด
2.เติมความชุ่มชื้นให้กับผิวหลังจากปรับอุณหภูมิผิวหน้าเสร็จแล้ว การฟื้นฟูผิวหน้าไหม้แดดควรเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวในทันทีด้วยการใช้เอสเซนส์บำรุงผิวหรือน้ำตบ ในการเติมความชุ่มชื้นให้กับผิว ปลอบประโลมผิวไม่ให้เกิดอาการแพ้ แสบแดง ให้ผิวไม่แห้งและระคายเคืองมากกว่าเดิมนั่นเอง
3.งดใช้เครื่องสำอางหลังจากที่คุณมีผิวหน้าไหม้แดด ต้องงดการใช้เครื่องสำอางและสิ่งต่าง ๆ ที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองผิวหน้าในทันที ไม่ว่าจะเป็น น้ำหอม แอลกอฮอล์ เป็นต้น
4.บำรุงผิวด้วยสกินแคร์หลังจากที่อาการแพ้แดด ผิวไหม้แดด หรืออาการแสบคัน รวมถึงผิวลอกเป็นขุยมีอาการที่ดีขึ้นแล้ว แนะนำให้ใช้สกินแคร์ที่เติมความชุ่มชื้นให้กับผิวได้อย่างดี อาทิเช่น เอสเซนส์ น้ำตบ เซรั่ม มอยส์เจอไรเซอร์ เป็นต้น เพื่อให้ผิวหน้าของคุณฟื้นฟูได้เร็วขึ้นนั่นเอง
5.ใช้ครีมกันแดดหน้าเป็นประจำไม่ว่าคุณจะออกไปที่ไหนก็ต้องใช้ครีมกันแดดหน้าเป็นประจำ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาหน้าหมองคล้ำ ผิวไหม้แดด หน้าไหม้แดด หรือปัญหาผิวที่เกิดจากแสงแดดมากวนใจอีกนั่นเอง
สำหรับใครที่อยากไปเที่ยวควรเตรียมครีมกันแดดหน้าที่ดีที่สามารถปกป้องผิวหน้าของคุณจากแสงแดดและมลภาวะ รวมถึงฝุ่นละอองเล็ก ๆ อย่าง PM 2.5 ได้เป็นอย่างดี และที่สำคัญควรจะมีคุณสมบัติที่มากกว่าการกันแดด คือต้องสามารถกันรังสี NIR ซึ่งเป็นรังสีระยะใกล้ได้อีกด้วย และคุณสมบัติทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้นนี้มีอยู่ในครีมกันแดดของ
AquaPlus Multi-Protection Sunscreen SPF 50+, PA++++
แถมยังมีคุณสมบัติที่ช่วยควบคุมความมัน กันน้ำ กันเหงื่อ เหมาะสำหรับคนที่มีผิวแพ้ง่าย ผิวมัน หรือคนที่เป็นสิวง่ายมาก ๆ อีกด้วย ขนาดเล็กกระทัดรัดเหมาะแก่การพกพาไปไหนมาไหนเป็นที่สุด
ถ้าทุกคนอยากไปเที่ยวอย่างสนุกและหมดห่วงเรื่องปัญหาผิวไหม้แดดหรือผิวแพ้แดด แนะนำให้พกครีมกันแดดติดตัวตลอดเวลาเพื่อให้ง่ายต่อการทาซ้ำ และลดความเสี่ยงที่ทำให้เกิดหน้าหมองคล้ำ ฝ้ากระ จุดด่างดำ หรือปัญหาผิวตามมา และที่สำคัญที่สุดอย่าลืมหลีกเลี่ยงแสงแดดด้วยการสวมเสื้อแขนยาวและกางเกงขายาว ร่วมไปกับการทาครีมกันแดดเพื่อปกป้องผิวของคุณจากแสงแดดเป็นประจำ เพียงเท่านี้คุณก็สามารถไปเที่ยวได้อย่างมั่นใจไม่กลัวแดดได้แล้ว