สวัสดีค้าบบบบ วันนี้ว่างๆ เลยถือโอกาสจัดโต๊ะเครื่องแป้งใหม่ และก็ได้ไปเจอกับกรุยาแต้มสิวที่เราเคยใช้ เลยขอถือโอกาสนี้มารีวิว 5 ยาแต้มสิวตัวดัง ที่ทุกคนน่าจะเคยผ่านหูผ่านตากันมาบ้างแล้ว แต่ตัวไหนจะดี ตัวไหนจะพัง วันนี้เราจะมาเปรียบเทียบให้ดูว่าแต่ละตัวมันเป็นยังไง มีข้อดีข้อเสียยังไงกันบ้าง

* ทุกตัวที่เรารีวิวก็จะเป็นตัวที่เราใช้มาหมดแล้วนะ เดี๋ยวจะหาว่าจกตา *

รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:

ก่อนอื่น เราต้องขอบอกว่าตัวเราเองเป็นคนผิวผสม และผิวค่อนข้างแพ้ง่ายมาก เรียกได้ว่าถ้าใช้อะไรที่ไม่ถูกจริตกับผิวหน้าเราแล้วละก็แพ้แน่นอนเลยยย ปกติจะเป็นคนผิวมันช่วง T-Zone ทำให้สิวจะชอบขึ้นที่หน้าผาก จมูก และคางเป็นส่วนใหญ่ ที่แก้มจะขึ้นบ้างในช่วงที่เครียดๆ นอนน้อย

สำหรับวันนี้ เราจะมาดูกันว่า 5 ยาแต้มสิวที่เรามีนั้น จะตรงตามคำเคลมของแบรนด์มั้ย เนื้อสัมผัสเป็นยังไง ราคาเท่าไหร่ ประสิทธิภาพดีมั้ย ถ้าพร้อมแล้วไปเริ่มกันเล้ยยยย

ตัวแรก Mizumi Peptide Acne Gel

(ขนาด 9 กรัม / ราคา 229 บาท)

ตัวแรก Mizumi Peptide Acne Gel

รูปภาพ:

( ขนาด 9 กรัม / ราคา 2xx บาท )

รูปภาพ:รูปภาพ:

จำได้ว่าเหตุผลที่ซื้อน้องคนนี้มาใช้เพราะเราชอบโฟมล้างหน้าของนางมาก ก็เลยคิดว่าตัวเจลแต้มสิวของเขาน่าจะทำออกมาดีเหมือนกัน โดยทางแบรนด์ได้เคลมไว้ว่า


1.    เจลแต้มสิวเปปไทด์ สูตรเร่งด่วน แรงและเร็ว! สามารถลดอาการอักเสบของสิวภายใน 24 ชั่วโมง อ่อนโยน ไม่ทำร้ายผิว

2.    ต่อต้านเชื้อแบคทีเรียสิว ช่วยยับยั้งการเติบโตของ P.Acne และการผลิตน้ำมันจากต่อมไขมัน


เนื้อสัมผัสของเค้าทำออกมาได้ดีเลยครับ ลักษณะเป็นเจลใสๆ เกลี่ยง่าย ซึมไวในระดับหนึ่ง สามารถลงกันแดดหรือสกินแคร์ตัวอื่นๆ ทับได้โดยที่ไม่เป็นคราบ


สำหรับผลการใช้เราก็ชอบนะครับ ตอนนั้นจำได้ว่าเป็นสิวอักเสบ เราทาตัวนี้เช้า-ก่อนนอน วันละ 2 ครั้ง ประมาณไม่กี่วันก็ยุบแล้ว พอสิวยุบก็ทิ้งรอยไว้นิดหน่อย ไม่ได้ชัดเจนมาก และจากเท่าที่อ่านมา ตัวนี้เค้ามีใส่ Niacinamide ซึ่งก็คือ B3 มาให้ด้วย ช่วยเรื่องความกระจ่างใส แต่จริงๆ เราว่าไม่ค่อยเห็นผลนะ เพราะจริงๆ B3 เนี่ย เราว่าต้องใช้ติดต่อกันเป็นเดือนๆ ถึงจะเห็นผล แต่ความที่เป็นเจลแต้มสิว เราใช้ในระยะสั้นๆ  เลยไม่รู้ว่าจริงๆ เค้าใส่มาเพื่ออะไร 555 เอาเป็นว่าโดยรวมเราให้ 8/10 สำหรับตัวนี้ แอบไม่ตรงตามคำเคลมเท่าไหร่ว่าสิวยุบภายใน 24 ชั่วโมง แต่ของเราใช้เวลา 3-4 วัน ( แต่เอาจริงๆ แอบคิดว่า 24 ชั่วโมงของเค้าหมายถึงพวกสิวเม็ดเล็กๆ รึป่าวนะ )

ตัวที่สอง Tomei Anti-acne Cream Plus

( ขนาด 5 กรัม / ราคา 2xx บาท )

รูปภาพ:

ตัวนี้โดนตกมาจากหลายๆ คลิปรีวิวในยูทูป ต้านกระแสไม่ไหว เลยจัดมาสักหนึ่งหลอด ตัวนี้เขาเคลมว่าช่วยดูแลปัญหาผิวได้ถึง 7 ประการ คือ


1.    ลดการอักเสบของสิว

2.    ลดความมันบนใบหน้า

3.    ลดรอยแผลเป็นของสิวและบำรุงให้ผิวกระจ่างใส


เนื้อสัมผัสของเค้าเป็นเนื้อครีม ส่วนตัวคิดว่าหนักไปหน่อย มีกลิ่นหอมอ่อนๆ จนบางทีแทบไม่ได้กลิ่น 555 ถึงเนื้อครีมจะหนัก แต่เกลี่ยง่าย ซึมไว ทาแล้วไม่ได้รู้สึกเหนียวเหนอะ โดยรวมแล้วโอเคอยู่


สำหรับผลการใช้ตัวนี้ไม่รู้ว่าเราใช้ถูกไหม เพราะเราใช้แล้วสิวยุบช้ามากกกกกกกก บางเม็ดแทบไม่ยุบเลย แบบทาไปงั้นๆ ไม่ได้เกิดผลอันใดขึ้น ส่วนเม็ดที่ยุบก็ใช้เวลาประมาณอาทิตย์นึงถึงจะดีขึ้น แต่ส่วนที่ชอบของตัวนี้คือรู้สึกว่าเวลาสิวยุบแล้วไม่ค่อยทิ้งรอยดี คือแทบไม่เหลือรอยให้เห็น ( แต่อันนี้แล้วแต่สภาพผิวของแต่ละคนด้วยนะ ) ว่าตัวนี้เราให้ 6/10 แล้วกัน เพราะใช้แล้วเห็นผลบ้าง ไม่เห็นผลบ้าง งง

ตัวที่สาม Smooth E Acne Hydrogel Plus

( ขนาด 10 กรัม / ราคา 2xx บาท )

รูปภาพ:

ตัวนี้ทุกคนน่าจะรู้จักกันดี เพราะค่อนข้างดังพอสมควร ตัวนี้เหมือนจะเป็นสูตรใหม่นะ เพราะเคยใช้อีกตัวที่เป็นหลอดสีขาวอยู่แล้ว ก็เลยจัดมาลองสักหน่อย โดยตัวนี้เขาเคลมว่า


1.    ช่วยทำให้สิวอักเสบยุบตัวเร็ว

2.    สามารถช่วยลดรอยแดงของสิวได้ โดยไม่เกิดรอยดำภายหลัง


ตัวนี้เนื้อสัมผัสของเป็นเจลใส เนื้อเจลรู้สึกว่าแอบหนักอยู่นิดหน่อย แต่เกลี่ยง่าย และซึมไวมากกกกกก แบบปาดทีเดียวหายไปเลย 5555 แต่ แต่ แต่! ตัวนี้ชอบทิ้งคราบขาวเป็นวงๆ ไว้ในบริเวณที่ทา ( เป็นตั้งแต่ตัวเก่าที่เคยใช้ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน ) พอเอามือถูๆ ออก ก็คือลอกออกมาเป็นขุยเลย บางทีก็งงว่ามันซึมเข้าไปรักษาสิวของเราจริงมั้ยนะ 5555


สำหรับผลลัพธ์เราว่าโอเคกว่าที่คิดไว้ คือด้วยความที่เนื้อเจลมันเราไม่ค่อยโอเค เราเลยทาเฉพาะแค่ตอนกลางคืน มีคันยิบๆ ตรงที่ทาบ้าง แล้วสิวคือยุบจริง 1-2 วันคือดีขึ้นมากๆ ตรงตามคำเคลม แล้วส่วนตัวพอใช้ไปสักระยะ เหมือนมันดื้อยา คือถ้าเราหยุดใช้ไปนานๆ แล้วกลับมาใช้ใหม่มันจะดี แต่ถ้าใช้ต่อเนื่องต่อกันนานๆ หลังๆ มันจะไม่ค่อยเห็นผล 5555 คือลองผิดลองถูกกับตัวนี้มานานมาก เอาเป็นว่าเราให้ 7/10 เรื่องสิวหายทำได้ดี ยุบเร็ว แต่ติดเรื่องเนื้อเจลที่เราว่ามันยังไม่ใช่

ตัวที่สี่ Peurri Anti-Acne Gel

( ขนาด 8 กรัม / ราคา 2xx บาท )

รูปภาพ:

อีกตัวที่ไม่มีไม่ได้สำหรับคนเป็นสิว ตัวนี้โดนป้ายยามากจากเพื่อนๆ เยอะมาก แบบคนรอบตัวใช้กัน จนสุดท้ายต้องซื้อมาลองเอง5555 ตัวนี้ทางแบรนด์เคลมไว้ว่า


1.    จัดการดูแลสิวได้ทุกประเภท สิวยุบภายใน 24 ชั่วโมง

2.    ดูแลกระบวนการของสิวตั้งแต่เริ่มต้น ลดการอักเสบ และลดรอยสิว

3.    ผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยนและเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว

4.    มีส่วนผสมของ Dragon’s Blood ที่ช่วยลดการเกิดรอยดำ รอยแดง


ตัวนี้เนื้อสัมผัสเป็นเจล สีออกน้ำตาลๆ ซึมไว ไม่เป็นคราบ สามารถใช้ร่วมกับสกินแคร์ตัวอื่นๆ ได้เลยครับ ข้อเสียสำหรับผมคือกลิ่นทีทรีแรงไปหน่อย บางทีก็แสบจมูก แต่โดยรวมถือว่าโอเค ใช้บ่อยๆ เดี๋ยวก็ชินครับ


สำหรับผลลัพธ์ ส่วนตัวผมชอบตัวนี้นะ ช่วงไหนที่สิวบุกเยอะๆ ตัวนี้คือเอาอยู่ ใช้แต้มไปเลยเช้า - ก่อนนอน ถ้าไม่ได้เป็นสิวแบบหนักๆ เม็ดใหญ่ๆ ตัวนี้คืนเดียวคือรู้เรื่องเลย แต่ถ้าเป็นสิวอักเสบแบบจับแล้วเจ็บๆ พอแต้มตัวนี้ไปอาการเจ็บๆ ก็ดีขึ้นเลย และหลังจากนั้น 2-3 วันสิวก็ยุบนะ เราเคยใช้กับทั้งสิวอักเสบ สิวอุดตัน คือเห็นผลทั้งคู่ ยิ่งถ้าเป็นสิวที่มีหัวแล้ว บางเม็ดคือหัวสิวแห้ง เอานิ้วสะกิดหลุดได้เลยครับ ส่วนตอนที่สิวยุบแล้วก็ดีเลยครับ ไม่ค่อยทิ้งรอยเท่าไหร่ อาจจะมีรอยจางๆ บ้างนิดหน่อย ส่วนตัวเราให้ 9/10 เพราะตรงตามคำเคลม แต่หักคะแนนเรื่องกลิ่นนิดนึง

ตัวสุดท้าย Mentholatum Acnes Sealing Jell

( ขนาด 18 กรัม / ราคา 1xx บาท )

รูปภาพ:



ตัวนี้ซื้อมาลองใช้จากทวิตเตอร์ เขาบอกว่าใช้ดีคุ้มราคามาก ก็เลยลองสักหนึ่ง แต่จริงๆ ส่วนตัวไม่เคยเห็นยี่ห้อนี้เลยนะ นี่กดสั่งมาจากออนไลน์เหมือนกัน 555 ตัวนี้เขาเคลมไว้ว่า


1.    ใช้ได้กับสิวทุกประเภท และช่วยลดสาเหตุการเกิดสิว

2.    ช่วยลดรอยสิวและปัญหาสิวทิ้งรอย


เนื้อสัมผัสตัวนี้เป็นเจลขุ่นๆ เนื้อมีความเหนียว เกลี่ยไม่ค่อยไปในบางที ต้องรอสักพักถึงจะซึมเข้าผิว กลิ่นจะออกแบบสมุนไพรๆ หน่อย เราว่าหอมสดชื่นดี แต่เคยถามเพื่อบางคนคือหันหน้าหนีเลยนะ 555


ตัวนี้เรียกได้ว่าคุ้มราคาเพราะถูกกว่าตัวอื่นเยอะ 5555 แต่ก็ใช้เวลาสักระยะเลยครับกว่าสิวจะยุบ เท่าที่ลองใช้มาเองก็ประมาณอาทิตย์นึงได้ เห็นผลค่อนข้างช้ากว่าตัวอื่นพอสมควร แต่ถ้าใครอยากประหยัดงบ + ไม่รีบ ตัวนี้ถือว่าโอเคเลยนะ ถ้าสิวไม่ได้หนักมากคือได้ แต่ถ้าเป็นสิวหนักๆ หรือมีสิวอักเสบเยอะ เราว่าไม่ค่อยเวิร์กเท่าไหร่ และอีกอย่างตัวนี้ไม่เหมาะกับคนผิวแพ้ง่ายนะ เพราะกลิ่นน้ำหอมค่อนข้างชัด ตัวนี้เราให้ 7/10 เพราะคุ้มราคา เซฟเงินไปได้เยอะ แต่ใช้กับสิวอักเสบไม่ได้ผลเท่าไหร่ครับ


สุดท้ายถ้าเพื่อนๆ ขี้เกียจอ่าน เราได้ทำตารางสรุปความคิดเห็นของเราไว้ให้แล้ว ลองดูกันนะครับ 55

รูปภาพ: