กฏ 7 ข้อ !! รู้แล้ว 'กอด' ได้ ไม่มีแป้ก!!
เอะอะจะกอดพร่ำเพรื่อไม่ได้นะ มาอ่าน 7 ข้อนี้ก่อนดีกว่า!!
เผยแพร่: 19 เม.ย. 2559 11:15 น.
Views: 44,557
รหัสบทความ: 8642
ในชีวิตเราจะเจอคนหลากหลายประเภท มีทั้งเย็นชา เฟรนด์ลี่ บ้าบอ เรียบร้อย คุณหนู คุณชาย โอย สารพัดสารเพ และมีหลายเหตุการณ์ที่ต้องเจอกัน พูดคุย ทักทาย หรือถ้าเป็นคนที่เราแอบชอบ ก็อยากจะสัมผัสบ้างอะไรบ้าง ฮี่ๆ อย่างจับมือเงี้ย
ถ้ากอดได้ก็ยิ่งดีเลย!!
แต่มันจะง่ายอะไรแบบนั้นเร้อ... จู่ๆ จะกอดเลยก็ดูน่ากลัว แต่ไม่แน่เขาอาจจะอยากกอดแต่ก็ไม่กล้าก็ได้นะ เอ้า!แล้วเอาไงทีนี้ จะกอดหรือไม่กอดดีเนี้ยยย
อาห์... ก่อนจะปวดหัวไปกว่านี้ เรามาไขข้อข้องใจถึงวิธีการที่จะทำให้เราตัดสินใจได้ ว่าจะกอดดีมั้ย ด้วย
" กฎการกอด 7 ข้อ ที่ต้องรู้ "
กันดีกว่าค่ะ บอกเลยว่า ใช้ได้กับทั้งคนที่ปิ๊ง และคนอื่นๆ ที่ต้องเจอด้วยนะ!
ดูสัญญาณจากท่าทางของคนที่จะกอดก่อน
บางคนก็เป็นคนชอบกอด กอดได้แบบไม่คิดอะไร แต่ทุกคนก็ใช่ว่าจะเป็นแบบนี้หมด จะให้ดีควรดูท่าทางของคนที่เราจะกอดว่าเขาเป็นยังไง ถ้าหากว่าเขาคนนั้นยืนตัวตรงเด๊ะ ตรงข้ามคุณ โดยไม่มีทีท่าว่าจะโน้มมาหาคุณแม้แต่น้อย ก็ให้ Cancel ไปดีกว่านะจ๊ะ เดี๋ยวแป้ก
ดูให้ดีว่าใครชอบ/ไม่ชอบให้กอด
จากการศึกษาในเรื่องของการสัมผัสเพศตรงข้าม [ Miller et al. (2014) ] พบว่าผู้หญิงที่ไม่ได้ชอบเพศตรงข้าม มักจะไม่อยากให้ผู้ชายกอด และนอกจากนี้อายุ วัฒนธรรมก็มีผลด้วย ถ้าใครมาจากมาจากสภาพแวดล้อมที่เคร่งเรื่องประเพณี ก็อาจจะเขินอายที่จะกอด แล้วถ้าเราจะไปกอดเขาก็จะรู้สึกไม่อยากเท่าไหร่ ถ้าขืนไปฝืนทำเดี๋ยวจะเฟล ก็..เป็น...ได้....
หาวิธีการกอดให้เหมาะกับแต่ละคน
จากทีมวิจัยในยุโรป ที่นำโดย Isac Sehlstedt (2016) พบว่า ผู้ใหญ่จะมีเกณฑ์ให้กอด ให้สัมผัสได้ง่ายกว่าคนที่อายุน้อยๆ แต่ส่วนใหญ่จะชอบการกอดแบบนุ่มนวล อบอุ่นมากกว่า เพราะฉะนั้นถ้าเป้าหมาย
( เรียกซะน่ากลัว ) เป็นคนที่อายุมากกว่า เป็นผู้ใหญ่แล้ว ก็มีโอกาสที่เรากอดแล้วเขาจะชอบ มากกว่าคนที่อ่อนลงมา แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ผู้ใหญ่ทุกคนจะชอบให้กอด แล้ววัยรุ่นจะไม่ชอบนะ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับวัฒนธรรมเขาอีกนั่นแหละ
ดูสถานการณ์
อย่างเช่นในงานแสดงความยินดี โอกาสดีเลย ที่จะได้แตะอั๋ง เอ้ย!แสดงความยินดี!! เพราะงานแบบนี้จะมีคนมากมาย เราก็อาจสังเกตการณ์ไปว่าคนก่อนหน้าเราทำยังไง พูดเฉยๆ หรือกอดด้วย ( ใคร!? ) แต่ถ้าคุณเป็นคนแรกที่ต้องเป็นคนนำ หรือไม่มีใครให้สังเกตก่อนหน้า ก็ทำตาม กฏข้อที่ 1 โลดค่ะ
ถ้าเป็นที่ทำงาน ให้ระวังเป็นพิเศษ
อาจจะไม่ใช่ที่ทำงาน แต่เป็นที่โรงเรียน ยังไงก็ตามสถานที่พวกนี้ล้วนต้องระวังตัว อย่ากอดพร่ำเพรื่อเด็ดขาด เพราะอาจถูกมองว่าไม่เหมาะสม โดยเฉพาะว่าถ้าเป็นต่างเพศ ถ้าเป็นที่โรงเรียนได้โดนเรียกเข้าห้องปกครองแน่ๆ เธอเอ๋ย แต่ถ้าเป็นที่ทำงาน แล้วเราไปกอดเพื่อนร่วมงานเข้า ก็จะถูกเพ่งเล็ง หรือถ้าหนุ่มๆ ที่เราแอบปิ๊งมากอด แล้วเราก็เออออไปด้วย คนอื่นอาจจะไม่รู้ หนุ่มคนนั้นอาจโดนมองว่าล่วงละเมิดก็ได้นะ ทางที่ดี กอดกันในโอกาสพิเศษ เช่น จบการศึกษา หรือออกจากที่ทำงาน อะไรพวกนี้ก็พอจ้ะ
ถ้าการกอดช่วยให้เขารู้สึกดีขึ้น เอาเลย!!
การกอดเป็นการทักทายอย่างหนึ่ง แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นเครื่องมือที่ช่วยเยียวยาความรู้สึกของคนได้ เรียกว่าการกอดแบบ " Safe Heaven " เหมือนที่พ่อแม่ กอดลูกๆ ที่รัก เหมาะสำหรับกอดคนที่กำลังอยู่ในความรู้สึกท้อแท้ เสียใจ ซึ่งการกอดนี้จะเป็นเหมือนเทวดาที่ยื่นมือมาช่วยเขาเลยล่ะ ฉะนั้นใส่ใจคนรอบข้างให้ดีๆ และถ้าเขาอยู่ในโหมดเศร้าซึมแบบนี้ อย่าลังเลที่จะกอดนะคะ
เตรียมรับมือกับคนที่เข้ามากอด
ถึงแม้คุณจะเป็นคนไม่ชอบกอด แต่ทว่าคนที่กำลังเดินเข้ามาหาเรานั้นเขาชอบกอด ก็ค่อนข้างที่จะหลีกเลี่ยงยากหน่อย เพราะถ้าไม่กอดตอบก็หาว่าหยิ่ง ไม่เป็นมิตรด้วยอีก แต่ถ้าคุณเป็นคนใส่ใจในความสะอาด หรือกังวลกับเหงื่อท่วมตัวของเขา คุณจะทำไง? เอางี้นะ ถ้าเขาเดินมาหาคุณแล้ว ให้หันข้าง แล้วยกมือขึ้นจับมือ หรือยกมือทักแทน หรือไม่ก็ทำตัวนิ่งๆ แล้วหันไปทางอื่น ประมาณว่า ไม่ทันได้สังเกต หรือวิธีสุดท้าย ก็คือบอกไปตรงๆ เลย ว่าเป็นคนไม่ค่อยถูกกับการกอดเท่าไหร่ ท้ายที่สุดเขาก็คงเข้าใจในความตรงไปตรงมาของเราเองค่ะ
เพียง 7 ข้อนี้ ถ้าเราทำตามแล้ว ก็จะทำให้กอดได้อย่างเซียน ไม่มีแป้ก ใช้ได้กับทุกกรณี และทุกคนแล้วล่ะค่ะ หวังว่าจะช่วยให้สาวๆ กอดได้อย่างสมหวัง ไม่มีเฟลนะจ๊ะ ^^
