เจ็บปากเพราะแผลร้อนใน ทำยังไงถึงจะหาย ; - ;

รูปภาพ:https://64.media.tumblr.com/8349f62a7276b455ced85dc42512a9d6/tumblr_pfgnmxKWkU1xh5qweo2_400.gifv

ทักทายเซย์ฮายค่าซิสสสสสส :-Dการเป็น

' แผลร้อนใน '

ไม่ใช่เรื่องที่ซิสจะแฮปปี้เลยใช่ไหมล่ะคะ ทั้งเจ็บ ทั้งแสบ แถมยังทำให้เสียอรรถรสในการกินอาหารอีกด้วย เห็นซิสไม่แฮปปี้แบบนี้ เราจะนิ่งดูดายก็ไม่ได้ วันนี้เราก็เลยจัด


มาฝากสาว ๆ ชาวSistaCafeกันด้วย แต่ก่อนจะไปรู้วิธีรักษา ซิสต้องรู้ก่อนว่า สาเหตุอะไรกันนะที่ทำให้แผลร้อนในมันเกิดขึ้นในช่องปากของเรา

สาเหตุของการเกิดแผลร้อนใน

1. การตอบสนองต่อแบคทีเรียในปากและ

การติ

ดเชื้อไวรัส

2. การพักผ่อนไม่เพียงพอในแต่ละวัน

3. เกิดการบาดเจ็บที่ปาก เช่นเผลอกัดปากในตอนที่เคี้ยวอาหาร

4. เกิดจากความเครียด และความกังวลสะสม

5. การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน เช่นการ

มีประจำเดือน

6. มีปัญหาเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกัน

7. การแพ้อาหาร หรือการขาดวิตามินและแร่ธาตุ

ได้รู้สาเหตุของการเกิดแผลร้อนในกันไปแล้ว ก็มาอ่านวิธีรักษากันโลดค่า ♥


8 วิธีรักษาแผลร้อนในฉบับง่าย ๆ ทำได้ทุกคน ♥

1. พักผ่อนให้เพียงพอ

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/7b/6b/a7/7b6ba79a6a9189462a2a552db68ac490.jpg

เริ่มต้นกันที่วิธีแรกเลยค่ะ อย่างการนอนพักผ่อนให้เพียงพอ วันละ 8-10 ชั่วโมง หรืออย่างน้อย 6 ชั่วโมงเพื่อให้ร่างกายได้พักผ่อนและทำงานได้อย่างเต็มที่ หากซิสพักผ่อนน้อยหรือแทบไม่ได้นอนเลย ก็จะทำให้มีอาการเป็นแผลร้อนในเกิดขึ้นได้ จริง ๆ ต้องบอกว่าการนอนพักผ่อนน้อยไม่ได้ส่งผลให้เป็นแค่ร้อนในเท่านั้นยังทำให้เรามีความจำที่สั้นลง ทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น อาจส่งผลให้เป็นโรคร้ายแรงได้ และที่สำคัญอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุจากการขับขี่ได้อีกด้วยและเพื่อให้การนอนของเราเพียงพอ เราขอแนะนำให้ซิสแบ่งเวลาในการเรียนและการเล่นให้ดี ตั้งเวลาที่จะนอนในแต่ละวัน เมื่อถึงเวลาต้องนอนทันที ก็จะทำให้เรานอนหลับเต็มอิ่ม ไม่เสียสุขภาพ ไม่เกิดร้อนใน แถมยังทำให้การเรียนมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยน้าTips:ถ้าวันนั้นมีเหตุจำเป็นต้องนอนดึกมากจริง ๆ แนะนำให้ซิสโหลดแอปSleep awayติดเครื่องไว้เลยค่ะ เพราะแอปนี้จะทำให้เราสามารถกำหนดเวลานอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในแอปจะมีฟังก์ชันสามารถดูได้ว่าถ้าเรานอนตอนนี้ เราจะตื่นเวลาไหนได้บ้าง หรือ หากเราจะตื่นเวลานี้ ควรนอนตอนไหน แอปจะคำนวณเวลาเพื่อให้ซิสหลับครบ circleการหลับให้ครบ circle จะทำให้เราตื่นขึ้นมาแล้วไม่รู้สึกง่วงและงัวเงียนั่นเอง ลองนำไปใช้ดูกันได้นะคะ > _ <


2. ลดความเครียด

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/d2/bb/61/d2bb617b865ae56d5acbe329697ca3ff.jpg

การเลี่ยงที่จะไม่เครียดเลยกับสถานการณ์ในปัจจุบัน ถือว่าเป็นเรื่องที่ทำได้ค่อนข้างยากพอสมควรเลยใช่ไหมล่ะคะ? ตั้งแต่มีโควิดก็ทำให้ชีวิตทุกคนบนโลกเปลี่ยนไปกันหมด โดยเฉพาะกับวัยของสาวซิสที่มีเรื่องเครียดไม่แพ้วัยไหน ๆ ทั้งเรื่องเรียน เรื่องสอบ เครียดจนอยากจะออกไปข้างนอก ไปออกกำลังกาย ไปเที่ยวต่างจังหวัด ไปช้อปปิ้ง ไปคอนเสิร์ต ก็ไม่สามารถทำได้อย่างที่ใจต้องการ แต่ ๆ !การอยู่บ้านก็ยังมีกิจกรรมช่วยผ่อนคลายความเครียดได้เหมือนกันนะเออทั้งการดูหนัง ฟังเพลง เต้น วาดภาพ ระบายสี ออกกำลังกายแบบไม่ต้องใช้อุปกรณ์ เช่น เต้นแอโรบิก, คาดิโอ หรือกิจกรรมที่ซิสทำแล้วสบายใจ ก็ช่วยให้เราผ่อนคลายความเครียดลงไปได้หากรู้สึกอุดอู้เกินไป อาจจะหาวันว่าง ๆ สักวันออกไปข้างนอก เลือกสถานที่ที่คนไม่พลุกพล่านจนเกินไปแล้วออกไปใช้ชีวิตสักหน่อย ก็ช่วยทำให้อาการเครียดของเราลดลงได้ เมื่อเราเครียดน้อยลงแผลร้อนในของเราก็จะหายไวขึ้นด้วยน้าอย่าลืมดูแลสุขภาพใจตัวเองกันด้วยนะคะ > 3 <


3. ดื่มน้ำให้เพียงพอ

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/17/3b/e7/173be75fd78008a3258bf258ee556db7.jpg

น้ำเป็นส่วนประกอบที่มากที่สุดในร่างกายของเรา ดังนั้นการดื่มน้ำจะช่วยให้เราสุขภาพดี มีผิวที่ดี ระบบขับถ่ายดี และช่วยให้แผลร้อนในของเราทุเลาลงได้ด้วยนะคะซิส ในแต่ละวันเราควรดื่มน้ำวันละ 7 - 8 แก้ว หรือประมาณ 1.5 - 3 ลิตรและน้ำที่ควรดื่มควรจะเป็นน้ำเปล่าน้า เพราะน้ำเปล่าไม่มีรสชาติ จึงไม่ส่งผลเสียกับร่างกายเหมือน้ำหวานต่าง ๆถ้าซิสรู้ตัวว่าเป็นคนที่ดื่มน้ำน้อยมาก ๆ ในแต่ละวัน ให้ดื่มหลังจากตื่นนอน 1 - 2 แก้วจะทำให้ระบบไหลเวียนเลือดทำงานได้ปกติ ส่วนมื้อกลางวันและมื้อเย็น ให้ทานครั้งละ 1 แก้วก่อนทานอาหาร 1 ชั่วโมงจะทำให้ระบบขับถ่ายทำงานได้เป็นปกติ ซิสไม่ต้องรีบน้า ค่อย ๆ จิบไปเรื่อย ๆ ไม่ต้องดื่มให้หมดในครั้งเดียว เพียงแค่นี้แผลร้อนในของซิสก็จะค่อย ๆ หายในเร็ววันแล้วละค่ะ

❀.(*´◡`*)❀.


4. ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เน้นไปที่ผักและผลไม้

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/af/3c/71/af3c71ed822dab4ebe2a8135d29d3695.jpg

การทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ ทำให้ร่างกายของเราได้รับสารอาหารเพียงพอและมีสุขภาพที่แข็งแรง และการทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ยังสามารถช่วยลดแผลในช่องปากได้ดีงามมาก ๆ อีกด้วยโดยเฉพาะการทานอาหาร และผักผลไม้ต่าง ๆ ที่มีวิตามินบี 12 และธาตุเหล็กพวกผักใบเขียวเช่น ผักโขม, ผักแคล, ผักคะน้า, กะหล่ำปลี ฯลฯรวมถึงถั่วและอาหารทะเลก็จะช่วยให้แผลร้อนในของซิสหายได้ไวขึ้น อีกทั้งยังทำให้สุขภาพกายของซิสแข็งแรงยิ่งขึ้นอีกด้วยอย่าลืมทานผักผลไม้เพื่อให้ระบบขับถ่ายของเราดีขึ้นด้วยนะคะ > _ 0


5. ลดของทอดและอาหารรสจัด

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/a5/aa/f1/a5aaf1b80282cebde9bd545b7d6d6ecb.jpg

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าของทอดมักเป็นของที่อร่อยและเคี้ยวเพลินจริงจริ๊ง แต่ของทอดที่แสนอร่อยดันไม่เป็นมิตรกับแผลร้อนในของเรานะสิคะ เพราะของทอดเป็นอาหารที่มีฤทธิ์ร้อนช่วงที่เป็นแผลร้อนใน เราคงจะต้องขอให้ซิสเลี่ยงของทอดไปก่อน และอาหารอีกประเภทที่ซิสควรจะต้องเลี่ยงด้วยเช่นกัน นั่นก็คืออาหารที่มีรสจัด รสจัดที่ว่าไม่ใช่แค่เผ็ดมากนะคะ แต่รวมถึงหวานจัด เค็มจัด และเปรี้ยวจัดด้วยรวมถึงผลไม้ต่าง ๆ ที่มีรสหวานจัด เปรี้ยวจัด และมีฤทธิ์ร้อน เช่น ลำไย, ทุเรียน, มะม่วง ซิสก็จะต้องเลี่ยง เพื่อสุขภาพช่องปากของเราจะได้กลับมาเป็นปกติในเร็ววันนะคะ

⊂((・▽・))⊃


6. เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนกับช่องปาก

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/85/fc/17/85fc17cc03fd235a9bda800d7f323050.jpg

ต่อไปเป็นเรื่องของผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในช่องปาก อย่างแปรงสีฟัน ยาสีฟัน และน้ำยาบ้วนปาก ถ้าเรามีแผลร้อนในภายในปาก ซิสจะต้อง

ใช้แปรงที่มีขนอ่อนนุ่ม

และจะต้องระมัดระวังในการแปรงบริเวณใกล้ ๆ แผลเพื่อไม่ให้แผลเกิดการอักเสบ แต่การแปรงฟันก็จะขาดยาสีฟันไปไม่ได้เลย

ยาสีฟันของเด็กเป็นอีกทางเลือกที่ช่วยลดอาการแสบแผลร้อนใน

ได้ เพราะยาสีฟันผู้ใหญ่จะมีส่วนประกอบบางอย่างที่ทำให้แผลรู้สึกแสบร้อน ดังนั้นการใช้ยาสีฟันเด็กจึงเป็นทางออกที่ดีงามที่สุด และอีกสิ่งที่บางคนก็ใช้เพื่อลดกลิ่นปาก นั่นก็คือน้ำยาบ้วนปากนั่นเอง น้ำยาบ้วนปากหลายยี่ห้อยังมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ หากเราเป็นแผลร้อนในซิสขอแนะนำให้เลิกใช้ไปก่อนในช่วงนั้นน้า แต่ถ้าหากไม่ใช้น้ำยาบ้วนปากแล้วรู้สึกไม่มั่นใจ ซิสสามารถหาซื้อน้ำยาบ้วนปากที่ไม่มีแอลกอฮอล์ใช้แทนกันไปก่อนได้เช่นกันค่ะ


7. กลั้วปากด้วยน้ำเกลือ

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/cf/be/cf/cfbecff39059a574fce24f0c36694f03.jpg

หลายคนอ่านวิธีนี้แล้วอาจจะรู้สึกแสบซี้ดที่แผลทันทีเลยใช่ไหมล่ะคะ แต่ซิสรู้ไหมคะว่า เกลือหรือน้ำเกลือสามารถรักษาแผลร้อนในภายในช่องปากได้จริง ๆ เพียงแค่ผสมเกลือ 1 ช้อนชาต่อน้ำ 1 แก้วแล้วกลั้วปากวันละ 2 ครั้ง ก็จะช่วยให้แผลค่อย ๆ ดีขึ้นด้วย เพราะ

เกลือมีคุณสมบัติกำจัดเชื้อแบคทีเรีย

ได้ ทั้งยังลดโอกาสที่จะเป็นโรคเหงือกอักเสบหรืออาการปวดฟันได้และอีกสิ่งที่เกลือสามารถทำได้คือการฟอกสีฟันนั่นเองค่ะ ยาสีฟันยี่ห้อต่าง ๆ จึงมีเกลือเป็นส่วนประกอบ ถ้าซิสอยากจะมีฟันขาวสวยก็อย่าลืมเช็กส่วนประกอบของยาสีฟันก่อนซื้อด้วยน้า เพื่อสุขภาพในช่องปากที่ดีของเรา

(。◑ヮ◑。)


8. ใช้ยาป้ายหรือแปะลงบนแผลร้อนใน

รูปภาพ:https://f.ptcdn.info/421/058/000/pba1zqycbxzuDSsVJNJ-o.jpg

การทายาเป็นอีกหนึ่งวิธีสำหรับคนที่กลัวแสบจากการกลั้วปากด้วยน้ำเกลือนั่นเองค่ะ วิธีนี้จะเจ็บนิดหน่อยตอนที่ป้ายหรือแปะยาลงบนแผล แต่หลังจากนั้นจะไม่รู้สึกเจ็บแล้ว ซึ่งตัวยาที่จะรักษาแผลร้อนในได้จะต้องมีส่วนประกอบของไตรแอมซิโนโลน ( ช่วยรักษาอาการอักเสบ )และในปัจจุบันก็มียาที่ใช้รักษาหลากหลายรูปแบบเลยค่ะ ทั้งแบบป้าย แบบรับประทาน แบบเผ่นแปะ และแบบสเปรย์ ใครสะดวกแบบไหนก็สามารถไปหาซื้อกันได้เลย แต่ขอแนะนำให้ซื้อยากับเภสัชกรโดยตรงจะดีที่สุดนะคะ เพื่อความปลอดภัยของสุขภาพร่างกายเราด้วยเน้อTips: ยารักษาแผลร้อนในชนิดป้าย แนะนำให้ซิสเอาทิชชูซับบริเวณแผลก่อน แล้วค่อยนำยามาป้ายจะทำให้ยาติดบนแผลได้นานและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยน้า


ไม่ยากเลยใช่ไหมเอ่ย?


กับ

8 วิธีรักษาแผลร้อนใน

ที่เรานำมาฝากในวันนี้ ทุกวิธีที่ว่ามาเราเคยทำและได้ผลจริงจึงอยากนำมาแชร์เพื่อให้สาวซิสเอาไปรักษา จะได้หายไว ๆ กลับมาทานอาหารอร่อย ๆ ได้ แถมยังได้สุขภาพที่ดีกลับมาด้วย นอกจากวิธีที่เราได้บอกไป ยังมีสมุนไพรต่าง ๆ ที่ช่วยดับร้อนในร่างกายอีกด้วย ทั้งเก๊กฮวย ใบบัวบก จับเลี้ยง มะตูม รากบัว รางจืด ชะเอมเทศ ว่านหางจระเข้ ชาดอกคาโมมายล์ ฟ้าทะลายโจร ใบย่านางสมุนไพรบางชนิดนำมาทำเป็นเครื่องดื่มดับกระหายให้ชื่นใจได้อีกด้วย แต่อย่าทานมากเกินไปนะคะ เพราะการทำเครื่องดื่มมีส่วนผสมของน้ำตาลค่อนข้างมากบวกกับสมุนไพรบางตัวทานมากไปอาจเกิดอันตรายได้ เรื่องพวกนี้ต้องศึกษาก่อนทำด้วยน้าหวังว่าบทความนี้จะให้ประโยชน์กับซิสทุกคนเลยนะคะแล้วพบกันใหม่ในบทความหน้าค่า > 3 <