" อยากเริ่มใช้น้ำหอม ต้องเลือกยังไงให้เหมาะกับตัวเราคะ? "หลายคนที่อยากเริ่มใช้น้ำหอมคงต้องมีคำถามพวกนี้ใช่ไหมล่า? เพราะการเลือกน้ำหอมไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ยิ่งต้องเลือกให้เข้ากับตัวเองด้วยแล้วเนี่ยยิ่งยากเข้าไปใหญ่แต่จะให้คนอื่นมาเลือกให้มันก็ไม่ค่อยมีความเป็นเราอีก แค่คิดก็ปวดหัวตึ้บเลยละสิ แต่วันนี้ไม่ต้องปวดหัวกันอีกต่อไปแล้วค่า เพราะวันนี้เรามีทริคเด็ด ๆ ถึง 7 วิธีในการเลือกน้ำหอมที่ใช่ในแบบของเรารับรองว่าอ่านจบ ทุกคนสามารถคว้ากระเป๋าเดินออกไปซื้อได้เลยเอ้อ เอาสิ! เคลมมาขนาดนี้อยากรู้แล้วใช่ไหมล่ะคะว่า 7 วิธีเลือกน้ำหอมที่ว่านี้มีอะไรบ้างถ้าอยากรู้แล้วก็เลื่อนลงมาส่องกันเล้ยยยยยยย ♥

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/originals/e4/a6/da/e4a6da3c62f95f69e759b124869d6701.gif

7 ทริควิธีเลือกน้ำหอมให้เข้ากับเราที่สุด ต้องดูจากอะไรบ้าง!?

- - - - - - - - - - -- - - - - - - - - - -- - - - - - - - - - -- - - - - - - - - - -+ รวมทริคเด็ด' วิธีเลือกน้ำหอม 'ยังไงให้ถูกใจ ฉีดแล้ว' ใช่ในแบบของเรา '+- - - - - - - - - - -- - - - - - - - - - -- - - - - - - - - - -- - - - - - - - - - -


วิธีเลือกน้ำหอมที่ 1 : เลือกจากโน้ตต่าง ๆ

โน้ตที่ว่าเนี่ย ไม่ใช้โน้ตดนตรีน้า แต่เป็นโน้ตน้ำหอมนั่นเองโน้ตน้ำหอมเนี่ยมีกัน 3 โน้ตก็คือTop Note/Middle Note หรือ Heart Note/Base Noteซึ่งแต่ละโน้ตก็จะมีกลิ่นที่แตกต่างออกป ทั้ง ๆ ที่มาจากน้ำหอมขวดเดียวกัน นั่น! แอบมีความว้าวนิด ๆ ใช่ม้า? แต่บอกเลยว่าตอนค่อย ๆ ดมแล้วกลิ่นเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ มันเป็นอะไรที่แอบสนุก แอบตื่นเต้นอยู่นะเออ แถมกลิ่นพวกนี้ก็ยังเสริมเสน่ห์ให้เราแตกต่างกันไปอีกด้วย แต่ว่าตอนนี้ทุกคนน่าจะมีความสงสัยว่าเอ๊ะ! แล้วโน้ตแต่ละอัน แตกต่างกันยังไง สังเกตได้ตรงไหนใช่ไหมล่ะ? ถ้าอยากรู้ก็มาดูกันเล้ย

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/62/81/23/628123ef9a6d2950ca69a3baf36e8bb5.jpg

1. Top Note: เป็นกลิ่นที่ฉีดออกมาจากขวดน้ำหอมใหม่ ๆ เลยนั่นเองค่า กลิ่นจะอยู่ประมาณ 20 นาทีแล้วก็จะเริ่มจางลงไปสู่โน้ตถัดไป2. Middle Note หรือ Heart Note: เป็นกลิ่นช่วงกลาง จะมีความหอมฟุ้งที่สุด จัดเป็นหัวใจหลักของน้ำหอม โดยเราจะได้กลิ่นนี้หลังจากฉีดไปแล้ว 2 - 4 ชั่วโมง แล้วก็จะกลายเป็นโน้ตถัดไปนั่นเอง

3.

Base Note: เป็นกลิ่นสุดท้ายที่จะติดบนผิวเราไปจนกว่าเราจะอาบน้ำหรือจางไป และเราจะได้กลิ่นนี้เมื่อผ่านการฉีดไปแล้ว 4 - 6 ชั่วโมงนั่นเองดังนั้นถ้าจะเลือกน้ำหอมก็อย่าลืมเช็กกลิ่นให้ครบทั้ง 3 โน้ตด้วยน้า โดยเฉพาะMiddle Noteที่มีความฟุ้งของน้ำหอมมากที่สุด รอเช็กให้ครบจะได้น้ำหอมที่ถูกใจที่สุดนะเออ :-D


วิธีเลือกน้ำหอมที่ 2 : เลือกน้ำหอมให้เข้ากับบุคลิก

เริ่มต้นจากการสังเกตบุคคลิกตัวเองกันเลยจ้า ทุก ๆ คนเนี่ยต่างก็มีบุคลิกที่แตกต่างกันไปใช่ม้า? บางคนอาจจะอ่อนหวาน นุ่มนวล บางคนก็ลุย ๆ หรือบางคนก็สดใส ร่าเริง หรือบางคนก็เซ็กซี่แซ่บซ่า ดังนั้นเนี่ยถ้าเรารู้แล้วว่าเรามีบุคลิกแบบไหน ก็จะเริ่มเลือกน้ำหอมได้ง่ายขึ้นแล้วแต่สำหรับมือใหม่คงยังนึกไม่ออกว่าสายเราควรจะกลิ่นไปโทนไหน แนวไหน วันนี้เราก็จัดมาให้แบบค่อนข้างจะครอบคลุมประมาณนึงเลย เอาละ! ถ้าอยากรู้แล้วว่าบุคลิกแบบเราควรมีกลิ่นแนวไหนก็เลื่อนลงมาเล้ย

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/736x/a0/5c/06/a05c0642365ceea262eabe8221ab60a9.jpg

สายหวาน: สายชอบกลิ่นหวาน ๆ ขนม ๆ ยังไง้ยังไงก็หนีไม่พ้นกลิ่นวานิลลา ( Vanilla )แน่นอนค่า ถ้าน้ำหอมตัวไหนที่มีกลิ่นวานิลลายืนพื้น ตัวนั้นมักจะมีความออกหวาน ๆ ขนม ๆ นั่นเองค่า

สายสดใส: ใครที่เป็นสายสดใส ร่าเริง แนะนำให้เลือกน้ำหอมเป็นกลิ่นผลไม้ ( Fruity )ยืนพื้นมาเลยค่า อาจจะเป็นกลิ่นส้ม กลิ่นซีตรัสหรือลิ้นจี่อะไรพวกนี้ก็จะให้ความสดชื่นสดใสสุด ๆ ไปเล้ย

สายอบอุ่น: สายละมุนอบอุ่น แนะนำให้เลือกน้ำหอมเป็นกลิ่นแนวไม้ ( Woody ) หรือมัสก์ ( Musk )เลยค่ะ ยืนพื้นมาให้ความอบอุ่นหัวใจอย่างบอกไม่ถูกเล้ย

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/ee/a2/3e/eea23e0cf3e6a2bc4833b8afa62df776.jpg

สายเซ็กซี่: เซ็กซี่เผ็ดร้อน แนะนำเป็นกลิ่นแนวเครื่องเทศ ( Spice )ต่าง ๆ เช่น พริกไทย ซินนาม่อน อะไรแบบนี้ก็จะให้ฟีลสวยแซ่บอย่าบอกใครเลยล่ะ

สายเบสิค: ยืนพื้นกลิ่นทั่วไป แนะนำให้เลือกน้ำหอมเป็นกลิ่นแนวดอกไม้ ( Floral )นั่นเอง ดอกไม้ก็มีทั้งแนวกลิ่นแรง กลิ่นเบา แต่ถ้ายืนพื้นสุด ๆ คือกลิ่นโทนกุหลาบ กลิ่นจะไม่แรงไม่เบาเกินไป เหมาะกับสายเรียบ ๆ เบสิคสุด ๆ

สายลุย: สายลุย ๆ สปอร์ต ๆ แนะนำให้เลือกน้ำหอมเป็นกลิ่นแนวธรรมชาติ ( Natural )ฟีลแบบน้ำ หรือจะทะเล อะไรประมาณนี้จะได้ความเท่เข้าไปด้วยนั่นเอง

แบ่งมาให้หลายสายเลย ยังไงก็ทดสายตัวเองไว้ในใจก่อนน้า แล้วมาอ่านข้อต่อไปกัน!


วิธีเลือกน้ำหอมที่ 3 : เลือกกลิ่นแนวที่ตัวเองชอบ

นอกจากรู้บุคลิกของตัวเองแล้วว่าเหมาะกับกลิ่นแนวไหน ก็จะต้องดูด้วยว่าเราชอบกลิ่นแนวไหน ก็ให้เราจับคู่กลิ่นแนวที่ชอบ + บุคลิกของเราเช่น เราเป็นสาวหวาน ก็จะต้องยึดวานิลลาไว้ในใจแล้วหนึ่ง แต่จริง ๆ เราชอบกลิ่นดอกไม้ ๆ ทีนี้เราก็จะต้องลองไปเลือกน้ำหอมที่มีส่วนผสมของวานิลลาและดอกไม้ต่างๆ ไว้ เมื่อไปที่เคาน์เตอร์หรือหน้าร้านจะได้ไม่เสียเวลาดมหลายตัว จะบอกว่าน้ำหอมยิ่งดมยิ่งเวียนหัวเน้อ ถ้าเราจำกัดมาแล้วว่าชอบกลิ่นประมาณนี้ ๆ มันจะหาได้ง่ายขึ้นว่าต้องไปลองดมตัวไหนบ้าง ถูกใจไหมอะไรแบบนี้ตรงนี้ก็จะช่วยให้เราเสียเวลาน้อยลง แถมยังได้กลิ่นที่ตรงใจอีกด้วยนะเออปล. ถ้ายังนึกกลิ่นที่ชอบไม่ออกแนะนำเว็บไซต์fragranticaเลยค่ะ กดไปที่คำว่า Search แล้วจิ้มต่อที่คำว่า Note คือมีกลิ่นให้เลือกเยอะมาก แถมกดไปก็จะเจอน้ำหอมที่มีโน้ตพวกนี้ด้วยรับรองว่าทุกคนต้องเจอกลิ่นที่ใช่และน้ำหอมที่โดนได้จากเว็บนี้แน่นอน ♥

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/12/e1/d8/12e1d8c699e99b96a74c736fe06e6463.jpg

วิธีเลือกน้ำหอมที่ 4 : เลือกระดับความติดทน

มาถึงเรื่องความติดทนกันบ้างค่า บอกเลยว่าสิ่งนี้เป็นอีกสิ่งที่ขาดไปไม่ได้ในการเลือกน้ำหอมเลยจริง ๆ บางคนอยากให้กลิ่นนี้ติดทนอยู่เกือบทั้งวัน หรือบางคนอาจจะไม่ได้อยากให้อยู่ทนทั้งวัน ดังนั้นเราก็จะต้องมาดูส่วนผสมว่าแต่ละตัวมีหัวน้ำหอมมากหรือน้อยแค่ไหนแต่จะให้มาไล่หาใต้กล่องก็คงจะปวดหัวแย่ วิธีที่ง่ายกว่านั้นก็คือสังเกตคำว่าEau de Perfume/Eau de Toilette/Eau de Cologneไว้นั่นเองค่า แทบทุกกล่องจะต้องมีคำพวกนี้แน่ ๆ หรือถ้าไม่รู้ก็สามารถถามพนักงานก็ได้เน้อ ซึ่งคำพวกนี้จะบ่งบอกว่าน้ำหอมแต่ละขวดมีหัวน้ำหอมประมาณเท่าไหร่ยิ่งมีหัวน้ำหอมมากก็ยิ่งติดทนมากยิ่งขึ้น แต่ว่าโอเดอ ( Eau de ) ตัวไหนจะติดทนที่สุดก็เลื่อนลงมาดูกันเล้ย

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/736x/70/e7/38/70e738c0a8c33b7a35856b75d1cc5727.jpg

Eau de Cologne ( EDC ) หรือ Cologneเป็นน้ำหอมที่มีส่วนผสมของหัวน้ำหอม3 - 5%เท่านั้น ทำให้กลิ่นมีความเท่านั้น

Eau de Toilette ( EDT )เป็นน้ำหอมที่มีส่วนผสมของหัวน้ำหอม5 - 15%ส่วนมากจะอยู่ที่ 10% ตัวนี้จะมีความติดทนนานอยู่ที่ประมาณ 3 - 6 ชม.ขึ้นอยู่กับเปอร์เซนต์ของน้ำมันหอมที่ผสมในแต่ละตัวด้วยนะเออ

Eau de Parfum ( EDP )จะเป็นน้ำหอมที่มีส่วนผสมของหัวน้ำหอม15 - 18%ใส่มามากกว่า EDC และ EDT ดังนั้นเนี่ยก็จะมีความติดทน 6 - 12 ชม.เลยทีเดียวค่าความฉุนและความติดทนก็จะเรียงจาก EDP > EDT > EDCเลยค่า แอบบอกนิดนึงว่าที่เรียงลำดับมาก็ไล่จากราคาแพงไปจนถึงราคาที่จับต้องได้ง่ายเหมือนกันเน้อ ทุกอย่างล้วนขึ้นตามปริมาณของหัวน้ำหอมเลยค่ะ ใครงบน้อยอาจจะต้องเลือกน้ำหอมที่มีความทนน้อยลงแทนเนอะ ♥


วิธีเลือกน้ำหอมที่ 5 : เลือกจากสภาพผิว

ฟังดูงง ๆ ใช่ม้า? แต่เรื่องสภาพผิวของเราก็มีส่วนทำให้น้ำหอมมีความติดทนด้วยน้า อย่างคนผิวมันในผิวจะมีน้ำมัน ซึ่งน้ำมันจะช่วยให้กลิ่นน้ำหอมติดทนและกระจายกลิ่นได้ดีและอาจทำให้ฉุนได้ด้วย แนะนำให้ใช้น้ำหอมที่กลิ่นอ่อน ๆ ประเภท EDT หรือ EDCส่วนคนผิวแห้งจะดูดซึมความมันจากน้ำหอมไว้ได้ดี แต่การกระจายตัวของกลิ่นน้ำหอมมีน้อยมาก แนะนำให้ใช้น้ำหอมที่กลิ่นเข้มข้นอย่าง EDT และ EDPสุดท้ายคนที่มีผิวเหงื่อออกง่ายเวลาเหงื่อออกรูขุมขนมันจะเปิด ทำให้แอลกอฮอล์ที่ผสมในน้ำหอมเข้าไปจนเกิดอาการแสบร้อนหรือแพ้ได้ ดังนั้นน้ำหอมที่เหมาะจะเป็นประเภทที่ไม่มีแอลกอฮอล์ หรือ Body Mist จะตอบโจทย์ที่สุดเห็นแล้วใช่ไหมล่ะว่ามันสำคัญ อย่าลืมลองไปสังเกตดูน้าว่าเราเป็นคนผิวแบบไหน ควรใช้อะไร จะได้เลือกน้ำหอมออกมาตรงใจที่สุด ♥

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/d9/94/ad/d994adb4cf84b62575653531c3dd3110.jpg

วิธีเลือกน้ำหอมที่ 6 : เลือกน้ำหอมอย่าใจร้อน

มือใหม่ต้องฟังเลยเด้อ เพราะการเลือกน้ำหอมเราจะใจร้อนไม่ได้เด็ดขาดเพราะอย่างที่บอกว่าน้ำหอมมันจะมี 3 โน้ต ก็คือTop Note/Middle Note/Base Noteดังนั้นเราก็ต้องเลือกตามกลิ่นของโน้ตต่าง ๆ แนะนำให้ดมกลิ่น Top Note จากการฉีดออกมาใหม่ ๆแล้วระหว่างรอกลิ่น Middle Note ประมาณ 15 - 20 นาทีเราก็มาดม Base Note จากด้านในฝาขวดน้ำหอมกันก่อนเลย เพราะพวกเทสเตอร์ในห้างหรือร้านต่าง ๆ เนี่ยโดนฉีดออกมาบ่อย ๆ เมื่อใช้ฝาปิดแล้วกลิ่นตรงหัวสเปรย์มันก็จะอบอยู่ในฝา ตัวฝาก็เลยมีกลิ่นไปโดยปริยายนั่นเอง ดังนั้นเนี่ยเราต้องดมให้ครบทุกโน้ตเพื่อที่จะได้เลือกน้ำหอมได้ตรงใจที่สุดอาจจะใช้เวลาไปสักหน่อย แต่ก็ดีกว่ารีบซื้อแล้วดันมาไม่ชอบในตอนหลัง อันนั้นคงเสียใจแถมเสียดายเงินกว่าใช่ม้า

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/74/c5/14/74c51460295f03802e9d70232f47a9a6.jpg

วิธีเลือกน้ำหอมที่ 7 : เลือกกลิ่นที่เราชอบ ไม่ใช่คนอื่นชอบ

อันนี้บอกเลยว่าหลาย ๆ คนอาจจะมัวแต่สนใจว่าคนอื่นได้กลิ่นเราแล้วจะชอบไหมมันหอมไหม มันโอเคไหมมากเกินไป หรืออาจจะเชื่อคนรอบตัว เชื่อคนขายว่ากลิ่นนี้เหมาะกับเรา ถึงแม้ว่าใครต่อใครจะบอกว่าขวดเนี้ยะ! มันเหมาะกับเรามาก ๆ แต่ถ้าเราไม่ชอบกลิ่นเอาซะเลยหรือมีกลิ่นอื่นที่ชอบมากกว่า จำไว้นะคะว่าน้ำหอมเนี่ยเราฉีดให้ตัวของเราหอมกลิ่นมันจะติดกับเราไปทั้งวันตั้งแต่เริ่มฉีดเลย เราก็ต้องเลือกกลิ่นที่เราชอบเป็นหลักน้า อาจจะให้เพื่อน ๆ หรือคนรอบข้างช่วยเลือกจากตัวที่เราชอบสัก 2 - 3 กลิ่นก็ได้ แต่สุดท้ายแล้วเลือกน้ำหอมจากความชอบของตัวเองจะดีที่สุดนะคะ

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/c9/4f/e6/c94fe682a5f8689a487b7a5a64ec5376.jpg

เป็นยังไงบ้างเอ่ย? กับ7 วิธีเลือกน้ำหอมให้ใช่ในแบบของเราแต่ละข้อบอกเลยว่าอัดแน่นเรื่องความรู้ให้สุด ๆ เพราะเราเข้าใจว่ามือใหม่คงจะต้องมีแอบงง แอบมึนตอนไปเลือกซื้อแน่ ๆ ก็สรุปมาให้เข้าใจกันง่าย ๆ ในบทความนี้เล้ย แล้วก็แต่ละข้อเนี่ยสามารถเอาไปใช้ได้จริง ๆนะเออเพราะตัวเราก็ใช้ 7 วิธีนี้เหมือนกัน ช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นมาก ๆ แถมยังได้น้ำหอมกลิ่นที่ถูกใจอีกด้วย แอบกระซิบว่าน้ำหอมเนี่ย ไม่ต้องมีตัวเดียวก็ได้น้า ใครงบเหลือ ๆ ก็ซื้อไปเล้ย เพราะน้ำหอมบางตัวเหมาะกับกลางวัน ไปเรียน ไปเที่ยวคาเฟ่อะไรใด ๆ แต่บางตัวเหมาะกับไปออกงานต่าง ๆถ้าเลือกใช้ให้เหมาะกับช่วงเวลาหรือลุคต่าง ๆ ก็จะทำให้เราดูมีเสน่ห์มากขึ้นด้วยเน้อยังไงถ้าชอบบทความนี้ก็ฝากกดไลก์ กดแชร์กันด้วยน้าแล้วพบกันใหม่ค่า ♥