สีผมเข้มไปทำไงดี 😥 รวม 7 ตัวช่วย ' ล้างสีผมที่เข้มจัด ' ให้อ่อนลง ไม่อันตราย ทำเองได้ที่บ้าน

ฮายยยยยยยยยย สวัสดีค่าชาวซิสต้าคาเฟ่ ♥วันนี้มาว่ากันด้วยเรื่องของผมอีกแล้ว อุ๊ย! ไม่ได้หมายถึงเรื่องของเรานะคะ แต่หมายถึงผมที่เป็นเส้นผมกันค่า แบบว่าทุกคนเคยไหมคะทำสีผมออกมาแล้วดันเข้มเกิ๊นหรือสีจัดเกิ๊นกันไหมคะ?จะให้กัดสีผมเพื่อให้มันอ่อนลงก็ไม่อยากทำ พยายามสระผมแล้วก็ไม่ออก ไม่รู้จะแก้ยังไง กลัวทำไปทำมาผมเสียหนักกว่าเดิม หรือหนักกว่านั้นอาจจะทำให้หนังศีรษะมีปัญหาด้วย แต่ตอนนี้ไม่ต้องกลัวแล้วจ้าทุกคน เพราะวันนี้เรามี7 ไอเทมช่วยล้างสีผมที่เข้มจัดให้อ่อนลงแน่นอนว่าปลอดภัย วิธีธรรมด๊าธรรมดา แต่ข้อเสียอาจจะมีตรงผมแห้งไปบ้าง แต่แก้ด้วยการใช้ทรีตเมนต์ผมก็กลับมานุ่มเหมือนเดิมแล้ว เอาล่ะเพื่อไม่ให้เสียเวลาเราก็มาส่องวิธีกันเลยเธ้อ ♥

✤ ✤ ✤ ✤ ✤ ✤ ✤ ✤ ✤ ✤ ✤ ✤ ✤ ✤ ✤ ✤

- - - - - - - - - - - - - - - - - -- - - - - - - - - - - - - - - - - - - -- - - - - -+7 ตัวช่วยล้างสีผมที่'เข้มจัด'ให้'อ่อนลง'ทำง่าย ๆได้ที่บ้าน+- - - - - - - - - - - - - - - - - -- - - - - - - - - - - - - - - - - - - -- - - - - -

แชมพูล้างสีผม

เริ่มต้นจากเบสิคเบสิค แบบไม่ต้องวุ่นวายก่อนเลยก็คือการหาซื้อแชมพูล้างสีผมนั่นเองค่า ซึ่งอาจจะหาซื้อยากนิดนึงเพราะมีไม่กี่แบรนด์เท่านั้นที่ทำออกมา ตัวนี้ก็ใช้ง่ายเลยค่ะ แค่สระผม ก็จะช่วยทำให้สีที่เราเคยย้อม หลุดออกอย่างง่ายดาย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นทุกคนต้องอย่าลืมว่ามันเป็นแค่แชมพูนะคะ อาจจะไม่ได้มีฤทธิ์ในการกัดให้มันอ่อนลงเวอร์ ๆ อะไรคงต้องใช้ซ้ำ ๆ ย้ำ ๆ ซักหน่อยเพื่อให้สีผมเราอ่อนลงวิธีนี้อาจจะไม่ค่อยเหมาะกับคนใจร้อนเท่าไหร่ แต่ถ้าอยากให้เห็นผลชัดอาจจะลองเอาพวกของที่มีฤทธิ์เป็นกรดแบบมะนาวมาผสมในแชมพูแล้วหมักทิ้งไว้สัก 10 - 20 นาทีก็อาจจะช่วยให้สีผมที่เข้มของเราจางลงได้ไวขึ้นได้นะเออ แต่ต้องระวังนิดนึงน้าแชมพูล้างสีผมบางยี่ห้ออาจจะทำให้ผมแห้งได้แนะนำให้ทุกคนลงครีมนวดและทรีตเมนต์กันด้วยเน้อ

มะนาวหรือเลม่อน

อย่างที่บอกไปเลยว่ามะนาวและเลม่อนเนี่ยมีฤทธิ์เป็นกรด เพราะมีรสเปรี้ยวสามารถที่จะกัดกร่อนได้ ดังนั้นเนี่ยถ้าเราเอาน้ำมะนาวหรือเลม่อนมาหมักก็จะช่วยให้สีอ่อนลงได้เหมือนกันค่า วิธีก็มีหลายแบบเลยค่ะ1. คั้นน้ำมะนาวแล้วหมักทิ้งไว้ 3 - 5 นาที หรือใครกลัวว่ามันจะแรงไปก็ผสมกับแชมพูก็ได้นะคะ ช่วยได้เหมือนกัน วิธีที่2 คือการใช้น้ำมะนาวคั้นสด (4 ลูก) ผสมกับน้ำอุ่น (1/4 ถ้วย)ลงให้ทั่วหัว หมักทิ้งเอาไว้ประมาณ 3 – 5 นาที หลังจากหมักเสร็จก็ล้างออก แล้วสระด้วยแชมพู ลงทรีตเมนต์ปกติ แค่นี้สีผมก็อ่อนลงแล้วค่า แต่ถ้ายังอ่อนไม่พอก็ค่อย ๆ ทำวนไปหลาย ๆ รอบนะคะ แน่นอนว่าวิธีธรรมชาติมันต้องใช้เวลาดังนั้นอย่าใจร้อนเน้อ ♥

น้ำส้มสายชู

อีกหนึ่งสิ่งที่หลายบ้านต้องมีติดครัว นั่นก็คือน้ำส้มสายชูนั่นเองค่าใครที่ไม่ชอบกลิ่นหรือกลัวกลิ่นติดผมแน่นอนว่าข้ามขั้นตอนนี้ไปได้เลยแต่ถ้าใครสะดวกใช้สิ่งนี้ละก็แนะนำเลยค่า เพราะน้ำส้มสายชูมีฤทธิ์เป็นกรดแต่ไม่ได้ทำอันตรายต่อเส้นผมหรือหนังศีรษะ วิธีการใช้ก็ง่ายมาก ๆ แค่ใช้น้ำส้มสายชูเทลงบนศรีษะ นวดให้ทั่วเส้นผมหรือจะหมักเอาไว้สัก 3 - 10 นาทีแล้วจึงล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง และเพื่อให้กลิ่นของน้ำส้มสายชูหายไปก็อาจจะต้องสระผมสัก 2 - 3 รอบ ลงทรีตเมนต์ไปอีกก็จะช่วยให้สีผมของเราอ่อนลงแล้วค่ะแอบกระซิบว่าน้ำส้มสายชูยังช่วยทำให้ผมนุ่มลื่นและเงางามด้วยนะ ♥

น้ำยาล้างจาน

และอีกหนึ่งสิ่งที่ทุกบ้านต้องมี เพราะถ้าไม่มีจานที่บ้านเราไม่สะอาดแน่นอน นั่นก็คือน้ำยาล้างจานนั่นเองจ้า ถ้าใครใจถึงจะใช้น้ำยาล้างจานสระเลยก็ได้นะคะ แต่ผลเสียคือผมมันจะแห้งมาก ๆอาจจะต้องบำรุงเพิ่มหน่อย แต่ถ้าเราไม่อยากเสี่ยง แนะนำให้เอาน้ำยาล้างจานผสมกับแชมพูที่ใช้ประจำก็ได้ค่ะ แต่ให้เน้นแชมพู 2/3 นะคะ จากนั้นก็เอามาสระตามปกติเลยค่ะ พวกสีผมเข้ม ๆ ก็จะเริ่มหลุดออกมาเพราะน้ำยาล้างจานจะมีซัลเฟตที่เข้มข้นกว่าแชมพูเอาจริง ๆ น้ำยาล้างจานกับแชมพูเนี่ยทำคล้าย ๆ กันมากนะคะ ต่างกันตรงที่แชมพูจะมีการใส่สารบำรุงให้ผมนุ่มแล้วก็มีซัลเฟตปริมาณที่ไม่เยอะเท่าน้ำยาล้างจานเท่านั้นเองค่ะ สระเสร็จก็ล้างออกแล้วสระอีกรอบหลังจากนั้นอย่าลืมลงทรีตเมนต์หรือครีมนวดด้วยน้า ♥

โซดาหรือน้ำอัดลม

น้ำอัดลมหรือโซดาก็ช่วยให้สีผมหลุดไวได้เหมือนกัน หลายคนน่าจะทราบดีว่าน้ำอัดลมหรือโซดามีฤทธิ์เป็นกรดกัดกะเพาะได้ บางคนก็เอามาใช้เพื่อทำความสะอาดห้องน้ำ หรือกัดสนิทก็มี แต่ถ้าจะใช้น้ำอัดลมแนะนำให้ใช้แบบไม่มีน้ำตาลจะโอเคกว่านะคะ เพราะถ้าใช้แบบมีน้ำตาลหัวคงเหนียวน่าดู แต่ถ้าตัดปัญหาเลยก็ใช้โซดาเลยค่ะ ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ฤทธิ์เหมือนกันเป๊ะ วิธีใช้ก็หมักทิ้งไว้ประมาณ 10 - 30 นาทีหลังจากนั้นก็สระผมและบำรุงตามปกติ แค่นี้สีผมของเราก็จะอ่อนลงแล้วค่า แถมยังให้ความนุ่มเพิ่มขึ้นด้วยนะ ใครอยากลองก็ไปทำกันได้เน้อ ♥

เบกกิ้งโซดา ( Baking Soda )

อันนี้อาจจะหายากนิดนึง แต่ถ้าบ้านใครทำขนมน่าจะมีติดบ้านกันแน่ ๆ ซึ่งสิ่งนั้นก็คือเบคกิ้งโซดานั่นเองค่า เบกกิ้งโซดาก็เป็นสารตัวนึงที่ช่วยทำให้สีผมของเราจางลง แต่ฤทธิ์ของมันอาจจะไม่ได้รุนแรงพอที่จะกัดสีผมได้ อาจจะต้องผสมกับแชมพูขจัดรังแคเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการกัดสีผมให้มากขึ้น แต่วิธีที่ว่าเนี่ยเป็นวิธีแบบธรรมชาติการสระครั้งแรกอาจจะไม่ได้เห็นผลชัดมากแนะนำว่าให้สระวนไปนะคะ จะเห็นผลดีที่สุด แต่ใด ๆ ก็ต้องเว้นระยะบ้างน้า อย่าสระทุกวัน เพราะไม่งั้นผมอาจจะแห้งเกินไปได้เว้นสัก 2 - 3 วันแล้วสระอีกครั้งจะโอเคกว่านะคะ ♥

แชมพูขจัดรังแค

เพิ่งพูดไปเลยว่าแชมพูขจัดรังแคช่วยให้สีผมอ่อนลง ที่บอกว่าแชมพูขจัดรังแคช่วยก็เพราะว่าแชมพูขจัดรังแคจะมีความแรงในการทำความสะอาดมากกว่าแชมพูทั่ว ๆ ไป ก็เลยทำให้สีผมหลุดได้ง่าย ถ้าใครทำสีผมแล้วไม่อยากให้สีลอกควรเลี่ยงแชมพูขจัดรังแคเลยนะคะ แต่ถ้าอยากให้มันลอกละก็ใช้ได้เลยค่ะ อาจจะผสมเบกกิ้งโซดาแบบข้อข้างบนก็ได้ หรือผสมน้ำยาล้างจานก็ได้นะคะ ช่วยได้เหมือนกัน รับรองว่าหลุดไวขึ้นแน่นอน แต่อาจจะต้องใช้เวลาหมักเพิ่มไปสักหน่อยหรือต้องสระซ้ำ แล้วก็อย่าลืมบำรุงผมนะคะ ไม่งั้นผมแห้งกรอบชี้ฟูไม่รู้ด้วยน้า > _ <

✤ ✤ ✤ ✤ ✤ ✤ ✤ ✤ ✤ ✤ ✤ ✤ ✤ ✤ ✤ ✤

ครบทั้ง 7 ตัวช่วยแล้วจ้า เป็นไงกันบ้างเอ่ย หาง่าย ใช้ง่ายสุด ๆ เลยใช่ม้า? ทุกวิธีที่เราบอกมาส่วนมากก็คือต้องใช้เวลาในการให้มันลอกนะคะ แบบอย่าคาดหวังว่ามันจะดีขึ้นในทันทีถ้าใจร้อนแบบว่าทนไม่ไหวจริง ๆ แนะนำให้กัดสีได้นะคะ อันนี้เห็นผลแบบทันตาสุด ๆ แต่แลกมาด้วยผมที่อาจจะแห้งกว่าเดิมหรือเสียมากขึ้นเน้อ ถ้าอดทนรอไหวก็ใช้วิธีด้านบนจะโอเคกว่าค่า ถึงผมจะแห้งไปบ้างแต่ใช้เวลากู้กลับมาไม่นานนะคะ เพราะว่ามันไม่ได้ทำร้ายผมมากเท่าพวกยาย้อมผมหรือน้ำยากัดนั่นเอง อันนี้แล้วแต่ใครสะดวกเลยนะคะ แต่ถ้าให้แนะนำจากประสบการณ์ที่เคยย้อมแล้วเข้มไปเราใช้น้ำยาล้างจานสระประมาณ 3 ครั้งสีก็เริ่มอ่อนลง แต่ยอมรับเลยนะคะว่าผมแห้งมากจริง ๆ แต่ลงทรีตเมนต์ก็ดีขึ้นค่ะ ยังไงลองไปทำกันดูน้า วิธีไหนเลิศ ก็แวะมาบอกชาวซิสต้าในคอมเมนต์ได้นะคะ ♥ตอนนี้เราขอตัวลาไปก่อน แล้วพบกันใหม่นะคะ สวัสดีค่า > 3 <