นี่แหละ เหมาะสุด! รวม 7 ผลไม้คลายร้อน ดับกระหาย เติมความสดชื่น ในวันที่อากาศแย้แย่

หน้าร้อน นี่ก็ร้อนเกินจะทนร้อนแบบไม่ไหวจะอยู่ต่อตรงหน้าพัดลมแล้ว!หลายคนคลายร้อนด้วยการกินไอติม ดื่มน้ำอัดลมเย็นๆ แต่ว่าการดื่มน้ำอัดลมมากๆ มันไม่ดีต่อสุขภาพนะ ทั้งอ้วน ทั้งฟันผุ คลายร้อนได้จริง สดชื่นแหละ แต่ดื่มมากไปก็ไม่ดีเท่าไหร่งั้นลองเปลี่ยนมากินเป็นผลไม้แทนดีมั้ยผลไม้ฉ่ำๆ แช่เย็นๆ บอกเลยว่าดีต่อใจมาก! รวม7 ผลไม้คลายร้อนดับกระหายเติมความสดชื่น ในวันที่อากาศแย้แย่จะมีผลไม้ชนิดใดบ้างนั้น เราไปส่องพร้อมๆ กันเลยค่ะซิส

1. แตงโม

ผลไม้ชนิดแรก ที่เรามักนึกถึกในช่วงหน้าร้อน แน่นอนว่าต้องเป็น แตงโม พี่! เอาน้ำแตงโมปั่นแก้วนึง นี่คือผลไม้ที่เข้ากับช่วงซัมเมอร์ที่สุดแล้ว แตงโม ผลไม้สีแดง น้ำเยอะ เขาอุดมไปด้วยวิตามินซี วิตามินเอ วิตามินบี โพแทสเซียม สังกะสีทองแดง และแร่ธาตุอื่น ๆ อีกมากมาย ที่จะมาช่วยดับกระหาย คลายร้อนได้ ยิ่งแช่เย็นๆ ยิ่งหวานฉ่ำ สดชื่น แต่ว่าอย่าทานเยอะนักนะ ไม่งั้นได้วิ่งเข้าห้องน้ำบ่อยแน่ๆ

2. มะพร้าว

น้ำมะพร้าวเย็นๆ ก็เข้ากับช่วงหน้าร้อนอยู่นะ น้ำมะพร้าวช่วยดับกระหายคลายร้อนให้เราได้ง่ายๆ แถมยังมีประโยชน์ด้วยนะคะ ทั้งช่วยล้างสารพิษและขับความร้อนออกจากร่างกาย ทั้งช่วยชะลอความชรา และยังช่วยแก้อาการแฮงก์จากการดื่มหนักได้อีก สำคัญคือใครที่ชอบดื่มน้ำหวานๆ ลองดื่มน้ำมะพร้าวแทนดู ความหวานของน้ำมะพร้าวจะช่วยเติมเต็มอาการอยากของหวานๆ ได้ แหม! เหมาะกับช่วงไดเอตที่สุดเลย

3. สับปะรด

สับปะรดก็เป็นอีกหนึ่งผลไม้ที่เข้ากับช่วงหน้าร้อนมาก แนะนำให้แช่เย็นเลยค่ะ เวลากินนะ เหมือนกินไอติมเลย สดชื่นมาก! ซึ่งเจ้าสับปะรดนั้น ประกอบไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ รวมถึงวิตามินซี วิตามินบี แมกนีเซียม โพแทสเซียม และแมงกานีส ที่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ช่วยป้องกันโรคไซนัสอักเสบ และโรคข้อเข่าเสื่อมได้ นอกจากนี้ยังช่วยแก้อาการท้องผูกได้ดีมากๆ ประโยชน์แบบหลายเด้งสุดๆ ทั้งช่วยดับกระหาย แถมทำให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีอีก เริ่ด!

4. เมลอน

เมลอน หรือแคนตาลูป ล้วนเข้ากับช่วงซัมเมอร์พอๆ กันเลยค่ะ เมลอนมีรสที่หวาน ฉ่ำ ทานแล้วฟินสุดๆ ซึ่งเจ้าเมลอนนั้น เป็นแหล่งของโพแทสเซียม วิตามินซี โฟเลต แมกนีเซียม และวิตามินเค นอกจากนี้ยังมีปริมาณน้ำที่สูงเช่นเดียวกับแตงโม เรื่องดับกระหาย พูดเลยว่าช่วยได้เยอะมากๆ ทั้งเขายังช่วยบำรุงกระดูก เพิ่มความชุ่มชื้น เสริมสร้างคอลลาเจน นอกจากนี้ยังช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และช่วยในเรื่องของระบบย่อยอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย คือประโยชน์แบบแน่นๆ เลยค่ะ

5. ส้ม

ส้มเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินซี และแร่ธาตุมากมาย ที่จะมาช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของเรา นอกจากนี้ ส้มยังมีน้ำและเส้นใยที่ช่วยลดความอยากอาหาร ทำให้เรารู้สึกอิ่มเร็ว สำคัญคือความสดชื่นของส้ม ยังช่วยดับกระหายและดับร้อนได้อีก ทำให้เรารู้สึกสดชื่นด้วย ทั้งนี้ส้มยังมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระมากมาย ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยและช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใสได้ พร้อมทั้งยังมีประโยชน์อีกเยอะเลยต่อสุขภาพร่างกายของเรา อากาศร้อนๆ แบบนี้ ลองดื่มน้ำส้มคั้นเย็นๆ สักแก้ว รับรองว่า ยิ้มกว้างแน่นอนค่ะ

6. ลิ้นจี่

ถัดมาที่ลิ้นจี่ อีกหนึ่งผลไม้ที่สรรพคุณช่วยดับกระหาย มีน้ำในตัวสูง เหมาะกับช่วงซัมเมอร์มากๆ แถมเจ้าลิ้นจี่ยังมีส่วนช่วยป้องกันไขมันอุดตัน ลดผื่น ลดสิวได้อีกด้วย หน้าร้อนแบบนี้ จะคั้นเป็นน้ำลิ้นจี่ดื่ม หรือแกะเนื้อลิ้นจี่ แล้วแช่เย็นไว้กินก็ได้ รับรองว่า ช่วยดับร้อนได้ดีมากๆ ทั้งนี้ลิ้นจี่ยังมีส่วนช่วยบำรุงระบบการย่อยอาหาร ช่วยลดกรดในกระเพาะอาหาร ช่วยรักษาอาการท้องเดิน แก้อาการท้องเสียชนิดไม่รุนแรงและประโยชน์อื่นๆ อีกมากมาย เรียกได้ว่าเป็นผลไม้ที่มีสรรพคุณทางยาชนิดนึงที่ดีต่อสุขภาพมากๆ

7. สาลี่

และผลไม้ชนิดสุดท้าย สาลี่ เขาเป็นผลไม้ที่มีมีลักษณะคล้ายแอปเปิ้ล แต่มีสีเหลืองนวลอมส้ม ทั้งเนื้อก็ยังหวานฉ่ำ อร่อยมากๆ สาลี่เป็นหนึ่งในผลไม้ที่มีน้ำเยอะ ทั้งยังประกอบไปด้วยน้ำตาลที่ดี ที่ร่างกายสามารถนำไปเป็นพลังงานได้ แถมสาลี่ยังเป็นผลไม้ที่มีฤทธิ์เย็น ดังนั้นทานแล้วจึงรู้สึกเย็น ช่วยดับกระหายได้ดีสุดๆ แนะนำให้แช่เย็นนะ รับรองว่ากินแล้วสดชื่นจริงๆ ค่ะ นอกจากนี้ ลาสี่ยังอุดมไปด้วยไฟเบอร์สูง ช่วยในเรื่องของระบบการขับถ่ายได้ดี ทั้งยังช่วยลดอาการท้องอืดได้ด้วย

สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่ไม่ชอบดื่มน้ำอัดลม เราแนะนำให้ทำน้ำผลไม้สดๆ ดื่ม แช่เย็นๆ นะ อือหือ สดชื่นมากๆ หรือจะกินเป็นผลไม้สดก็ได้เหมือนกัน ปอกเสร็จแล้ว แช่เย็นรอไว้ก่อน กินตอนเย็นๆ ฉ่ำๆ บอกเลยว่า สดชื่นมากๆ เหมือนกันไอติมเลยค่ะ ลองดูนะสำหรับวันนี้ต้องลาไปก่อนแล้ว บ๊ายบาย

Cr. 10 ผลไม้คลายร้อนให้ร่างกาย ของกินเล่นแก้กระหาย แถมยังไม่อ้วนด้วย !https://health.kapook.com/view192666.html

Cr. 10 ผลไม้คลายร้อน ฉ่ำน้ำสดชื่นตลอดทั้งหน้าร้อนhttps://www.gourmetandcuisine.com/stories/detail/1149