ไหน ๆ มีใครติดนิสัยชอบนอนตอนผมเปียกหรือผมยังแห้งไม่สนิทดีบ้างคะ? เพิ่งผ่านพ้นช่วงสงกรานต์ไปไม่นาน หลาย ๆ คนต้องอยู่กับเส้นผมที่เปียกเป็นเวลานานทำให้เส้นผมและหนังศีรษะเริ่มอ่อนแอ แถมบางคนอาจจะเล่นน้ำจนเหนื่อย ไม่ยอมเป่าผมให้แห้งสนิทดีก่อนนอนด้วย แบบนี้บอกเลยว่าไม่เวิร์กนะเออ เพราะการนอนทั้ง ๆ ผมยังเปียก เป่าผมไม่แห้ง ให้แห้งสนิทดีมันมีข้อเสียแฝงอยู่ด้วย แต่เอ๊ะ... มันเป็นข้อเสียยังไง อันตรายมากไหม เรามาหาคำตอบด้านล่างนี้กันเลยจ้า แอบกระซิบว่ามีแนะนำการเป่าผมแต่ละแบบและการดูแลเส้นผมหลังจากสงกรานต์มาฝากด้วยนะ!
♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥
เป่าผมไม่แห้ง อันตรายจริงเหรอ ?
ถ้าถามว่าอันตรายจริงเหรอก็บอกได้เลยว่าจริงค่ะ แต่อาจจะไม่ได้อันตรายรุนแรงอะไร คือการปล่อยให้เส้นผมเปียกเป็นเวลานาน ๆ มันก็คือการทำให้หนังศีรษะและเส้นผมของเราอยู่กับความชื้นนะคะ ดังนั้นเมื่อความชื้นสัมผัสกับอากาศเป็นเวลานานก็อาจจะทำให้เกิดเชื้อราหรือก็คือพวกรังแคได้นั่นเองค่ะ ซึ่งการเป็นรังแคก็จะทำให้หนังศีรษะมีความอ่อนแอ เส้นผมของเราก็จะอ่อนแอไปด้วย อาจทำให้ผมแห้งเสีย ผมขาดร่วง มีอาการคันต่าง ๆ ได้ สามารถฟังข้อมูลเพิ่มเติมจากคุณหมอใน 2 คลิปด้านล่างได้เลยนะคะ
♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡
ปล่อยให้ผมแห้งเอง VS ใช้พัดลมเป่าผม VS ใช้ไดร์เป่าผม แบบไหนดีที่สุด?
การทำให้เส้นผมที่เปียกกลับมาแห้งอีกครั้งก็มีหลายวิธีนะคะ บางคนอาจจะชอบปล่อยให้แห้งเอง บางคนใช้พัดลมเป่า แต่บางคนก็ใช้ไดร์เป่าผมเป่าไปเลย แล้วแบบนี้เราควรทำแบบไหนดี แบบไหนจะดีที่สุด งั้นเรามาดูข้อดีและข้อเสียของแต่ละวิธีกันเลยค่ะ
ปล่อยให้ผมแห้งเอง
ข้อดี
- เส้นผมและหนังศีรษะไม่แห้งเสียจากความร้อน
ข้อเสีย
- เมื่อผมเปียกนาน ๆ ทำให้หนังศีรษะอับชื้น อาจเสี่ยงเป็นรังแคหรือหนังศีรษะอักเสบได้
ใช้พัดลมเป่าผม
ข้อดี
- หนังศีรษะและเส้นผมไม่แห้งเสียจากความร้อน
ข้อเสีย
- ใช้เวลานาน ผมแห้งค่อนข้างช้า
- อาจมีฝุ่นจากพัดลมที่พัดมาเกาะบนเส้นผมและใบหน้าได้
- เราต้องโดนลมจ่อตรง ๆ เป็นเวลาหลายนาที ซึ่งอาจจะทำให้บางคนเกิดอาการป่วยได้
ใช้ไดร์เป่าผม
ข้อดี
- ใช้เวลาน้อย ประหยัดเวลา ผมแห้งไว
- ไม่เสี่ยงต่อการเป็นรังแคหรือหนังศีรษะอักเสบ
ข้อเสีย
- หากไดร์ไม่มีระบบลมเย็น อาจทำให้เส้นผมโดนความร้อนบ่อยและทำให้ผมแห้งเสียได้
ทั้ง 3 วิธีมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งถ้าจะให้แนะนำเลยว่าวิธีไหนจะมั่นใจว่าแห้งสนิทที่สุด ก็ขอแนะนำเป็นการใช้ไดร์เป่าผมเลยค่ะ ผมเราจะแห้งไว ประหยัดเวลา ไม่เสี่ยงป่วยหรือเป็นรังแคด้วย แต่จะต้องเลือกซื้อไดร์เป่าผมที่มีระบบลมเย็นหรือระบบปกป้องผมจากความร้อนด้วยนะคะ แบบนั้นจะทำให้ผมเราแห้งเสียน้อยลงน้า
♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡
รวมวิธีฟื้นฟูผมเสีย ให้กลับมานุ่มสวย !
ช่วงเวลาที่ผมเราจะเปียกยาวนานที่สุดคงหนีไม่พ้นช่วงเทศกาลสงกรานต์ใช่ไหมล่ะคะ ยิ่งเล่นหลายวันนี่ยิ่งแล้วใหญ่เลย เจอทั้งน้ำที่ไม่สะอาด แสงแดด มลภาวะต่าง ๆ ในอากาศด้วย ผมของหลาย ๆ คนก็เกิดเริ่มแห้งเสียกันไปตามระเบียบ เราก็เลยขอรวบรวมวิธีดูแลฟื้นฟูผมเสียในช่วงสงกรานต์มาฝากกันตามนี้เลยค่ะ~
1. เปลี่ยนผมเสียให้นุ่มสลวยด้วย “น้ำมันมะพร้าว”
ปัญหาเส้นผมหลายคนมักจะเจอหลังจากเล่นน้ำสงกรานต์ หรือทำกิจกรรมกลางแจ้งที่ต้องเผชิญกับแสงแดดเป็นเวลานานก็คือผมแห้งเสียนั่นเองค่ะ แบบนี้จึงต้องหาตัวช่วยดี ๆ มาช่วยเติมความชุ่มชื้นและคืนความนุ่มสลวยเงางามให้กับเส้นผมแล้วหากอยากได้ตัวช่วยจากธรรมชาติมาช่วยบำรุงเส้นผม ทางเราก็แนะนำให้เลือกใช้ “น้ำมันมะพร้าว” ได้เลยค่ะ อย่างที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าน้ำมันมะพร้าวโดดเด่นเรื่องการช่วยบำรุงผิวพรรณและเส้นผมให้มีความชุ่มชื้น เพราะน้ำมันมะพร้าวอุดมไปด้วยไขมัน ธาตุเหล็ก สังกะสี รวมถึงวิตามินอีและวิตามินเคเพียงแค่หมักผมด้วยน้ำมันมะพร้าวเป็นประจำ ก็จะสัมผัสได้เลยว่าเส้นผมและหนังศีรษะมีความชุ่มชื้นขึ้น แถมยังผมนุ่มสลวยและดูสุขภาพดีขึ้นด้วยนะคะ ซึ่งเราก็มีน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นมาแนะนำด้วย
Tropicana Organic Extra Virgin Coconut Oil
เริ่มต้นกันด้วยน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นแบรนด์ Tropicana เลยค่ะ ตัวนี้แบรนด์บอกว่าผลิตจากมะพร้าวพันธุ์ดีจากเขตภาคใต้ของไทย สกัดเย็นจนได้น้ำมันมะพร้าวสีใสประกายทอง หอมละมุน สามารถใช้หมักผม เช็ดเครื่องสำอาง นวดผิวหน้าและผิวกาย กลั้วปาก และใช้รับประทานอาหารหรือปรุงอาหารที่มีความร้อนต่ำได้ด้วยนะคะ
ราคา : 100 - 650 บาท
พิกัด : https://s.shopee.co.th/2Veb5vC6Cr
Phutawan Coconut Oil 100%
ต่อมาเป็นแบรนด์ภูตะวันค่ะ เป็นน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น 100% ใช้มะพร้าวสดไม่ดัดแปลงพันธุกรรม มีกลิ่นหอมตามธรรมชาติ คงคุณค่าของสารอาหารไว้ครบถ้วน ช่วยบำรุงเส้นผมให้กลับมานุ่มลื่นสลวย บำรุงผิวให้ชุ่มชื้น บำรุงเล็บไม่ให้ฉีกขาดง่าย รับประทานก่อนมื้ออาหาร รวมถึงใช้แปรงฟันเพื่อลดคราบหินปูนได้ด้วยนะคะ
ราคา : 120 - 600 บาท
พิกัด : https://s.shopee.co.th/4Amp50V877
I-Nature Coconut Oil 100%
สำหรับแบรนด์ไอเนเจอร์เป็นน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น 100% เช่นเดียวกันค่ะ ไม่มีการแต่งสีและแต่งกลิ่น สกัดสดใหม่ตลอด ไม่มีเหม็นหืน ใช้นวดผิวกาย ผิวหน้า รวมถึงใช้ทาผิวหลังอาบน้ำก็ได้ รวมถึงสามารถใช้รับประทาน กลั้วปาก เช็ดเครื่องสำอางและทาบำรุงเส้นผมให้ชุ่มชื้นได้อีกด้วยนะคะ
ราคา : 125 - 690 บาท
พิกัด : https://s.shopee.co.th/6VAk48M1PW
♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡
2. เลือกใช้แชมพู & ครีมนวดผม สำหรับผมแห้งเสีย
หลังจากที่เส้นผมต้องเผชิญกับทั้งแสงแดดและอากาศร้อนจากการเล่นน้ำ รวมถึงต้องเจอสิ่งสกปรกในอากาศและสิ่งที่เจือปนมาในน้ำด้วย ก็อาจทำให้ผมขาดความชุ่มชื้นจนแห้งเสียได้ง่าย ๆ ดังนั้นเราจึงควรเลือกใช้แชมพูและครีมนวดผมสูตรสำหรับผมแห้งเสียโดยเฉพาะ มาใช้เป็นตัวช่วยทำความสะอาดเส้นผมและหนังศีรษะ ไม่ให้มีสิ่งสกปรกและสารเคมีตกค้างสะสม รวมทั้งช่วยบำรุงให้เส้นผมชุ่มชื้น ไม่หยาบกระด้าง และดูนุ่มสลวยอีกครั้ง ซึ่งเราได้หยิบ 3 แชมพูที่เหมาะสำหรับผมเสียมาแนะนำกันตามนี้เลยจ้า
L'Oréal Elseve Hyaluron Moisture 72H Moisture Filling
แน่นอนว่าผมแห้งเสียก็ควรจะบำรุงด้วยการเติมความชุ่มชื้นนะคะ ซึ่งแชมพูตัวนี้ของลอริอัลบอกเลยว่าตอบโจทย์ค่ะ เพราะเป็นแชมพูที่มีส่วนผสมของไฮยารูลอนิก มอบความชุ่มชื้นให้กับเส้นผมและหนังศีรษะเป็นเวลายาวนานถึง 72 ชั่วโมง (3 วัน) สระแล้วสะอาด มีกลิ่นหอม ผมนุ่มลื่น สางแล้วไม่พันกัน ใช้คู่กับคอนดิชันเนอร์จะยิ่งเห็นผลได้ชัดขึ้นนะคะ
ราคา : 189 - 249 บาท
พิกัด : https://s.shopee.co.th/9ABV2pNMHR (แชมพู + คอนดิชันเนอร์)
DOVE Hya-Keratin Shine
อีกตัวที่คุณภาพดีไม่แพ้กันเลยก็คือโดฟค่ะ แน่นอนว่าถ้าเป็นแชมพูของโดฟคือกลิ่นหอมแน่นอนนะคะ แล้วตัวนี้ก็เป็นสูตรที่ช่วยด้านความชุ่มชื้นให้กับเส้นผม ให้เส้นผมชุ่มชื้นยาวนาน 72 ชั่วโมง (3 วัน) ฟื้นฟูผมแห้งเสีย ผมนุ่มสลวย แล้วก็ยังซ่อมแซมโครงสร้างของเส้นผมให้ดูฉ่ำวาวเปล่งประกายสมกับชื่อไฮยาเคราตินเลยนะคะ และถ้าจะให้ดีก็ควรใช้ควบคู่กับคอนดิชันเนอร์หรือครีมนวดของเขาด้วยน้า
ราคา : 189 - 259 บาท
พิกัด : https://s.shopee.co.th/8fFESbq1ij (แชมพู + คอนดิชันเนอร์)
TSUBAKI Premium Moist & Repair
ผมใครแห้งเสียและชี้ฟูแนะนำเป็นซึบากิขวดแดงเลยค่ะ เป็นสูตรที่ช่วยฟื้นบำรุงผมแห้งเสียให้กลับมานุ่มสลวย เงางาม บูสต์ผมให้ชุ่มชื้นมากยิ่งขึ้น จัดทรงผมง่ายมากขึ้น กลิ่นหอมสไตล์ซึบากิ แล้วก็ยังมีเทคโนโลยีที่ทำให้สารบำรุงต่าง ๆ ซึมซาบเข้าสู่เส้นผมได้อย่างล้ำลึกมากขึ้นด้วย แล้วถ้าจะให้ดีก็อย่าลืมใช้คู่กับครีมนวดด้วยนะคะ
ราคา : 329 - 658 บาท
พิกัด : https://s.shopee.co.th/4L6FIVR8gS (แชมพู + คอนดิชันเนอร์)
♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡
3. หลีกเลี่ยงการหวีผมตอนสระผม หรือ ผมเปียก
เชื่อว่ามีหลาย ๆ คนที่ชอบหวีเส้นผมตอนผมเปียกหรือตอนสระผมเพราะขัดใจที่ผมพันกันใช่ไหมละคะ แต่เส้นผมของเราตอนเปียกมีความอ่อนแอค่อนข้างมาก หากเราไปหวีหรือสางมันตอนที่เปียกก็จะทำให้หลุดร่วงได้ง่ายกว่าปกติ ดังนั้นเนี่ยถ้าหลีกเลี่ยงการหวีผมตอนที่สระผมหรือผมเปียกได้ก็จะดีมากเลยค่ะ แต่ถ้าติดนิสัยจริง ๆ ก็ขอแนะนำเป็นหวีที่เหมาะสำหรับผมเปียกเฉพาะ 3 ตัวนี้เลยค่า
Haxon Airy Light Detangling Brush
ในราคาที่เบาที่สุดก็แนะนำเป็นแฮ็กซ์ซอนเลยค่ะ ตัวนี้เป็นหวีที่สามารถหวีได้ทั้งตอนเปียกและตอนแห้ง ซี่หวีจะมีความห่างทำให้หวีง่าย ผมไม่พันกัน ตัวหวีมีช่องระบายอากาศทำให้ไม่รบกวนการเป่าผมและหวีไม่อับชื้น น้ำหนักเบา หวีสะดวก ไม่ดึงเส้นผมจนขาดหลุดร่วง สีสันก็สวยงามด้วยนะคะ
ราคา : 189 - 399 บาท
พิกัด : https://s.shopee.co.th/3AuHuopY6y
WET BRUSH Shower Glitter Detangler
ถ้าพูดถึงหวีเปียก็ต้อง Wet Brush เลยค่า ตัวนี้แบรนด์เคลมมาเลยว่าเป็นแปรงที่ใช้ในการหวีผมเปียกโดยเฉพาะ ตัวขนแปรงทำจากวัสดุพิเศษของทางแบรนด์ ทำให้เมื่อหวีแล้วลดแรงที่ใช้หวีถึง 55% แล้วยังช่วยลดการขาดร่วงมากถึง 45% เลยนะคะ แถมปุ่มที่อยู่บนเส้นขนแปรงก็ช่วยนวดหนังศีรษะ หวีแล้วไหลลื่น ผมพันกันน้อยลงด้วยค่ะ
ราคา : 383 - 425 บาท
พิกัด : https://s.shopee.co.th/2qHRWOpkgd
TANGLE TEEZER The Original Fine & Fragile
เป็นอีกแบรนด์ที่สามารถใช้ตอนผมแห้งหรือผมเปียกก็ย่อมได้นะคะ ตัวแปรงจะแปลกตาหน่อยแต่จับถนัดมือ หวีง่าย สางเส้นผมได้ดีทำให้เส้นผมไม่พันกัน ลดแรงในการหวีทำให้เส้นผมขาดร่วงน้อยลงและไม่เจ็บหนังศีรษะ มีหลายสีและหลายดีไซน์ให้่เลือกด้วยนะคะ แบบมีด้ามจับจริง ๆ แบรนด์เขาก็มีน้า
ราคา : 650 บาท
พิกัด : https://s.shopee.co.th/5VICh2n1eQ
♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡
4. หลีกเลี่ยงการจัดแต่งทรงผมด้วยความร้อนสูง
แค่เส้นผมต้องเผชิญกับทั้งแสงแดด ความร้อน น้ำ และสารพัดสิ่งในช่วงวันสงกรานต์ ที่รุมเร้าเข้ามาทำร้ายเส้นผมจนแห้งกรอบแล้ว ถ้าเรายิ่งใช้อุปกรณ์จัดแต่งทรงผมที่ใช้ความร้อนสูงในการเป่า หนีบ หรือม้วนผมเป็นประจำ ก็ไม่ต่างอะไรจากการทำร้ายเส้นผมแบบซ้ำๆ เลยนะคะ เพราะความร้อนจะทำร้ายเส้นผมให้แห้งเสีย ชี้ฟู และอ่อนแอจนขาดหลุดร่วงง่ายขึ้น ดังนั้น ในช่วงเวลาที่เส้นผมพังหนักหลังสงกรานต์ก็ควรหลีกเลี่ยงการจัดแต่งทรงผมด้วยความร้อนสูงไปก่อน หรือไม่อย่างนั้นก็ควรฉีดสเปรย์กันความร้อนเพื่อปกป้องเส้นผมก่อนที่จะลงมือจัดแต่งทรงผมด้วยอุปกรณ์ที่ต้องใช้ความร้อนด้วย ซึ่งเราก็มีมาแนะนำ 3 ชิ้นด้วยกันค่า
Lolane Pixxel Optimum Care Heat Protection Volume Spray
เจ้าสเปรย์โลแลนตัวนี้ฉีดก่อนเป่าผมได้เลยค่ะ เพราะเขาช่วยปกป้องเส้นผมจากความร้อนถึง 220 องศาเซลเซียส อีกทั้งยังช่วยบำรุงเส้นผมให้แข็งแรง ชุ่มชื้น เงางาม ช่วยยกโคนผมให้ดูหนานุ่มขึ้น ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ ปริมาณ 200 มล. ใช้ได้นานเลยล่ะ
ราคา : 175 บาท
พิกัด : https://s.shopee.co.th/AA42G88qYz
NIGAO Leave-On Aqua Hair Nutrient
ต่อมาเป็นสเปรย์ของนิกาโอะค่ะ ตัวนี้ก็ใช้ฉีดก่อนจะใช้ความร้อนกับเส้นผมได้เลย นอกจากนี้ยังช่วยบำรุงเส้นผมอย่างล้ำลึก ทำให้เส้นผมไม่เสีย ไม่ชี้ฟู ซ่อมแซมโครงสร้างของเส้นผม ลดปัญหาผมร่วงและลดการระคายเคืองได้อีกด้วย แต่จริง ๆ เขาเป็นอาหารผมแบบลีฟออนได้ด้วยนะคะ ก็คือสามารถใช้บำรุงผมได้ทุกวัน แล้วก็ยังสามารถใช้ฉีดก่อนจะทำเคมีต่าง ๆ กับเส้นผมได้อีกด้วย ซื้อ 1 ได้ถึง 3 เลยทีเดียว
ราคา : 189 บาท
พิกัด : https://s.shopee.co.th/2Veb7verQr
LESASHA Heat Protecting & Curling Spray
สายชอบม้วนผมน่าจะชอบตัวนี้เลยค่ะ เพราะแบรนด์เขาเคลมมาเลยว่าสามารถใช้ในการปกป้องเส้นผมจากความร้อนต่าง ๆ ได้สูงถึง 180 องศาเซลเซียส แล้วก็ยังช่วยล็อกลอนผมให้อยู่ทรงนาน สปริงตัวสวย แล้วก็ยังช่วยบำรุงเส้นผมอย่างล้ำลึก ล็อกความชุ่มชื้นให้เส้นผม อีกทั้งยังทำให้เส้นผมเรียบลื่นด้วย
ราคา : 239 - 320 บาท
พิกัด : https://s.shopee.co.th/30arj3KzK9
♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡
5. เป่าผมให้แห้งสนิทเสมอ
ไม่ว่าจะก่อนนอนหรือตอนไหนก็ตามที่ผมเราเปียก เราควรจะทำให้ผมเราแห้งไวที่สุดนะคะ อย่างที่บอกไปเลยว่าการเป่าผมด้วยไดร์เป่าผมมันตอบโจทย์ที่สุด ทั้งประหยัดเวลา แห้งเร็วทันใจ ไม่เสี่ยงเป็นรังแคหรือป่วย รวมไปถึงถ้าเลือกไดร์คุณภาพดี ๆ มีมาตรฐานมอก.รองรับ มีเทคโนโลยีช่วยปกป้องผมจากความร้อนและมีระบบลมเย็นก็จะทำให้ผมไม่เสียด้วยนะคะ ดังนั้นเพื่อให้เส้นผมของเรากลับมาแข็งแรงมากขึ้นก็ต้องเป่าให้แห้งไว ๆ เสมอน้า ซึ่งเราก็มีไดร์ดี ๆ มาแนะนำกัน 3 ตัวเลยค่ะ
LESASHA Maxi Air Hair Dryer 1800W (LS0663)
ตัวนี้จะเป็นไดร์เป่าผมของเลอซาช่าค่ะ มาในดีไซน์มินิมอล แข็งแรง น้ำหนักเบา เป่าแล้วแห้งไว มีหัวไดร์ 1 แบบ มีระบบทั้งลมเย็นและลมร้อน ปรับความแรงได้ 3 ระดับ สรุปก็คือลมเย็น 3 ระดับและลมร้อน 3 ระดับนั่นเองนะคะ ดังนั้นเนี่ยไม่ต้องกังวลเรื่องของผมแห้งเสียหรือต้องใช้เวลาเป่านาน ๆ เลย แถมราคาก็ดีมาก ๆ ด้วยค่ะ
ราคา : 599 - 1,299 บาท
พิกัด : https://s.shopee.co.th/8zs4sS1zCn
Panasonic Ionity Hair Dryer 1800W (EH-NE27-KL)
ต่อมาจะเป็นไดร์ของพานาโซนิคค่ะ เป็นไดร์ที่เขาเคลมมาเลยว่าช่วยปล่อยไอออนประจุลบทำให้เส้นผมไม่แห้งเสียและรักษาความชุ่มชื้นในเส้นผมได้ดี มีทั้งระบบลมร้อนและเย็น มีโหมดที่ช่วยปกป้องทั้งเส้นผมและหนังศีรษะโดยเฉพาะด้วย อีกทั้งยังเป่าแล้วแห้งเร็ว แม้จะเป็นรุ่นที่ใช้กำลังไฟ 1800 วัตต์แต่ให้ความแรงเทียบเทียบกับ 2,000 วัตต์เลยนะคะ ราคากับคุณภาพนี่คุ้มค่าสุด ๆ
ราคา : 900 - 990 บาท
พิกัด : hhttps://s.shopee.co.th/2qHRXICMBU
Vivid&Vogue High Speed Hair Dryer 1600W
ตัวสุดท้ายของไดร์เป่าผมก็ขอแนะนำเป็น Vivid&Vogue เลยนะคะ ตัวนี้จะเป็นไดร์ที่น้ำหนักเบา ใช้งานแล้วไม่ปวดแขน เสียงไม่ดังรบกวน ปรับระดับความแรงได้ถึง 3 ระดับ มีรอบหมุนถึง 120,000 รอบ/นาที ทำให้ผมแห้งไว รวมไปถึงระดับความร้อน - เย็นก็ 3 ระดับนะคะ มีการปล่อยไอออนทั้งประจุบวกและประจุลบ ทำให้ลดการเกิดไฟฟ้าสถิตย์หรือทำให้ผมชี้ฟูได้อีกด้วย
ราคา : 1,999 -3,998 บาท
พิกัด : https://s.shopee.co.th/30arjNygg3
♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡
6. บำรุงเส้นผมแห้งเสียอย่างล้ำลึกด้วย “Leave on”
ปิดท้ายการฟื้นบำรุงผมด้วย Leave on หรือลีฟออนกันเลยค่ะ หลายคนอาจจะยังแอบงง ๆ ว่ามันคืออะไรใช่ไหมละคะ? ลีฟออนก็คืออาหารผมที่ช่วยบำรุงเส้นผมจากภายนอก ทำให้ผมนุ่มสลวย เงางาม โดยไม่ต้องล้างออก ซึ่งมีเนื้อหลากหลายแบบให้เลือกใช้เลยค่ะ ทั้งแบบครีม สเปรย์ เซรั่ม ออยล์ ฯลฯ ถ้าใครมีสภาพเส้นผมเสียหนักมากก็จะแนะนำเป็นพวกออยล์หรือครีม แต่ถ้าเสียไม่มากก็เป็นเนื้อเบา ๆ แบบพวกเซรั่มหรือออยล์ที่มีความเบา ๆ เหลว ๆ ก็ได้เหมือนกันค่ะ แน่นอนว่าเรามีตัวเด็ด ๆ มาแนะนำให้ทุกคนไปลองสอยด้วยน้า
GO HAIR Professional Hair Mask
ตัวนี้จะเป็นแบรนด์โกแฮร์ค่ะ เหมาะกับการบำรุงผมที่เส้นเล็ก ตัวมาสก์จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้เส้นผม ลดปัญหาการขาดหลุดร่วงและชี้ฟู แก้ปัญหาผมแห้งเสียแตกปลายให้กลับมาดูชุ่มชื้น มีน้ำหนัก จัดทรงง่ายมากยิ่งขึ้น และความพิเศษของเจ้าตัวนี้ก็คือสามารถปกป้องเส้นผมจากความร้อนได้สูงถึง 220 องศาเซลเซียสด้วยนะเออ
ราคา : 159 - 329 บาท
พิกัด : https://s.shopee.co.th/4VPfToGlQv
L'Oreal Paris Elseve Hyaluron Moisture Hydra Filling Night Cream
สำหรับครีมตัวนี้ของลอรีอัลเขาจะเน้นการบำรุงแบบเติมความชุ่มชื้นให้กับเส้นผมค่ะ เนื้อออกครีมขาว ๆ ข้น ๆ แต่ไม่เหนียวเหนอะเลย กลิ่นหอม หลังจากชโลมลงบนเส้นผม ถ้าใครอยากให้แห้งไวขึ้นแนะนำว่าให้ใช้ไดร์เป่าผมเลือกลมเย็นเป่าให้แห้ง เขาจะทำให้เส้นผมนุ่มลื่น ชุ่มชื้นยาวนานถึง 72 ชั่วโมงหรือยาวนานถึง 3 วันเลยนะคะ
ราคา : 159 - 179 บาท
พิกัด : https://s.shopee.co.th/3fqYUcBNvK
mise en scene Perfect Serum
เนื้อเซรั่มออยล์ก็ต้องยกให้มีสอองแซง (mise en scene) เลยค่ะ เป็นตัวดังของแบรนด์เลยจริง ๆ มีหลากหลายสูตรให้เลือกใช้เลย ทั้งแบบที่เหมาะกับผมแห้งเสียมาก ผมแห้งเสียกลาง ๆ ไปจนถึงตัวที่มีความเป็นออยล์เหลว ๆ เน้นเติมความชุ่มชื้นให้กับเส้นผมที่ไม่ได้แห้งเสียมากด้วยนะคะ กลิ่นหอม เนื้อไม่เหนอะหนะ ทำให้ผมนุ่มลื่น เงางาม
ราคา : 359 - 399 บาท
พิกัด : https://s.shopee.co.th/5KymU2EEWP
♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥
ได้รู้แล้วว่า เป่าผมไม่แห้ง หรือการปล่อยให้ผมเปียกเป็นเวลานาน ๆ อาจจะส่งผลให้ป่วยแล้วก็ยังทำให้เกิดปัญหาหนังศีรษะและเส้นผมด้วยนะคะ รู้แบบนี้แล้วทุกคนก็อย่าลืมทำให้ผมแห้งเร็วที่สุดกันน้า แล้วก็อย่าลืมบำรุงดูแลเส้นผมอย่างสม่ำเสมอด้วย ซึ่งชาวซิสสามารถนำการดูแลเส้นผมจากทั้ง 6 วิธีที่เราแนะนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้นะคะ ไม่จำเป็นต้องใช้แค่ตอนช่วงหลังสงกรานต์เน้อ ว่าแล้วทางเราก็ขอตัวไปบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะบ้างดีกว่า ไว้กลับมาพบกันใหม่ในบทความหน้านะคะ บ๊ายบาย
ขอบคุณรูปภาพหน้าปกจากเว็บไซต์ soompi.com, voshop.co.kr รวมทั้งภาพประกอบบทความจากร้านค้าออนไลน์ tropicanaoil_official, ภูตะวัน Phutawan (สำนักงานใหญ่), i nature_Officialshop, Unilever Hair Care Official, FineToday Japan Official Store, KNK Store, Tangle Teezer, Lolane Official, Lesasha Official Shop, Panasonic official store, BEAUTRIUM Official Store, NIGAO Official Store, Go Hair official และ Watsons Official Store
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
แนะนำบทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ!
หวีผมตอนผมเปียก ทำให้ผมเสียจริงไหม? พร้อมบอก 7 ทริคใช้หวียังไงให้ผมสวย | บทความของ pumxpurin | SistaCafe ครบเครื่องเรื่องบิวตี้
https://sistacafe.com/summaries/Should-you-be-combing-wet-hair-201284
ไดร์เป่าผมแห้งไว 2024 ใช้งานง่าย เลือกยังไงให้ไม่ทำร้ายเส้นผม? | บทความของ SistaCafe | SistaCafe ครบเครื่องเรื่องบิวตี้
https://sistacafe.com/summaries/best-quick-dry-hair-dryer-95836
รวมทริค วิธีสระผมที่ถูกต้อง สระบ่อยแค่ไหน สระยังไงให้หอม ไม่มีรังแค | บทความของ SIS GURU | SistaCafe ครบเครื่องเรื่องบิวตี้
https://sistacafe.com/summaries/how-to-wash-your-hair-properly-91453
สูตรหมักผมแห้งเสีย กู้ผมแห้งเสียด้วยวิธีธรรมชาติ ในราคาเบ๊าเบา ! | บทความของ belfry | SistaCafe ครบเครื่องเรื่องบิวตี้
https://sistacafe.com/summaries/natural-hair-mask-recipes-76183
10 ไลฟ์สไตล์ในชีวิตประจำวัน ที่ทำให้ผมร่วงหนักกว่าเดิมหลายเท่า | บทความของ SIS GURU | SistaCafe ครบเครื่องเรื่องบิวตี้
https://sistacafe.com/summaries/10-Lifestyle-hair-fall-91711
