ทำงานได้อย่างไม่ติดขัดแต่ ๆบางคนก็อาจจะกลับกัน คือตอนกลางวันทำงานไปอย่างเต็มที่จนไม่ได้พัก พอตกกลางคืนเลยใช้เวลาพักผ่อนไปกับการดูหนังฟังเพลงจนเช้าเป็นแบบนี้อยู่บ่อยครั้งจนเริ่มชินและไม่ยอมปรับเปลี่ยนการนอน ซึ่งเราอยากจะบอกสาว ๆ ว่า หยุดก่อนน!!! นี่คือพฤติกรรมของ“โรคร่าเริง”♡♡♡♡ซึ่งในปัจจุบันคนส่วนใหญ่ก็เริ่มเป็นกันมากขึ้น หรือบางคนเป็นแล้วอาจไม่รู้ตัวเพราะร่างกายที่อดหลับอดนอนเป็นประจำอาจจะไม่รู้สึกผิดปกติของร่างกายนั่นเอง เราอยากจะบอกว่าโรคนี้มีผลเสียมากกว่าที่ทุกคนคิดและแน่นอนว่ามีผลเสียในระยะยาว และที่สำคัญนี่เป็นอีกหนึ่งซะจนเหนื่อยใจเลย!
ซึ่งอาการของโรคเริงสาว ๆ จะสังเกตได้ง่ายมาก ๆ เพราะหากมีแค่สองอาการนี้ที่สาว ๆ เป็นอยู่ประจำก็สามารถฟังธงได้เลยว่าทุกคนเข้าสู่สมาคมโรคร่าเริงเป็นที่เรียบร้อย
●กลางวันง่วงเหงาหาวนอน ร่างกายอ่อนล้า หงุดหงิดง่าย ไม่มีในการทำงานหรือการเรียน
●กลางคืนกระปรี้กระเปร่า อยู่ได้ยันเช้า ไอเดียงานพรั่งพรูหยุดจนหยุดไม่อยู่ อดหลับอดนอนวนไป
และอาการเหล่านี้หากสาว ๆ เป็นอยู่ประจำไม่ยอมปรับเปลี่ยนสักที ก็จะส่งผลเสียต่อร่างกาย และผิวของพวกเราอย่างแน่นอนโดยไม่ต้องสงสัย ซึ่งผลกระทบที่ตามมาจะมีอะไรบ้างไปดูกัน~
ฮอร์โมนผิดปกติ
การอดนอนคือปัญหาหลัก ๆ เลยที่ทำให้ฮอร์โมนของเราหลั่งผิดปกติ โดยเฉพาะโกรทฮอร์โมนที่เป็นตัวช่วยฟื้นฟูร่างกายในช่วงเวลาพักผ่อนตอนกลางคืนพอสาว ๆ ไม่ยอมนอนตอนกลางคืนโกรทฮอร์โมนก็เริ่มจะหดหายไปจนทำให้ระบบต่าง ๆ ของร่างกายทำงานผิดเพี้ยน
สำคัญมาก ๆ เลยนะทุกคนขีดเส้นใต้ย้ำว่าการที่โกรทฮอร์โมนหดหายไปมันทำให้ผิวของสาว ๆ ไม่ได้รับการซ่อมแซม ผลที่ตามมาคือผิวหน้าเหี่ยวย่น ไม่เปล่งปลั่ง ผิวหมองคล้ำ ขาดความชุ่มชื้น สิวต่าง ๆ ก็พากันผุดขึ้นมาบนใบหน้า และเป็นที่มาของการเป็นกระ เป็นฝ้าได้อีกด้วยเห็นมั้ยว่ามันส่งผลต่อปัญหาผิวของสาว ๆ โดยตรงเลยนะ
ตื่นเช้าไม่ไหว ร่างกายไม่ยอมลุก
แน่นอนว่าหากไม่ได้นอนตอนกลางคืนไม่มีทางที่สาว ๆ จะลุกขึ้นตื่นมาใช้ชีวิตในตอนเช้าได้อย่างสดใสร่าเริงได้เต็มร้อย เพราะมักจะใช้ช่วงเวลาตอนเช้าไปกับการนอนกลางวันซึ่งการนอนกลางวันร่างกาย และผิวก็ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอได้ไม่เท่ากับการนอนพักผ่อนตอนกลางคืนเลยสักนิดถึงจะเป็นการนอนตอนเช้าผิวสาว ๆ ก็พังอยู่ดี
ที่แย่กว่าคือหลาย ๆ คน อาจจะต้องออกไปเรียนหรือทำงานตอนเช้าด้วย หากไม่ได้นอนหรือนอนน้อยรับรองว่าประสิทธิการทำงาน หรือการเรียนลดลงแน่นอน จนสุดท้ายก็หอบงานมาทำตอนกลางคืนวนไปแบบนี้เหมือนเดิมแนะนำให้สาว ๆ ปรับเปลี่ยนหรือมั้ยก็ฝืนใจนอนในตอนกลางคืนให้ได้นะคะ เพื่อสุขภาพร่างกาย และสุขภาพผิว
การทำงานของลำไส้ผิดเพี้ยน
ไม่ยอมหลับ ยอมนอน ก็พลอยทำให้ระบบการขับถ่อยปั่นป่วนได้เหมือนกันนะสาว ๆ เพราะปกติคนส่วนใหญ่มักจะตื่นขึ้นมาเพราะปวดท้องต้องการขับถ่ายออก เหมือนเป็นนาฬิกาปลุกตอนเช้าของสาวหลาย ๆ คนแต่พอการนอนผิดปกติทำให้ตอนเช้าไม่ยอมตื่นขึ้นมาขับถ่ายให้เป็นเวลาเหมือนปกติ สุดท้ายผลที่ตามมาคือทำให้สาว ๆ ท้องผูก และมีปัญหาเกี่ยวกับลำไส้ได้นั้นเอง
โรคต่าง ๆ ตามมาสมทบ
จากที่ผิวพังหมองคล้ำ ตื่นนอนไม่เป็นเวลา ท้องใส้มีปัญหา สาว ๆสะสมปัญหามาเรื่อย ๆ ไม่ยอมเปลี่ยนพฤติกรรมการนอนสักทีจนสุดท้ายโรคร้ายแรงอื่น ๆ ก็จะตามแน่ ๆ ไม่ว่าจะเป็นประจำเดือนผิดปกติเนื่องจากฮอร์โมนหลั่งผิดปกติทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นเพราะการเผาผลาญลดลง รวมไปถึงโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิต มะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ก็สามารถมาทักทายสาว ๆ ได้เหมือนกันนะคะ มาดูวิธีปรับการนอนกันดีกว่า!
●ปรับเปลี่ยนเวลานอนใหม่ควรฝึกเข้านอนตั้งแต่เวลา 22.00 – 02.00 น. ไม่ว่าจะทำอะไรอยู่ก็ตาม ต้องวางลงแล้วเริ่มเข้าทันที ปิดมือถือ และการแจ้งเตือนต่าง ๆ ด้วยนะ เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวน หากทำไปเรื่อย ๆ สาว ๆ ก้จะเริ่มชินและสามารถเข้านอนได้ตามปกติของคนทั่วไปเลย
●ปรับเปลี่ยนเวลาการทานอาหารควรปรับเปลี่ยนการกินให้ตรงตามเวลา เพื่อให้การขับถ่ายตรงตามเวลาเช่นกัน และสาว ๆ ควรทานอาหารให้มาก ๆ ลดคาร์โบไฮเดรต เพราการการแป้งและน้ำตาลอาจะทำให้ง่วงนอน แต่โปรตีนจะช่วยให้ร่างกายไม่อ่อนเพลีย
●ฝึกดิ่มน้ำให้มาก ๆสาว ๆ ควรดิ่มน้ำให้ได้อย่างน้อย 8 แก้วต่อวัน เพื่อให้ร่างกายสดชื่น ไม่ง่วงนอนระหว่างวัน และยังช่วยให้สมองแล่นอีกด้วย
●ออกกำลังกายเป็นประจำการออกกำลังกายเป็นประจำจะช่วยให้เลือดไหลเวียนสูบฉีดได้ดี ทำให้กระปี้กระเปร่า และช่วยให้ตอนกลางคืนสาว ๆ นอนหลับฝันหวานได้อย่างสบาย ๆ ด้วยนะ
♡♡♡♡♡♡แค่สาว ๆ ได้ลองปรับเปลี่ยนกิจวัตรหรือพฤติกรรมการทำงานหามรุ่งหามค่ำ ไม่ยอมพักผ่อน ตามวิธีที่เรานำมาแนะนำ ก็จะช่วยให้อาการจากโรคร่าเริงค่อย ๆ หายไป และการกิน การนอน ของสาว ๆ ก็จะเริ่มกลับมาเป็นปกติ ผิวและร่างกายก็เริ่มจะกลับมามีสุขภาพที่ดีเหมือนกัน แต่ไม่จำเป็นต้องฝึกทำให้ได้ในทีเดียวนะ ค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนไปทีละนิดละหน่อย เมื่อทำได้เมื่อไหร่สาว ๆ ก็ต้องทำให้เป็นกิจวัตรประจำแทนพฤติกรรมโรคร่าเริงแล้วนะ~