นอกจากหน้าจะแห้งเหมือนโดนสวรรค์แกล้งแล้วหน้ายังแตกจนอยากแทรกแผ่นดินหนีอีก พูดแล้วจะร้อง ใครที่กำลังเจอปัญหาหน้าผิวแห้งจนลอกเป็นขุย ตึงเปรี๊ยะ เจ็บแสบแบบไม่ไหว ขอเชิญพับกบ เอ้ย! พบกับ! ฮีโร่ที่คอยช่วยเติมน้ำให้ผิวชุ่มชื้นอย่างมอยส์เจอไรเซอร์ วันนี้ซิสจะมาเล่าสู่กันฟังว่าเค้าคืออะไร พิเศษยังไง หรือตอบคำถามว่าทำไมทามอยส์เจอไรเซอร์แล้วมันแสบผิว พร้อมยังคะ เอ้า..เริ่มเลออ
Moisturizer คืออะไร?
จริงๆ แล้วมอยส์เจอไรเซอร์คือคำที่ถูกนิยามขึ้นจากเหล่านักการตลาดเพื่อบ่งบอกว่าเจ้าสิ่งนี้เนี่ยคือสารที่รักษาความสมบูรณ์ของผิวโดยทำหน้าที่เป็นสารให้ความชุ่มชื้นให้กับผิวและช่วยซ่อมแซมเกราะป้องกันผิวจะบอกว่าผลิตภัณฑ์ที่เราทาไปเค้าไม่ได้อยู่เฉยๆ บนพื้นผิวของผิวหนังเท่านั้น แต่เค้ายังแทรกซึมเข้าไปมีอิทธิพลต่อโครงสร้างและการทำงานของผิวเราด้วย ซึ่งแต่ละตัวก็จะมีกลไกการออกฤทธิ์แตกต่างกันไป บางตัวช่วยเรื่องผิวนุ่ม บางตัวซีลผิวเพื่อลดการสูญเสียน้ำผ่านผิวหนัง และหรือบางตัวช่วยฟื้นฟูเกราะป้องกันผิวในการดูดซับ กักเก็บน้ำในผิวไว้ให้ผิวยังคงความชุ่มชื้น บอกเลยว่าครบสารพัดประโยชน์จ้า
♡♡♡♡♡♡
ทำไมเราถึงต้องใช้ Moisturizer ?
ทำให้ผิวชุ่มชื้น หลายๆครั้งที่มอยส์เจอไรเซอร์และสารทำให้ผิวนุ่มมักถูกมองว่ามีความหมายเหมือนกัน แม้ว่าจะเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งอุดตันและสารให้ความชุ่มชื้นก็ตาม Emolients ส่วนใหญ่ประกอบด้วยไขมันดีซึ่งเติมเต็มช่องว่างช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ความเรียบเนียน ความนุ่มนวล ความยืดหยุ่น Occlusive เป็นมอยส์เจอไรเซอร์ประเภทส่วนใหญ่เป็นน้ำมันและทำหน้าที่ในการรักษาปริมาณน้ำในผิวหนังโดยการสร้างฟิล์มเคลือบกันน้ำเหนือผิวหนังและป้องกันการสูญเสียน้ำผ่านผิวหนังชั้นนอก มอยส์เจอไรเซอร์ประเภทสุดท้ายคือ humectants ที่ประกอบด้วยสารดูดความชื้นที่ช่วยให้ stratum corneum ดูดซับน้ำโดยดึงดูดน้ำจากผิวหนังชั้นหนังแท้และสภาพแวดล้อมที่ชื้นเข้าสู่ผิวหนังชั้นนอก2 ประสิทธิภาพของมอยเจอร์ไรเซอร์ขึ้นอยู่กับการเลือกที่เหมาะสมและการปฏิบัติตามข้อกำหนดในการใช้งานอย่างต่อเนื่องเป็นสำคัญ .
ไมาว่าจะผิวธรรมดา ผิวแห้ง หรือผิวแบบไหนๆ ก็ควรใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ ผิวที่แห้งกร้านจะมองเห็นได้ชัดว่ามีการเปลี่ยนแปลงและสัมผัสของผิวหนังตลอดจนซึ่งแสดงเป็นอาการของผิวแห้ง อาการเหล่านี้รวมถึงความรู้สึกแห้งกร้าน มีอาการตึง เจ็บปวด คัน แสบ ซึ่งมอยส์เจอไรเซอร์จะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดอาการเหล่านี้ ช่วยตัดวงจรผิวแห้งและยังคงความเรียบเนียนของผิวไว้
อย่างที่เรารู้กันดีว่าผิวหนังทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันเนื้อเยื่อใต้ผิวจากปัจจัยภายนอก ไม่ว่าจะการติดเชื้อจากแบคทีเรียหรือการระคายเคืองจากสารเคมี ถ้าเกิดเกราะป้องกันผิวซึ่งเป็นแหล่งสะสมของไขมันดี ( เช่น เซราไมด์ คอเลสเตอรอล และกรดไขมัน ) เกิดพังเป็นรอยรั่ว น้ำในผิวก็พร้อมที่จะระเหยออกไป ซึ่งปริมาณน้ำในผิวหนังนี่แหละที่เป็นตัวชี้วัดความแห้งของผิวและคอยคงสภาพความยืดหยุ่นให้แก่ผิวพอเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ผิวก็จะขาดความชุ่มชื้นและนำไปสู่ผิวแห้ง
เมื่อผิวเราแห้งเราจะสามารถสังเกตุเห็นได้ชัดเจนว่าผิวจะมีความแห้งกร้าน สัมผัสไม่เรียบนุ่มเหมือนเคย ซึ่งบางคนก็อาจจะมีอาการอาการตึง เจ็บปวด คัน แสบร่วมด้วย อะๆ...นอกจากผิวแห้งแล้วคนผิวมันก็อย่าพึ่งนิ่งนอนใจไป เพราะผิวแห้งเท่ากับร่างกายเราจะยิ่งผลิตน้ำมันบนผิวออกมามากเท่านั้น หน้ามันแบบไม่ต้องสืบทีนี้แหละตามมาด้วยปัญหาสิวจุกๆอีก เพราะฉะนั้นเราก็ควรกันไว้ก่อนแก้ ซึ่งการทามอยส์เจอไรเซอร์ก็จะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดอาการเหล่านี้ โดยการตัดวงจรผิวแห้งและยังคงความเรียบเนียนของผิวไว้ เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะผิวธรรมดา ผิวแห้ง หรือผิวแบบไหนๆ ก็ควรใช้มอยส์เจอไรเซอร์!
♡♡♡♡♡♡
ประเภทของ Moisturizer
ถึงจะเรียกว่ามอยส์เจอไรเซอร์แต่ใช่ว่าสารทุกตัวจะเหมือนกัน เพราะอย่างที่เกริ่นไปตั้งแต่ต้นมอยส์เจอไรเซอร์เค้าแบ่งตามกลไกหน้าที่การทำงานของแต่ละตัวไป มาดูกันว่ามีอะไรบ้างกันเลย
❥Occlusive เป็นมอยส์เจอไรเซอร์ที่ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มน้ำมันและทำหน้าที่ในการรักษาปริมาณน้ำในผิวหนัง ป้องกันน้ำระเหยออก โดยการสร้างฟิล์มกันน้ำเคลือบเหนือผิวหนัง เช่น Mineral oil, Petrolatum jelly, Beeswax, Silicones
❥Humectant ประกอบด้วยสารดูดความชื้นที่ช่วยดึงน้ำจากชั้นล่างของผิวและน้ำจากสภาพแวดล้อมเข้ามาเพื่อเป็นการเติมความชุ่มชื้นให้ผิว เช่น Urea, Hyaluronic acid, Glycerin, Propylene glycol
❥Emolient ส่วนใหญ่ประกอบด้วยไขมันดีซึ่งเติมเต็มช่องว่างระหว่างเซลล์ จะช่วยเสริมเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรง จึงป้องกันการสูญเสียน้ำในผิว ปรับให้ผิวเรียบเนียน นุ่มขึ้น คงความยืดหยุ่นไว้ได้ เช่น Fatty Acid, Ceramides, Squalene
เจาะลึกสกินแคร์ ไฮยาลูรอน 2024 ฮีโร่ตัวจริงคนผิวขาดน้ำ เติมผิวให้ฉ่ำ | SistaCafe ครบเครื่องเรื่องบิวตี้
https://sistacafe.com/summaries/88952
♡♡♡♡♡♡
ทริคเลือก Moisturizer ยังไงให้เห็นผล
บางคนอาจจะมีคำถามทำไมทาว่านหางจระเข้แล้วผิวไม่ชุ่มชื้นขึ้นเลยล่ะ ทั้งๆ ที่นี่ก็มอยส์เจอไรเซอร์นี่นา? นั่นก็เป็นเพราะหน้าที่ของเค้าคือเป็น Humectant ที่ช่วยดึงน้ำเข้าสู่ผิวแต่ไม่ได้ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นนั่นเอง เห็นมั้ยคะว่าการรู้จักหน้าที่มีความสำคัญขนาดไหน ทีนี้มาลองดูกันว่าคนแต่ละประเภทผิวเหมาะกับมอยส์เจอไรเซอร์แบบไหนบ้าง
❥ ผิวแห้ง เหมาะกับกลุ่ม Occlusive เพื่อกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ใต้ผิว (Humectant+Occlusive Moisturizers ) เลือกเนื้อสัมผัสครีมที่เนื้อค่อนข้างหนัก แนะนำว่าคนผิวแห้งอย่าใช้แค่ Humectant อย่างเดียว เพราะถ้าเราอยู่ในที่ที่สภาพอากาศแห้งผิวเราจะยิ่งแห้งเข้าไปใหญ่ค่ะ เพราะมันจะดึงน้ำจากใต้ผิวแทนที่จะดึงจากอากาศแทน
❥ ผิวมัน เหมาะกับกลุ่ม Humectant ดึงความชุ่มชื้นเข้าสู่ผิว (Emollient+Humectant) เลือกเนื้อสัมผัสบางเบา จะได้สบายผิว ไม่หนักหน้า
❥ ผิวแพ้ง่าย เหมาะกับกลุ่ม Emollient เพื่อเสริมสร้างเกราะผิวให้แข็งแรง (Emollient) อย่าลืมว่าถ้าเป็นคนผิวง่ายก็ควรทดสอบสกินแคร์ก่อนใช้จริงนะคะ
♡♡♡♡♡♡
ทำไมทา Moisturizer แล้วแสบหน้า ?
หลายครั้งที่ผิวเราแห้งๆ มา พอทามอยส์เจอไรเซอร์ลงไปแล้วรู้สึกแสบจี๊ด จนตกใจว่าหรือเราระคายเคืองสกินแคร์ตัวนี้กันนะ แต่ความจริงแล้วสาเหตุเกิดมาจากสภาพผิวของเราในช่วงนั้นกำลังย่ำแย่ เกราะป้องกันผิวของเราจึงไม่แข็งแรงทำให้แสบเวลาทามอยส์เจอไรเซอร์นั่นเอง วิธีการแก้ก็ง่ายมาก นั่นก็คือทามอยส์เจอไรเซอร์เสริมเกราะป้องกันผิววนไป พอผิวเราปรับสภาพได้แล้ว ทาสกินแคร์ครั้งหน้าก็ทาได้สบายผิวแล้วจ้า แต่ถ้าทากี่ครั้งก็ยังแสบหน้า อันนี้เป็นสัญญาณเตือนของการแพ้ครีมแล้วนะคะซิส
♡♡♡♡♡♡
เป็นยังไงคะ เข้าใจความสำคัญของมอยส์เจอไรเซอร์กันมากขึ้นหรือยัง? อย่าลืมว่าสิ่งที่ขาดไปไม่ได้ไม่ว่าจะยังไงก็คือการเติมน้ำให้ผิว เพราะการที่ผิวเราขาดน้ำจะตามมาด้วยปัญหาหลายอย่างมากเวอร์ ไม่ว่าจะหน้าลอกเป็นขุย หน้ามัน หรือสิวเห่อ เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะผิวธรรมดา ผิวแห้ง หรือผิวแบบไหนๆ ยังไงก็ควรใช้มอยส์เจอไรเซอร์ไว้นะ ผิวเราจะได้อิ่มฉ่ำ นุ่มเด้ง สุขภาพดีกันไปยาวๆ เลยจ้า (๑❛ᴗ❛๑)
♡♡♡♡♡♡
Designer :kidasindahouse
Writer :BabyPeachy
อ้างอิง
https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC4885180/
https://theskincareedit.com/how-to-choose-moisturizer
https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC5849435/