นอกจากหน้าจะแห้งเหมือนโดนสวรรค์แกล้งแล้วหน้ายังแตกจนอยากแทรกแผ่นดินหนีอีก พูดแล้วจะร้อง ใครที่กำลังเจอปัญหาหน้าผิวแห้งจนอกเป็นขุย ตึงเปรี๊ยะ เจ็บแสบแบบไม่ไหว ขอเชิญพับกบ เอ้ย! พบกับ! ฮีโร่ที่คอยช่วยเติมน้ำให้ผิวชุ่มชื้นอย่างมอยส์เจอไรเซอร์ วันนี้ซิสจะมาเล่าสู่กันฟังว่าเค้าคืออะไร พิเศษยังไง หรือตอบคำถามว่าทำไมทามอยส์เจอไรเซอร์แล้วมันแสบผิว พร้อมยังคะ เอ้า..เริ่มเลออ

รูปภาพ:

Moisturizer คืออะไร?

จริงๆ แล้วมอยส์เจอไรเซอร์คือคำที่ถูกนิยามขึ้นจากเหล่านักการตลาดเพื่อบ่งบอกว่าเจ้าสิ่งนี้เนี่ยคือสารที่รักษาความสมบูรณ์ของผิวโดยทำหน้าที่เป็นสารให้ความชุ่มชื้นให้กับผิวและช่วยซ่อมแซมเกราะป้องกันผิวจะบอกว่าผลิตภัณฑ์ที่เราทาไปเค้าไม่ได้อยู่เฉยๆ บนพื้นผิวของผิวหนังเท่านั้น แต่เค้ายังแทรกซึมเข้าไปมีอิทธิพลต่อโครงสร้างและการทำงานของผิวเราด้วย ซึ่งแต่ละตัวก็จะมีกลไกการออกฤทธิ์แตกต่างกันไป บางตัวช่วยเรื่องผิวนุ่ม บางตัวซีลผิวเพื่อลดการสูญเสียน้ำผ่านผิวหนัง และหรือบางตัวช่วยฟื้นฟูเกราะป้องกันผิวในการดูดซับ กักเก็บน้ำในผิวไว้ให้ผิวยังคงความชุ่มชื้น บอกเลยว่าครบสารพัดประโยชน์จ้า

Face Moisturizers work two ways: they either trap moisture in your skin, creating a temporary seal, or they restore lost moisture in the outer layer of your skin. There are 4 classes of ingredients in moisturizers: Occlusives, like petrolatum, form a protective seal; Humectants, like hyaluronic acid and bionic acid, pull in water from deeper skin layers and the atmosphere; Emollients, like glycerin, fill in cracks and roughness, helping to smooth the skin; and Barrier-repair ingredients, like ceramides and the polyhydroxy acid (PHA) gluconolactone, replace natural fats and skin conditioners, helping the skin barrier to function optimally. Most products are formulated with a combination of ingredients—so it’s best to choose a moisturizer based on your skin type and/or skin concern.

ทำไมเราถึงต้องใช้ Moisturizer ?

ทำให้ผิวชุ่มชื้น หลายๆครั้งที่มอยส์เจอไรเซอร์และสารทำให้ผิวนุ่มมักถูกมองว่ามีความหมายเหมือนกัน แม้ว่าจะเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งอุดตันและสารให้ความชุ่มชื้นก็ตาม Emolients ส่วนใหญ่ประกอบด้วยไขมันดีซึ่งเติมเต็มช่องว่างช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ความเรียบเนียน ความนุ่มนวล ความยืดหยุ่น Occlusive เป็นมอยส์เจอไรเซอร์ประเภทส่วนใหญ่เป็นน้ำมันและทำหน้าที่ในการรักษาปริมาณน้ำในผิวหนังโดยการสร้างฟิล์มเคลือบกันน้ำเหนือผิวหนังและป้องกันการสูญเสียน้ำผ่านผิวหนังชั้นนอก มอยส์เจอไรเซอร์ประเภทสุดท้ายคือ humectants ที่ประกอบด้วยสารดูดความชื้นที่ช่วยให้ stratum corneum ดูดซับน้ำโดยดึงดูดน้ำจากผิวหนังชั้นหนังแท้และสภาพแวดล้อมที่ชื้นเข้าสู่ผิวหนังชั้นนอก2 ประสิทธิภาพของมอยเจอร์ไรเซอร์ขึ้นอยู่กับการเลือกที่เหมาะสมและการปฏิบัติตามข้อกำหนดในการใช้งานอย่างต่อเนื่องเป็นสำคัญ .

ไมาว่าจะผิวธรรมดา ผิวแห้ง หรือผิวแบบไหนๆ ก็ควรใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ ผิวที่แห้งกร้านจะมองเห็นได้ชัดว่ามีการเปลี่ยนแปลงและสัมผัสของผิวหนังตลอดจนซึ่งแสดงเป็นอาการของผิวแห้ง อาการเหล่านี้รวมถึงความรู้สึกแห้งกร้าน มีอาการตึง เจ็บปวด คัน แสบ ซึ่งมอยส์เจอไรเซอร์จะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดอาการเหล่านี้ ช่วยตัดวงจรผิวแห้งและยังคงความเรียบเนียนของผิวไว้

อย่างที่เรารู้กันดีว่าผิวหนังทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันเนื้อเยื่อใต้ผิวจากปัจจัยภายนอก ไม่ว่าจะการติดเชื้อจากแบคทีเรียหรือการระคายเคืองจากสารเคมี ถ้าเกิดเกราะป้องกันผิวซึ่งเป็นแหล่งสะสมของไขมันดี ( เช่น เซราไมด์ คอเลสเตอรอล และกรดไขมัน ) เกิดพังเป็นรอยรั่ว น้ำในผิวก็พร้อมที่จะระเหยออกไป ซึ่งปริมาณน้ำในผิวหนังนี่แหละที่เป็นตัวชี้วัดความแห้งของผิวและคอยคงสภาพความยืดหยุ่นให้แก่ผิวพอเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ผิวก็จะขาดความชุ่มชื้นและนำไปสู่ผิวแห้ง

เมื่อผิวเราแห้งเราจะสามารถสังเกตุเห็นได้ชัดเจนว่าผิวจะมีความแห้งกร้าน สัมผัสไม่เรียบนุ่มเหมือนเคย ซึ่งบางคนก็อาจจะมีอาการอาการตึง เจ็บปวด คัน แสบร่วมด้วย อะๆ...นอกจากผิวแห้งแล้วคนผิวมันก็อย่าพึ่งนิ่งนอนใจไป เพราะผิวแห้งเท่ากับร่างกายเราจะยิ่งผลิตน้ำมันบนผิวออกมามากเท่านั้น หน้ามันแบบไม่ต้องสืบทีนี้แหละตามมาด้วยปัญหาสิวจุกๆอีก เพราะฉะนั้นเราก็ควรกันไว้ก่อนแก้ ซึ่งการทามอยส์เจอไรเซอร์ก็จะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดอาการเหล่านี้ โดยการตัดวงจรผิวแห้งและยังคงความเรียบเนียนของผิวไว้ เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะผิวธรรมดา ผิวแห้ง หรือผิวแบบไหนๆ ก็ควรใช้มอยส์เจอไรเซอร์!

ประเภทของ Moisturizer

รูปภาพ:

ถึงจะเรียกว่ามอยส์เจอไรเซอร์แต่ใช่ว่าสารทุกตัวจะเหมือนกัน เพราะอย่างที่เกริ่นไปตั้งแต่ต้นมอยส์เจอไรเซอร์เค้าแบ่งตามกลไกหน้าที่การทำงานของแต่ละตัวไป มาดูกันว่ามีอะไรบ้างกันเลย

Occlusiveเป็นมอยส์เจอไรเซอร์ที่ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มน้ำมันและทำหน้าที่ในการรักษาปริมาณน้ำในผิวหนัง ป้องกันน้ำระเหยออก โดยการสร้างฟิล์มกันน้ำเคลือบเหนือผิวหนัง เช่นMineral oil, Petrolatum jelly, Beeswax, Silicones

Humectantประกอบด้วยสารดูดความชื้นที่ช่วยดึงน้ำจากชั้นล่างของผิวและน้ำจากสภาพแวดล้อมเข้ามาเพื่อเป็นการเติมความชุ่มชื้นให้ผิว เช่นUrea, Hyaluronic acid, Glycerin, Propylene glycol

Emolientส่วนใหญ่ประกอบด้วยไขมันดีซึ่งเติมเต็มช่องว่างระหว่างเซลล์ จะช่วยเสริมเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรง จึงป้องกันการสูญเสียน้ำในผิว ปรับให้ผิวเรียบเนียน นุ่มขึ้น คงความยืดหยุ่นไว้ได้ เช่นFatty Acid, Ceramides, Squalene

ทริคเลือก Moisturizer ยังไงให้เห็นผล

รูปภาพ:

บางคนอาจจะมีคำถาม

ทำไมทาว่านหางจระเข้แล้วผิวไม่ชุ่มชื้นขึ้นเลยล่ะ ทั้งๆ ที่นี่ก็มอยส์เจอไรเซอร์นี่นา?

นั่นก็เป็นเพราะหน้าที่ของเค้าคือเป็น Humectant ที่ช่วยดึงน้ำเข้าสู่ผิวแต่ไม่ได้ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นนั่นเอง เห็นมั้ยคะว่าการรู้จักหน้าที่มีความสำคัญขนาดไหน ทีนี้มาลองดูกันว่าคนแต่ละประเภทผิวเหมาะกับมอยส์เจอไรเซอร์แบบไหนบ้าง

ผิวแห้ง


เหมาะกับกลุ่ม

Occlusive

เพื่อกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ใต้ผิว

(

Humectant

+

Occlusive

Moisturizers ) เลือกเนื้อสัมผัสครีมที่เนื้อค่อนข้างหนัก แนะนำว่าคนผิวแห้งอย่าใช้แค่ Humectant อย่างเดียว เพราะถ้าเราอยู่ในที่ที่สภาพอากาศแห้งผิวเราจะยิ่งแห้งเข้าไปใหญ่ค่ะ เพราะมันจะดึงน้ำจากใต้ผิวแทนที่จะดึงจากอากาศแทน

ผิวมัน


เหมาะกับกลุ่ม

Humectant

ดึงความชุ่มชื้นเข้าสู่ผิว

(

Emollient

+

Humectant

) เลือกเนื้อสัมผัสบางเบา จะได้สบายผิว ไม่หนักหน้า

ผิวแพ้ง่าย


เหมาะกับกลุ่ม

Emollient

เพื่อเสริมสร้างเกราะผิวให้แข็งแรง

(

Emollient

) อย่าลืมว่าถ้าเป็นคนผิวง่ายก็ควรทดสอบสกินแคร์ก่อนใช้จริงนะคะ

ทำไมทา Moisturizer แล้วแสบหน้า ?

หลายครั้งที่ผิวเราแห้งๆ มา พอทามอยส์เจอไรเซอร์ลงไปแล้วรู้สึกแสบจี๊ด จนตกใจว่าหรือเราระคายเคืองสกินแคร์ตัวนี้กันนะ แต่ความจริงแล้วสาเหตุเกิดมาจากสภาพผิวของเราในช่วงนั้นกำลังย่ำแย่ เกราะป้องกันผิวของเราจึงไม่แข็งแรงทำให้แสบเวลาทามอยส์เจอไรเซอร์นั่นเอง วิธีการแก้ก็ง่ายมาก นั่นก็คือทามอยส์เจอไรเซอร์เสริมเกราะป้องกันผิววนไป พอผิวเราปรับสภาพได้แล้ว ทาสกินแคร์ครั้งหน้าก็ทาได้สบายผิวแล้วจ้า แต่ถ้าทากี่ครั้งก็ยังแสบหน้า อันนี้เป็นสัญญาณเตือนของการแพ้ครีมแล้วนะคะซิส

รูปภาพ:

เป็นยังไงคะ เข้าใจความสำคัญของมอยส์เจอไรเซอร์กันมากขึ้นหรือยัง? อย่าลืมว่าสิ่งที่ขาดไปไม่ได้ไม่ว่าจะยังไงก็คือการเติมน้ำให้ผิว เพราะการที่ผิวเราขาดน้ำจะตามมาด้วยปัญหาหลายอย่างมากเวอร์ ไม่ว่าจะหน้าลอกเป็นขุย หน้ามัน หรือสิวเห่อ เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะผิวธรรมดา ผิวแห้ง หรือผิวแบบไหนๆ ยังไงก็ควรใช้มอยส์เจอไรเซอร์ไว้นะ ผิวเราจะได้อิ่มฉ่ำ นุ่มเด้ง สุขภาพดีกันไปยาวๆ เลยจ้า (❛ᴗ❛)

Designer :kidasindahouse

Writer :BabyPeachy