เคยมั้ย อยู่ๆ ก็กลายหมาแบบไม่ทันรู้ตัว! ไม่ได้ว่าใคร แต่วันนี้เรามีอีกหนึ่งทฤษฎีความสัมพันธ์ ที่หลายๆ คนอาจจะกำลังตกอยู่ในห้วงนั้น แต่ไม่รู้ตัว ซึ่งก็คือ Pavlov’s Theory โดนฝึกให้เชื่องในความสัมพันธ์ มันคืออะไร สัญญาณเตือนที่กำลังบอกให้รู้ว่า เรากำลังโดยฝึกให้เชื่อง คืออะไร แล้วควรทำยังไงดี วันนี้มาทำความรู้จักกับความสัมพันธ์ประเภทนี่กันเลยดีกว่า


รูปภาพ:ความสัมพันธ์แบบ Pavlov’s Theory รูปคู่รัก
credits รูปภาพ: ขอขอบคุณรูปจาก : https://www.pinterest.com/belllovehero/couple/

Pavlov’s Theory คืออะไร ?


ทางวิทยาศาสตร์ เป็นทฤษฎีการวางเงื่อนไขแบบคลาสสิค (Classical Conditioning) ซึ่งผู้ที่ทำการศึกษาทดลองในเรื่องนี้คือ พาฟลอฟ (Pavlov) โดยทำการศึกษาทดลองกับสุนัข และดูการตอบสนองที่เป็นไปโดยอัตโนมัติ เมื่อนำสิ่งเร้าใหม่มาควบคู่กับสิ่งเร้าเดิม ดูว่าปฏิกิริยาตอบสนองของสุนัขนั้นมีการเปลี่ยนแปลงต่างไปจากเดิมหรือไม่


ความสัมพันธ์แบบPavlov’s Theory มาจากไหน ?


พอดีไปเจอคลิปใน TikTok ที่แชร์เรื่องราวของชายคนนึง ที่ออกมาเล่าว่า “เขาเคยเดทกับสาวคนนึง ทุกครั้งเวลาที่เขามี something กัน สาวคนนั้นมักจะให้ช็อกโกแลตเป็นรางวัล ทำแบบนี้ทุกครั้งอยู่อย่างนั้น ตอนแรกไม่ได้คิดอะไร กระทั่งวันนึง ที่เขาทำแล้วไม่ได้ช็อกโกแลต เขาเอ่ยถามสาวคนนั้นว่า แล้วรางวัลของฉันล่ะ แต่สาวคนนั้นกลับหัวเราะ นั่นจึงเป็นจุดให้เขาคิดเอะใจขึ้นมาได้ว่า นี่ฉันกำลังโดนฝึกให้เชื่องอยู่ใช่มั้ย ทำดีแล้วกระดิกหางขอรางวัล เหมือนกับหมาตัวนึง!”

อ่านมาเท่านี้ เพื่อนๆ ก็น่าจะพอเข้าใจแล้วว่า ความสัมพันธ์แบบ Pavlov’s Theory คืออะไร มันคือ การฝึกให้คู่ของตน รู้สึกเคยชินกับอะไรบางอย่าง และคอยสังเกตดูการตอบสนองของผู้ถูกกระทำว่าแสดงออกมายังไง อาจจะมาในรูปแบบของรางวัล อย่างที่หนุ่มคนนี้ได้รับ หรืออาจจะมาในรูปแบบของความสัมพันธ์ เช่น ความเคยชินที่มีเขา ขาดเขาไม่ได้ เคยชินกับการสัมผัส ที่เขามักจะมอบให้ทุกครั้งเวลาที่เราทำดี เป็นต้น ซึ่งความสัมพันธ์แบบนี้ ไม่ได้เกิดจากการฝึกแค่ครั้งสองครั้ง แต่เป็นการทำแบบเดิมซ้ำๆ ย้ำๆ จนคนที่ได้รับรู้สึกเคยชิน จนติดเป็นนิสัย และเกิดความต้องการและการตอบสนองกับสิ่งนั้นแบบไม่ทันรู้ตัว ไม่ต่างอะไรจากสุนัขที่เชื่องเพราะโดนฝึก


รูปภาพ:ความสัมพันธ์แบบ Pavlov’s Theory รูปคู่รัก
credits รูปภาพ: ขอขอบคุณรูปจาก : https://www.pinterest.com/belllovehero/couple/

สัญญาณเตือนว่าเรากำลังโดนฝึกให้เชื่อง


สัญญาณง่ายๆ เลยคือ เขาจะปฏิบัติกับเราแบบนั้นทุกครั้ง ซ้ำๆ จนเรารู้สึกชินกับมัน เรียกร้องมัน หรือเกิดความต้องการต่อสิ่งนั้น โดยที่ตัวเราเองก็ไม่รู้ตัว ยกตัวอย่างเช่น คนนี้ดีมาก ดูแลเราดีไปหมด จนเราคิดไปแล้วว่า นี่แหละตัวตนเขานะ แต่พอมาวันนึงเขาเลวใส่ เราก็ยังมองว่า ไม่ใช่นะ เขาดี เขาแค่อย่างนั้นอย่างนี้ ไม่ยอมรับ และไปจากเขาไม่ได้ นั่นแหละ ความรู้นี้แหละ คือการที่เขากำลังฝึกเราอยู่! ฝึกให้เราเคยชินกับเขา ยอมรับเขา และติดอยู่กับเขา!

Pavlov’s Theory เป็นความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้น โดยที่คนโดนกระทำอาจจะไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ บางครั้งเราจะคิดว่า ไม่มีอะไร แต่อยากให้ลองสังเกตพฤติกรรมของเขาดู ง่ายๆ เลย เวลาคุณโกรธ ร้องไห้ อารมณ์ไม่ดี แล้วเขาชอบเอาของหรือขนมมาล่อให้คุณรู้สึกดีขึ้น หรือหายโกธร เขามักจะทำแบบนี้ทุกครั้ง ย้ำว่าเกินกว่า 1-2 ครั้ง นั่นอาจจะเป็นไปได้ว่า คุณกำลังตกอยู่ในห้วง Pavlov’s Theory อยู่ก็ได้!


รูปภาพ:ความสัมพันธ์แบบ Pavlov’s Theory รูปคู่รัก
credits รูปภาพ: ขอขอบคุณรูปจาก : https://www.pinterest.com/belllovehero/couple/

4 สัญญาณบ่งบอกว่าเรากำลังเจอรักแบบปลอมๆ อยู่!


1. จอมบงการตัวจริง

เขาจะบงการชีวิตของคุณ ให้เป็นไปในแบบที่เขาต้องการ ต้องทำแบบนี้ อย่าทำแบบนั้น พยายามเปลี่ยนคุณ เพื่อให้เป็นไปในแบบที่เขาต้องการ ทั้งๆ ที่คุณไม่ได้อยากจะทำ โดยใช้คำพูดที่ดูสวยหรูว่า ‘ที่่ทำไปทั้งหมด ก็เพื่อตัวเธอนะ เพื่ออนาคตของเรา’ ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ใช่ คุณอาจจะรู้สึกว่า ก็ไม่ได้เสียหาย แต่เอาจริงๆ ถ้าลองมองดีๆ จะเห็นว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาทำ เขาไม่ได้ทำเพื่อเราค่ะ แต่ทำเพื่อตัวเองอยู่!


2. สำคัญกับเขา แค่บางเวลาเท่านั้น

โดยปกติแล้ว เวลาเรารักใครสักคน เราก็พร้อมที่จะทุ่มเทให้กับเขาโดยไม่มีข้อแม้อยู่แล้ว แต่คนที่ไม่ได้รักเราจริงๆ เขาจะไม่ยอมสละอะไรเลย เขาจะเลือกทำสิ่งที่เขาอยากทำไว้ก่อน ความต้องการของเขาคือ อันดับแรกๆ คุณจะไม่ใช่ตัวเลือกแรกของเขา แต่เมื่อไรก็ตามที่เขาให้ความสำคัญกับคุณ อยู่ๆ ก็โผล่มาทำดี มาเอาใจ ให้คิดไว้เลยว่า มันต้องมีอะไรแน่ๆ เพราะร้อยวันพันปีไม่เคยทำ คนแบบนี้ เมื่อไหร่ก็ตามที่ต้องการประโยชน์จากเรา เขาถึงจะโผล่มา


3. เขาจะไม่คุยเรื่องส่วนตัวของเขากับคุณ

โดยปกติแล้ว คนเราถ้ารักกัน มันก็ควรที่จะแชร์เรื่องราวต่างๆ ของกันและกัน รวมไปถึงเรื่องส่วนตัวของกันด้วย แต่เราไม่ได้รักกัน การแชร์เรื่องส่วนตัวของกันและกัน อาจจะกลายเป็นเรื่องน่าเบื่อไปเลยก็ได้ เพราะไม่อิน และไม่เคยคิดว่ามันจะต้องไปถึงขั้นที่จะต้องมารับรู้ชีวิตของเรา และไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมาบอกเล่าเรื่องราวชีวิตของเขาให้เราฟังด้วย พฤติกรรมนี้ที่ไม่รับรู้ ไม่สนใจ ไม่อยากเล่า มันบ่งบอกว่า เขาอาจจะไม่ได้รักและจริงๆ กับเราเลย


4. เอะอะบอกเลิก

คู่รักบางคู่ ชอบบอกเลิกกันจนเคยชิน คนนึงพูดๆ อีกคนฟังๆ เอาแต่บอกเลิกอยู่นั่นแหละ พูดคำว่า เลิก จนเคยชิน จนเห็นว่ามันไม่มีความหมาย ไม่นึกถึงจิตใจคนฟังเลยสักนิด เจอปัญหากี่ครั้งๆ ก็ตีจาก แล้วแบบนี้จะเรียกว่ารักกันได้ยังไง!


รูปภาพ:ความสัมพันธ์แบบ Pavlov’s Theory รูปคู่รัก
credits รูปภาพ: ขอขอบคุณรูปจาก : https://www.pinterest.com/belllovehero/couple/

วิธีหลุดพ้นจากความสัมพันธ์Pavlov’s Theory


โดยปกติแล้ว ความสัมพันธ์แบบ Pavlov’s Theory คนที่ตกเข้าไปอยู่ในบ่วงนี้ ไม่ค่อยรู้ตัวกันหรอก จะมารู้ตัวจริงๆ ก็ตอนที่เขาฝึกจนเชื่องไปแล้ว! วิธีหลุดพ้นจากความสัมพันธ์แบบนี้คือ การยอมรับความจริง และไม่หลงมัวเมาไปกับภาพลวงตา อย่าลืมว่าเราเป็นคน เรามีสมองที่จะคิดเป็นได้ว่า อะไรมันคืออะไร เมื่อไหร่ก็ตามที่เรารู้สึกว่า ความสัมพันธ์ที่เป็นอยู่มันไม่ใช่ อย่าพยายามหาข้ออ้างเพื่อยื้อให้ความสัมพันธ์ระหว่างเรามันไปต่อ ในขณะที่เขามูฟไปไกลมาก แต่เราก็ยังไม่ไปไหน ยังพยายามบอกตัวเองว่า ไปไม่ได้ นี่มันคือ ความผูกพัน คราวนี้เพื่อนๆ ต้องมานั่งคิดกันใหม่ได้แล้วว่า สรุปความสัมพันธ์ที่เรากำลังเจออยู่ตอนนี้ มันคือความผูกพันจริงๆ หรือแค่เรากำลังโดนฝึกให้เชื่องอยู่กันแน่


รูปภาพ:ความสัมพันธ์แบบ Pavlov’s Theory รูปคู่รัก
credits รูปภาพ: ขอขอบคุณรูปจาก : https://www.pinterest.com/belllovehero/couple/

เป็นยังไงกันบ้าง พอจะเก็ทกับความสัมพันธ์แบบ Pavlov’s Theory แล้วรึยัง บางครั้งความเคยชินอะไรสักอย่าง ที่เขาทำให้ กลับกลายเป็นว่า เขากำลังฝึกเราให้เชื่องอยู่ แบบนี้ก็แย่เหมือนกันนะ กว่าจะรู้ตัว ก็หลวมตัวหลวมใจไปแล้ว แต่ถึงยังไงซะ ตั้งสติได้ รู้ตัวแล้ว ก็ให้รีบดึงตัวเองออกมาซะ อย่าให้เขาหัวเราะเยาะเอาได้

สำหรับวันนี้ต้องลาไปก่อนแล้ว บ๊ายบาย


ขอขอบคุณข้อมูล

ทฤษฎีการวางเงื่อนไขแบบคลาสสิคของพาฟลอฟ (Pavlov)

สัญญาณที่บ่งบอกว่า...คุณกำลังเจอรักปลอมๆ


บทความแนะนำ