ร่างกายต้องคาเฟอีน ☕ มาดู 7 ฮาวทู " ดื่มกาแฟ " อย่างไร ไม่ให้ " เสียสุขภาพ "

หนึ่งในวงการที่เข้าแล้วออกยาก ก็คือ" วงการคาเฟอีน "นั่นเองค่า~คือหลายคนชอบดื่มกาแฟมาก ๆแบบวันนึงขอให้ได้จิบ ได้กินสักแก้วก็ยังดีแต่ทุกคนก็รู้ดีว่าการดื่มกาแฟบ่อย ๆ หรือดื่มในปริมาณที่เยอะ มันไม่ค่อยดีต่อสุขภาพวันนี้เราก็เลยอยากชวนคอกาแฟมาร่วมทำ7 ฮาวทู " ดื่มกาแฟ " ยังไงให้ไม่เสีย " สุขภาพ "กันค่า แน่นอนว่าไม่ได้ง่ายเพราะต้องหักห้ามใจแต่อยากให้ได้ลองนะคะ เอาล่ะ!มาดูกันดีกว่าว่าจะมีวิธีไหนบ้าง เผื่ออย่างน้อยปรับได้สักหน่อยก็ยังดีเนอะ~ > _ <

☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆

7 ฮาวทู " ดื่มกาแฟ " อย่างไร ไม่ให้ " เสียสุขภาพ "

1. สังเกตอาการหลังดื่มกาแฟ

ทุก ๆ ครั้งที่ดื่มกาแฟอยากให้คอยสังเกตตัวเองกันด้วยนะคะ ว่าแค่ไหนถึงจะรู้สึกว่าพอแล้ว หรือมีอาการแปลก ๆ ไปไหม เพราะกาแฟมีคาเฟอีนอยู่ ซึ่งอาจจะไปส่งผลกระตุ้นโรคหรืออาการบางอย่างได้ดังนั้นเนี่ยทุกครั้งที่ดื่มกาแฟอยากให้ทุกคนสังเกตตัวเองกันด้วยนะคะ ส่วนใครที่ดื่มแล้วไม่เป็นอะไรก็ดีแล้วนะคะ แต่ก็อย่าดื่มให้มากไปดื่มให้รู้ลิมิตของตัวเองด้วยเพราะกาแฟอาจจะส่งผลเสียต่อสุขภาพ เช่น นอนไม่หลับ ใจสั่น มือสั่นได้เหมือนกันค่ะ

2. เน้นดื่มกาแฟดำ

ที่หลายคนดื่มกาแฟแล้วอ้วนขึ้นก็เพราะว่าดื่มกาแฟแบบใส่น้ำตาล ใส่นมข้น ใส่ครีมเทียม แถมบางคนเพิ่มวิปไปอี๊กกกก~ ซึ่งถ้าอยากได้ประโยชน์จากคาเฟอีนเต็ม ๆ ก็จะต้องเลือกดื่มกาแฟดำหรืออเมริกาโน่เพื่อที่จะได้ดื่มด่ำรสชาติและประโยชน์ของมัน แต่อย่างที่เรารู้กันนะคะว่าประเทศไทยมักจะใส่น้ำตาลในอเมริกาโน่ ยังไงก็แจ้งทางร้านได้นะคะถ้าไม่อยากใส่ แต่ถ้าใครดื่มไม่ไหวจริง ๆอาจจะขอเป็นหวานน้อยใส่น้ำตาลสักหน่อยก็ได้ค่ะ อย่างน้อยเลี่ยงไม่ได้ก็ลดปริมาณลงแล้วกันเนอะ

3. ไม่กินกาแฟขณะท้องว่าง

สังเกตไหมว่าร้านกาแฟส่วนมากจะขายพร้อมเบเกอร์รี่แบบขนมปัง คุ้กกี้ เค้กต่าง ๆ ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะเหตุผลข้อนี้เลยนั่นแหละค่ะ เพราะว่าการดื่มกาแฟในขณะท้องว่าง อาจจะไปเร่งการหลั่งของกรดย่อยอาหารในกระเพาะได้นั่นเองคะ ซึ่งถ้ากระเพาะมีกรดมากไปก็อาจจะกัดกระเพาะจนทำให้เป็นโรคกระเพาะได้ ดังนั้นใครที่ชอบทานกาแฟในมื้อเช้าก็อยากให้หาอะไรทานควบคู่หรือทานรองท้องก่อนด้วยนะคะ ไม่งั้นเป็นโณคกระเพาะคุณหมอสั่งห้ามทานกาแฟจะทรมานกว่าเดิมเอาเน้อ T - T

4. ไม่กินกาแฟในช่วงก่อนนอน

จริง ๆ ต้องบอกว่าอย่าดื่มกาแฟในช่วงก่อนนอนประมาณ 4 - 5 ชั่วโมงเลยค่ะ เพราะโอกาสที่จะนอนไม่หลับมีสูงมาก ๆ ยิ่งถ้าดื่มช่วงใกล้เวลานอนมากเท่าไหร่ก็ยิ่งหลับได้ยากมากขึ้นเท่านั้น แต่หลายคนมักจะดื่มก่อนนอนเพราะอาจจะต้องปั่นการบ้าน ปั่นงาน หรืออ่านหนังสือสอบ พอทำธุระต่าง ๆ พวกนี้เสร็จแล้ว ผลก็คือนอนไม่หลับ ที่นอนไม่หลับก็เพราะว่ากาแฟมีสารคาเฟอีนที่จะไปออกฤทธิ์กระตุ้นให้สมองตื่นในชั่วขณะตอนที่ทำธุระมันก็ดีแหละค่ะ แต่พอจะนอนแล้วไม่ได้นอนเนี่ย สมองไม่ได้พักผ่อนเช้ามาเราก็จะไม่สดใส แถมยังไม่แอคทีฟอีกด้วย

5. กินแคลเซียมทดแทน

ถ้าเราเป็นคนที่ดื่มกาแฟเป็นประจำ ก็ควรที่จะกินอาหารประเภทแคลเซียมให้มากขึ้นเช่น นม โยเกิร์ต ปลาเล็กปลาน้อย คะน้า บรอกโคลี เป็นต้น ที่ต้องทานก็เพื่อที่จะทดแทนแคลเซียมที่สูญเสียไปกับปัสสาวะนั่นเองค่ะ แถมการทานแคลเซียมทดแทนยังช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุนได้อีกด้วย หรืออีกวิธีก็คือผสมนมลงไปในกาแฟแทนก็ช่วยได้นะคะ แต่ไม่เอานมรสหวานน้า เอาเป็นนมจืดจะดีที่สุดค่ะ ไม่งั้นเราอาจจะอ้วนขึ้นได้นะคะ

6. กินผักและผลไม้ให้มากขึ้น

จริง ๆการทานผักผลไม้ก็เป็นสิ่งที่ดีต่อร่างกายอยู่แล้วนะคะ เพราะช่วยในเรื่องของการขับถ่าย แถมยังเพิ่มวิตามินและภูมิคุ้มกันดี ๆ ได้อีกด้วย แต่คนที่ดื่มกาแฟเนี่ยอาจจะต้องทานให้มากขึ้นอีกหน่อย แล้วก็อย่าลืมเลี่ยงพวกผลไม้ที่มีรสหวานจัด ๆ ไปด้วยนะคะ ไม่งั้นผลไม้พวกนี้จะเพิ่มน้ำตาลในร่างกายทำให้เราอ้วนเพิ่มขึ้นไปอีก แล้วก็ใครที่คั่วกาแฟเองยิ่งต้องทานผักและผลไม้ประเภทที่มีวิตามินซี วิตามินอี และเบตาแคโรทีน( เช่น มะเขือเทศ แคร์รอต ผักใบเขียว ฝรั่ง ส้มเขียวหวาน เป็นต้น ) ให้มากขึ้นเลยค่ะ เพราะการคั่วกาแฟจะทำให้ร่างกายสร้างอนุมูลอิสระการทานผักผลไม้พวกนี้จะช่วยลดมันให้หมดไปจากร่างกายนั่นเอง

7. ดื่มน้ำให้มากขึ้น

ดื่มน้ำที่ว่าไม่ใช่น้ำหวานนะคะ แต่เป็นน้ำเปล่าทั่วไปเลยค่ะ คือเวลาเราดื่มกาแฟเนี่ยมันจะไปกระตุ้นให้เกิดการปวดปัสสาวะบ่อย ๆซึ่งถ้าเราปัสสาวะถี่ขึ้น ร่างกายก็จะยิ่งต้องการน้ำมากขึ้น อย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่าน้ำเป็นส่วนประกอบหลักในร่างกาย ถ้าขาดน้ำไปร่างกายอาจจะชักได้ การดื่มน้ำเปล่าจึงเป็นหนทางในการแก้ปัญหานี้นะคะ แล้วถ้าให้ดีที่สุดการดื่มน้ำเปล่าควรเป็นน้ำอุณหภูมิห้องดื่มให้ครบวันละ 8 แก้วหรือประมาณ 1.5 - 2 ลิตรนั่นเองค่ะ

☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆

เป็นยังไงกันบ้างเอ่ย?ได้รู้ฮาวทูดื่มกาแฟแบบสุขภาพดีกันไปแล้วไม่ได้ยากอย่างที่กลัวกันไปใช่ไหมล่ะ~ ถ้าไม่ได้ยากก็อย่าลืมไปทำตามกันนะคะอย่างน้อยก็ค่อย ๆ เริ่มวันละ 1 - 2 วิธีถ้าเราทำเป็นประจำสักวันเราก็จะชินแล้วก็จะปฏิบัติจนเป็นกิจวัตรได้ในที่สุดนั่นเองค่ะ ส่วนใครที่ทำตามวิธีพวกนี้อยู่แล้วก็ขอให้ทำต่อไปนะคะสุขภาพเราจะได้แข็งแรง ๆ ต่อสู้กับโรคระบาดในช่วงนี้ได้ด้วย ♥แล้วพบกันใหม่ในบทความถัดไปนะคะ บ๊ายบายค่า