รู้ไว้ใช่ว่า...! 🏫 รวม 7 เรื่อง " ควรรู้ " ในการใช้ " ชีวิตมหาลัย " สำหรับเฟรชชี่หน้าใส

ไหน ๆ ใครกำลังจะเป็นเฟรชชี่หน้าใหม่ยกมือขึ้นหน่อยค่า!ช่วงนี้มหาลัยกำลังจะเปิดเทอมเชื่อว่าเฟรชชี่หลายคนคงรู้สึกตื่นเต้นกันมาก ๆ เลยใช่ไหมล่า~ไม่รู้ว่าต้องเจอกับการเรียนแบบไหน เพื่อนเป็นยังไง อาจารย์ใจดีไหม หรือสภาพแวดล้อมบริเวณรอบ ๆ มหาลัยคือเราไม่รู้อะไรเลย วันนี้ก็เลยอยากจะมาบอกต่อ 7 เรื่องควรรู้ในรั้วมหาลัยบางข้อหลายคนอาจจะรู้แล้วก็ได้นะคะ แต่บางข้ออาจจะไม่รู้ อันนี้รวบรวมจากสิ่งที่เคยเจอเองอาจจะไม่ตรงกับใครหลาย ๆ คนก็ขออภัยไว้ก่อนเลยน้า เอาล่ะ! มาดูกันดีกว่าว่าจะมาอะไรบ้างพร้อมแล้วก็เลื่อนจอมาอ่านกันเลยค่า ♥

❤•❤•❤•❤•❤•❤•❤•❤•❤

รวม 7 เรื่องควรรู้ ในการใช้ " ชีวิตมหาลัย " สำหรับเฟรชชี่หน้าใส

1. ลงทะเบียนเรียนเท่าที่ไหว

เทอมหนึ่งหลายคนน่าจะลงไปแล้ว แต่บางคนก็ยังไม่ลง ซึ่งทางเราอยากจะขอแนะนำทุกคนเลยนะคะว่าให้ลงเท่าที่เรียนไหวคือเทอมแรก ๆ กับปี 1 เนี่ยยังไม่ค่อยรู้ว่าเนื้อหาที่เรียนเป็นยังไง อาจารย์คนนี้งานเยอะไหมหรือสอบยากไหม เรียนยากไหม ก็คือเพลย์เซฟด้วยการลงแบบพอประมาณนะคะ ไม่ต้องไปขออาจารย์ลงเกิน คือมันสามารถลงเกินได้ค่ะถ้าเราเรียนไหวและตารางไม่ชนกัน แต่ว่ามันค่อนข้างที่จะเสี่ยงเสียเงินค่าหน่วยกิตไปฟรี ๆ ถ้าเราต้องดรอปดังนั้นจัดตารางเรียนให้ดีให้พอเหมาะจะดีที่สุดนะคะ

2. อาจารย์อาจมีนัดสอนเพิ่มหรือสอนชดเชย

ที่บอกให้รู้ในข้อนี้หลายคนอาจจะเฉย ๆ นะคะ แต่ปัญหามันอยู่ที่อาจารย์บางท่านเลือกจะสอนชดเชยหรือสอนเพิ่มเติมในวันหยุดอย่างเสาร์-อาทิตย์หรืออาจจะนัดเพิ่มช่วงเย็น ๆ ดึก ๆ ก็มี ซึ่งแน่นอนว่าเราไม่ค่อยแฮปปี้กันอยู่แล้วนะคะ ถ้าหาทางออกด้วยการไปคุยกับอาจารย์หรือตกลงกันเรื่องเวลาใหม่ได้ก็โอเคค่ะ แต่บางครั้งเวลามันไม่พอแล้วนะคะ เลยจำเป็นจะต้องเป็นเวลาที่เราไม่ค่อยจะโอเค ก็อยากบอกให้ทุกคนทำใจไว้นิดนึงนะคะว่าอาจจะต้องเจอเหตุการณ์แบบนี้วิธีแก้มีทางเดียวคือคุยตกลงเวลากับอาจารย์เผื่อเขาจะแก้เวลาให้มาเป็นช่วงที่โอเคกว่านี้หน่อยเท่านั้นเลยค่ะ

3. สอบแต่ละครั้งเนื้อหาเยอะมาก

ตอนเรียนมัธยมที่ว่าเนื้อหาเยอะแล้ว มหาลัยเหมือนโดนยกกำลังเข้าไปเลยนะคะ คือหนักหน่วงสุด ๆ หนักแทบทุกวิชาเลย แล้วที่สำคัญก็คือมหาลัยแทบไม่มีอาจารย์คนไหนออกข้อ Choice ( ปรนัย ) เลยนะคะ ส่วนมากจะเป็นข้อเขียน ( อัตนัย ) ซึ่งจะว่าง่ายก็อาจจะง่ายสำหรับคนจำเนื้อหาได้นะคะ แต่ถ้าจำไม่ได้คือยากมากค่ะเพราะไม่รู้จะเขียนอะไรให้เต็มหน้ากระดาษ อ้อ! แล้วก็แอบมีทริคเล็ก ๆ นิดนึงนะคะ เวลาสอบให้สังเกตชีทหรือสไลด์ที่อาจารย์สอนว่าเขาเรียบเรียงยังไง พยายามเอาวิธีพวกนั้นมาเรียบเรียงตอนเขียนข้อสอบนะคะ จะช่วยให้อาจารย์อ่านง่ายแล้วก็เข้าใจมากขึ้น อาจจะเป็นอีกวิธีที่ทำให้ตอบตรงใจขึ้นด้วยค่ะ ♥

4. การเปลี่ยนเพื่อน/กลุ่มเป็นเรื่องปกติ

ตอนเรียนมัธยมคบเพื่อนกันได้ยาว ๆ ไม่มีเปลี่ยนแปลง แต่ชีวิตช่วงมหาลัยอยากจะบอกว่าปกติมาก ๆนะคะถ้าเราจะเปลี่ยนเพื่อนหรือเปลี่ยนกลุ่มเพราะทุกคนมาจากต่างที่ ต่างครอบครัว การใช้ชีวิตก็ต่าง มันอาจจะมีอะไรบางอย่างที่ทำให้เรารู้สึกว่าเข้ากับเขาไม่ได้ก็ได้ ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นก็แนะนำให้เปลี่ยนเพื่อนนะคะ ถ้าเรารู้สึกว่ามันไม่ใช่ที่ของเราให้เปลี่ยนเลยค่ะ แต่ก็พยายามเล็ง ๆ ไว้หน่อยก็ได้นะคะว่าเพื่อนคนไหนที่เราน่าจะเข้าได้บ้างบางทีมีงานกลุ่มอะเนอะ จะไม่ให้มีสังคมเลยก็อาจจะยากนิดนึง ดังนั้นผูกมิตรกับเพื่อนไว้สักกลุ่มก็ถือว่าโอเคแล้วนะคะ :-D

5. บางคนอาจจะมีอาการ Homesick

ใครต้องไปเรียนต่างจังหวัดยกมือขึ้นเลยค่า!คือถ้าเป็นคนที่สนิทกับที่บ้านหรือติดแม่ ติดพ่ออะไรแบบนี้ อาการ Homesick มักจะเกิดขึ้นนะคะ อะ... หลายคนอาจจะงงว่า Homesick คืออะไร มันก็คืออาการคิดถึงบ้าน คิดถึงครอบครัวประมาณนั้นเลยค่ะ แต่เป็นคิดถึงที่รู้สึกไม่ค่อยดีไปด้วยนะคะ ไม่ใช่คิดถึงแบบโทรหาหายละ ไม่ใช่นะคะHomesick จะรู้สึกแย่ รู้สึกอยากร้องไห้อะไรแบบนี้ได้เลยค่ะ คือมันค่อนข้างที่จะหนักหน่วงพอสมควร แต่อยากให้ทุกคนเข้มแข็งไว้นะคะ ไว้รอวันหยุดยาวหรือปิดเทอมก็ได้กลับบ้านแล้ว อาจจะช้าหน่อยแต่ก็ดีกว่าไม่ได้กลับเลยน้า

6. ฝึกงานให้มีประสบการณ์

ส่วนมากจะต้องมีการฝึกงานนะคะแต่ละที่ก็จะฝึกต่างกันไปบางที่ก็ 2 เดือน บางที่ก็ 4 - 6 เดือน หรือบางที่อาจจะฝึกเป็นปีเลยก็ได้ พวกนี้ต้องดูนะคะว่าเรียนคณะอะไร คณะกำหนดไว้แค่ไหน ซึ่งแน่นอนค่ะว่าถ้าจะฝึกงานเราก็ต้องหาที่ฝึกงานไว้ด้วยแล้วก็ต้องให้ช่วงเวลาฝึกสอดคล้องกับที่บริษัทรับด้วยนะคะ บางบริษัทไม่รับการฝึกสั้น ๆ ก็มี ยังไงก็ลองไปถามทาง HR อีกทีนะคะ ♥

ปล. แอบกระซิบนิดนึงว่าทาง SistaCafe ก็มีเปิดรับนักศึกษาฝึกงานด้วยนะคะ ถ้าใครสนใจสมัครก็ลองเข้าไปดูที่เว็บไซต์ donuts-bkk.com ได้เลย

7. ก่อนจบต้องเจอโปรเจคต์หรือธีสิส

เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้นะคะ แต่อันนี้อยู่ที่ว่าอาจารย์จะให้ทำเดี่ยวหรือทำกลุ่มด้วยค่ะ ถ้าทำกลุ่มก็จะยังพอช่วยกันทำงานได้ แต่ถ้าทำเดี่ยวก็ช่วยเพื่อได้ค่ะ เพียงแต่ว่างานที่ต้องทำมันจะมากขึ้ยด้วย อาจจะให้คำปรึกษาเพื่อนได้หรือไปปรึกษาเพื่อนได้ ซึ่งธีสิสจบหรือโปรเจคต์จบคือหนักมากนะคะ บางคนก็ไม่ได้หลับได้นอนต้องปั่นส่วนนั้นส่วนนี้ส่งอาจารย์ให้ทัน ซึ่งถ้าไม่ผ่านก็จะเรียนไม่จบด้วยค่ะ แต่ถ้าผ่านมันไปได้รับรองค่ะว่าเราจะแกร่งขึ้นแบบสุด ๆเป็นกำลังใจให้ล่วงหน้าเลยนะคะ ♥

❤•❤•❤•❤•❤•❤•❤•❤•❤

ครบทั้ง 7 ข้อแล้ว... เป็นยังไงกันบ้างคะ มีข้อที่เพิ่งรู้เลยบ้างรึเปล่า~หวังว่าจะมีน้าสำหรับ 7 ข้อที่เราบอกต่อจริง ๆ อาจจะมีมากกว่านี้ก็ได้นะคะเพราะประสบการณ์ คณะ มหาวิทยาลัยของแต่ละคนต่างกัน ปัญหาที่เจอหรือสิ่งที่ควรรู้มันอาจจะไม่เหมือนกันไปด้วย ซึ่ง 7 ข้อที่พูดมาเป็นแค่เรื่องพื้นฐานที่ทุกคนน่าจะต้องเจอในรั้วมหาลัยบ้างแน่ ๆ ก็คือมาบอกให้เตรียมใจไว้ประมาณนั้นนะคะ อ้อ! สำหรับสายล่าเกรด อย่าลืมไปเช็กล่ะว่ามหาวิทยาลัยเรามีเกณฑ์อะไรในการตัดบ้าง ถ้าคิดจะคว้าก็พยายามให้เต็มที่กันนะคะสำหรับวันนี้หมดเวลาแล้ว เราต้องลาไปก่อนนะคะ บ๊ายบาย ♥