เวลาที่ได้ยินปัญหาผิวเรื่อง“ ฝ้า ”วัยรุ่นวัยใสอาจคิดว่าเป็นปัญหาผิวที่ไกลตัว เพราะส่วนใหญ่แล้วฝ้ามักจะเกิดขึ้นกับคนอายุเยอะๆ เท่านั้นแต่ทางเราขอบอกเลยว่าไม่จริงค่ะซิส! ไม่ว่าจะเป็นคนเพศไหนหรือวัยไหนก็มีโอกาสที่จะเจอฝ้าโผล่มาทักทายบนผิวได้ทั้งนั้นเพราะแสงแดดที่ต้องเจอในทุกๆ วันเป็นตัวการสำคัญที่กระตุ้นการผลิตเม็ดสีเมลานิน จนเกิดเป็นฝ้า กระ และจุดด่างดำที่ทำให้ผิวดูไม่เนียนใสขึ้นได้แล้วแม้ว่าเมคอัพอย่างรองพื้น คอนซีลเลอร์ หรือแป้ง จะช่วยกลบฝ้าและความหมองคล้ำได้ แต่ก็ปกปิดได้เพียงชั่วคราวเท่านั้นแหละค่ะสิ่งที่คนเป็นฝ้าต้องให้ความสำคัญมากๆ ก็คือการดูแลผิวอย่างถูกวิธีต่างหาก วันนี้เราจึงหยิบมาบอกต่อกันถ้าไม่อยากให้ฝ้ามันลุกลามบานปลายจนผิวพังหนักไปมากกว่านี้ ก็รีบทำตามสิ่งเหล่านี้ด่วนๆ เลยค่ะ!

【 แชร์ 3 สิ่งที่ควรทำเมื่อเริ่มเป็น “ ฝ้า ” ฟื้นฟูผิวแข็งแรง ช่วยลดฝ้าให้ดูจางลง 】

➀ ไม่ลืมทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/736x/bb/cf/0c/bbcf0c02a94144fa909618f1580bcd54.jpg

เพื่อนๆ รู้รึเปล่าคะว่าตัวการที่ทำให้เกิดฝ้ามีอยู่หลายอย่างเลยนะ ทั้งฮอร์โมน พันธุกรรม ส่วนผสมบางชนิดในเครื่องสำอาง ฯลฯแต่สาเหตุยอดฮิตที่กระตุ้นให้เกิดฝ้าก็คือ“ แสงแดด ”ที่ผิวต้องเผชิญในแต่ละวันค่ะ เพราะแสงแดดที่มาพร้อมกับรังสียูวีจะกระตุ้นการผลิตเม็ดสีเมลานิน ทำให้เกิดฝ้าที่เป็นรอยปื้นสีน้ำตาลบนผิวที่มีทั้งฝ้าแบบตื้นที่รักษาได้เร็วกว่า และฝ้าลึกที่รักษายาก ต้องใช้เวลาฟื้นฟูผิวนานค่ะ

แล้วสิ่งที่คนเป็นฝ้าควรทำอย่างแรกเลยก็คือการทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวันเพราะครีมกันแดดจะเป็นผู้ช่วยคนสำคัญที่ปกป้องผิวไม่ให้โดนทำร้ายจากแดดและรังสียูวี เรียกว่าเป็นไอเทมสำคัญที่คนเป็นฝ้าจะขาดไปไม่ได้เลยนะแล้วก็ต้องไม่ลืมเลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF และ PA รวมทั้งควรทากันแดดซ้ำทุกๆ 2 ชั่วโมง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันแสงแดดค่ะ


➁ หลีกเลี่ยงครีมที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือยาเพิ่มฮอร์โมน

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/48/20/3b/48203bfdfb6f0a75b244dd84f7fb9745.jpg

ใครที่อยากซื้อสกินแคร์มาใช้เป็นตัวช่วยแก้ปัญหาผิวด้วยตัวเอง ก็ต้องเลือกซื้อด้วยความระมัดระวังนะคะ เพราะหากครีมที่ใช้ไม่ได้มาตรฐาน แทนที่จะช่วยฟื้นฟูผิวก็อาจทำให้หน้าพังยับเยินหนักกว่าเก่าได้โดยเฉพาะคนเป็นฝ้าก็ควรหลีกเลี่ยงครีมทาฝ้าที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือมีส่วนผสมของสารอันตรายเช่น สารไฮโดรควิโนน สารปรอท สารสเตียรอยด์ ฯลฯ เพราะอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายต่อผิวค่ะนอกจากนี้อีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้เกิดฝ้าก็คือฮอร์โมนเอสโตรเจนที่มากเกินไป จากการได้รับยาคุมกำเนิดหรือยาบางชนิดก็อาจกระตุ้นการสร้างเม็ดสีที่ผิดปกติและทำให้ฝ้าสีเข้มขึ้นกว่าเดิมแต่หากหยุดใช้ยาหรือปรับสมดุลให้เหมาะสม ก็มีโอกาสที่ฝ้าฮอร์โมนจะดูจางลงได้ค่ะ


➂ เลือกใช้สกินแคร์สูตรลดฝ้าโดยเฉพาะ

อย่างที่เราบอกไปก่อนหน้านี้แล้วว่าถ้าอยากรักษาฝ้าด้วยตัวเอง ก็ควรเลือกใช้สกินแคร์ที่มีความปลอดภัยและได้มาตรฐาน แล้วที่สำคัญก็ควรเลือกใช้สกินแคร์สูตรช่วยลดฝ้าโดยเฉพาะด้วยนะคะแล้วสำหรับคนที่ผิวอ่อนแอ บอบบาง แพ้ง่าย เวลาใช้ครีมแรงๆ แล้วผิวเกิดการระคายเคือง ก็แนะนำให้เลือกสกินแคร์รักษาฝ้าที่เน้นส่วนผสมจากสารสกัดธรรมชาติจะอ่อนโยนต่อผิวมากกว่าค่ะ

รูปภาพ:

อย่างSmooto Arbutin Melasma Whitening Gelหรือเจลเห็ดเมลาสม่าครีมซองที่หาซื้อได้ในเซเว่นใกล้บ้าน ก็เป็นสกินแคร์ที่จะช่วยดูแลปัญหา ฝ้า กระแดดเพราะเนื้อเจลผสานพลังของสารสกัดจากเห็ดหลินจือชะเอมเทศอัลฟ่าอาร์บูตินวิตามินซีและไฮยาลูรอนิค แอซิดช่วยฟื้นบำรุงให้ผิวนุ่มชุ่มชื้น ดูอ่อนเยาว์ ลดความหมองคล้ำและจุดด่างดำแลดูจางลง แถมเนื้อเจลใสยังซึมไว ไม่เหนอะหนะมีการทดสอบ '' Dermatologist Tested'' คือการทดสอบเพื่อประเมินการเกิดการระคายเคืองของผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ที่ทางสมูทโตะผ่านการทดสอบจากประเทศฝรั่งเศสด้วยค่ะแค่ทาบำรุงผิวหน้าเป็นประจำเช้า - เย็น ก็จะช่วยปรับให้ผิวเรียบเนียน กระจ่างใส ดูผิวสุขภาพดีขึ้นค่ะ

และทั้งหมดนี้ก็คือวิธีดูแลผิวที่ควรทำเมื่อเริ่มเป็นฝ้าที่เราหยิบมาแชร์ให้ได้อ่านและลองทำตามกันค่ะ เพื่อนๆ คนไหนที่มีปัญหาเรื่องฝ้า แม้ว่าจะเป็นแค่รอยปื้นสีน้ำตาลจางๆ ก็ตาม ก็ต้องรีบรักษาแบบด่วนจี๋ก่อนที่ฝ้าจะสีเข้มขึ้นจนรักษายากนะคะโดยต้องให้ความสำคัญกับการทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน หลีกเลี่ยงครีมที่ไม่ได้มาตรฐานหรือยาบางชนิดที่กระตุ้นให้เกิดฝ้า รวมทั้งหาซื้อสกินแคร์สูตรรักษาฝ้าโดยเฉพาะมาใช้ทาบำรุงผิวอย่างสม่ำเสมอ ก็ช่วยให้ฝ้าแลดูจางลงและฟื้นฟูผิวแข็งแรงขึ้นได้แน่นอนค่ะ