1. SistaCafe
  2. อยากมีแฟน แต่ก็ชอบอยู่คนเดียว เกี่ยวกันไหมกับ Philophobia โรคกลัวความรัก ?

เลือกไม่ถูกเลยว่าจะจัดหัวข้อ Talk Talk นี้ไว้ในหมวดไหนดี สุขภาพ หรือความรัก เพราะเรื่องที่เราจะมาคุยกันในวันนี้ มันเกี่ยวข้องกับทั้งสองหมวดนี้เลยนี่ซิ! แต่สิ่งที่รู้แน่ๆ คือหัวข้อที่เราจะมาถกกันในวันนี้ เกี่ยวกับคนโสดอย่างแน่นอน!เราเองก็เป็นคนนึงนะ ที่โสด ซึ่งนี่ก็ไม่เคยคิดว่าตัวเองป่วยเป็นโรคกลัวความรักใดๆ เพราะก็มีความสุขกับชีวิตโสดมาก!แต่เราคิดว่าเพื่อนๆ หลายๆ คนอาจจะรู้สึกว่า คนโสดอีกหลายๆ คน น่าจะเป็นเหมือนกันอยากมีแฟนนะ แต่ก็อยากอยู่คนเดียวด้วยอยากจะมีแฟนนะ แต่นั่น แต่นี่ ความคิดคือย้อนแย้งกันไปหมด!ก็ไม่รู้ว่าจะต้องเลือกอะไร ทางไหนดี ซึ่งความคิดแบบนี้ อาจจะทำให้คนโสดหลายๆ คน เสี่ยงต่อการเป็นโรค Philophobiaได้ จริงหรอ! เอางี้ดีกว่า วันนี้เราจะพาชาวซิสไปทำความรู้จักกับโรคนี้ มาลองเช็คดูสักหน่อยดีกว่ามั้ยว่า เพื่อนๆ เข้าข่ายเป็นโรคนี้กันรึเปล่าแล้วสรุปแล้ว คนโสดทั้งหลาย ที่ยังโสดเพราะกลัวความรักจริงมั้ยมาลองเช็กตัวเองกันเลย!


อยากมีแฟน แต่ก็ชอบอยู่คนเดียว เกี่ยวกันไหมกับ Philophobia โรคกลัวความรัก ?


โรคกลัวความรัก ( Philophobia )

โรคกลัวความรักหรือPhilophobiaคือ ภาวะทางจิตประเภทหนึง อาจจะฟังดูน่ากลัว แต่ก็ไม่ได้น่ากลัว เมื่อเทียบกับโรคทางจิตอื่นๆ ซึ่งโรคกลัวความรักนี้จัดอยู่ในโรคกลัวแบบเฉพาะ (Phobia)ในทางการแพทย์ไม่ถือว่าเป็นโรคนะ แต่ที่เรียกว่า โรคกลัวความรัก เพราะเป็นคำติดปาก ที่หลายๆ คนมักพูดกันซึ่งอาการของคนที่เป็นPhilophobiaนี้ คือผู้ป่วยมักจะมีความกลัวต่อการตกหลุมรัก กลัวที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ หรือวิตกกังวลว่าจะไม่สามารถรักษาความสัมพันธ์นั้นๆ ได้ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกโดดเดี่ยวหรือไม่มีความรู้สึกที่อยากจะมีความรัก ซึ่งอาการของโรคนี้จะเกิดขึ้นแบบไม่มีเหตุผลและไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ เช่นเดียวกับโรคกลัวอื่นๆ นั่นเองค่ะ

สาเหตุของโรคกลัวความรัก

เราว่ามีหลายๆ คนแน่ๆ ที่ตั้งคำถามว่า แล้วฉันล่ะฉันป่วยเป็นโรคนี้มั้ย แล้วโรคนี้มันเกิดจากสาเหตุอะไรจริงๆ แล้วสาเหตุของการเกิดโรคกลัวความรักนี้ มันมีหลายสาเหตุอยู่นะ เช่นวัฒนธรรม ประเพณี และศาสนา ที่เข้มงวดในเรื่องของการมีความรักรวมไปถึงการไม่เห็นคุณค่าของตนเองหรือกลัวการถูกปฏิเสธเลยไม่กล้าที่จะสารภาพหรือไปรักใคร แต่สาเหตุหลักๆ ที่เรารู้สึกว่า นี่แหละน่าจะเป็นจุดที่ทำให้คนโสดหลายๆ คนกลัวความรักคือ เหตุการณ์แง่ลบที่ฝังใจมาตั้งแต่ในอดีตการมีความรักที่เคยล้มเหลวสุดๆ มาก่อน เช่น ถูกนอกใจ ถูกหักอก ถูกแทงข้างหลัง พอมันจำฝังใจมากๆ มันเลยกลัวที่จะมีความสัมพันธ์อีกครั้ง บางคนอาจจะถึงขั้นปิดกั้นตัวเองเลยก็มีนะ

อาการของโรคกลัวความรัก

ต้องบอกก่อนนะว่า ผู้ที่เป็นโรคกลัวความรัก ก็มีความเสี่ยงเช่นกันนะ อาจจะฟังดูเป็นโรคที่ไม่ร้ายแรง แต่มันก็สามารถไปถึงจุดที่ร้ายแรงได้เช่นกัน ถ้าผู้ป่วยเป็นโรคกลัวความรักแบบเรื้อรังหรือไม่ได้รับการรักษาแบบจริงๆ จังๆอาจมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคอื่นๆ ได้ด้วย เช่น โรคซึมเศร้า หรือโรควิตกกังวลกลัวการเข้าสังคมไปเลยก็มี ซึ่งก็มีแนวโน้มมากๆ ที่จะใช้สารเสพติดและอาจมีความคิดฆ่าตัวตายได้ด้วยอาการของโรคกลัวความรัก สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งทางกายและใจค่ะทางกายที่มักจะแสดงออกมาคือ สั่นกลัว ร้องไห้ วิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน หายใจหอบถี่ เหงื่อออกมาก กระสับกระส่าย ชาปลายมือปลายเท้า ไปจนถึงเป็นลม ส่วนทางใจนั้น เขาและเธอจะมีความรู้สึกไม่ไว้ใจใคร รู้สึกกังวลเมื่อเริ่มต้นความสัมพันธ์ มักจะตีตัวออกหาง หรือพยายามที่จะจบความสัมพันธ์นั้น ไปจนถึงขั้นหลีกเลี่ยงพื้นที่ที่คู่รักชอบไปเที่ยวด้วยกันด้วย

การรักษาโรคกลัวความรัก

แน่นอนว่าถ้าเพื่อนๆ รู้สึกหรือพบว่าคนใกล้ชิด มีอาการที่เริ่มรุนแรงควรรีบไปพบแพทย์ อย่ามองว่าการเข้าไปปรึกษาจิตแพทย์ ทำให้เราดูประหลาดเพราะในความเป็นจริงแล้ว มันไม่ใช่แบบนั้น จิตแพทย์ก็คือคุณหมอนะคะ เมื่อเราป่วย ก็ควรได้รับการรักษา ไปบำบัด ไปขอคำปรึกษา ถึงจะถูก ซึ่งแนวทางการรักษาโรคกลัวความรัก มีทั้งการให้คำปรึกษา การปรับทัศนคติ ปรับเปลี่ยนวิธีความคิด ให้ผู้ป่วยได้ลองเผชิญหน้ากับสิ่งที่กลัวดูทีละนิด ไปจนถึงการบำบัดและการใช้ยาร่วมด้วย

Do / Don't สำหรับคนที่ป่วยเป็นโรค Philophobia

Do


อย่างแรกคือ เราต้องทำความเข้าใจกับความกลัวว่ามีสาเหตุมาจากสิ่งใดหรือเหตุการณ์ใด พร้อมทำความเข้าใจด้วยว่า ความรักเป็นเรื่องธรรมชาติ เช่นเดียวกับความกลัว ทำจิตใจให้สบายๆ อย่าไปคิดมากและรู้จักปล่อยวางสิ่งต่างๆ ที่ผ่านไปแล้ว พร้อมทั้งดูแลตัวเองให้ดีๆ ทั้งเรื่องของการกินและการพักผ่อน บวกกับการลองออกไปทำกิจกรรมอะไรใหม่ๆ ดู แต่ถ้าลองมาหมดทุกวิธีแล้ว สุดท้ายมันไม่เวิร์ก แนะนำเลยว่า ไปขอความช่วยเหลือหรือคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญค่ะ



Don’t


สิ่งที่ไม่ควรทำเลยก็คือ การคิดแต่เรื่องแย่ๆ หรือสิ่งที่ผ่านมาแล้ว หลีกเลี่ยงความคิดในแง่ลบเกี่ยวกับความรักหรือความสัมพันธ์เลวร้าย และพยายามอย่าเก็บตัว หรืออยู่คนเดียว ออกไปหาเพื่อนหรือคุยกับเพื่อนบ้าง ทั้งนี้ควรหลีกเลี่ยงการใช้บุหรี่ สุรา สารเสพติดด้วยนะ



โสด = โรคกลัวความรัก จริงมั้ย?

ในความเห็นส่วนตัวเลยนะไม่ใช่คนโสดทุกคนหรอกค่ะ ที่จะมีแนวโน้มหรือป่วยเป็นโรคกลัวความรัก (Philophobia) การที่คนโสดคนนึง มีความรู้สึกว่า อยากมีความรัก ก็ถือว่า ไม่ป่วยแล้วแค่เพื่อนๆ มีความรู้สึกที่อยากจะมีใครสักคนในชีวิต นั่นหมายความว่า เพื่อนๆ ไม่ได้กลัวที่จะมีความรักค่ะ แต่การที่เพื่อนๆ มีความคิดย้อนแย้งกับตัวเองเช่น อยากมีแฟน แต่ก็อยากอยู่คนเดียวนั่นเป็นเพราะความเคยชินมากกว่าเพราะในช่วงเวลาที่โสดเพื่อนๆ เคยชินกับการทำอะไรด้วยตัวเอง ได้ใช้ชีวิตอย่างอิสระ พอได้ลองใช้ช่วงเวลากับความโสดไปนานๆ แล้วดันชอบความรู้สึกแบบนี้ เลยทำให้เพื่อนๆ เกิดความหวงแหนและกลัวที่จะสูญเสียความรู้สึกนี้ไปเท่านั้น แต่เราเชื่อนะว่า เมื่อถึงเวลาที่เพื่อนๆ เปิดใจมีความรักจริงๆ เพื่อนๆ จะหาทางปรับตัวเข้ากับมันได้แน่นอน

ในฐานะคนโสดคนนึง เราไม่เคยคิดมาก่อนว่า ที่ตัวเองไม่มีความรัก คือเพราะกลัวจะมีความรัก หรือกลัวที่จะเข้าสังคม เราแค่รู้สึกว่า ความโสดคืออีกหนึ่งความสบายและเป็นอิสระดี เหงาบ้าง แต่ไม่ใช่อุปสรรคอะไร เพราะงั้นเราเลยคิดว่า คนโสดอีกหลายๆ คนก็น่าจะคิดแบบเดียวกันนะ เพราะงั้นมันตีความว่าเขาป่วยโรค Philophobia ไม่ได้หรอกค่ะ แต่ถ้าเพื่อนๆ ชองเช็กอาการเบื่องต้นแล้วพบว่า เข้าข่ายป่วยเป็นโรค Philophobia สามารถไปปรึกษาคุณหมอได้นะ อย่ากลัวไปเลย ทุกปัญหามีทางออกเสมอ!สำหรับวันนี้ต้องลาไปก่อนแล้ว บ๊ายบาย


belfry



เว็ปไซต์นี้ใช้คุกกี้

SistaCafe ให้ความสำคัญต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้โดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ แสดงว่าท่านยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา และ นโยบายการใช้คุกกี้