1. SistaCafe
  2. ทำไมใครๆ ก็นิยมสะสมแบรนด์เนม? พร้อมทริคเช็กตัวเองว่าเหมาะเข้าวงการแบรนด์เนมมั้ย?

ทักทายเพื่อน ๆ ชาวซิสค่าสำหรับบทความ Women Talk จะชวนเพื่อน ๆ มา Talk เกี่ยวกับเรื่องแบรนด์เนม แบรนด์ใจไขข้อสงสัยว่าทำไมใคร ๆ ถึงชอบเก็บสะสมแบรนด์เนม?มีปัจจัยอะไรบ้างที่หลายคนเลือกไอเทมที่มีแบรนด์มากกว่าไอเทม No Brand แล้ววงการเก็บสะสมแบรนด์เนมเหมาะกับเรารึเปล่านะถ้าเพื่อน ๆ มีความสงสัยในเรื่องราวเหล่านี้ บทความนี้มีคำตอบให้เพื่อน ๆ แล้ว ส่วนจะเป็นยังไงพูดคุยในบทความนี้กันเลย

เพราะอะไรใครๆ ถึงชอบแบรนด์เก็บสะสมแบรนด์เนม?



ถ้าหาก

สงสัยว่าทำไมหลายคนถึงเข้าวงการแบรนด์เนม ก็คงต้องไปถามจากผู้ใช้จริง

บทความนี้เราเลย

รวบรวมความเห็นจากผู้ใช้แบรนด์เนมทางบ้าน เพื่อไขข้อสงสัยข้อนี้กันด้วย

บอกเลยว่ามีเหตุผลที่น่าสนใจอยู่เยอะเลย ถ้าอยากรู้แล้วว่าเพราะอะไรใคร ๆ ถึงเลือกเก็บแบรนด์เนมลองตามไปดูกันเลย




▶ ส่องความเห็นจากผู้ใช้แบรนด์เนมทางบ้าน


จากที่ได้ไปส่องความเห็นของชาวเน็ตหลายคนในเรื่องของการใช้แบรนด์เนม ก็ได้รวบรวมความเห็นจากผู้ใช้แบรนด์เนมทางบ้านออกมาเป็นข้อ ๆ ได้ประมาณนี้ คนที่เลือกใช้แบรนด์เนม เขาเลือกจากสาเหตุอะไรบ้าง ลองตามไปดูกันเลย



✦ เข้าวงการแบรนด์เนมเพราะ "วัสดุคุณภาพดี"



จากที่ได้ไปส่องเหตุผลที่หลายคนเลือกใช้แบรนด์เนม เรื่องของคุณภาพเป็นสิ่งที่หลายคนพูดถึงมาที่สุดเลย

เนื่องจากว่าแบรนด์เนมชื่อดัง มักจะมีองค์ความรู้เฉพาะของตัวเอง

อย่างเรื่องของการเลือกวัตถุดิบ การผลิตแบบเฉพาะตัว การควบคุมสินค้าและการผลิตให้ได้มาตรฐาน

ทำให้คนที่เลือกใช้แบรนด์เนมเกิดความมั่นใจว่าจะได้รับสินค้าที่มีคุณภาพแน่นอน


✦ เข้าวงการแบรนด์เนมเพราะ "รูปลักษณ์และการออกแบบ"



อีกหนึ่งสาเหตุที่คนเลือกแบรนด์เนมพูดถึง ก็คือเรื่องของรูปลักษณ์และการออกแบบ อย่างที่ได้บอกไปแล้วว่าแบรนด์เนมดัง ๆ จะมีการผลิตเฉพาะตัว

เรื่องของรูปลักษณ์และดีไซน์ก็เหมือนกัน แบรนด์เนมแต่ละแบรนด์จะมีรูปลักษณ์และดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ มีความใส่ใจในดีเทลรายละเอียด

และบางแบรนด์อาจจะใส่เรื่องราวไว้ในทุกองค์ประกอบ

ทำให้คนที่ได้ใช้รู้สึกถึงคุณค่าในตัวสินค้าแบรนด์เนมเหล่านั้น

เพราะเหตุใดใครๆ ถึงชอบแบรนด์เก็บแบรนด์เนม?



ความเห็นจากผู้ใช้ทางบ้าน



1. ความเป็นมาของแบรนด์ (Legend)

สินค้าแบรนด์เนมที่ได้รับความนิยมอย่างมาก สิ่งที่หลาย ๆ แบรนด์จะต้องมีเลยคือประวัติความเป้นมาอันยาวนาน ที่มันมีความเป็นตำนานอยู่ในชื่อของแบรนด์นั้น ๆ ซึ่งดูมีความน่าสนใจ ดูมีอะไรมาแล้ว บ่งบอกถึงความรัก ความภักดี และความพยายามที่จะสร้างสินค้าของพวกเขาให้มีคุณภาพที่ดี เพื่อมอบให้แก่ลูกค้าของพวกเขาทุกคน และแบรนด์เนมเหล่านั่นก็สามารถบอกถึงรสนิยมของผู้บริโภคได้อีกด้วย

2. การออกแบบที่ดี (Design)

ในนการออกแบบของสินค้าแต่ละขิ้น จะมีการออกแบบมาโดยมีแรงบันดาลใจมาจากสิ่งต่าง ๆ อันทรงคุณค่า ในทุก ๆ องค์ประกอบ ล้วนมีเหตุผลซ้อนแล้นอยู่ในตัวของมันเอง และสามารถที่จะนำเสนอออกมาได้ในรูปแบบของการออกแบบดังกล่าว

3. กระบวนการผลิตและคุณภาพสูง (Production and Quality)

ในกระบวนการผลิตสินค้าแบรนด์เนมชื่อดัง ของแต่ละแบรนด์ มักมีองค์ความรู้เฉพาะ ของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นวิธีการคัดสรรวัตถุดิบ กระบวนการผลิตในแบบเฉพาะ ที่จะมีเฉพาะแค่ของแบรนด์นั่นเท่านั้น เหมือนกับเป็นความลับของแบรนด์นั้น รวมไปถึงการควบคุมคุณภาพให้ดีในสินค้าทุกชิ้น ทำให้สินค้าแบรนด์เนมสามารถการันตีได้ว่า คุณซื้อไปคุณจะไม่ผิดหวังแน่นอน

แม้ว่าในปัจจุบันนี้ ก็มีสินค้าแบรนด์เนม ที่มีการขยายฐานการผลิตออกไปในประเทศต่าง ๆ เช่น แบรนด์ฝั่งยุโรป ก็จะย้ายฐานการผลิตมาในแถบเอเชีย เช่น จีน เวียดนาม มาเลเซีย แต่ก็จะคิดข้อสงสัยข้อหนึ่งจากใครหลาย ๆ คนที่ว่า หากผลิตจากแหล่งอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ประเทศของทางแบรนด์ คุณภาพจะออกมาเป็นอย่างไร ซึ่งบอกได้เลยว่าคุณภาพจากสินค้าที่ผลิตจากโรงงานที่ได้รับอนุญาตจากแบรนด์แล้วจริง ๆ ในกระบวนการผลิตและการควบคุมคุณภาพ เจ้าของแบรนด์จะส่งตัวแทนมาประจำแหล่งผลิต เพื่อควบคุมมาตรฐานการผลิตในแต่ละที่ให้เป็นมาตรฐานเดียวกันอยู่แล้ว ซึ่งเราสามารถมั่นใจได้

4. อายุการใช้งานยาวนาน (Long Lifetime)

ข้อนี้เป็นข้อที่ต่อเนื่องมาจากปัจจัยของกระบวนการผลิต สินค้าแบรนด์เนม จะมีการคัดเลือกคุณภาพของวัตถุดิบที่จะนำมาผลิตใข้งาน ไม่ว่าจะเป็น หนังแท้ หรือหนังสังเคราะห์คุณภาพสูง วัสดุเชื่อมยืด ทุกอย่างล้วนมีคุณภาพดี เมื่อวัตถุดิบที่นำมาผลิตมีคุณภาพดี ก็ทำให้อายุการใช้งานของสินค้าแบรนด์เนม มักจะใช้ได้ยาวนานกว่า และมีความคุ้มค่ากับราคาที่เราได้จ่ายไป

5. ของแท้ (Authentic)

ข้อนี้อาจจะฟังดูแปลก แต่หากสมมติว่าเราเจอคนสองคน ถือกระเป๋ามาคนละใบ คนหนึ่งถือกระเป๋าของแท้ อีกคนถือของปลอมเกรด A ถามว่าเราจะรู้สึกอย่างไรบ้าง แน่นอนว่า มันก็มีจุดแบ่งแยกอย่างชัดเจน และสามารถบอกได้ถึงรสนิยมการใช้สินค้าของคนคนนั้นได้อีกด้วย

6. เสริมความน่าเชื่อถือ

ในด้านการทำงาน มีสิ่งเหล่านี้ ก็จะช่วยให้เราดูภูมิฐาน น่าเชื่อถือขึ้นค่ะ


✦ เข้าวงการแบรนด์เนมเพราะ "Story ของแบรนด์"



จากที่ได้บอกไปใน 2 ข้อแรกว่า

แบรนด์เนมคือความพิเศษเฉพาะตัว จะทำส่ง ๆ ไม่ได้ ต้องมีความอินดีเทลถึงขั้นลงลึกไปยังประวัติความเป็นมา

Story เรื่องราวของแบรนด์เนมชิ้นนั้น ๆ หรืออาจจะลงลึกไปยังเรื่องราวประวัติความเป็นมาของแบรนด์ด้วย ก็เลยมี

หลายคนเหมือนกันที่เลือกใช้แบรนด์เนม เพราะประทับใจใน Story ความเป็นมา และความลัคชูของแบรนด์




✦ เข้าวงการแบรนด์เนมเพราะ "เสริมรสนิยมและความน่าเชื่อถือ"



ถ้าพูดถึง

ภาพลักษณ์ที่เรา ๆ มีต่อแบรนด์เนม น่าจะต้องมีมุมของความลัคชูดูแพง ความชั้นสูงมีคลาส เป็นหนึ่งภาพจำ

อยู่ด้วยแน่นอน

บางคนเลยเลือกเก็บแบรนด์เนม เพื่อเสริมรสนิยมการใช้สินค้า และเพิ่มความน่าเชื่อถือดูมีภูมิฐาน

ให้กับตัวเองอีกด้วย



✦ เข้าวงการแบรนด์เนมเพราะ "อายุการใช้งานได้นาน"



หลายคนอาจจะไม่ได้เลือกแบรนด์เนมเพราะเทรนด์หรือกระแส แต่เลือกใช้แบรนด์เนมเพราะความทน และมีอายุการใช้งานได้นาน

อย่างที่บอกไปแล้วว่าของแบรนด์เนมจะมีการผลิตที่เฉพาะตัว ทั้งการเลือกวัตถุดิบคุณภาพดี

ทั้งการผลิตที่เนี้ยบสุด มีความประณีตมากกว่าสินค้าทั่วไป เลยทำให้คุณภาพของสินค้าคงทน

และอยู่ได้นาน

อธิบายตามหลักจิตวิทยา



ทำไมมนุษย์จึงคลั่งไคล้แบรนด์เนม มีคำอธิบายบางอย่างจากนักจิตวิทยา ที่เชื่อมโยงกับทฤษฎีพื้นฐานหนึ่งได้อย่างน่าสนใจ…


ทฤษฎีดังกล่าวชื่อว่า “ลำดับขั้นความต้องการของมาสโลว์”

หลายคนอาจจะไม่รู้จัก บางคนคุ้นชื่อ บางคนรู้จักดี เพราะเราต่างก็น่าจะเคยเรียนมาสมัยมัธยมหรือมหาวิทยาลัยกันแล้ว

นักจิตวิทยา Abraham Maslow มีชื่อเสียงโด่งดังจากการนำเสนอทฤษฎีดังกล่าวเมื่อราวๆ 70 ปีก่อน และยังคงถูกยอมรับกันมาในยุคปัจจุบัน

อธิบายง่ายๆ ก็คือ ทฤษฎีนี้ระบุความต้องการขั้นพื้นฐานของมนุษย์ทุกคน โดยแบ่งเอาไว้เป็น 5 ขั้น

ขั้นแรกคือคนเรามีความต้องการที่จะอยู่รอด ซึ่งสิ่งที่จะขาดไม่ได้ก็คืออากาศ อาหาร น้ำ เสื้อผ้า รวมไปถึงที่อยู่อาศัย

พอเราได้ขั้นแรกแล้ว คนเราก็อยากจะมีขั้นต่อไป นั่นก็คือการรักษาสิ่งเหล่านั้นให้คงอยู่ ต้องการให้มีอาหารกินสม่ำเสมอ ต้องการให้บ้านเราปลอดภัย ต้องการให้การงานเรามั่นคง

แล้วมนุษย์เราก็ยังไม่หยุดอยู่แค่นั้น

ขั้นที่สาม เรายังคงต้องการความรักจากคนรอบตัว จากครอบครัว จากเพื่อน จากคนที่ทำงาน

ขั้นที่สี่ เราต้องการมีตัวตน ต้องการให้คนอื่นๆ มาเคารพนับถือ และไม่อยากให้ใครมองว่าด้อยค่า

จนไปถึงขั้นสุดท้าย ที่เมื่อมนุษย์ซึ่งได้สิ่งต่างๆ ครบแล้ว แต่ละคนก็จะต้องการ “ความสำเร็จสูงสุด” แตกต่างกันออกไป และไม่มีความต้องการสูงกว่านั้นแล้ว

ทำไมทฤษฎีความต้องการของมนุษย์ของมาสโลว์ จึงถูกโยงเข้ากับแบรนด์เนม

มีคำอธิบายว่า การได้ใช้งานสินค้าแบรนด์เนมพรีเมียมนั้น สามารถตอบสนองความต้องการของมนุษย์ได้ แถมตอบสนองได้หลายขั้นด้วย

ยกตัวอย่าง…

เราทุกคนย่อมมีสินค้าแบรนด์ประจำ ต่อให้พรีเมียมหรือไม่ก็ตาม เช่น น้ำอัดลม ผงซักฟอก หรือรองเท้ายี่ห้อประจำ

เพราะเรามั่นใจว่า การซื้อแบรนด์นี้อีกครั้ง ก็การันตีถึงคุณภาพ รสชาติ หรือประสิทธิภาพของสินค้าได้ระดับหนึ่ง

เราจะเห็นการไปต่อแถวซื้อสินค้าตัวใหม่ที่วางขาย เพราะการได้ใช้สินค้าก่อนใครเพื่อน ทำให้มนุษย์รู้สึกว่าตนเองเป็นคนพิเศษขึ้นมา

เราจะเห็นการใช้กระเป๋าหรูราคาหลายหมื่น เพราะศิลปินที่ชื่นชอบใช้งานแบรนด์นั้น และสบายที่ได้เป็นลูกค้าของแบรนด์ตามศิลปินคนโปรด

หรือกระทั่งการใช้ของแบรนด์เนมตามกลุ่มเพื่อน ตามกลุ่มคนที่เราไปเข้าหาด้วย เพื่อให้ตนเองได้เป็นที่ยอมรับในสังคมนั้นๆ ก็มีเช่นกัน


แม้จะมีความต้องการของขั้นที่ 1 และ 2 รวมอยู่ในด้วยการเลือกใช้แบรนด์ให้แบรนด์หนึ่ง

แต่ส่วนใหญ่แล้ว ในการที่มนุษย์ติดแบรนด์พรีเมียม มักจะเป็นไปเพื่อตอบสนองความต้องการขั้นที่ 3 และ 4 ตามลำดับเสียมากกว่า


จะเห็นได้ว่าเมื่อ “แบรนด์” ผูกพันกับ “ความเป็นมนุษย์”

การใช้สินค้าแบรนด์เนมบ้าง ไม่แบรนด์บ้าง หรือถึงขั้นว่า “เสพติดแบรนด์” นั้นก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร

เพราะมองอีกมุมหนึ่ง แบรนด์สินค้าต่างๆ ก็ต้องใช้ทั้งความสามารถของพนักงาน ต้องรักษาคุณภาพสินค้า และใช้ระยะเวลาที่ยาวนานพอสมควร

กว่าจะเติบโตจากแบรนด์ที่ไม่มีคนรู้จัก จนกลายเป็นแบรนด์ระดับโลกได้สำเร็จ

และการที่ลูกค้าติดแบรนด์ของเรา กลับมาซื้อเป็นประจำ แถมยังบอกต่อให้คนรอบตัวใช้ตาม หรือกระทั่งคอยช่วยปกป้องแบรนด์ของเรา เวลาที่มีปัญหาเรื่องภาพลักษณ์

นั่นก็คือสิ่งที่หลายๆ ธุรกิจต่างก็ต้องการ และใฝ่ฝันอยากจะให้แบรนด์ไปถึงจุดนั้นให้ได้เช่นกัน


แต่เราก็รู้กันดีว่า..

แม้ทฤษฏีของมาสโลว์ จะสามารถนำมาเขียนบนกระดาษ ใช้อธิบายความต้องการของมนุษย์กับสินค้าแบรนด์เนมได้อย่างเข้าใจไม่ยากนัก

แต่ในทางปฏิบัติจริง การสร้างแบรนด์ ทำให้ลูกค้าติดแบรนด์ และผลักดันแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักกว้างขวาง เป็นเรื่องที่ยากเหนื่อยจนเลือดตาแทบกระเด็น

แต่ถ้าทำได้ล่ะก็ มันก็นับเป็นความสำเร็จอันน่าภาคภูมิใจมากด้วยเช่นกัน… คุณคิดว่าอย่างไรครับ!?



✦ เข้าวงการแบรนด์เนมเพราะ "ใช้ในการลงทุน"



ด้วยความที่สินค้าแบรนด์เนมบางอย่าง อย่างเช่นนาฬิกา กระเป๋า ที่

มีทั้งความลัคชู และ Story เรื่องราวที่มีคุณค่า ยิ่งเก็บไว้นานยิ่งมีราคายิ่งขึ้นไปอีก บางคนเลยเลือกลงทุนกับการเก็บสะสมแบรนด์เนมเพื่อเก็งกำไร

อยู่ด้วยค่า

เข้าวงการแบรนด์เนมเพราะ "คุณภาพดี"

เข้าวงการแบรนด์เนมเพราะ "รูปลักษณ์และการออกแบบ"


▶ อธิบายความคลั่งรักแบรนด์เนมตามหลักจิตวิทยา

เข้าวงการแบรนด์เนมเพราะ



ตามไปส่องความคิดเห็นจากคนเลือกเก็บสะสมของแบรนด์เนมกันมาแล้ว คราวนี้มาดูข้อมูลจากฝั่งวิชาการบ้างดีกว่า เพราะ

ได้มีการวิเคราะห์ความคลั่งรักแบรนด์เนมอิงจากหลักจิตวิทยาเอาไว้ด้วย

เขาบอกเอาไว้ว่า



จาก

ทฤษฎีของนักจิตวิทยา Abraham Maslow เรื่องลำดับขั้นความต้องการของมาสโลว์จะแบ่งความต้องการเอาไว้ 5 ขั้น



1. ความต้องการที่จะอยู่รอด

อย่าง น้ำ อากาศ อาหาร เสื้อผ้า ที่อยู่อาศัย


2. ความต้องการรักษาสิ่งเหล่านั้นให้คงอยู่

การมีอาหารกินเสมอ มีบ้านปลอดภัย มีความมั่นคง


3. ความต้องการความรักจากครอบครัว

เพื่อน คนรอบข้าง


4. ความต้องการมีตัวตน

ไม่อยากให้ใครมองว่าด้อยค่า อยากเป็นที่ยอมรับนับถือ และมีตัวตน


5. ความสำเร็จสูงสุด

เมื่อมนุษย์มีสิ่งต่าง ๆ ครบแล้ว แต่ละคนจะต้องการความสำเร็จสูงสุดแตกต่างกันไป



เข้าวงการแบรนด์เนมเพราะ "คุณภาพดี"


1. เป็นสินค้ามีสามารถ “เก็งกำไร” และสร้างผลตอบแทนที่ดีได้

การซื้ออะไรก็ตาม ถ้าคุณซื้อแล้วสามารถขายทิ้งได้และได้ “กำไร” หลังจากการขาย สิ่งนั้นถือว่าเป็นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนทั้งนั้นครับ แบรนด์เนมเองก็เช่นกัน เพียงแต่คุณต้องฉลาดที่จะเลือกลงทุนในสินค้าแบรนด์เนมที่มั่นใจได้ว่าสามารถสร้างผลกำไรหลังจากตัดสินใจซื้อ ซึ่งผมมีข้อสังเกตง่ายๆ ดังนี้

– เป็นสินค้าที่กำลังได้รับความนิยมอย่างสูง เช่น นาฬิกาโรเล็กซ์บางรุ่น กระเป๋าชาแนล รองเท้ารุ่นยอดนิยม เป็นต้น

– การลงทุนกับกระเป๋าและนาฬิกาแบรนด์เนมคือทางเลือกที่ฉลาดที่สุดเพราะรุ่นยอดนิยมนั้นเป็นอะไรที่ราคาขึ้น

– การซื้อรองเท้าแบรนด์เนมแทบทั้งหมดมักไม่ได้รับผลตอบแทนที่ดีเพราะซื้อยังไงก็ขาดทุน

– การซื้อแบรนด์เนมในประเทศไทยบางทีก็มีราคาและแบบถูกกว่าเมืองนอก แต่ส่วนใหญ่ถ้ามีโอกาสซื้อที่ประเทศยุโรปอย่างฝรั่งเศสหรือสวิสเซอร์แลนด์ คุณมีโอกาสได้สินค้าที่มีราคาถูกกว่าไทยหลักหมื่นถึงแสนแน่นอน

– การซื้อแบรนด์เนมมือสองสภาพดีก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีที่ทำให้คุณได้สินค้าราคาถูกและปล่อยแพงได้





ซึ่งถ้าอิงจากหลักลำดับขั้นความต้องการของมาสโลว์

การใช้สินค้าแบรนด์เนมตอบโจทย์หลักความต้องการของมนุษย์อยู่หลายขั้นเลย ตั้งแต่ขั้นแรกคือความต้องการพื้นฐานที่แบรนด์เนมสามารถตอบการใช้งานนี้ได้ และแบรนด์เนมยังเสริมความต้องการการมีตัวตน การเป็นที่ยอมรับของสังคมได้อีกด้วย

คนที่ใช้แบรนด์เนมเลยอาจจะเลือกเพื่อตอบสนองความต้องการในชีวิตเหล่านี้ด้วย




2. เป็นสิ่งที่มีไว้เพื่อ “สร้างความน่าเชื่อถือ” ในตัวคุณ

ถ้าคุณเป็นนักขายหรือนักธุรกิจ นี่คือเหตุผลว่าทำไมรถหรู นาฬิกาหรู ถึงพยายามใช้พรีเซนเตอร์หรือสื่อภาพลักษณ์การเป็นเจ้าของด้วย “ความเป็นนักธุรกิจ” หรือไม่ก็สื่อให้เห็นถึงความสง่างามของคนระดับผู้บริหารเช่นคุณ (ยิ้ม) เหตุผลก็คือว่าของแบรนด์เนมสามารถทำให้บุคลิกและภาพลักษณ์ของคุณกลายเป็นผู้บริหารที่น่าเชื่อถือ สินค้ายอดนิยมในหมู่นักธุรกิจก็คือรถหรู นาฬิกาหรู กระเป๋าแบรนด์เนม สูทแบบเทเลอร์เมดผ้าอิตาลี่ รองเท้าหนังยี่ห้อดัง เข็มขัดสายหนังแบรนด์เนม เป็นต้น เพียงเท่านี้คุณก็มี “เปลือก” ที่ลูกค้าเห็นก็เชื่อถือคุณตั้งแต่ 3 วินาทีแรกแล้วล่ะครับ ซึ่งไม่ผิดที่ลูกค้าจะมองเพียงแค่นั้นเพราะว่าพวกเขามีเวลาเพียงน้อยนิดในการ “ตัดสินคุณ” ตั้งแต่แรกพบ

3. เป็นสิ่งที่เอาไว้ใช้ “ละลายน้ำแข็ง” (Break the ice) ในคอนเนคชั่นระดับสูง

นักขายหรือนักธุรกิจคืออาชีพที่ต้องคลุกคลีอยู่กับ “คอนเนคชั่น” เป็นส่วนใหญ่ ยิ่งเก๋าก็ต้องมีคอนเนคชั่นระดับผู้บริหารหรือเจ้าของธุรกิจร้อยล้านพันล้านผู้ร่ำรวย การพาตัวเองไปอยู่กับสังคมแบบนั้นเพื่อแสวงหาคอนเนคชั่นให้ตัวเองได้ประโยชน์มากกว่าการเป็นแค่ “เซลล์ขายของ” มีวิธีการที่หลากหลาย เช่น การเรียนต่อปริญญาโทสถาบันที่มีชื่อเสียง การเข้าคอร์สสัมมนาธุรกิจ การเข้าสมาคมคลับกิจกรรมชั้นสูงอย่างขี่ม้า ตีกอล์ฟ ฯลฯ ซึ่งถ้าคุณไม่อยากเสียเวลากับเรื่องแบบนั้น การมีสินค้าแบรนด์เนมบางอย่าง เช่น รถหรูอย่างเบนซ์ ปอร์เช่ ก็สามารถพาคุณไปอยู่ในสมาคมที่อุดมไปด้วยคอนเนคชั่นและการใช้สินค้าเหล่านี้เป็นตัว “เปิดประเด็น” เพื่อหาเรื่องคุยกับคนที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน วิธีง่ายๆ ก็คือการชวนพวกเขาคุยเรื่องแบรนด์เนมนี่แหละครับ ถ้าคุณมีเหมือนพวกเขาก็จะยิ่งง่ายมากๆ

▶ เช็กตัวเองว่าเราเหมาะเข้าวงการเก็บแบรนด์เนมแค่ไหน?


สำหรับเพื่อน ๆ ที่มีความสนใจไอเทมแบรนด์เนมอยู่เหมือนกัน อยากลองเช็กตัวเองดูว่าชั้นเหมาะเข้าวงการแบรนด์เนมจริง ๆ รึเปล่า

จากที่เราได้ไปส่องความเห็นจากคนใช้แบรนด์เนมมาแล้ว และได้เห็นจุดร่วมบางอย่างที่ชาวแบรนด์เนมแบรนด์ใจมีลักษณะคล้าย ๆ กันเลยขอสรุปออกมาเป็นเช็กลิสต์ประมาณนี้




1. มีความมั่นคงทางการเงิน



ด้วยความที่แบรนด์เลือกใช้วัตถุดิบที่ดีมีคุณภาพ ลงดีเทลไปถึงการผลิตเฉพาะตัว รวมไปถึง Story ประวัติของแบรนด์ที่มีความลัคชูดูแพง ทำให้ราคาของมันค่อนสูงพอสมควร ถ้าเทียบกับค่าครองชีพในไทย การจะเก็บสะสมแบรนด์เนมไม่ให้หมดตัว คงต้องมีความมั่นคงทางการเงินในระดับนึงเลย



2. สายแฟชั่นชื่นชอบดีไซน์ Story เรื่องราวประวัติศาสตร์



อย่างที่ได้บอกไปว่าแบรนด์เนมไม่ได้ขายแค่สินค้า แต่ยังขาย Story เรื่องราวในตัวเองไปด้วย จากความเห็นของหลาย ๆ คนที่เขาใช้แบรนด์เนม นอกจากซื้อเพราะคุณภาพ ความอยู่ทน อีกหนึ่งสาเหตุที่คนพูดถึงพอ ๆ กันคือเรื่องดีไซน์ การออกแบบ และ Story ที่มาของมัน สำหรับคนที่ชอบสายแฟชั่นงานดีไซน์น่าจะลงทุนกับแบรนด์เนมแล้วมีความสุข เพราะดีไซน์เฉพาะตัว และเรื่องราวความเป็นมาของมัน



3. คนที่มีความอินดีเทลใส่ใจรายละเอียด



สืบเนื่องจากข้อก่อนหน้า นอกจากเรื่องของดีไซน์ แบรนด์เนมยังเด่นในเรื่องของรายละเอียดเฉพาะตัว สำหรับเพื่อน ๆ ที่อินกับงานดีเทล และชอบใส่ใจรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือชอบที่ได้รู้เรื่องราวอินไซด์ที่ซ่อนไว้อยู่ในของแต่ละชิ้น น่าจะสนุกกับการเก็บสะสมของแบรนด์เนมอยู่เหมือนกัน





ตามไป

ไขข้อข้องใจว่า ทำไมใคร ๆ ถึงชอบเก็บสะสมแบรนด์เนม?

กันมาแล้ว หวังว่าน่าจะพอเป็นคำตอบให้เพื่อน ๆ ได้หายสงสัยอยู่บ้างนะคะ

สำหรับเราหลังจากที่ได้รู้ความเห็นและสาเหตุของคนที่เก็บแรนด์เนม บอกเลยว่าเปิดโลกแบรนด์เนมของเรามาก เพราะมีเหตุผลบางอย่าง เช่นการลงทุนเก็งกำไร

ที่เราเพิ่งรู้เหมือนกันว่ามีส่วนทำให้คนเข้าสู่วงการแบรนด์เนมด้วย

สำหรับเพื่อน ๆ มีความเห็นอื่น ๆ นอกจากนี้ ลองคอมเมนต์มาพูดคุยแลกเปลี่ยนกันได้น้า ส่วนวันนี้ขอตัวลาไปก่อนแล้ว บายค่าา



chollychon



ลิ้งก์รูปภาพ

https://drive.google.com/drive/u/1/folders/1-LrS3A0UtqmgI4UCgJK7HS5P08yXjCLO

เว็ปไซต์นี้ใช้คุกกี้

SistaCafe ให้ความสำคัญต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้โดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ แสดงว่าท่านยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา และ นโยบายการใช้คุกกี้