" I am strong (strong)I am invincible (invincible)I am womanI am woman watch me grow "

" ถึงบ้านแล้วบอกด้วยนะ "" ขึ้นแท็กซี่แล้วอย่าลืมโทรมา "" อยู่บ้านอย่าลืมปิดม่านให้สนิท "

ข้อความที่แสดงถึงความเป็นห่วงเป็นใยปนเปไปกับความไม่ไว้วางใจสังคมรอบข้าง มักถูกพูดถึงบ่อยครั้งในกลุ่มเพศหญิงด้วยกันเอง ไม่ว่าจะเป็นตอนที่ร่ำลากลับบ้านหลังนัดทานมื้อค่ำกับแก๊งเพื่อน ตอนลูกสาวเดินทางไปไหนมาไหนเองคนเดียว หรือแม้แต่ตอนใช้ชีวิตประจำวันที่บ้านของตัวเองก็ตาม

เป็นเรื่องปกติที่คนรักกันย่อมห่วงใยกันแต่ในขณะเดียวกันมันเป็นเรื่องปกติจริงหรือ...ที่ทุกวันนี้เรากำลังใช้ชีวิตอยู่บนความระหวาดระแวงตลอดเวลา ?

ถึงแม้ว่าในยุคนี้จะเป็นยุคที่ผู้หญิงอย่างเราเป็นได้หลายบทบาทตามที่ใจเราต้องการ กรอบเดิมๆ ของสตรีที่ถูกครอบไว้แต่โบราณค่อยๆ เลือนหายไป มีผู้หญิงมากมายที่กลายเป็นผู้ทรงอิทธิพลในแวดวงต่างๆ รวมถึงมีการเรียกร้องสิทธิสตรีกันอยู่อย่างต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้หญิงทั่วโลกให้ดีขึ้น แต่ก็ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าเรื่องราวดีๆ ทั้งหมดที่เกิดขึ้นนั้น

แท้จริงเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่ง

เท่านั้น

หากมองให้ลึก เราจะพบว่าแม้แต่ในปัจจุบันผู้หญิงก็ยังคงมีข้อจำกัดอยู่มากที่ไม่สามารถก้าวข้ามได้

และข้อจำกัดที่ว่าส่วนมากไม่ได้เกิดขึ้นเพราะตัวเราเองซะด้วยสิ แต่มักเกิดขึ้นเพราะสังคมรอบข้างที่ทำให้ผู้หญิงรู้สึกว่าตนเองไม่ปลอดภัย...

สวัสดีค่ะชาวซิส แฟงกลับมาอีกครั้งกับ

SistaCafe WomenTalk

ที่จะมาชวนทุกคนพูดคุยกันถึงประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับผู้หญิง ไหนๆ ก็เข้าสู่เดือนตุลาคมที่ถือว่าเป็นเดือนแห่งความน่ากลัว Spooky Season กันแล้ว แฟงเลยอยากจะมาพูดถึงเรื่องของ

' ความกลัว '

สักหน่อย แต่ไม่ใช่ความกลัวทั่วไปอย่าง กลัวผี กลัวสัตว์ หรือกลัวความมืดนะ เราจะมาพูดถึง

ความกลัวที่มีเหตุเกิดจากสังคมที่ไม่ปลอดภัย

กันค่ะ เชื่อว่าหัวข้อนี้สาวๆ หลายคนน่าจะรู้สึกรีเลทด้วยไม่มากก็น้อยแน่นอน

ว่าแต่...ความกลัวคืออะไร สำคัญอย่างไร? ทำไมมนุษย์เราถึงรู้สึกกลัว ?

ในทางจิตวิทยาความกลัวถือเป็นอารมณ์สำคัญที่ทำหน้าที่กระตุ้นให้เกิดการเอาชีวิตรอดของมนุษย์ทำให้มนุษย์รู้จักการป้องกันตนเอง โดยมีหลักการทำงานคือ เมื่อมีสิ่งใด หรือเหตุการณ์ใดๆ มากระตุ้นให้สมองของเรารับรู้ถึงอันตรายทั้งทางร่างกายและจิตใจ ร่างกายของเราจะแสดงออกมาด้วยการตอบสนองออกมาแบบสู้หรือหนี ( Fight-or-Flight Response )ซึ่งเป็นกลไกในการรับมือความเครียดแบบฉับพลัน เป็นภาวะที่เกิดขึ้นเมื่อสมองหลั่งฮอร์โมนกระตุ้นให้ร่างกายพร้อมที่จะสู้ หรือพร้อมที่จะหนีเอาตัวรอดจากสถานการณ์นั้นๆ ซึ่งฮอร์โมนดังกล่าว จะเป็นฮอร์โมนในกลุ่มแคททีโคลามีน ( Catecholamines ) ได้แก่ นอร์เอพิเนฟริน ( Norepinephrine ) และเอพิเนฟริน ( Epinephrine ) หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ อะดรีนาลีน ( Adrenaline ) นั่นเองค่ะจะเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของเราบ้าง เมื่อเรารู้สึกกลัว?หัวใจเต้นเร็วและหายใจถี่ขึ้น, รูม่านตาดำขยายเพื่อให้เรามองเห็นได้ชัดขึ้น, หูสามารถรับรู้การได้ยินดีขึ้น, เลือดข้นขึ้นเพื่อเตรียมความพร้อมให้เลือดหยุดไหลในกรณีที่ได้รับบาดแผล, การรับรู้ความเจ็บปวดน้อยลง, ตัวเกร็งหรือตัวสั่น เนื่องจากฮอร์โมนเครียดที่ไหลเวียนทั่วร่างกาย และยังควบคุมการขับถ่ายได้ยากขึ้นด้วย

ความไม่ปลอดภัย ( Insecure )

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/d7/6b/cf/d76bcf2591f9c305065dd63976cff5f4.jpgรูปภาพ:

อ่านดูแล้วก็เหมือนว่าความกลัวจะเป็นกลไกที่สำคัญกับการดำรงชีวิตของมนุษย์ใช่มั้ยล่ะคะ? ถ้ามนุษย์เราไม่รู้จักกลัวภัยอันตราย เผ่าพันธุ์ของเราก็อาจไม่ได้อยู่รอดมาจนถึงทุกวันนี้ก็ได้ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าการใช้ชีวิตอยู่บนความหวาดกลัวจะนับว่าเป็นสิ่งที่ดีเช่นกัน

มนุษย์ทุกคนไม่ว่าเพศใดควรได้รับความปลอดภัยในชีวิตและร่างกายของตนเองซึ่งถือเป็นสิทธิตามธรรมชาติ

แต่ในชีวิตประจำวัน ผู้หญิงอย่างเราเข้าใจกันดีถึงความไม่ปลอดภัยที่อาจเกิดขึ้นได้รอบตัว และนำไปสู่ความจำเป็นที่

ผู้หญิงต้องคอยระมัดระวังตัวเองตลอดเวลา พร้อมรับบทเป็นหูเป็นตาให้เพื่อนหญิงรอบข้างไปโดยปริยาย

เกิดเป็นข้อจำกัดที่ขัดขวางไม่ให้เราได้ทำในสิ่งที่ต้องการ อยากหลุดพ้นจาก Comfort Zone ทีไรก็กลัวทุกที

แต่เพราะคนกลุ่มหนึ่ง จึงทำให้ผู้หญิงหลายคนรู้สึกไม่ปลอดภัย

5 ความกลัวของผู้หญิงที่เกิดขึ้น เพราะรู้สึกว่าตนอาจไม่ปลอดภัย



① กลัวที่จะแต่งตัวเปิดเผยเรือนร่าง

" ห้ามใส่สั้น ไม่อนุญาตให้ใส่บิกีนี อย่าแต่งตัวโป๊ "


ข้อห้ามสามัญประจำบ้าน ( ของใครหลายคน ) แม้ทุกวันนี้เราจะอยู่ในยุคที่ทุกคนมีอิสระในการแสดงความเป็นตัวเอง ผู้คนในสังคมมีการเปิดกว้างยอมรับความหลากหลายมากขึ้น

แต่ข้อห้ามเหล่านี้ยังคงถูกใช้อยู่เสมอๆ โดยคนในครอบครัวหรือคนรัก เพื่อปกป้องผู้หญิงในบ้าน ไม่เว้นแม้แต่ตัวเราเอง

ถึงจะยึดหลักว่า

My Body My Choice ร่างกายเรา...เราเลือกเอง

แต่ไม่อาจปฎิเสธได้เลยว่าในใจลึกๆ ก็ยังมีความกลัว บางคนรู้สึกหวาดระแวงเมื่อต้องเดินผ่านกลุ่มคน หรือบางคนก็กลัวจนไม่กล้าหยิบมาใส่ไปเลย สุดท้ายจึงเลือกที่จะเซฟตัวเองด้วยการแต่งตัวให้มิดชิด เรียบร้อย เพียงเพราะป้องกันตัวจากคำกล่าวที่ว่า

จะได้ไม่เป็นการยั่วยวนทางเพศ ไม่ทำให้ใครต้องเกิดอารมณ์ทางเพศ...

เราก็ไม่เข้าใจเหมือนกันนะ ทำไมคนที่โดนต่อว่ากลับกลายเป็นเหยื่อ แทนที่จะเป็นอีกฝ่ายซึ่งเป็นผู้กระทำความผิด ที่ไม่สามารถจัดการกับความต้องการของตัวเองได้ ?

② กลัวการเดินทางไป-กลับคนเดียว ด้วยรถโดยสารสาธารณะ

" รถโดยสารสาธารณะ " หนึ่งในสถานที่ยอดฮิตที่มักพบเหตุการณ์การล่วงละเมิดทางเพศ ยิ่งคนเยอะก็ยิ่งเบียดเสียด ยิ่งเบียดกันก็ยิ่งตีเนียนง่าย! จากผลการสำรวจโดยคณะวิจัยคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

พบว่าผู้หญิงมีอัตราการถูกคุกคามทางเพศสูงสุด คิดเป็นร้อยละ 45

ของผู้หญิงที่ตอบแบบสอบถาม และประเภทของขนส่งสาธารณะที่พบเจอการคุกคามทางเพศมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ รถเมล์ 50% รถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง 11.4% รถแท็กซี่ 10.9% รถตู้ 9.8% และรถไฟฟ้าบีทีเอส 9.6%

หากจะบอกว่า

" ถ้ากลัวก็ให้คนที่บ้านรับ-ส่งสิ "


หรือ

" ไม่อยากใช้รถสาธารณะก็ใช้รถส่วนตัวไปซะ "

ก่อนอื่นต้องเข้าใจด้วยนะว่า

ความพร้อมของเราแต่ละคนไม่เหมือนกัน ต่างคนต่างมีต้นทุนชีวิตที่ต่างกัน

เช่น พื้นฐานครอบครัว ฐานะทางการเงิน เป็นต้น

เพราะฉะนั้นระบบขนส่งสาธารณะก็ควรเป็นทางเลือกในการเดินทางที่น่าใช้สำหรับทุกคนรึเปล่า?

ที่เราใช้คำว่า ' น่าใช้ ' เพราะไม่เพียงแต่รถโดยสารควรจะเข้าถึงได้ง่ายเท่านั้น แต่ควรใช้ได้อย่างปลอดภัยและสะดวกสบายด้วย ถ้าขนส่งสาธารณะดีเราก็ไม่ต้องคุยโทรศัพท์ทิพย์อีกต่อไป!


③ กลัวการเที่ยว / ออกทริปคนเดียว

ข้อนี้ขอพูดแทนสาวๆ ที่ชื่นชอบการเที่ยวคนเดียว หรือมีความฝันอยากผจญภัยท่องโลกซะหน่อย ทุกคนเคยรู้สึกแปลกกันมั้ยคะว่าทำไมต้องมีบทความแนะนำเป็นพิเศษ เพื่อให้ผู้หญิงสามารถเที่ยวคนเดียวได้อย่างปลอดภัย? การเที่ยวคนเดียวแปลกตรงไหน? ใครๆ ก็ทำได้ไม่ใช่เหรอ? ใช่ค่ะ

มันควรเป็นเรื่องปกติที่ไม่ว่าใครก็มีอิสระในการเดินทางไปประเทศใดก็ได้ รวมถึงภายในประเทศของตัวเองเช่นกัน

ไม่ใช่เพราะผู้หญิงเป็นเพศที่อ่อนแอตามที่เขาว่ากันไว้

แต่เพราะความไม่ปลอดภัยทั้งทางร่างกายและทรัพย์สิน ที่มีแนวโน้มสูงว่าจะเกิดขึ้นระหว่างออกทริปต่างหากที่น่ากลัว

ทั้งการชิงทรัพย์เอย การล่วงละเมิดทางเพศเอย หนักไปถึงการฆาตรกรรม

" คดีอาชญากรรมนักท่องเที่ยวสาว "

จึงมักเป็นหนึ่งในหัวข้อข่าวที่เราพบเห็นกันอยู่เรื่อยๆ จากสำนักข่าวทั่วโลก

ไม่กล้าไม่ได้แปลว่าปอดแหก แต่แปลว่ากลัวอันตรายค่ะซิส

คิดแล้วก็น่าเสียดาย

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/f5/bf/d7/f5bfd71512a03843346c862d6156ef1b.jpgรูปภาพ:

④ กลัวการออกจากความสัมพันธ์แย่ ๆ ( Toxic Relationship )


" เลิกไม่ได้กลัวโดนทำร้าย เลิกไม่ได้เพราะยังต้องพึ่งเขา เลิกไม่ได้เดี๋ยวกลายเป็นขี้ปากของชาวบ้าน "


หลายครั้งที่เหตุการณ์น่าหดหู่อย่างการทำร้ายร่างกาย และการฆาตรกรรมฝ่ายหญิง เกิดขึ้นด้วยสาเหตุที่มาจากการเลิกราในความสัมพันธ์


รวมไปถึงการที่ผู้หญิงที่แต่งงานแล้วไม่สามารถหย่ากับสามีได้ เพราะหากเลิกไปแล้วก็ไม่รู้จะใช้ชีวิตต่อยังไง

บางคนเป็นแม่บ้านก็อาจไม่ได้มีทรัพย์สินส่วนตัวมากนัก ยิ่งบางคนที่มีลูกแล้วก็ต้องห่วงเรื่องค่าใช้จ่ายและความพร้อมที่จะสนับสนุนลูกในอนาคตด้วย แถมเผลอๆ ก็อาจโดนสังคมรอบตัว ( ที่มาในรูปแบบคนข้างบ้าน ) มองด้วยสายตาเหยียดหยาม ตราหน้าว่า

" เป็นผู้หญิงที่ผ่านการแต่งงานแล้ว "

อีก ด้วยความกลัวหลายๆ อย่างที่พูดมาจึงทำให้

สุดท้ายแล้วผู้หญิงบางคนต้องยอมทนอยู่ในความสัมพันธ์ที่เป็นพิษ หรือที่เรารู้จักกันในคำภาษาอังกฤษว่า Toxic Relationship ต่อไป

#กลับตัวก็ไม่ได้ให้เดินต่อไปก็ไปไม่ถึง

ที่แท้ทรู...

⑤ กลัวการพักอาศัยอยู่คนเดียว

พอคิดดูแล้วก็เป็นเรื่องน่าแปลกที่แม้แต่บ้านของเราเอง ก็ยังเป็นที่ที่ไม่อาจวางใจได้ 100% เพราะกลัวอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้จากคนอื่นนอกบ้าน หรือในบางกรณีก็เกิดขึ้นจากคนในบ้านก็มี! ไม่พ้นให้เพื่อนหญิงพลังหญิงต้องหมั่นมาแชร์เคล็ดลับ เพื่อปกป้องตัวเองกันอยู่เสมอ เพราะเราต่างรู้กันดีว่าช่วงเวลาที่ผู้ร้ายมักเลือกก่อเหตุกับเหยื่อ นั่นก็คือ

ช่วงเวลาที่เหยื่ออาศัยอยู่ตามลำพัง

นั่นเอง ยิ่งเป็นผู้หญิงด้วยแล้วก็ยิ่งเข้าทาง

จากความไม่ปลอดภัยนี้จึงเป็นเหตุให้สาวๆ หลายคนยอมจ่ายเงินเพิ่ม เพื่อเลือกที่พักอาศัยที่ดูปลอดภัยมากขึ้น

โดยเลือกจากระบบรักษาความปลอดภัยที่แน่นหนา สภาพแวดล้อมของที่พักอาศัยและบริเวณรอบๆ รวมไปถึงการออกแบบของห้องพัก ถึงแม้จะไม่สามารถการันตีความปลอดภัยได้ 100% แต่อย่างน้อยก็ช่วยลดโอกาสการเกิดอันตรายขึ้นได้บ้าง

#เกิดเป็นผู้หญิงมีเรื่องให้คิดเย้อะ!

เพราะ

การคุกคามทางเพศ ( Sexual Harassment )

ยังคงมีให้เห็นอยู่บ่อยครั้งตามฟีดข่าวบนโซเชียลมีเดียและในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการคุกคามทางวาจา คุกคามด้วยท่าทาง เช่น การจ้องมองส่วนต่างๆ ของร่างกาย การแตะเนื้อต้องตัวซึ่งถือเป็นการคุกคามทางร่างกาย หรือแม้แต่การคุกคามที่มาในรูปแบบของข้อความ / รูปภาพอนาจาร จนรุนแรงไปถึงขั้นกระทำชำเราผู้อื่น

จริงอยู่ที่การระมัดระวังตัวเอง และการใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาทนั้นเป็นสิ่งที่ทุกคนไม่ว่าเพศใดควรทำอยู่แล้ว

ทว่าในปัจจุบันกลับมีคดีอาชญากรรมเกิดขึ้นรายวัน ควบคู่มากับข้อมูลทางสถิติที่น่าเชื่อถือ

สะท้อนให้เราเห็นอย่างชัดเจนว่าลำพังแค่เราที่คอยระวังตัวเอง มันคงไม่เพียงพอ...


การมีสังคมที่ปลอดภัย ไม่ได้ดีแค่กับผู้หญิง...แต่ดีสำหรับ ' ทุกคน '

รูปภาพ:

ดังนั้นส่วนตัวเราเลยมองว่า

การมีสังคมที่ปลอดภัย

จึงอาจเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับทุกคน สังคมที่ปลอดภัยสำหรับเรานั้นหมายความรวมถึงหลายแง่มุม ทั้งในแง่จิตสำนึกที่ดีและการตระหนักของผู้คนในสังคม ระบบขนส่งสาธารณะที่ปลอดภัย สวัสดิการต่างๆ ที่ครอบคลุมจากทางภาครัฐ การกำหนดข้อกฎหมาย/บทลงโทษ และการออกแบบผังเมืองที่เอื้ออำนวยต่อความสะดวกสบาย

แม้วันนี้เราจะมาบอกเล่าในนามของเพศหญิง


แต่จริงๆ แล้วความปลอดภัยนั้นเป็นเรื่องของทุกคน อันตรายเหล่านี้มีโอกาสเกิดขึ้นได้ไม่ว่ากับใครหรือเพศใดก็ตา

พวกเราทุกคนจึงมีหน้าที่ที่ต้องช่วยกันผลักดันและสนับสนุนให้สังคมแห่งความปลอดภัยนี้เกิดขึ้นจริง หวังว่าทั้งในประเทศไทยและทั่วโลกจะมีสังคมที่ปลอดภัยมากขึ้นในเร็ววัน

ขอให้ความสุขและความปลอดภัย จงอยู่กับทุกคนค่ะ เลิฟ


Designer :namoodongWriter :yes_iamfaeng