ส่องกระจกแล้วลมแทบจับ เผลองงว่าทำไมฮาโลวีนมาถึงไวกว่าที่คิดเพราะสารรูปที่เห็นแทบไม่ต่างจากศพ!หรือจริงๆ แล้วที่ผิวหน้าหมองสยองขั้นสุดแบบนี้เป็นเพราะมัวแต่บำรุงแต่ลืมผลัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วออกไป หน้าเลยไร้ชีวิตชีวาอย่างนี้ มาค่ะ วันนี้ซิสจะมาเล่าให้ฟังว่าเราควรใช้อะไรคืนความกระจ่างใสให้หน้ามาผลัดอะไรเก่าๆเพื่ออ้าแขนรับผิวใหม่ สดใสไฉไลกว่าเดิมแบบ เวอร์ เวอร์ เวอร์!

((w))((w))((w))((w))((w))

ก่อนอื่นต้องอธิบายก่อนว่าสารในกลุ่ม Hydroxy ไม่ว่าจะเป็นAHA, BHA, PHA และ LHA เราจะเรียกรวม ๆ กันว่าเป็น Exfoliantes หรือแปลว่าสารผลัดเซลล์ผิวซึ่งโดยปกติแล้วเนี่ยผิวคนเราจะมีชั้นผิวนอกสุด คือ Stratum Corneum เค้าจะเป็นเซลล์ที่ตายแล้ว ทีนี้สารในกลุ่มพวกนี้ก็จะไปผลัดเซลล์ผิวแก่ๆ ในชั้นนี้ให้หลุดออกไป ทำให้หน้าเราดูกระจ่างใสขึ้นจากนั้นเซลล์ผิวที่ใหม่กว่าก็จะมาแทนที่บนผิวหน้าเรานั่นเอง


PHA กรดโพลีไฮดรอกซี

หน้าที่ : ตัวนี้คุณสมบัติในการผลัดเซลล์ผิวจะคล้ายกับ AHA แต่เค้าจะมีโมเลกุลขนาดใหญ่กว่า จึงจะค่อยๆ ซึมเข้าสู่ผิว และไม่ทำให้เกิดการระคายเคืองมากเท่ากับ AHA จึงเหมาะสำหรับคนผิวบอบบาง แพ้ง่าย

ชื่อที่พบบ่อยในสกินแคร์ เช่น กลูโคโนแลคโตน (Gluconolactone) , กาแลคโตส (Galactose) และ กรดแลคโตไบโอนิก (Lactobionic Acid)

LHA หรือ กรดไลโปไฮดรอกซี เป็นอนุพันธ์หนึ่งของกรดซาลิไซลิกที่ได้รับการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพ และระคายเคืองน้อยกว่า BHA ที่มีฤทธิ์เป็นกรดสูง

หน้าที่: ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่า ช่วยควบคุมความมันส่วนเกิน ลดการอุดตันรูขุมขน

ชื่อที่พบบ่อยในสกินแคร์ เช่น ไลโป-ไฮดรอกซีแอซิด (Lipo Hydroxy Acids) , คาร์พริอิวซาลิไซลิก (Capryloyl Salicylic Acid)

Hydroxy Acid มีกี่ประเภท?

รูปภาพ:

ถึงแม้ว่าสารในกลุ่ม Hydroxy จะทำงานคล้ายกัน แต่จริงๆ แล้วเค้าก็มีดีเทลที่แตกต่างกันไปนะ เอาล่ะ มาทำความรู้จักกันซะหน่อย

AHA หรือ กรดอัลฟาไฮดรอกซีเป็นหนึ่งในส่วนผสมที่ทุกคนคงคุ้นหูกันมากที่สุด ซึ่งเค้าจะได้มาจากการสกัดมาจากกลุ่มผลไม้ต่างๆ เช่น มะนาว ส้ม มีฤทธิ์เป็นกรดอ่อนๆ ละลายน้ำได้ดีหน้าที่: เน้นกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวบนผิวชั้นนอก ช่วยให้ผิวเรียบเนียนกระจ่างใสชื่อที่พบบ่อยในสกินแคร์: กรดซิตริก ( Citric Acid ), กรดไกลโคลิก ( Glycolic Acid ), กรดแมนดีลิก ( Mandelic Acid ) และ กรดแลกติก ( Lactic Acid )

BHA หรือ กรดเบต้าไฮดรอกซีตัวนี้จะเป็นสารสกัดธรรมชาติที่ได้มาจากเปลือกของต้นวิลโลหน้าที่: ละลายในน้ำมันได้ดี จึงสามารถแทรกซึมเข้าไปในชั้นผิวได้ดี จึงช่วยในการขจัดเซลล์ผิวเก่าและลดการอุดตันรูขุมขน ที่เป็นสาเหตุของสิวอุดตันชื่อที่พบบ่อยในสกินแคร์: BHA, กรดซาลิไซลิก ( Salicylic Acid )

PHAหรือ กรดโพลีไฮดรอกซีหน้าที่: ตัวนี้คุณสมบัติในการผลัดเซลล์ผิวจะคล้ายกับ AHA แต่เค้าจะมีโมเลกุลขนาดใหญ่กว่า จึงจะค่อยๆ ซึมเข้าสู่ผิว และไม่ทำให้เกิดการระคายเคืองมากเท่ากับ AHA เหมาะสำหรับคนผิวบอบบาง แพ้ง่าย พร้อมช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นชื่อที่พบบ่อยในสกินแคร์: กลูโคโนแลคโตน ( Gluconolactone ), กาแลคโตส ( Galactose )

LHA หรือ กรดไลโปไฮดรอกซี

เป็นอนุพันธ์ของกรดซาลิไซลิกที่ได้รับการพัฒนาขึ้นโดยบริษัท L’Oréal ให้มีประสิทธิภาพ และระคายเคืองน้อยกว่า BHA

หน้าที่

: กระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว ช่วยควบคุมความมันส่วนเกิน ลดการอุดตันรูขุมขน ละลายในน้ำมันได้ดีกว่า BHA

ชื่อที่พบบ่อยในสกินแคร์

: ไลโป-ไฮดรอกซีแอซิด ( Lipo Hydroxy Acids ), คาร์พริอิวซาลิไซลิก ( Capryloyl Salicylic Acid )

สามารถใช้กลุ่ม Hydroxy Acid ร่วมกันได้ไหม?

รูปภาพ:

ถ้าจะใช้ร่วมกัน ซิสแนะนำให้เลือกจากผลิตภัณฑ์ตัวเดียวที่เค้ารวมสารมาให้แล้วมากกว่าการใช้ AHA จากผลิตภัณฑ์ตัวนึงคู่กับ BHA จากอีกยี่ห้อนึง

เนื่องจากแบบหลัง

มีสิทธิสูงมากที่จะระคายเคืองเนื่องจากหน้าเราได้รับกรดมากไป

เพราะแต่ละยี่ห้อก็จะใส่ในความเข้มข้นที่ต่างกัน แล้วถ้าเราไม่รู้แล้วเผลอไปเลือกตัวที่ความเข้มข้นสูงๆ มาใช้ด้วยกันเข้า พอแรงเจอแรงหน้าก็อาจจะแหกได้ จึงแนะนำให้เลือกจากผลิตภัณฑ์แค่ตัวเดียวไปเลยดีกว่า ตัวอย่างเช่น Effaclar Duo(+) จะผสม AHA และ BHA รวมไว้ด้วยกัน หรือ Eucerin pro acne solution ai clearing treatment SERUM ที่เค้าผสมทั้ง BHA ,AHA และ PHA ซึ่งตัวอย่างที่เรายกมานี้เค้าจะมีการปรับสูตรให้สารอยู่ในปริมาณที่เข้ากันได้ และร่วมกันทำงาน ทำให้การรักษาสิวได้ผลดีขึ้นด้วยค่ะ

1. ไม่ควรใช้ BHA และ AHA พร้อมกัน เพราะทั้งคู่ทำหน้าที่คล้ายๆ กัน คือการผลัดเซลล์ผิว BHA ผลัดผิวชั้นใน ส่วน AHA ผลัดผิวชั้นนอก จึงจะทำให้หน้าลอก แห้ง ได้ ควรเลี่ยงมาใช้สลับวันกัน หรือ AHA ใช้ในตอนเช้า และ BHA ใช้ในตอนกลางคืน แต่ทั้งคู่จะใช้ได้ผลและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในช่วงเวลากลางคืน เพราะฉะนั้นทั้ง BHA และ AHA ไม่ทำให้ผิวบางแน่นอน

2. หลังการทา BHA หรือ AHA ต้องทาทิ้งไว้ ประมาณ 5-10 นาทีให้ BHA AHA ทำหน้าที่ผลัดเซลล์ผิว ถ้า ไปทาครีมอะไรก่อนหน้านั้น จะทำให้ BHA AHA หยุดการผลัดเซลล์ผิวทันที

3. BHA และ AHA เป็น exfoliate ที่มีประสิทธิภาพ เหนือกว่าพวก mechanical พวกสครับอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นจึงไม่จำเป็นต้องใช้พวกสครับอีก

4. เมื่อใช้ BHA AHA แล้ว จะทำให้ผิวไวต่อแสงมากขึ้น ดำง่ายขึ้น ฉะนั้น กันแดดเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องทา แล้วต้องทาให้พอ กันแดดจึงต้องมีคุณภาพกันได้ทั้ง UVA และ UVB ได้ดี

ใช้ Hydroxy Acid แล้วทำให้สิวเห่อไหม?

รูปภาพ:

ในระยะแรกของการใช้เราก็มักจะพบกับปัญหาที่ว่าอยู่ดีๆ ก็มีสิวผุดขึ้นมาไม่หยุด ซึ่งเราต้องทำความเข้าใจก่อนว่าเจ้าไขมันอุดตันนี้มันไม่สามารถละลายหายไปได้เอง และการ Exfoliate ผิวด้วยกลุ่ม Hydroxy acid จะไปช่วยเร่งให้สิ่งที่อุดตันในรูขุมขนถูกขับและหลุดออกไปได้ง่ายขึ้นแนะนำว่าให้ใช้และสังเกตผลไปด้วยถ้าหากว่าใช้ไปแล้วการอุดตันเริ่มทุเลาลงเรื่อยๆ ก็สามารถใช้ต่อไปได้แต่หากอาการไม่ดีขึ้นเลยก็ต้องพิจารณาปัจจัยอื่นควบคู่ไปด้วยว่าเราใช้ผลิตภัณฑ์อย่างถูกวิธีรึเปล่า เครื่องสำอางหรือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวตัวอื่นที่ใช้เป็นตัวก่อปัญหาด้วยหรือไม่ หรือหากมีอาการผิดปกติทางผิวหนังอื่นๆ ก็ควรหยุดใช้และปรึกษาแพทย์ทันที

ยารักษาสิวใช้คู่กับกลุ่ม Hydroxy Acid ได้ไหม?

*✧・゚: *✧・゚:*✧・゚: *✧・゚:*✧・゚: *✧・゚:

ᕐ ̆̈͜͡ ᕐ ોु✩°。⋆

รูปภาพ:

แนะนำว่าถ้าใช้Retin-A หรือยากลุ่มกรดวิตามินเอให้เลือกใช้ในตอนกลางคืนส่วนกลุ่ม Hydroxy ให้ใช้ในตอนกลางวันได้แต่หากเริ่มมีอาการระคายเคืองเกิดขึ้นควรลดความถี่ในการใช้ลง และปรึกษาแพทย์เพิ่มเติมนะคะ

((w))((w))((w))((w))((w))

ซิสขอสรุปแบบง่ายๆ ให้อีกรอบว่าถ้าต้องการเรื่องผิวกระจ่างใสให้ผลัดเซลล์ผิวด้วย AHAถ้าอยากช่วยเรื่องสิวควบคู่ไปด้วยให้เลือกใช้ BHAเพราะเค้าจะทะลวงลึกถึงในชั้นผิว ส่วนใครที่แพ้ง่ายให้ใช้ PHA แทน AHAที่ระคายเคืองน้อยกว่า ส่วนLHA ก็คล้ายกันค่ะ คือเหมาะกับคนแพ้ง่ายเหมือนกันซิสขอแนะนำเพิ่มเติมว่าถ้าเราใช้สารผลัดเซลล์ผิวพวกนี้อยู่ก็ไม่จำเป็นต้องใช้พวกสครับผิวเราจะได้ไม่ถูกรบกวนเกินไป เดี๋ยวหน้าจะพังเอา และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือหลังจากที่เราผลัดเซลล์ผิวแล้วเนี่ยจะทำให้ผิวเราไวต่อแสงมากขึ้น ดังนั้น กันแดดเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องทาห้ามลืมเด็ดขาด! ƪ(ړײ)‎ƪ​​

((w))((w))((w))((w))((w))

Designerkidasindahouse

Writer:BabyPeachy