ก่อนจะไปแต่งหน้าฉ่ำวาว ผิวเราต้องชุ่มชื้นก่อนนะคะทุกคน เพราะการที่เรามีผิวชุ่มชื้นจะทำให้สมดุลน้ำในผิวหน้ามันดีขึ้น ความมันจะออกมาน้อยลง ความชุ่มชื้นมีมากขึ้น ทำให้เครื่องสำอางติดแน่นทนขึ้นไปอีก แต่ถ้าใครเป็นคนมีผิวมันแนะนำว่าให้ใช้แค่เซรั่ม แอมพูลหรือน้ำตบก็พอนะคะ จะได้ไม่หนักผิวแล้วก็ไม่ทำให้หน้ามันขึ้นด้วย ส่วนผิวแห้งจะใช้ครีมลงก็ได้ค่ะ ผิวจะได้ชุ่มชื้นมากพอ เครื่องสำอางจะได้ไม่หลุด แต่งหน้าติดทนมากขึ้นนะคะ หรือใครไม่ชอบทาสกินแคร์ให้วุ่นวายจะใช้มาสก์หน้าตัวเดียวจบก็ได้เหมือนกันค่ะ ใช้งานสะดวกด้วย ดึง แปะ ลอกออก สวยเช้งแต่งหน้าต่อได้ทันทีแบบเก๋ ๆ

ก่อนจะลงรองพื้นถ้าใครผิวมันมากจริง ๆ แนะนำว่าใช้ไพร์มเมอร์ก่อนจะช่วยได้เยอะเลยนะคะ ต่อมาก็ค่อยลงคอนซีลเลอร์ แล้วมาต่อที่การใช้รองพื้นเนื้อเซมิแมตต์/ฉ่ำวาวหรือใช้คุชชันกันเลยค่ะ ถ้าใครหน้ามันมากจริง ๆ ใช้เนื้อเซมิแมตต์ก็โอเคนะคะ ดูไม่วาวเกินไม่แมตต์เกินด้วย แต่ถ้าใครผิวแห้งแนะนำว่าฉ่ำวาวไปเลยค่ะ ผิวสวยแน่นอน หรือใครไม่ชอบใช้รองพื้นงานคุชชันก็ใช้ได้นะคะ ส่วนใหญ่เนื้อคุชชันมันจะไม่แมตต์มากอยู่แล้ว จะใช้สูตรแมตต์ก็ไม่ว่ากันค่ะ หรือใช้ฉ่ำวาวก็โอเค อีกสูตรที่ดีเหมือนกันคือ Long Lasting นะคะ ติดทนยาวนาน ก็ลองเลือกใช้ตามสภาพผิวกันดูน้า

และเพื่อให้ดูเป็นงานผิวฉ่ำ ๆ ธรรมชาติสุด ๆ ขอแนะนำว่าให้ใช้บลัชออนแบบเนื้อครีม/เนื้อน้ำในการลงจะดีที่สุดค่ะ มันจะได้กลืนไปกับผิว ติดทนมากขึ้นด้วย แต่ถ้าใครไม่มีบลัชออนแบบครีม/น้ำ ก็ให้ปัดบลัชออนแบบฝุ่นที่มีโทนสีเบา ๆ ละมุน ๆ แทน อย่างสีชมพูนม สีชมพูพีช สีชมพูนมติ่งส้มหน่อย ๆ สีชมพูตุ่น ๆ สีพวกนี้เวลาปัดมันจะทำให้ผิวดูเด็กลง ดูมีความเป็นธรรมชาติ ได้ฟีลหนาว ๆ แก้มเย็น ๆ กำลังดีด้วย หรือจะใช้บลัชออนฝุ่นที่มีชิมเมอร์ผสมก็เหมือนกันนะคะ จะได้มีความฉ่ำ ความ Gleam มากยิ่งขึ้น ถ้าใครชอบบลัชโทนนี้พอดี ขอแนะนำบทความนี้เลยจ้า ♥

อยากคงความแวววาวไว้บ้างก็ให้เซ็ตแป้งบาง ๆ หรือใช้แป้งคุมมันที่ให้ฟินิชโกลว์ก็ได้นะคะ คือแป้งฝุ่นหรือแป้งอัดแข็งส่วนมากจะให้ฟินิชแบบแมตต์แต่ ถ้าเราอยากให้ผิวดูมีความฉ่ำ ความโกลว์เราก็จะต้องเซ็ตให้มันเบาที่สุดเพราะไม่งั้นมันจะดูแมตต์เกินไป หรือถ้าไม่อยากให้วุ่นวายก็ใช้แป้งที่มีฟินิชโกลว์ก็ได้ค่ะ คือมันจะทำให้ผิวเราไม่ดูแมตต์เกินไป ช่วยควบคุมความมันได้โอเคด้วย ปัดได้เต็มที่กว่าแบบไม่ต้องกังวลอีกต่างหาก ใครอยากลองก็ไปสอยมาสักกระปุกได้น้า ถ้าคิดแบรนด์ไม่ออกก็มาส่องในบทความนี้ได้เลยค่า~

ผิวมีความโกลว์แล้ว งานตาต้องจัดเต็มไปเลยค่า งานตาแนะนำว่าต้องแต่งตาด้วยกลิตเตอร์หรือชิมเมอร์วิ้ง ๆ นะคะ แต่ก่อนจะลงพวกนี้ต้องลงเนื้อแมตต์ลงไปก่อน ไล่สี คัดเบ้าอะไรใด ๆ ให้เสร็จ จะลงชิมเมอร์หรือจะลงกลิตเตอร์ก็ลงตอนสุดท้าย ถ้าใครเน้นวิ้งสุด ๆ ให้ใช้กลิตเตอร์เลยค่ะ โดนแสงปุ๊บม้อบแม้บปั๊บแน่นอน ถ้าใครเอาแบบกรุบกริบ ๆ ก็ใช้แค่แบบชิมเมอร์ก็ได้น้า เล่นแสงพอดี ๆ กำลังสวยเหมือนกัน แต่แนะนำว่าให้ใช้นิ้วมือในการลงชิมเมอร์และกลิตเตอร์นะคะเพราะมันจะติดหนังตาได้ดีกว่าและแน่นกว่าการใช้แปรงค่า

ตาฉ่ำแล้ว ส่วนอื่น ๆ ก็ต้องฉ่ำด้วย ซึ่งสิ่งที่จะมาเพิ่มความฉ่ำวาวสกาวใจก็คือเจ้าไฮไลต์เตอร์นั่นเองจ้า คือไฮไลท์จะใช้ในการปัดเน้นส่วนที่เราอยากจะให้มันดูโดดเด้ง ส่วนใหญ่คนก็จะปัดตรงบริเวณโหนกแก้ม กรอบหน้าผากและบริเวณคางแบบเบา ๆ กระจับริมฝีปากนิด ๆ แล้วก็ตรงสันจมูก ถ้าเราปัดเยอะมันก็จะวาวเป็นหนังปลาทูได้ ก็แล้วแต่ความชอบเลยนะคะ ชอบมากก็ปัดมากไปเลย ใครชอบไม่มากก็เอาพอกรุบกริบให้เล่นแสงถ่ายรูปสวยพอจบ สวยเลิศกันไปคนละแบบเนอะ

ปิดจบด้วยเซ็ตติ้งสเปรย์สูตรโกลว์หรือสเปรย์น้ำแร่กันเลยค่า เพื่อล็อกไม่ให้เมคอัพขยับไปไหน ก็ใช้เซ็ตติ้งสเปรย์เลยจ้า เดี๋ยวนี้เขามีสูตรโกลว์ให้เลือกใช้กันแล้วนะจ๊ะพวกเธอ หน้าเราจะมีความวิ้งวับวาวสกาวใจ แล้วก็ไม่ทำให้เครื่องสำอางเยิ้มด้วย ติดทนมากขึ้นอีกด้วย เลิศแบบคูณสิบไปเลยจ้า หรือถ้าใครงบไม่เยอะจะใช้แค่สเปรย์น้ำแร่ก็ได้นะคะ เพราะสเปรย์น้ำแร่ไม่มีได้มีฟินิชโกลว์หรือแมตต์เป็นพิเศษ แต่ช่วยให้เครื่องสำอางติดทนมากขึ้นนิดหน่อย แล้วก็ยังช่วยให้ผิวชุ่มชื้นมากขึ้นด้วยนะเออ