ฮัลโหลลลลล ชาวซิส ♥สวัสดีค่าทุกคน กลับมาเจอกันอีกแล้วนะคะ ซึ่งรอบนี้มาแบบจัดเต็มสุด ๆ เพราะช่วงนี้เห็นว่าหลาย ๆ คนอยากจะทำสีผมแจ่ม ๆ กันเยอะ แน่นอนว่าสีผมแจ่ม ๆ จะต้องแลกกับการ" กัดสีผม / ฟอกสีผม "นั่นเอง และใช่ค่ะทุกคน~ บทความนี้เราจะมาว่ากันด้วยเรื่องการกัดสีผมหรือการฟอกสีผมจ้า คือการกัดสีผมเป็นการเปิดเกล็ดผมเพื่อทำลายเม็ดสีในเส้นผมทำให้สีผมที่เคยเข้มดูสว่างขึ้น แต่มือใหม่หัดทำสีผมอาจจะยังไม่ค่อยเข้าใจหรือรู้จักมันดีเท่าไหร่ งั้นเรามาดูกันเลยดีกว่าว่ามันคืออะไร ทำเองได้ไหม ข้อควรรู้และการดูแลมีอะไรบ้าง นอกจากนี้ยังมีแนะนำน้ำยาฟอกสีผม 5 ตัวดังด้วย มือใหม่คนไหนอยากจะรู้แล้วก็มาส่องกันเล้ย!
♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦
จัดเต็มความรู้เกี่ยวกับ "การกัดสีผม" พร้อมแนะนำน้ำยากัดสีผมตัวเด็ด!
น้ำยากัดสีผม/ฟอกสีผมมีกี่แบบ ต้องเลือกยังไงบ้าง?

อันดับแรกก่อนที่เราจะไปรู้วิธีการกัดสีผมต่าง ๆ เราก็ต้องมารู้กันก่อนค่ะว่า" น้ำยากัดสีผมหรือฟอกสีผม "มีกี่แบบ แล้วควรเลือกแบบไหนยังไง โดยทั่วไปน้ำยากัดสีผมจะแบ่งออกเป็น 2 แบบหลัก ๆ คือแบบครีมและแบบผงค่ะ ซึ่งทั้ง 2 แบบก็จะให้ผลลัพธ์คล้าย ๆ กัน เพียงแต่ว่าแบบผงจะกัดได้สว่างกว่าแต่ก็แลกมาด้วยสภาพผมที่อาจจะเสียหายมากกว่าด้วย ยังไงก็ต้องเลือกตัวที่มีสารบำรุงผมหรือปกป้องผมด้วยนะคะนอกจากรู้เรื่องน้ำยากัดสีผมแล้วก็ต้องรู้เรื่องDeveloperด้วยน้า ในเดเวลอปเปอร์จะมีเปอร์เซ็นต์ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ที่แตกต่างกัน พื้นฐานก็จะมี3% 6% 9% และ 12%จำง่าย ๆ ว่าเลขยิ่งมากยิ่งกัดสีผมได้สว่างมากขึ้น มีปฏิกิริยากับเส้นผมไวขึ้น ซึ่งเวลาใช้งานเขาก็จะเอาเดเวลอปเปอร์ผสมกับผง/ครีมกัดสีผมแล้วก็ค่อยนำมาป้ายลงบนเส้นผมนั่นเอง จะใช้แค่ครีมกัดสีผมหรือแค่เดเวลอปเปอร์ตัวใดตัวหนึ่งไม่ได้น้า ไม่งั้นมันจะไม่เห็นผลนะคะ :-D
♦Tips!♦ระดับความสว่างของสีผมจะมีประมาณ 12 ระดับ ซึ่งโดยทั่วไปจะมีประมาณ 10 ระดับ ถ้าแบรนด์ไหนเคลมว่ากัดได้สว่างถึงระดับ xx ก็เช็คจากภาพด้านล่างนี้ได้เลยจ้า เช่น กัดได้สว่างระดับ 8 ก็ลองดูความสว่างระดับ 8 หรือค้นหาภาพสีผม Light Blond ได้เล้ย!

แล้ว " เรากัดสีผมเองได้ไหม? " นะ?

ได้รู้จักการเลือกน้ำยากัดสีผมไปแล้ว คำถามยอดฮิตอย่าง" เรากัดสีผมเองได้ไหม? "ก็ต้องมาแล้วใช่ไหมละคะ? งั้นเราขอตอบให้เลยว่าสามารถทำเองได้ค่ะแต่!!!ขอเน้นคำว่าแต่เลยเพราะว่าการกัดสีผมมันค่อนข้างที่จะอันตรายพอสมควรเลยค่ะ ถ้าทิ้งไว้นานเกินไปหรือไม่รู้สภาพเส้นผมตัวเองแล้วลงมือทำไปเนี่ย ผมอาจจะขาดหรือร่วงหนักมากได้ดังนั้นเนี่ยถ้าจะกัดสีผมที่บ้านก็แนะนำว่าให้หาคนมาช่วยทำสักหน่อยนะคะ เลือกแบบที่อยากทำจะครีมหรือผงก็ได้ แล้วก็ให้เลือกเดเวลอปเปอร์ที่มีไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์เปอร์เซ็นต์ไม่สูงมาก สัก 6 - 9%คือกำลังดีเลยค่ะ อาจจะต้องทำหลายรอบสักหน่อยแต่ก็ยังโอเคกว่าเลือกใช้เปอร์เซ็นต์แรง ๆ แล้วผมขาดหรือพังทันทีเลยนะคะ ต้องระมัดระวังมาก ๆ เน้อ~
ข้อควรรู้ก่อน " กัดสีผม " มีอะไรบ้าง?

ข้อควรรู้ก่อนกัดสีผมบอกเลยว่ามีค่อนข้างเยอะเลยค่ะ และเราก็จัดเต็มมาให้ชาวซิสได้อ่านกันแบบจุก ๆ เริ่มกันที่ข้อแรกเลย!1. ทดสอบการแพ้ก่อนเสมอ: หลายคนหลงลืมสิ่งนี้ไปกันเยอะเลยค่ะ คือการเอาน้ำยากัดสีผมมาป้ายบริเวณหลังหูหรือข้อพับแขนเพื่อเช็คว่าเราแพ้ไหม การทำแบบนี้จะช่วย2. รู้สภาพเส้นผมตัวเอง: ถ้าผมแห้ง ผมพันกัน ผมชี้ฟู ผมแตกปลายก็ถือว่าผมเสียนะคะ แต่ก็ต้องดูด้วยว่ามันเยอะหรือไม่เยอะ ถ้าไม่เยอะก็ทำได้ค่า หรือจะเช็คด้วยการดึงให้ตึงแล้วใช้นิ้วลูบก็ได้นะคะ ถ้ามันสาก = ผมเสีย หรือถ้าสระผมแล้วผมนิ่ม ขาดง่ายมากก็คือสภาพผมไม่เหมาะกับการทำสีผมนั่นเองค่า
แล้ววิธีกัดสีผมล่ะ... ทำยังไงได้บ้าง?

วิธีการทำก็ไม่ได้ยากเกินไปค่ะแต่อาจจะต้องระมัดระวังสักหน่อย เราไปดูกันดีกว่าว่ามีขั้นตอนอะไรบ้าง!
1. ใส่ผ้าคลุมก่อนเลยค่ะ หลังจากนั้นใครจะใส่บำรุงหรือน้ำมันมะพร้าวบนผมก่อนก็ลงได้เลยน้า
2.แบ่งผม ให้แบ่งประมาณ 3 ชั้น ไล่จากในไปด้านนอกใครผมหนาจะแบ่งมากกว่านี้ก็ได้นะคะ
3. ก็เริ่มผสมส่วนผสมเลยถ้าใครใช้แบบผงแนะนำว่าเทเดเวลอปเปอร์ลงถ้วยผสมก่อนก็จะดีนะคะ ผงจะได้ไม่ฟุ้งกระจายมากเกินไป หลังจากนั้นก็ใช้แปรงคนผสมกันได้เล้ย!
4.เว้นโคนผมไว้สัก 1 - 2 ซม.นะคะ แล้วก็ใช้แปรงป้ายลงบนเส้นผมได้เลยเน้นทาแบบให้ทั่ว ๆ ก่อน ไม่ต้องเก็บรายละเอียด เมื่อทั่วแล้วค่อยมาเก็บรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ แล้วก็โคนผมด้วยค่ะ
5.ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาทีหรือคอยเช็คตลอด ๆ ก็ได้ค่ะเพราะน้ำยาฟอกผมจะทำปฏิกิริยาไว ถ้าได้สีที่ต้องการก็ล้างออกได้ทันทีเลยแต่ถ้ายังไม่ได้ก็ทิ้งไว้ 20 - 30 นาทีก่อน หลังจากนั้นค่อยล้างออก
6.ล้างผมเสร็จก็ต้องสระผมด้วยนะคะ บำรุงผมไปแน่น ๆ ด้วยทรีตเมนต์หรือครีมนวดต่าง ๆหลังจากนั้นล้างออกแล้วก็เช็ด+เป่าผมให้แห้งได้เล้ยหรือถ้าใครยังนึกภาพไม่ออกก็กดไปดูคลิปด้านล่างได้เล้ยยย~
3. กัดสีผม = ผมเสียแน่นอน
: หลายคนมักจะถามว่ากัดสีผมแล้วผมเสียไหมคะ แน่นอนค่ะว่าการทำสีผมยังไงผมก็เสียนะคะแต่!!! จะเสียมากหรือเสียน้อยก็ขึ้นอยู่กับระดับความสว่าง + Developer และการกัดสีผมคือการทำเคมีกับผมที่ค่อนข้างรุนแรงดังนั้นยังไงผมก็เสียค่ะ แต่เราสามารถดูแลให้มันเสียน้อยลงได้ด้วยการใช้ตัวบำรุงก่อนกัดสีผม ใช้เดเวลอปเปอร์เปอร์เซ็นต์ไม่เยอะมาก ใช้น้ำยากัดที่มีคุณภาพ+มีสารบำรุง
4. กัดสีผมจะมีอาการร้อน ๆ หรือแสบหนังศีรษะบ้าง
: เนื่องจากมันกัดเส้นผมของเรา เวลามันทำปฏิกิริยามันจะมีความร้อนและอาจจะแสบ ๆ ไปบ้างนะคะ แต่ก็ต้องเป็นการแสบที่พอทนไม่ใช่การแสบที่รู้สึกต้องฝืนกลั้นเกินไปน้า ถ้ามันแสบผิดปกติก็ต้องรีบไปล้างเลยค่ะ และหากอาการไม่ดีขึ้นก็ต้องไปพบคุณหมอด้วยนะคะ

5. สระผมก่อนกัดสีผมจะทำให้ผมไม่ด่าง: การมีน้ำมันบนผมจะทำให้สีผมด่างได้ ดังนั้นถ้าอยากให้มีเพื่อป้องกันเส้นผมก็ให้ใช้น้ำมันมะพร้าวหรือตัวบำรุงก่อนกัดลง แต่ถ้าไม่อยากป้องกันก็แนะนำให้สระนะคะ แต่! ห้ามใช้ครีมนวดนะคะเพราะมันจะทำให้สีผมด่างได้ ( ครีมนวดจะไปปิดเกล็ดผมทำให้การกัดสีไม่เสมอกัน )6. ฟอกสีผมควรเว้นระยะ: การฟอกสีผมหลายคนอาจจะรีบทำแบบกัด 1 รอบสระออกแล้วกัดต่อเลย การทำแบบนี้จะทำให้ผมไม่ได้พักและอาจจะเสียหายหนักได้ ดังนั้นการกัดสีผม 1 ครั้งควรเว้นระยะให้ผมได้พัก ได้บำรุงหน่อย ประมาณ 1 สัปดาห์ค่อยทำต่อก็ยังโอเคค่า7. คนที่ยืดผมหรือดัดผมถาวรจะไม่สามารถกัดสีผมหรือทำสีผมได้: การยืด/ดัดมักจะทำร้ายเส้นผมไปประมาณนึงแล้วนะคะ แล้วก็เป็นการล็อคทรงผมด้วย ถ้าเอาน้ำยากัดสีผมไปลงจะทำให้น้ำยาดัด/ยืดมันเสื่อมไป ดังนั้นเนี่ยไม่ควรทำพร้อม ๆ กันน้า แต่ถ้าใครอยากทำสีผมจริง ๆ ก็ลองปรึกษาช่างดูน้า สีผมโทนน้ำตาลเข้ม ๆ น่าจะพอทำได้อยู่ค่ะ > _ <
6.
ถ้าอยากทำสีผมต้องเตรียมอุปกรณ์อะไรบ้าง?

มาถึงตรงนี้หลายคนก็อยากจะกัดสีผมเองแล้วใช่ไหมละคะ? แต่จะกัดสีผมก็ต้องเตรียมอุปกรณ์นะรู้เปล่า งั้นมาส่องกันเลยค่ะว่าต้องใช้อะไรบ้าง1. ครีมหรือผงฟอกสีผม + เดเวลอปเปอร์ ( Developer ): รูปแบบตัวฟอกเลือกตามที่ชอบได้เลยนะคะ แต่เดเวลอปเปอร์พยายามเลือก 6 - 9% ไว้ก่อนน้า2. ถ้วยผสม + แปรงสำหรับย้อม: ต้องมีถ้วยและแปรงเฉพาะในการทำนะคะ ถ้าไปใช้รวมกับของอื่น ๆ จะอันตรายได้3. กิ๊บหนีบผม: กิ๊บหนีบแบบร้านทำผมนะคะ แบบนั้นจะหนีบได้เยอะกว่า แล้วก็แน่นกว่าด้วย จะช่วยได้เยอะมาก ๆ เวลาเราแบ่งผมค่ะ4. ผ้าคลุม/เสื้อเก่า: เวลากัดสีผมหรือย้อมสีผมควรมีผ้าคลุมหรือเสื้อเก่า ๆ ที่ไม่ใช้แล้ว เอาไว้ใส่สัก 1 ตัวนะคะ เวลาทำจะได้ไม่เลอะเสื้อผ้าตัวโปรดแล้วก็ไม่เลอะตัวด้วยค่ะ5. ถุงมือ: เนื่องจากมันเป็นเคมีที่กัดผิวได้ ดังนั้นควรมีถุงมือใส่ในการทำเสมอนะคะนอกจาก 5 สิ่งนี้ใครจะใช้น้ำมันมะพร้าวหรือตัวบำรุงลงบนผมก่อนจะกัดสีก็ได้นะคะ จะช่วยให้ผมเสียน้อยลงแต่ก็อาจจะทำให้ผมไม่สว่างเท่าแบบที่ไม่ได้กัด ยังไงก็ลองตัดสินใจกันน้า~
มีวิธีดูแลผมหลังจากกัดสีผมไหมน้า?

วิธีดูแลเส้นผมก็ต้องมีแน่นอนค่า เนื่องจากการกัดสีผมเป็นการเปิดเกล็ดผมทำให้ผมแห้งเสียและพันกันหนักมาก ก็จะต้องมีวิธีการดูแลที่พิเศษขึ้นมาหน่อย...1. ใช้แชมพูสูตรสำหรับทำสีผมหรือแชมพูม่วง2. ใช้ทรีตเมนต์บำรุงผมหลังสระเสมอ3. ลดการใช้ความร้อนกับเส้นผม เป่าผมก็เน้นใช้ลมเย็นแทน ส่วนการดัดและหนีบก็ใช้ประมาณ 150 - 170 องศาแทน4. ใช้ออยล์บำรุงหลังผมแห้งเสมอ5. ใช้หวีที่ลดการใช้แรงหวี หวีพวกนี้จะทำให้เส้นผมขาดร่วงน้อยลงง่าย ๆ ด้วย 5 วิธีเท่านี้ผมของเราหลังกัดสีก็จะดีขึ้นแล้วละค่า ไม่ยากเลยใช่ม้า?
แนะนำ 5 ครีมฟอกสีผม / น้ำยากัดสีผมใช้ดี รีวิวแน่น!

ไม่รู้ไม่ได้! รวม 6 ทริค 'กัดสีผมด้วยตัวเอง' ที่ซิสควรรู้ก่อนทำ เพื่อให้ผมปัง ไม่พัง ไม่เยิน
https://sistacafe.com/summaries/86685
1. NIGAO Bleaching Cream Maxx Light

Tips : ขอนำเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยมาฝากค่า ก่อนจะไป
เริ่มด้วยแบรนด์จากญี่ปุ่นอย่าง
NIGAO Bleaching Cream Maxx Light
เลยจ้า ตัวนี้เป็นครีมกัดสีผม ได้ปริมาณเยอะด้วยค่ะ ถ้าผมไม่หนามากหลอดเดียวก็เอาอยู่ ตัวนี้คนรีวิวว่าใช้แล้วผมเสียน้อย กลิ่นไม่ค่อยฉุน ได้สีสว่างตรงใจ แต่ราคาอาจจะแรงกว่าน้ำยากัดสีผมแบรนด์อื่น ๆ สักหน่อย
2. Lolane Pixxel Hair Bleaching Powder

อีกหนึ่งแบรนด์ที่คนใช้กันเยอะม้ากกก ก็คือ
Lolane Pixxel Hair Bleaching Powder
ตัวนี้จะเป็นตัวช่วยกัดสีผมแบบผงนะคะ มีแบบขวดใหญ่ด้วย ใครจะทำสีผมกันหลายคนก็คือซื้อขวดใหญ่มาผสมใช้กันได้เลย คุ้มแบบจุก ๆ ตัวนี้รีวิวแน่นเลยค่ะว่าช่วยให้สีผมสว่างขึ้นมาก ๆ
3. FG PERFECT HAIR BLEACHING CREAM

ครีมฟอกผมอีกตัวค่า สำหรับ
FG PERFECT HAIR BLEACHING CREAM
เป็นน้ำยากัดสีผมอีกตัวที่คนรีวิวกันเยอะมาก ๆ นะคะว่าใช้ดี ผมเสียน้อยมาก กัดแล้วสีสว่างขึ้น ในส่วนของปริมาณอาจจะไม่เยอะมาก แต่ราคาเขาน่ารักค่ะ ซื้อหลายกล่องก็ยังไหว~
4. Dcash Master Bleaching Mass Color Cream

ครีมฟอกสีผมอีกหนึ่งแบรนด์ นั่นก็คือ
Dcash Master Bleaching Mass Color Cream
ตัวนี้เขาเคลมเลยว่าถ้าใช้น้ำยากัดสีผมของเขาแล้วผมจะสว่างไปถึงระดับ 8 ( ระดับความสว่างมีประมาณ 10-12 ระดับ ) ก็ถือว่าสว่างมาก ๆ นะคะ ราคาก็น่ารักด้วยนะเออ
5. L'oreal Excellence Bleach Supreme

ปกบทความ
https://drive.google.com/drive/u/0/folders/1DTB40KTxLbnXNOXECayakSRtwoFA0dwL
น้ำยากัดสีผมตัวนี้ราคาแรงแต่การันตีคุณภาพ นั่นก็คือ
L'oreal Excellence Bleach Supreme
นั่นเองจ้า แม้ราคาจะแรงแต่เขามีแชมพูกับตัวบำรุงมาให้นะเธอ~ มันเป็นดีงามมากเวอร์ ถ้าใครงบถึงจ่ายไหวแนะนำเลยค่ะ เป็นอีกตัวที่คนรีวิวกันพอสมควรเลยว่าน่าสนใจมาก ผมไม่ค่อยเสียด้วย!
รวมวิธีเช็ก “ อันเดอร์โทนของตัวเอง ” เป็นสีอะไร? เข้ากับสีเมคอัพ / สีผม / สีเสื้อผ้า แบบไหน?
https://sistacafe.com/summaries/91027
♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦
ได้รู้เรื่องการกัดสีผมและไอเทมเด็ดไปแล้วจ้า~ จัดเต็มให้แบบจุก ๆ อ่านบทความเดียวรู้ครบ!ยังไงใครจะทำก็อยากให้อ่านข้างกล่อง/ขวดน้ำยากัดสีผมให้ละเอียดนะคะ เพราะการทำกัดสีผมหรือฟอกสีผมเนี่ยมันค่อนข้างจะอันตรายมากกว่าการย้อมสีผมทั่วไป เพราะมันมีการกัดที่รุนแรงมากกว่า แล้วอย่าลืมทดสอบการแพ้ก่อนใช้ส่วนตอนที่ลงสีผมถ้ารู้สึกว่ามันแสบไม่ไหว รู้สึกเจ็บผิดปกติก็ให้รีบล้างออกเลยนะคะ แต่ถ้าใครกลัวว่าทำเองแล้วจะน่ากลัวก็ให้เลือกไปทำที่ร้านได้เลยจ้า เลือกร้านดี ๆ ด้วยนะคะเพราะช่างบางคนไม่ได้ชำนาญมากอาจจะทำให้ผมเราเสียได้เช่นกันเนอะ ตอนนี้ชาวซิสก็รู้เรื่องราวทั้งหมดครบถ้วนแล้ว เราก็คงต้องขอลาไปก่อนแล้วละค่า ไว้กลับมาพบกันใหม่นะค้า บ๊ายบาย ♥ปล. ใครนึกภาพการกัดสีผมเองไม่ออกก็แวะไปดูคลิปนี้ได้น้า :-D
♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦
Designer :lilybaecon / namoodong / kidasindahouse
Writer :pumxpurin