ซักเสื้อผ้ามือสอง 6 วิธีซักยังไงให้หายเหม็นอับ กลับมาสะอาดเหมือนใหม่
เทรนด์การซื้อเสื้อผ้ามือสองกำลังฮอตฮิตเลยนะคะ ซึ่งนอกจากประหยัดแล้วยังช่วยลดโลกร้อนได้อีกด้วย แต่จะซื้อเสื้อมือสองทั้งทีก็แอบกังวลว่ามันจะปลอดภัยไหม สะอาดรึเปล่า งั้นเอางี้ค่ะ เรามาซักใหม่ดีกว่า ซักเสื้อผ้ามือสอง ตามขั้นตอนในบทความนี้เล้ย
เผยแพร่: 27 ต.ค. 2566 01:02 น.
Views: 59
รหัสบทความ: 97344
ฮัลโหลลลลล~ สวัสดีค่าชาวซิส ไหน ๆ มีใครชอบซื้อเสื้อผ้ามือสองหรืออยากจะลองซื้อเสื้อผ้ามือสองกันบ้างไหมค้า? ถ้าอยากจะซื้อเสื้อผ้ามือสองก็แสดงว่ามาถูกที่ถูกบทความแล้วค่า เพราะบทความนี้เกี่ยวข้องกับเรื่องเสื้อผ้ามือสองเต็ม ๆ คือช่วงนี้เห็นคนซื้อเสื้อมือสองมาใส่กันเยอะขึ้นมาก ๆ แล้วก็เห็นหลายคนอยากลองซื้อมาใส่แต่ไม่มั่นใจเรื่องความสะอาดเท่าไหร่ กลัวเรื่องกลิ่นเหม็นอับด้วยบทความนี้เราก็เลยจัดวิธีซักผ้ามือสองให้หายเหม็นอับกลับมาสะอาดกันจ้า จะมีขั้นตอนเป็นแบบไหนก็มาดูกันเล้ย
♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥
6 ขั้นตอนซักเสื้อผ้ามือสองให้สะอาด กลิ่นหอมไม่มีอับ
ซักเสื้อผ้ามือสองให้หายเหม็นและสะอาด 1. แยกผ้าสีและชนิดของผ้าก่อนซัก
แม้ว่าจะเป็นเสื้อผ้ามือสองที่ผ่านการใช้งานมาแล้วแต่เราก็ยังต้องแยกผ้าขาวและผ้าสีในการซักเสมอนะคะ เพื่อป้องกันการสีตก แล้วที่สำคัญอีกอย่างก็คือแยกชนิดของผ้าค่ะ คือผ้าบางชนิดอาจจะไม่เหมาะที่จะใช้ผงซักฟอกซักเพราะว่าอาจจะทำร้ายเนื้อผ้าได้ด้วย ดังนั้นควรจะแยกก่อนซักเสมอน้า เมื่อแยกผ้าได้แล้วก็ลองตรวจสอบพวกสภาพเสื้อผ้าก่อนซักให้ดีด้วยนะคะเผื่อมีตัวไหนควรจะซ่อมบางจุดก่อน เราจะได้ซ่อมแล้วค่อยซักทีเดียวเลยเพื่อไม่ให้เสียเวลาแล้วก็เสียแรงหลายรอบด้วยเน้อ
ซักเสื้อผ้ามือสองให้หายเหม็นและสะอาด 2. เอาผ้าไปแช่ผงซักฟอก 30 - 60 นาที
ต่อมาคือการแช่ผ้าค่ะ โดยเราจะเอากะละมังซักผ้ามาใส่น้ำ ใส่ผงซักฟอก/น้ำยาซักผ้าแล้วขยี้ ๆ ขยำ ๆ ให้เป็นฟอง ถ้าเสื้อตัวไหนมีรอยเปื้อนก็ขยี้ ๆ ไปก่อนได้เลยนะคะ ถ้าไม่ออกก็ให้เราทำการแช่ผ้าทิ้งไว้ประมาณ 30 - 60 นาทีแล้วค่อยกลับมาขยี้อีกทีถ้ายังไม่ดีขึ้นอาจจะต้องใช้น้ำขจัดคราบสกปรกเฉพาะเพื่อแช่ผ้าแยกอีกทีหลังจากนั้นเราก็เอาไปล้างน้ำให้สะอาด ขั้นตอนนี้ล้างให้ดีนะคะ สักประมาณ 2 - 3 น้ำก็ได้เผื่อมีผ้าตัวไหนหนาหน่อยล้าง 2 น้ำอาจจะเอาไม่อยู่ค่า
ซักเสื้อผ้ามือสองให้หายเหม็นและสะอาด 3. เอาผ้าไปต้มหรือใส่น้ำยาฆ่าเชื้อ
ล้างน้ำสะอาดเรียบร้อยแล้วขั้นตอนนี้ก็ต้องเอาไปแช่ทำความสะอาดเพื่อฆ่าเชื้อโรคและแบคทีเรียอีกครั้งโดยวิธีที่เรานำมาฝากมี 4 แบบคือ...1. น้ำร้อน : นำผ้าไปต้มในน้ำเดือด 15 นาทีถึง 1 ชั่วโมง*ระวังผ้าบางชนิดโดนความร้อนไม่ได้*2. น้ำยาซักผ้าขาว/ผ้าสี : 1 ฝาต่อน้ำ 10 ลิตร แช่ 5 - 15 นาที3. น้ำยาฆ่าเชื้อเสื้อผ้าโดยเฉพาะ : แช่ประมาณ 1 ชั่วโมง ( อ่านรายละเอียดข้างขวด )4. น้ำส้มสายชู : 2 - 3 ถ้วยตวงต่อน้ำ 1 - 2 ลิตร แช่อย่างน้อย 1 ชั่วโมงใครสะดวกแบบไหนก็สามารถเลือกไปทำตามวิธีนั้น ๆ ได้เลยนะคะ แช่เสร็จแล้วก็อย่าลืมล้างน้ำสะอาดอีกรอบด้วยเน้อ แล้วก็อย่าลืมใส่ถุงมือตอนทำเสมอนะคะเผื่อสารเคมีจะกัดมือ
ซักเสื้อผ้ามือสองให้หายเหม็นและสะอาด 4. ซักด้วยผงซักฟอกซ้ำอีกครั้ง
ล้างน้ำสะอาดไปแล้วก็มาซักอีกรอบกันจ้า จริง ๆ การต้มผ้าในน้ำร้อนอาจจะไม่ต้องซักซ้ำก็ได้นะคะแต่อยากซักซ้ำก็สามารถทำได้ส่วนน้ำยาอื่น ๆ แนะนำว่าซักซ้ำจะดีกว่าค่ะเนื่องจากว่าบางทีมันมีกลิ่นของเคมีที่มันไม่ค่อยหอมชื่นใจเท่าไหร่ + อยากขจัดพวกเชื้อโรคให้มั่นใจว่าสะอาดจริง ๆ เราก็ทำการซักซ้ำเลยค่ะ ขั้นตอนนี้จะซักมือหรือซักเครื่องก็ได้แล้วนะคะ แต่ถ้าซักมือก็ไม่ต้องแช่นานแล้วอาจจะแค่ 15 นาทีแล้วก็ขยี้ ๆ ล้างน้ำสะอาดได้เลย ง่ายมากเลยใช่ม้า?
ซักเสื้อผ้ามือสองให้หายเหม็นและสะอาด 5. แช่น้ำยาปรับผ้านุ่ม
แน่นอนค่ะว่าซักมา 2 รอบแช่นั่นนี่มาอีก 1 รอบ ถ้าอยากจะให้หอมฉุยและผ้านุ่มนิ่มจริง ๆ จะขาดขั้นตอนการแช่น้ำยาปรับผ้านุ่มไปไม่ได้เลยนะคะ ขั้นตอนนี้อาจจะต้องระมัดระวังนิดนึงเพราะผ้าบางชนิดไม่เหมาะกับการแช่น้ำยาปรับผ้านุ่ม แต่ถ้าเช็กแล้วว่าไม่มีปัญหาก็สามารถแช่ได้เลยนะคะ แต่ ๆ ก่อนจะแช่ต้องเลือกน้ำยาปรับผ้านุ่มที่ดีก่อนนะคะเลือกพวกสูตรลดกลิ่นอับหรือเลือกสูตรที่เข้มข้นสักหน่อยกลิ่นจะได้ทำงานได้ดีขึ้น พวกน้ำยาปรับผ้านุ่มที่เจือจางแล้วอาจจะสู้กลิ่นอับไม่ไหวได้นะคะ แช่ประมาณ 15 - 20 นาทีก็สามารถเอาไปตากได้เลยจ้า
7.
7
ซักเสื้อผ้ามือสองให้หายเหม็นและสะอาด 6. ตากผ้าในที่อากาศถ่ายเทสะดวก
แช่ผ้าให้หอมฉุยแล้วเราก็บิดให้หมาด ๆ แล้วก็ตากในที่โล่งหรือที่ ๆ มีอากาศถ่ายเทได้เลยจ้าไม่ต้องเน้นแดดแรงนะคะเอาแค่ตากแบบโดนแดดพอดี ๆ มีแดดสาดถึงก็พอ เพราะถ้าแดดจัดหรือแดดแรงเสื้อผ้าอาจจะสีซีดและกลิ่นหอมลดน้อยลงไปได้ด้วย หรือถ้าใครรู้สึกว่าอยากให้ผ้าหอมแบบฉ่ำ ๆ เลยก็ไม่ต้องบิดเลยค่ะ ตากทั้งเปียก ๆ ไปเลยวิธีนี้อาจจะทำให้ผ้าแห้งช้าหน่อยแต่บอกเลยว่าผ้าหอมม้ากกก~ ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องดูสภาพอากาศด้วยนะเออ หน้าร้อนอาจจะพอไหว หน้าหนาวหรือหน้าฝนอย่าหาทำเน้อ เดี๋ยวเสื้อขึ้นราหม้ด!
♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥
ครบทั้ง 6 ขั้นตอนแล้วจ้า เป็นยังไงคะไม่ได้ยากเกินไปเลยใช่ม้า? จริง ๆ แค่อาจจะต้องเสียเวลาในการซักเยอะหน่อยแต่ก็ถือว่าคุ้มค่านะคะราคาก็ประหยัดแถมยังได้ช่วยโลกด้วยที่บอกว่าช่วยโลกก็เพราะว่าการผลิตเสื้อผ้าใหม่มันปล่อยก๊าซเสียทำให้โลกเราร้อนขึ้นเรื่อย ๆถ้าเราหันมาสนับสนุนเสื้อที่มีอยู่แล้ว เอามาซัก เอามาดัดแปลงใหม่ มันก็เป็นอีกวิธีดี ๆ ในการช่วยรักโลกใช่ไหมละคะ แถมเรายังได้แฟชันใหม่ ๆ อีกด้วยนะเออ ว่าแล้วก็ขอตัวลาไปซื้อเสื้อมือสองมาใส่ดีกว่าค่า บ๊ายบาย :-D
