วิธีแก้นอยด์ แก้ดาวน์ นอยอ่า คำนี้ไม่ได้มาเล่นๆ !
ช่วงนี้ใครกำลังรู้สึกนอยด์กันอยู่บ้าง อาการนอยด์มันมาจากไหน ระยะยาวจะรุนแรงมั้ย แล้วต้องแก้ยังไง วันนี้เราจะมาชวนเพื่อน Talk วิธีแก้นอยด์ แก้ดาวน์ กันค่ะ จะมีวีธีแบบไหนที่เวิร์กๆ บ้าง เตรียมจดลิสต์กันได้เลย!
เผยแพร่: 24 ก.พ. 2567 12:45 น.
Views: 412
รหัสบทความ: 98286
เราเป็นคนนึงที่มีอาการนอยด์บ่อยมาก เอาจริงๆ ทุกวันนี้ยังไม่รู้เลยว่า อาการนี้มันเกิดขึ้นมาได้ยังไง และเราก็เชื่อว่า มีเพื่อนๆ หลายคนแน่นอน ที่กำลังรู้สึกนอยด์ และกำลังมองหา วิธีแก้นอยด์ แก้ดาวน์กันอยู่ ซึ่งวันนี้เรามี 10 วิธีแก้นอยด์ แก้ดาวน์ ที่ทำแล้วเห็นผลสุดๆ มาแนะนำ พร้อมบอกข้อควรระวังที่คนชอบนอยด์ต้องรู้ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เอาเป็นว่า เราไปจัดการกับอาการนอยด์พร้อมๆ กันเลยดีกว่า
นอยด์ คืออะไร ?
นอยด์ คือ Paranoidเป็นอาการที่เกิดจากการหวาดระแวงหรือมีความรู้สึกกลัวต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่งมากจนเกินไป ซึ่งอาการนี้จะมีตั้งแต่ระดับน้อยถึงขั้นรุนแรง และอาจนำไปสู่อาการจิตหลงผิด ซึ่งเป็นหนึ่งในโรคทางจิตเวชที่มักคิดว่าตนเองจะถูกทำร้ายหรือถูกฆ่านั่นเอง เรียกได้ว่า ร้ายแรงจนไม่น่าเชื่อ ว่าจะเกิดขึ้นมาได้จากแค่อาการนอยด์ธรรมดาๆ
ประเภทและอาการของ Paranoid มี 2 แบบ
มีคำบอกเล่าจากนักจิตวิทยากล่าวว่า อาการพารานอยด์ สามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภท
1. Non-Clinical
คือ ความหวาดระแวง ที่พบในชีวิตประจำวัน รวมทั้งความระมัดระวังตัว ซึ่งพฤติกรรมเช่นนี้ จะไม่ก่อให้เกิดอุปสรรคหรือผลเสียในการใช้ชีวิตมากมายนัก ถ้าให้พูดง่ายๆ เลย น่าจะเป็นอาการนอยด์ทั่วๆ ไป ที่สามารถหายไปเองได้ ด้วยการบำบัด หรือทำการรัษา
อาการที่แสดงออก
เช่น มีความวิตกกังวลมากกว่าคนทั่วไป ไม่ไว้ใจใครง่ายๆ มักระแวงว่าคนอื่นไม่มีความเป็นมิตร และมีความรู้สึกเหมือนโดนจับผิด
2. Clinical
คือ ความหวาดระแวงที่เข้าขั้นโรคทางจิตเวช ซึ่งความรู้สึกนึกคิดจะมีผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ความน่ากลัวจะเพิ่มขึ้น เพราะไม่ใช่แค่การนอยด์ทั่วๆ ไป แต่เป็นอาการนอยด์ขั้นรุนแรง จนนำไปสู่อาการป่วยทางจิตตามมา
อาการที่แสดงออก
เช่น มีความคิดว่าจะมีคนมาทำร้าย มีอาการหูแว่ว ชอบแยกตัวจากผู้อื่น ไม่สามารถแยกระหว่างความจริงกับจินตนาการได้ ความจำและการใช้เหตุผลเสื่อมถอยลง และหวาดระแวงโดยที่ไม่อยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง
สาเหตุของอาการนอยด์
หากเป็นแค่อาการนอยด์ทั่วๆ ไป ที่มาแล้วหายไป ก็ไม่ได้น่ากลัว แต่ถ้าเพื่อนๆ กำลังตกอยู่ในภาวะพารานอยด์ นั่นหมายความว่า เพื่อนๆ จะต้องได้รับการรักษาแล้วนะ ซึ่งสาเหตุของอาการพารานอยด์นั้น จริงๆ ยังไม่มีการยืนยันที่แน่ชัด ว่าเกิดมาจากไหน แต่ละคนอาจมีสาเหตุและปัจจัยกระตุ้นที่ต่างกันไป เช่น- ปัญหาสุขภาพ การบาดเจ็บ- ผลกระทบด้านจิตใจ- การใช้สารเสพติด- ผลข้างเคียงจากยาบางชนิด- การพักผ่อนไม่เพียงพออย่างรุนแรง- กรรมพันธุ์
อาการพารานอยด์ ที่อาจนำไปสู่โรคทางจิต
อย่างที่เราพูดไว้ข้างต้นว่า อาการพารานอยด์ ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ถ้าขืนปล่อยไว้ อาจจะนำไปสู่โรคทางจิตได้เลยนะ หลายๆ คนอาจจะคิดไม่ถึงว่า แค่อาการนอยด์ แค่นี้เนี่ยนะ! จะทำให้เราป่วยทางจิตได้ แล้วจะป่วยเป็นโรคทางจิดอะไรได้บ้าง เรารวมมาให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันแล้ว
โรคบุคลิกภาพผิดปกติชนิดหวาดระแวง (Paranoid Personality Disorder)
ผู้ป่วยมักจะมีอาการไม่ไว้ใจบุคคลรอบข้างง่ายๆ มักจะมีความคิดที่ว่า คนอื่นเข้าหาเพราะหวังผลประโยชน์ ทั้งยังกังวลว่าใครจะมาทำร้าย หรือหักหลังอยู่ตลอดเวลา อย่างไรก็ตามผู้ป่วยโรคนี้มีอาการหวาดระแวงในระดับอ่อนที่สุดและสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ หลายคนมักมีอาการดีขึ้นเรื่อยๆ เมื่ออายุมากขึ้น และหายเป็นปกติเมื่ออายุ 50 ปี
โรคจิตหลงผิด (Delusional Disorder)
ผู้ป่วยจะมีความเชื่อหรือความคิดผิดเพี้ยนไปจากความเป็นจริงเท่านั้น ไม่ได้มีอาการป่วยทางจิตอื่นๆ แต่อย่างใด ผู้ป่วยแต่ละคน จะมีอาการหลงผิดแตกต่างกันไป เช่น คิดว่ามีคนมาหลงรัก คิดว่าตัวเองเป็นสัตว์ เป็นเทพเจ้า มีอำนาจวิเศษ เป็นต้น
โรคจิตเภทแบบหวาดระแวง (Paranoid Schizophrenia)
ร้านแรงที่สุด เพราะเป็นโรควิกลจริตชนิดหนึ่งที่ส่งผลให้ผู้ป่วยไม่เชื่อหรือยอมรับความจริง ทั้งยังมีอาการประสาทหลอนร่วมด้วย และมักจะแสดงพฤติกรรมแปลกๆ ออกมา หากไม่ได้รับการรักษา ก็จะไม่สามารถใช้ชีวิตตามปกติได้ เป็นกลุ่มโรคจิตเวชที่มีอาการหวาดระแวงรุนแรงมากที่สุด
วิธีแก้นอยด์ แก้ดาวน์ 10 วิธีที่ช่วยบรรเทาอาการนอยด์ได้
ฉะนั้นเมื่อไหร่ที่พารานอยด์ลองทำสิ่งเหล่านี้ดู 10 วิธีแก้นอยด์แก้ดาวน์ ด้วยวิธีง่ายๆ ลองทำตามได้ ใครที่รู้ตัวว่า กำลังประสบกับปัญหา 'นอยอ่า' อย่าปล่อยผ่านๆ ไป ต้องรีบจัดการ และหาทางแก้กันด่วน จะมีวิธีแบบไหนบ้าง เราไปดูพร้อมๆ กันเลยดีกว่าค่ะ
1. Shutdown Social
ปฎิเสธไม่ได้เลยว่า โซเชียลสมัยนี้ เป็นอีกหนึ่งตัวการสำคัญ ที่ทำให้คนป่วยไปหลายรายแล้ว หนึ่งในสาเหตุ ที่ทำให้เราตกอยู่ในอาการนอยด์ ก็มักจะมาจากโซเชียลนี่แหละ อาการยึดติดกับโซเชียล จนไม่เป็นอันทำอะไรเลย อาจจะส่งผลให้สุขภาพกายและสุขภาพจิดของเราเสื่อมโทรมลง เพราะฉะนั้นเรามา Shutdown Social กันหน่อยดีกว่า ลองวางมือถือ หยุดท่องโลกออนไลน์ดูสักวันสองวัน แล้วหันไปทำกิจกรรมอื่นๆ บ้าง ถ้าวางไม่ได้ ก็ให้เปลี่ยนมาเป็นแบ่งเวลาเล่นโซเชียลก็ได้ค่ะ กำหนดเวลาแบบชัดเจนไปเลยว่าจะเล่นกี่ชั่วโมง พักกี่ชั่วโมง การทำแบบนี้ จะช่วยทำให้เราหันมาโฟกัสตัวเองมากขึ้น และได้ลองเรียนรู้และใช้ชีวิตมากขึ้นด้วย
2. ทำใจยอมรับ
มันยากแหละที่จะยอมรับอะไรบางอย่าง แต่ในเมื่อเราลองแล้ว พยายามแล้ว สุดท้ายผลมันไม่ได้เป็นไปอย่างที่เราคาดหวัง สิ่งที่เราทำได้ดีที่สุดคือ การยอมรับความจริง แล้วก้าวต่อไป ระหว่างนั้นอาจจะหาอะไรทำก็ได้ เช่น เปิดคอมทำงาน ดูคลิปแมว เปิดเพลง เป็นต้น
3. จัดการสิ่งที่ค้างคาใจ
อีกวิธีที่เราคิดว่าดีมากๆ คือ เวลาเรานอยด์กับอะไรบางอย่าง มันเหมือนกับมีบางสิ่งมันยังคงติดค้างอยู่ในใจเรา เพราะงั้นให้เราลองมองย้อนกลับไปถึงบางสิ่งที่มันติดค้างอยู่ในใจ และลองหาวิธีจัดการแก้ปัญหามันดู เมื่อไหร่ก็ตามที่เราหาทางออก หรือแก้ปัญหาที่มันค้างคาในใจได้แล้ว ความรู้สึกนอยด็ๆ มันจะค่อยๆ บรรเทาลงไปเองค่ะ
4. หาเพื่อนคุย
แม้อาการนอยด์ของบางคน อาจจะนำไปสู่ความไม่เชื่อใจใครเลย แต่เราเชื่อว่า เพื่อนๆ มีใครสักคนที่เพื่อนๆ เชื่อใจได้ อาจจะเป็นเพื่อนสนิท พี่น้อง พ่อแม่ ใครก็ได้ที่ทำให้เรารู้สึกสนิทใจที่จะเล่าอะไรให้ฟัง การระบายกับใครสักคน ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีแก้นอยด์ที่ดีเลยนะ ลองทำตามกันดู
5. ฟังเพลง ดูหนัง
วิธีนี้เป็นวิธีที่ง่ายที่สุด อาจจะดูไม่ค่อยมีสาระอะไร แต่เชื่อมั้ยว่า มันช่วยบรรเทาอาการนอยด์ได้นะ ความเพลิดเพลินช่วยจัดการกับความนอยด์ไปได้ค่ะ นอกจากนี้ เพลงบางเพลง ซีรีส์ หนังบางเรื่อง ถ้าเราเลือกดีๆ มันจะมีข้อคิด และวิธีดีๆ ทรอดแทรกอยู่นะ เช่น เพลงบางเพลง เวลาฟังแล้ว อาจทำให้เรานึกถึงตัวเอง และสุดท้ายเราจะรู้วิธีจัดการกับความรู้สึกตัวเองได้ ผ่านจากการฟังเพลง เป็นต้น ทั้งนี้เพลง หนัง ซีรีส์ ยังเปรียบได้กับแรงใจ และแรงกระตุ้น ที่ทำให้คนคนนึงรู้สึกมีไฟได้ด้วย ถ้าไม่เชื่อ ก็ลองไปหาเพลง หรือซีรีส์ที่แมตช์กับชีวิตตัวเอง ณ เวลานั้น มาฟังหรือดู แล้วเพื่อนๆ จะรู้ว่า มันช่วยได้จริงๆ
6. ออกกำลังกาย
รู้มั้ยว่าการออกกำลังกาย มันจะช่วยให้ร่างกายหลั่งสารเอ็นโดรฟิน ที่ทำให้เรารู้สึกมีความสุข คลายเครียด และบรรเทาอาการซึมเศร้าได้ออกมา แถมการออกกำลังยังดีต่อสุขภาพด้วยนะ แม้จะเหนื่อย แต่ผลลัพธ์ที่ได้ ถือว่าคุ้มค่าค่ะ
7. ให้เวลาและอยู่กับตัวเองสักพัก
ทุกครั้งเวลาที่เรานอยด์ สิ่งที่เราควรทำคือ วางทุกอย่าง แล้วอยู่กับตัวเองสักพัก ลองให้เวลาตัวเองได้คิด ได้ทบทวนอะไรๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตดู การใช้เวลาอยู่กับตัวเองแบบจริงๆ ได้นั่งเงียบๆ คิดอะไรสักอย่าง หรือพูดคุยอะไรสักอย่างกับตัวเอง ในห้องของตัวเองแบบเงียบ มันจะช่วยทำให้เราได้คิด และตกตะกอนบางอย่างมากขึ้น แล้วเราจะรู้ว่า สาเหตุของอาการพารานอยด์ที่เรากำลังเผชิญอยู่มันมาจากไหน และควรจัดการมันยังไง
8. โยคะ
การเล่นโยคะ นอกจากจะช่วยให้รูปร่างของเราดีแล้ว ยังช่วยบริหารและจัดการทักษะทางอารมณ์และจิตใจได้ด้วยนะ เพราะการเล่นโยคะ จะทำให้รู้สึกผ่อนคลาย มีสมาธิ มีสติสัมปชัญญะ ไม่หงุดหงิดง่าย และเมื่อไม่รู้สึกเครียด จิดใจก็จะผ่องใส แถมยังช่วยลดโอกาสเกิดโรคต่างๆ ทางกายและใจได้ด้วย
9. นั่งสมาธิ เข้าวัด
วิธีอาจจะดูแก่มาก ฟีลแบบปู่ย่าแนะนำมารึเปล่า แต่รู้อะไรมั้ย วิธีการแก้ปัญหาของคนที่มีความทุกข์ที่ดีที่สุดคือ การนั่งสมาธิ และการเข้าวัดค่ะ หลายๆ คนที่มีความทุกข์ในใจมากกว่าครึ่ง ที่แนะนำว่า การฝึกสมาธิ การปฎิบัติธรรม เข้าวัดทำบุญ คือวิธีที่จะช่วยให้เราหลุดพ้นจากความทุกข์ได้ ซึ่งจริงนะจ๊ะ เพราะวิธีนี้จะช่วยให้เรามีสติ ไม่หลงโลก ไม่หลงผิด และอยู่กับความเป็นจริงมากขึ้น แถมยังช่วยทำให้จิดใจที่ฟุ้งซ่านของเรากลับมาสงบมากขึ้นด้วย
10. เลี้ยงสัตว์
นี่คือวิธีของเราเอง การได้ใช้เวลาอยู่กับสัตว์เลี้ยง ช่วยบรรเทาอาการนอยด์ได้เยอะมาก เพราะชีวิตนี้ ทุ่มเทให้กับน้องๆ จนหมดแล้ว การได้เห็นเขากินอิ่ม นอนหลับ คือความสุขของทาส จนไม่มีเวลาไปคิดถึงความทุกข์อื่นๆ แล้วจ๋า เวลาเราเลี้ยงสัตว์ มันทำให้เราไม่เหงา และทำให้เรารู้สึกเหมือนมีเพื่อนสักคน ที่ค่อยอยู่เคียงข้างกันตลอดเวลา มันช่วยบรรเทาความรู้สึกทุกข์ใจได้จริงๆ คอนเฟิร์ม!
สรุปง่ายๆ ก่อนจากกัน อาการนอยด์ เป็นความรู้สึกที่เรามักจะพูดกันเล่นๆ บ่อยมาก จนไม่เคยนึกเลยว่า มันจะนำไปสู่โรคทางจิตได้ สำหรับใครที่รู้สึกว่า ฉันนอยด์ ถ้าไม่ได้หนักหนา ลองหา วิธีแก้นอยด์ จัดการกับอาการที่เกิดขึ้นนะคะ แต่ถ้ารู้สึกว่าคนใกล้ตัว คนในครอบครัว เพื่อน หรือแม้แต่ตัวเราเอง เริ่มมีอาการที่หนักและรุนแรงขึ้น อย่าปล่อยเอาไว้ รีบไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อหาทางรักษากันด่วนเลยนะ ไม่อย่างนั้นอาการที่เรามองว่าเล็กน้อย มันอาจจะก่อให้เกิดความรุนแรงเกิดขึ้นในสังคม เพื่อน และคนในครอบครัวได้ สำหรับวันนี้ต้องลาไปก่อนแล้ว บ๊ายบาย
Designer : tt.
Writer : belfry
