" น่ารักจนอยากกัด "บางครั้งการเจออะไรก็ตามจนอยู่ดีๆ ก็ทำให้มีอาการมันเขี้ยวขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว ซึ่งเป็นอาการที่มักจะเกิดขึ้นเวลาที่เห็นเด็กเล็ก หรือสัตว์เลี้ยง โดยเรียกได้ว่าความรู้สึกชักพานำไป จนไม่ได้กลับมาสังเกตเลยว่าเวลาที่เราเจออะไรน่ารักแล้วเกิดอาการมันเขี้ยว อยากหยิบอยากกัดนั้นคืออะไร ดังนั้นเราเลยอยากชวนเพื่อนๆ ชาวhttps://sistacafe.com/ทำความเข้าใจว่าอาการนี้คือCute Aggressionมาจากสาเหตุอะไร? อะไรที่บ่งชี้? แล้วเป็นอันตรายไหม?

✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿

Cute Aggressionคืออะไร ?

รูปภาพ:

Cute Aggressionคือ อาการมันเขี้ยวหรือภาวะอารมณ์ที่ตอบสนองความต้องการของร่างกาย เกิดขึ้นทันทีทันใด และนับเป็นปฏิกิริยาทั่วไปของมนุษย์เราที่เมื่อเห็นลูกหมาน่ารัก เด็กน่ารัก ก็เกิดอาการอยากหอมแรงๆ อยากฟัดแรงๆ และแม้ปฏิกิริยาเหล่านี้ที่ได้แสดงออกมาจะดูรุนแรงไปหน่อย แต่สิ่งที่น่าประหลาดใจคือ อารมณ์ความรู้สึกแบบนี้ไม่ได้มีการมุ่งร้ายหรือคิดจะทำอันตรายต่ออีกฝ่ายแต่อย่างใด ซึ่งความรู้สึกมันเขี้ยวหรืออยากบับขยี้สิ่งที่เอ็นดูน่ารักเป็นหนึ่งในพฤติกรรมที่เรียกว่า dimorphous expression ซึ่งถือเป็นการกระทำและการแสดงออกที่ไม่ตรงกับอารมณ์ความรู้สึกภายใน อย่างเช่น คนที่ดีใจมากจนร้องไห้ออกมา หรือคนที่โมโหโกรธจนมีอาการหลุดหัวเราะขำเรื่องที่ไม่พอใจอยู่โดย ดร. โอรีอานา อารากอน จากมหาวิทยาลัยเคล็มสันของสหรัฐฯ เป็นผู้ที่ริเริ่มศึกษาเกี่ยวกับการวิจัยด้านอารมณ์ที่รุนแรงต่อสิ่งที่น่ารัก ซึ่งได้ให้คำอธิบายไว้ในรายงานการตีพิมพ์ลงในวารสาร Psychological Science เมื่อปี 2015 ว่าอาการมันเขี้ยวหรือมันมือ เป็นการแสดงออกด้วยสีหน้าและท่าทาง เพื่อสื่อสารถึงอารมณ์ที่ท่วมท้นและซับซ้อนอยู่ภายในออกมาทั้งหมด

รูปภาพ:

ดร. อารากอนยังชี้อีกว่า การแสดงออกด้วยสีหน้าและท่าทางแบบซับซ้อน ซึ่งอาจไม่ตรงกับอารมณ์ความรู้สึกภายในเสียทีเดียว มีความสำคัญอย่างมากในเชิงวิวัฒนาการทางสังคมของมนุษย์ เนื่องจากเป็นการให้ข้อมูลเพิ่มกับคนรอบข้าง เพื่อให้ทราบถึงสภาพอารมณ์และแรงจูงใจภายใน ซึ่งจะช่วยให้คาดเดาได้ว่าคุณจะทำอะไรต่อไป โดยการที่ข้อมูลนั้นมีรายละเอียดมากกว่าปกติ จะส่งผลดีต่อการอยู่ร่วมกันและแสวงหาความร่วมมือในสังคม

งานวิจัยเกี่ยวกับ Cute Aggression

รูปภาพ:

แคปเธอรีน สตาฟโรโพรอส ผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาและนักจิตวิทยา ได้มีการทำการทดลอง โดยอ้างอิงผลงานวิจัยของมหาลัยเยลเมื่อปี 2015 ที่เปิดเผยว่า มนุษย์จะรู้สึกมันเขี้ยวอย่างมีนัยสำคัญ หากเห็นภาพเด็กเล็กหรือลูกสัตว์เลี้ยง โดยเป็นการพบเจอในแบบรูปภาพหรือวิดีโอ โดยเฉพาะที่มีการเน้นไปที่ดวงตา แก้ม และหน้าผากของเด็กหรือสัตว์ จะสร้างความรู้สึกมันเขี้ยวได้มากกว่าซึ่งแคทเธอรีนก็ได้ให้คำตอบว่า เมื่อมนุษย์ได้พบเห็นสิ่งเร้าที่ทำให้รู้สึกมันเขี้ยวเป็นพิเศษอย่างเด็กและลูกสัตว์เลี้ยง ร่างกายของมนุษย์จะรีบตอบสนองอย่างไร โดยการได้ทดลองแบบเจาะจงไปที่การตรวจวัดกระแสไฟฟ้าที่สมองส่งผ่านไปยังเส้นประสาทสู่ส่วนต่างๆ ของร่างกาย ซึ่งเธอได้ตั้งสมมติฐานว่า สมองจะส่งสัญญาณให้ร่างกายของมนุษย์เกิดความรู้สึกอยากกอด หอม หรือแม้กระทั่งบีบแรงๆ

รูปภาพ:

การทดลองดังกล่าวได้ผู้เข้าร่วม 54 คน อายุระหว่าง 18 ถึง 40 ปี ขึ้นไป ได้ทำการสวมหมวกที่สามารถตรวจสอบคลื่นกระแสไฟฟ้าในสมอง จากนั้นได้นำภาพ 32 ภาพ แบ่งออกเป็น 4 หมวดหมู่ คือรูปเด็กเล็กที่ปรับแต่งให้ดูน่ารักเป็นพิเศษกับรูปเด็กทั่วไป รูปสัตว์ที่ยังไม่โตเต็มวัย และรูปสัตว์โตเต็มวัย ให้ผู้เข้าร่วมได้ทำการทดลองและทำการประเมินว่าในแต่ละภาพดูน่ารักและเกิดความรู้สึกมันเขี้ยวขนาดไหน ในระดับ 1 ถึง 10ผลปรากฎว่ารูปของเด็กที่ถูกปรับแต่งให้น่ารักเป็นพิเศษได้รับคะแนนสูงสุด รองลงมาคือสัตว์เลี้ยงที่ยังไม่โตเต็มวัย เด็กทั่วไป และสัตว์โตเต็มวัยตามลำดับ สิ่งที่น่าสนใจคือในส่วนของการให้ความคิดเห็น แม้รูปเด็กทั่วไปจะได้คะแนนช่วงลำดับที่ 3 แต่ผู้ร่วมการทดลองหลายคนก็ยังเขียนในเชิงว่า ตนรู้สึกมั่นเขี้ยวเป็นพิเศษมากกว่ารูปสัตว์เลี้ยงในการทดลองทั้ง 2 ประเภท

" การทดลองนี้ได้พิสูจน์ได้ว่า มีความสัมพันธ์ทางกายภาพที่ชัดเจนระหว่างการตอบสนองของร่างกายและรูปเด็กหรือสัตว์เลี้ยงแสนน่ารัก ร่างกายจะส่งสัญญาณให้เรารู้สึกว่า หากเราได้กระทำการใดๆ ต่อสิ่งเหล่านี้แล้ว จะส่งผลให้ร่างกายได้รับความสุขเป็นพิเศษ "แคทเธอรีนกล่าวสรุปการทดลองที่เกิดขึ้น

Cute Aggressionเป็นอาการทางจิตไหม ?

รูปภาพ:

หลายคนแอบสงสัยตัวเองว่ามีอาการมันเขี้ยวของเราเกินลิมิตไปหรือเปล่า เข้าข่ายอาการทางจิตอ่อนๆ หรือไม่ บอกเลยว่าหากเป็นอาการมันเขี้ยวที่เกิดขึ้นเฉพาะตอนเราเห็น และได้สัมผัสของที่เราชื่นชอบ หรืออาจจะเป็นการพบเจอเด็กน่ารักๆ หรือสัตว์เลี้ยงน่ารัก แล้วอยากเข้าไปกอดรัดฟัดเหวี่ยง อยากจะหยิก อยากกัดให้หายมันเขี้ยว ไม่ใช่อาการความผิดปกติแต่อย่างไร ซึ่งฉะนั้นไม่ต้องกังวลใจไป

อย่างไรก็ตาม การแสดงออกเช่นนี้ถือได้ว่ามีประโยชน์ในเชิงของการวิวัฒนาการของมนุษย์อยู่เหมือนกัน โดย ดร. สตาโฟรยูลอส ได้ให้คำอธิบายไว้ว่า " หากคุณมีความรู้สึกรักและชื่นชมเอ็นดูทารกอย่างท่วมท้น จนไม่กล้าแม้จะแตะต้องหรือขยับตัวเด็กเลย นั่นจะทำให้เด็กทารกตายลงในที่สุดเพราะขาดอาหารและการดูแล แต่ถ้าคุณมีความรู้สึกว่ามันเขี้ยวอยากกอดรัดฟัดเหวี่ยงเด็กน้อย นั่นจะทำให้คุณกล้าสัมผัสจับเด็กที่ดูบอบบาง และเกิดความคิดที่สมเหตุสมผลว่า ไม่มีสิ่งใดน่ารักไปจนแตะต้องไม่ได้ "

อาการมันเขี้ยว ในภาษาอังกฤษเขียนว่าอย่างไร ?

รูปภาพ:

หากเราต้องการที่จะพูดว่า" เธอน่ามันเขี้ยว "ในภาษาอังกฤษไม่มีคำนี้โดยตรง จึงเอาคำว่า Cute มาใส่แทน เพื่อให้มีความหมายสอดคล้องหรือคล้ายๆ กันจนกลายมาเป็นชื่อของ"Cute Aggression"นั่นเอง แต่นอกจากนี้ถ้าเราอยากพูดถึงการมันเขี้ยวก็สามารถพูดได้ดังนี้- You're so cute that I just wanna squeeze/hug you.เธอนี่น่ารักจนฉันอยากบีบ/กอดเธอจังเลย- You're so cute that I just wanna eat you up.เธอนี่น่ารักจนฉันอยากกินเธอจัง (ใช้อย่างระมัดระวัง)- I feel like pinching your cheeks.ฉันรู้สึกอยากหยิกแก้มเธอจังเลย

***ทั้งสามประโยคนี้ อาจจะให้ความหมายที่ตรงตัวและอาจทำให้ผู้ฟังสามารถเข้าใจผิดได้ เพราะฉะนั้นก่อนพูดต้องดูบริบทของผู้ฟังก่อนอย่างแรกนะคะ

✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿

Cute Aggressionถึงจะไม่น่าเป็นกังวลในเรื่องของอาการทางจิต แต่ก็อยากให้ทุกคนระมัดระวังเพราะบางครั้งเราทำไปด้วยความเคยชินจึงต้องมีสติแล้วไม่เผลอทำรุนแรงเกินไปเพราะอาจจะเกิดอันตรายกับเด็กหรือสัตว์เลี้ยงได้ ดังนั้นเราควรที่จะให้ความใส่ใจรักและเอ็นดูอย่างพอประมาณเพื่อไม่ให้เด็กหรือสัตว์เลี้ยงดูอึดอัดเวลาที่เราเข้าไปกอดรัด และเลือกที่จะทะนุถนอมเขาให้มากๆ ด้วยนั่นเองโดยเฉพาะกับสัตว์เลี้ยงที่ต้องดูพฤติกรรมของเราและสัตว์เลี้ยงไม่ให้มาแว้งกัดเราเมื่อเราเผลอมันเขี้ยวรุนแรงใส่เขาก่อน

บทความแนะนำ ที่ซิสต้องไม่พลาด

https://sistacafe.com/summaries/96122

https://sistacafe.com/summaries/95486

https://sistacafe.com/summaries/95204

https://sistacafe.com/summaries/89296

https://sistacafe.com/summaries/96120