Day to Night Makeup นางเอกสายหวาน นางร้ายสายแซ่บ x Etude Twin Shot Lips Tint | บทความของ Minnie.Mew

เวลาดูละคร นอกจากเนื้อเรื่องที่เข้มข้นน่าติดตาม กับการแสดงอันสมบทบาทของนักแสดงแล้ว “ การแต่งหน้า ” ก็เป็นสิ่งที่สื่อออกมาว่าตัวละครตัวนั้นมีบุคลิิกลักษณะอย่างไร ผ่านออกมาทางสีสันที่ใช้ ทั้งดวงตา รูปทรงของคิ้ว รวมถึงสีที่อยู่บนริมฝีปาก ซึ่ง How to แต่งหน้าที่มิ้วจะมาทำให้ดูกันในครั้งนี้ก็มีสีลิปเป็นตัวกำหนดลุคที่ออกมาค่ะ

บอกมาขนาดนี้ แน่นอนว่าไม่ได้แต่งแค่ลุคเดียวจบหรอก ฮี่ๆๆ เพราะว่าในครั้งนี้มิ้วจะจัดเต็มเป็น 2 คนในร่างเดียวกัน คนแรกคือเป็น

“ นางเอกสายหวาน ( Day Look ) ”

และอีกคนคือ

“ นางร้ายสายแซ่บ ( Night Look ) ”

โดยมี

Etude House Twin Shot Lips Tint

เป็น key หลักที่จะมาช่วยครีเอทลุคในครั้งนี้ค่ะ มิ้วได้มา 2 สีด้วยกันค่ะ

บอกมาขนาดนี้ แน่นอนว่าไม่ได้แต่งแค่ลุคเดียวจบหรอก ฮี่ ๆๆ เพราะว่าในครั้งนี้มิ้วจะจัดเต็มเป็น 2 คนในร่างเดียวกัน คนแรกคือเป็น

“ นางเอกสายหวาน (Day Look) ”

และอีกคนคือ

“ นางร้ายสายแซ่บ (Night Look) ”

โดยมี

Etude House Twin Shot Lips Tint

เป็น key หลักที่จะมาช่วยครีเอทลุคในครั้งค่ะ มิ้วได้มา 2 สีด้วยกันค่ะ

*ก่อนจะไปแต่งหน้ากัน ขอบอกรายละเอียดคร่าวๆ ของเจ้าลิปตัวนี้กันคร่าวๆ นะคะ*

Etude Twin Shot Lips Tintเป็นลิป 2 สีสัน 2 เนื้อในแท่งเดียวกัน โดยด้านหนึ่งเป็น1.Mousse Tintเป็นโทนสีนู้ด/สีอ่อน มีความมันวาวและให้ความชุ่มชื้น2.Tint Shotโทนสีเข้ม มีประกายแวววาว ให้สีแน่นติดทนนาน

สามารถทาลิปด้านหนึ่งได้เลย หรือจะใช้ทั้ง Mousse Tint และ Tint Shot รวมกันก็ได้ จะได้สีที่เป็น Ombre คือมีการไล่สีบนริมฝีปากค่ะ ลิปตัวนี้มีทั้งหมด 9 สี ซึ่งสีที่มิ้วจะใช้ในวันนี้ คือ

สีPK002 สำหรับลุคนางเอก

และสีRD303 สำหรับลุคนางร้าย

ว่าแล้วก็ไปชม How to กันเลยค่ะ มิ้วทำเป็นวิดีโอเอาไว้ด้านล่างนี้แล้ว

หากใครไม่ชอบดู How to ในรูปแบบวิดีโอ ก็เลื่อนลงไปดูแบบบรรยายตามภาพได้เลยค่ะ ^^

Day Look : นางเอกสายหวาน ต้อนรับยามเช้าอันสดใส

เริ่มกันที่งานผิว ซึ่งมิ้วจะไม่เน้นความแน่นอะไรให้มันหนาหนักมาก ขอมางานเบาๆ ใสๆ พอค่ะ

1. ลงคอนซีลเลอร์ตามบริเวณที่ต้องการปกปิด เช่น ใต้ตา ร่องแก้ม

เกลี่ยคอนซีลเลอร์ให้เนียนไปกับผิว จะใช้นิ้ว แปรง หรือฟองน้ำก็ได้นะคะ แล้วแต่สะดวกเลย

2. ลงคุชชั่นให้ทั่วใบหน้า ส่วนที่ต้องการปกปิด พยายามเอาเนื้อคุชชั่นแปะๆ กดๆ มันลงไป ( มิ้วใช้คุชชั่นเนื้อแมตต์ของ Etude สามารถลงได้ทีเดียวโดยไม่ต้องทาแป้งตามค่ะ )

3. ใช้ Eye Base หรือ Eye Primer ลงไปบนเปลือกตา เพื่อเป็นการเตรียมที่จะแต่งตา

4. ใช้อายแชโดว์เนื้อครีมทาให้ทั่วเปลือกตา ( มิ้วใช้ Etude House Play 101 Stick #12 ตัวนี้ใช้ได้ทั้งตา แก้ม และปากค่ะ )

5. ทาอายแชโดว์สีเบจหรือสีขาวประกายมุกให้ทั่วเปลือกตา อย่าลืมทาใต้ตาด้วย ทามาจนถึงหัวตาเลยค่ะ

6. ทาอายแชโดว์สีชมพูหรือสีโอลด์โรส เนื้อแมตต์จากบริเวณเปลือกตาด้านนอกเข้ามาถึงกึ่งกลางเปลือกตา และอย่าลืมทาใต้ตาเชื่อมลงไปด้วย ให้ถึงกลางตาอีกเช่นกัน

7. ใช้ดินสอเขียนขอบตาสีน้ำตาล เขียนให้ชิดโคนขนตาให้มากที่สุด ถ้ารู้สึกว่าตาดูลอยๆ ให้เขียนโคนขนตาล่างด้วย

8. ใช้อายแชโดว์สีน้ำตาลอ่อน ( เนื้อแมตต์ ) เกลี่ยบริเวณที่เขียนขอบตาขึ้นมาให้ดูฟุ้งๆ อย่าลืมเกลี่ยตรงขอบตาล่างด้วยนะคะ

9. กรีดอายไลเนอร์เป็นเส้นบางๆ ไม่ต้องวิงหางออกมา

10. ดัดขนตาให้เด้งๆ + ปัดมาสคาร่า

11. เขียนคิ้วตรงเพื่อให้ได้ลุคที่ดูหวานละมุน

12. อย่าลืมปัดขนคิ้วให้เป็นระเบียบเรียงเส้นสวย และเพื่อย้อมสีคิ้วไม่ให้เข้มจนเกินไป

13. เสร็จงานแต่งตาแล้วก็ไปปัดบรอนเซอร์ + ไล้ดั้งกันต่อ

14. ปัดแก้มด้วยบลัชออนสีชมพูนมๆ เนื้อแมตต์

15. ปัดไฮไลท์เพื่อให้หน้าดูฉ่ำๆ วาวๆ

มาถึงนางเอกของเราแล้ว กับ

Etude House Twin Shot Lips Tint #PK202

เดี๋ยวเราไปเจาะลึกดูกันค่ะว่าจะเป็นยังไง

มี 2 ด้าน 2 สี ที่เห็นเป็นสีฟ้านั้นคือ Mousse Tint ค่ะ พอทาออกมาจะเป็นสีชมพูอมม่วงนิดๆ ส่วนด้านที่เป็นสีชมพูวาวๆ คือ Tint Shot ค่ะ

ลอง Swatch ตัว Mousse Tint ให้ดูกันก่อน เห็นไหมว่านางเป็นสีชมพูจริงๆ

ตามมาด้วย Tint Shot สีชมพูเนื้อแวววาว

ทีนี้เราไปทาปากกันเลยค่ะเริ่มจากทา Mousse ไปตามรูปปาก

จากนั้นตามด้วย Tint Shot ลงไปที่ริมฝีปากด้านในค่ะ

Complete Look!แล้วเราก็ได้ลุคนางเอกสายหวานเรียบร้อยมาแล้ว ^^สวยหรือไม่ นั่นอีกเรื่องนึง 5555

..................................................

สลัดคราบนางเอกเรียบร้อย ไปเป็นนางร้ายสายแซ่บกันบ้าง! ฟิ้วววว

..................................................

Night Look : นางร้ายสายแซ่บ เปรี้ยวซ่าในยามค่ำคืน

*เนื่องจากว่ามิ้วได้แต่งหน้ามาในตอนกลางวันแล้ว มิ้วจะไม่ลบหน้าทำใหม่ แต่จะเติมหน้าเติมตาเข้าไปให้มากกว่าเดิม คล้ายๆ กับเวลาที่เราทำงานมาทั้งวัน เสร็จแล้วมีปาร์ตี้ต้องไปต่อในเย็นค่ะ1. เติมแป้งสักเล็กน้อย ( มิ้วใช้คุชชั่นค่ะ ) จากนั้นนำดินสอเขียนขอบตาสีน้ำตาลมาเขียนวิงเส้นบริเวณหางตาออกมาหน่อย ประมาณ 2 เส้น

2. ใช้อายแชโดว์สีน้ำตาลอมแดงเกลี่ยจากตรงที่เราวิงหางตาในขั้นตอนที่แล้วเข้ามา โดยทำการคัดเบ้าไปด้วย และใช้สีนี้ในการทาเชื่อมใต้ตาจากด้านนอกเข้ามาด้วย

4. ลงอายแชโดว์สีทองไปที่กลางเปลือกตา

5. กรีดอายไลเนอร์โดยวิงหางออกเพื่อให้ตาดูเฉี่ยว

6. ติดขนตาปลอม และทาหัวตาด้วยดินสอเขียนขอบตาสีขาว

7. เกลี่ยตรงหัวตาด้วยอายแชโดว์สีขาวเนื้อชิมเมอร์

8. สร้างทรงคิ้วใหม่ ด้วยการใช้คอนซีลเลอร์ลงบริเวณหางคิ้ว

9. เขียนหางคิ้วให้โก่งและคมกว่าเดิม

10. ปัดบรอนเซอร์ + ไล้ดั้งให้หน้าดูชัดกว่าเดิม ( ตอนกลางคืนเน้นให้เข้มได้หน่อยค่ะ แต่ต้องให้พอดี ๆ นะ )

11. ลงสีแก้มตรงพวงแก้มอีกสักเล็กน้อย ( จะใช้บลัชออนเป็นเนื้อฝุ่นก็ได้นะ แต่มิ้วใช้เป็นเนื้อ Stick ค่ะ )

มาถึงตัวเด็ดกันแล้ว มิ้วจะใช้Etude Twin Shot Lips Tint #RD303สีแดง เป็นการเพิ่มดีกรีความร้ายค่ะ 5555 แต่เดี๋ยวขอพาไปดูสีชัดๆ ก่อนนะคะ

ตัวนี้จะออกสีแดงๆ นะคะ เนื้อ Mousse Tint จะเป็นแดงอิฐหรือแดงอมส้มหน่อยๆ ส่วน Tint Shot เป็นสีแดงสดค่ะ

ดูสี Lip Mousse กันก่อน มิ้วชอบสีนี้มากๆ ค่ะ สีสดดีมาก

สี Tint Shot จะออกแดงสดค่ะ แด๊งงงง แดงเลย พอเทียบกับ Lips Mousse อีกสีจะออกเป็นแดงส้มไปเลย

ขั้นตอนสุดท้ายสำหรับความแรงความร้าย

มิ้วจะใช้ Mousse Tint ทาไปตามรูปปาก ถ้าอยากให้ปากดูอิ่มก็ทาออกมาให้เลยขอบปากสักเล็กน้อยค่ะ

จากนั้นก็ทา Tint Shot ที่ริมฝีปากด้านในได้เลย เท่านี้ก็สำเร็จเสร็จกิจ!

Complete Look!

ร้ายขนาดไหนก็ยังต้องสวยเด่นเกินใคร ฮี่ๆๆ

ลองเทียบ Day Look กับ Night Look / นางเอก VS นางร้าย ให้ดู

อย่างที่บอกไปตอนแรกว่าการแต่งหน้านั้นมีผลต่อบุคลิกภาพ แค่สีลิปก็บอกสไตล์ของเราได้แล้ว อย่างเจ้า

Etude Houde Twin Shot Lips Tint

ก็ถือว่าเป็นไอเทมดีมากๆ เพราะแท่งเดียวมีมาให้ตั้ง 2 สี แถมนำมาทาปากได้ 3 แบบ 3 สไตล์เลย คุ้มค่ากับราคา 5xx บาท ใครสนใจก็ไปดูกันได้ที่ ช็อปของ Etude House นะคะ เพราะเค้ามีสีให้เล่นกันเยอะกว่านี้อีก

อยากดูรายละเอียดของลิปทั้ง 9 สี เข้าไปดูที่ลิงก์บทความด้านล่างนี้ได้เลยค่ะ ^^

เปิดปากสีสวยด้วย ETUDE HOUSE twin shot lips x tint ง่ายๆ ในแท่งเดียว

https://sistacafe.com/summaries/9916

เพิ่มเติมอีกนิดนึง ว่าอย่างไรก็ตามเราก็ไม่จำเป็นจะต้องกำหนดว่าสีชมพูนั้นเหมาะกับสาวหวาน หรือสีแดงเหมาะกับสาวเปรี้ยวเสมอไป เราสามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้ตามโอกาสที่เหมาะสมนะคะ สุดท้ายนี้ก็หวังว่าจะชอบ How to นี้กัน ฝากติดตามผลงานกันด้วย พบกันใหม่คราวหน้า สวัสดีค่ะ ^^