Love Bombing คืออะไร ?
Love bombingคือ การทุ่มเทความรักอย่างหนักในช่วงต้นของความสัมพันธ์เพื่อให้อีกฝ่ายประทับใจ ตกหลุมรัก และรู้สึกว่าขาดเขาไม่ได้ เมื่อฝ่ายที่ได้รับความเอาใจใส่รู้สึกผูกพันจนถอนตัวไม่ขึ้น ฝ่ายที่ทำการ love bombing จะเริ่มควบคุมชีวิตของคนรักให้เป็นไปตามที่อีกฝ่ายต้องการ ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกสับสน อึดอัดในความสัมพันธ์ และไม่เป็นตัวของตัวเอง ฝ่ายที่ทำการ love bombing อาจใช้วิธีคุยหรือสนใจอีกฝ่ายน้อยลงเป็นการลงโทษเมื่อพวกเขาไม่ได้สิ่งที่เขาต้องการหรือเพื่อเรียกร้องความสนใจจากอีกฝ่าย
คำว่า Love Bombing หมายถึงรูป แบบของพฤติกรรมแสดงความรักมากเกินไป ซึ่งมักเกิดขึ้นในช่วงเริ่มต้นของความสัมพันธ์ มักจะเกิดขึ้นในความสัมพันธ์แบบโรแมนติกมันดูแตกต่างกันไปในแต่ละคน แต่โดยทั่วไปแล้วมักจะมีพฤติกรรมดังนี้
ฝ่ายหนึ่ง "Bombing" อีกฝ่ายด้วยการแสดงความรักและความเอาใจใส่ อย่างเหนือชั้น พฤติกรรมนี้อาจรวมถึงการให้ของขวัญและ/หรือคำชมเชยอีกฝ่าย การแสดงความรักมากเกินไปตั้งแต่เพิ่งรู้จักกันไม่นาน การพูดคุยกันยาวนานตลอดทั้งวัน การพูดคุยเกี่ยวกับอนาคตของ ทำตัวติดกันอยากอยู่ด้วยกันอยากเจอตลอดเวลาอาจะมากเกินจนอีกฝ่ายแทบจะไม่มีเวลาให้เพื่อนหรือครอบครัวเป็นต้น
การ Bombing ทำได้ง่ายขึ้นด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบัน ความสามารถในการโทร ส่งข้อความ หรือเชื่อมต่อบนโซเชียลมีเดียตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน ทำให้การติดต่อกับคนที่รักเป็นเรื่องง่ายกว่าที่เคย
Love Bombing ถือเป็นกลยุทธ์ที่จงใจและบงการซึ่งถูกนำมาใช้เพื่อให้ได้เปรียบเหนืออีกฝ่าย
คนที่อยู่ในความสัมพันธ์แบบนี้ ในช่วงเเรกจะรู้สึกดีมาก ๆ เพราะ โดปามีนและเอ็นดอร์ฟิน ที่ได้จากของขวัญและความสนใจจาก Love Bomber ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกพิเศษ จำเป็น ถูกรัก มีค่า และคู่ควร ซึ่งเป็นองค์ประกอบทั้งหมดที่ช่วยส่งเสริมและเพิ่มความนับถือตนเอง
ขั้นตอนของการ Love bombing
โดยทั่วไปแล้ว พฤติกรรม love bombing นั้นมีอยู่ 3 ขั้นตอนได้แก่
ขั้นตอนการสร้างภาพในอุดมคติ(The Idealization Phase): ผู้ที่มีพฤติกรรม love bombing จะพยายามทำให้คนรักประทับใจด้วยการปฏิบัติต่อเขาหรือเธอดั่งเป็นเจ้าหญิงหรือเจ้าชาย ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกได้รับความรัก ความอบอุ่นเหมือนได้พบกับคนรักในฝันและเริ่มเกิดความผูกพัน ผูกคุณค่าของตนต่อการกระทำของอีกฝ่าย
ขั้นตอนการลดคุณค่า(The Devaluation Phase): เมื่อฝ่ายที่ถูก love bombing รู้สึกตกหลุมรักแล้ว ฝ่ายที่ทำการ love bombing จะเริ่มควบคุมคนรักเพื่อตอบสนองความรู้สึกไม่มั่นคงของตัวเอง เช่น พยายามทำให้คนรักใช้เวลาอยู่กับตนเองให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และไม่อยากให้คนรักออกไปใช้เวลากับเพื่อน ๆ คนประเภทนี้อาจเปลี่ยนไปใช้วิธีที่ไม่สร้างสรรค์ เช่น ทำให้รู้สึกผิด บังคับขู่เข็ญ หรือแม้กระทั่งทำร้ายร่างกายเพื่อให้อีกฝ่ายทำตามที่ตนต้องการ
ขั้นตอนการทอดทิ้ง(The Discard Phase): เมื่อฝ่ายที่ถูก love bombing พยายามที่จะแสดงจุดยืนของตนเอง จนยากที่จะถูกควบคุมอีกต่อไป ฝ่ายที่ทำ love bombing จะตัดสินใจยุติความสัมพันธ์นั้น ทิ้งให้ฝ่ายที่ได้รับความรักมาตลอดรู้สึกสับสน ไร้ค่า และคิดว่าความสัมพันธ์ที่จบลงเป็นความผิดของตนเอง
เราจะแยก Love Bombing กับความจืดจางตามเวลาได้ยังไง ?
หลายคนอาจรู้สึกว่า มันก็ไม่แปลกที่คนเราจะมีช่วงหวาน ช่วงจืดจางไปตามกาลเวลา ความสัมพันธ์ส่วนใหญ่ก็ไม่ได้หวานชื่นไปตลอดอยู่แล้ว แต่สิ่งที่ทำให้ทั้งสองอย่างนี้ต่างกัน คือ ‘เจตนาที่แท้จริง’
โดย Love Bombing ไม่ได้เป็นเพียงช่วงหมดโปรที่เกิดขึ้นได้ทั่วไป แต่เป็นความตั้งใจที่เกิดขึ้นตั้งแต่แรก ทุ่มเทความรักให้มากมาย เพื่อจุดมุ่งหมายบางอย่างในใจ ไม่ว่าจะเป็นควบคุมให้อยู่หมัด เติมเต็มความต้องของตนเองจนเพียงพอแล้วก็ไป หรือต้องการแก้ไขปมในใจแล้วก็จาก
หากใครกำลังเริ่มต้นคบหาพูดคุยกับคนใหม่ๆ ก็อย่าละเลยสัญญาณ
red flag
เหล่านี้เพราะอาจไปเผลอตกหลุมรักคนเห็นแก่ตัวเหล่านี้ได้ เรื่องของความรักมันต้องใช้เวลา อย่าไปเร่งรีบมัน แต่ถ้าหากใครที่มาอ่านบทความนี้ไม่ทัน การปรึกษาผู้เชียวชาญ การฮีลใจรักษาบาดแผลในใจถือเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรละเลยนะค่ะ