พิจารณาอีกนิดก็ยับยั้งชั่งใจได้มื่อพูดถึงเรื่องเสื้อผ้าแน่นอนว่าเราก็ต้องเต็มที่กับการนำหามาใส่กันอยู่แล้วยิ่งเทรนด์อะไรใหม่ๆ ที่เข้ามาตัวเราเองก็อยากที่จะตามเทรนด์นั้นด้วย นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เราตามหาเสื้อผ้ามาสวมใส่เพื่อให้ก้าวทันกระแส ลองคิดเล่นๆ ในเวลา 1 อาทิตย์ รวมๆ แล้วการซื้อเสื้อผ้าของเราเรียกได้ว่าบางคนถึงกับสิ้นเปลืองในเรื่องนี้เลยทีเดียว เพราะกระแสใหม่ๆ ฮิตๆ นั้นมาใหม่แทบทุกวัน ฉะนั้นจึงมีกระแสของการรณรงค์ให้ลดการใช้เสื้อผ้าที่เป็น Fast Fashionขึ้นมา เนื่องจากพอหทดกระแสแล้วเสื้อผ้าเหล่านั้นกลับถูกแขวนอยู่ในตู้แบบเฉยๆ บางคนก็ถึงกับทิ้งไปเลยทีเดียว ดังนั้นในตอนนี้นั้นจึงมีการรณรงค์อีกหนึ่งสิ่งที่มาทำให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้นนั้นก็คือSlow Fashionแต่จะสามารถทำได้จริงหรือแค่กระแสที่เกาะติดตามโซเชียล ไปทำความเข้าใจกัน...

✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿

Slow Fashion คืออะไร รักษ์โลกจริงไหม มาทำความรู้จักกันก่อน

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/c2/8a/46/c28a463433953b43bfaad0d5bbb72bdd.jpg

Slow Fashion เป็นกระแสเรียกร้องขึ้นมาเพื่อให้ผู้คนนั้นสวมใส่เสื้อผ้านานๆ และเสื้อผ้านั้นก็ต้องผ่านเหล่ากระบวนการการผลิตที่ไม่ส่งผลร้ายต่อธรรมชาติและจริยธรรมโดยคนที่เริ่มใช้คำว่าคนแรกคือ เคท เฟลทเชอร์ (Kate Fletcher) ศาตราจารย์ด้านความยั่งยืน โดยกระแสของคำนี้ก็มาให้เห็นกันในช่วงสิบปีให้หลัง หลังจากการที่มีกระแสออกมาอย่างFast Fashionที่ผู้คนออกมาเรียกร้องให้เลิกนั้นเพราะว่าเป็นเสื้อผ้าที่ต้องมีการเร่งผลิตให้เท่ากับกระแสในช่วงนั้นๆและผลิตในปริมาณที่มากแต่ต้นทุนต่ำเพื่อสามารถให้ผู้คนจับจ่ายได้ในราคาที่ถูกหรือเข้าถึงง่าย และด้วยความเป็นเสื้อผ้าที่ตามกระแสจึงทำให้แฟชั่นนั้นอยู่ไม่นาน เวลาเพียงแค่ 1 อาทิตย์ความนิยมก็ลดลง

รูปภาพ:

" ปัญหาการผลิตในอุตสาหกรรมแฟชั่นที่ยังคงมีมาเรื่อยๆ "ด้วยความที่มีการผลิตที่มากเกินไป จึงทำให้ผู้คนออกมาตั้งประเด็นกันในเรื่องของการกำจัดที่ส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมเนื่องจากการผลิตเสื้อผ้า 1 ชิ้น ใช้ทรัพยากรอย่างน้ำ ปิโตเลียม ถ่าน และทรัพยากรอื่นๆ มี่เกี่ยวข้องมากมาย และปัญหาของการกดขี่แรงงานที่ไม่มีความเป็นธรรมในเรื่องของค่าตอบแทนกับชั่วโมงที่ทำงานของผู้คนเหล่านั้น ตอนนี้นั้นกระแสสังคมจึงมีการพุ่งเป้าไปที่การต่อต้านเสื้อผ้าที่เป็นประเภท Fast Fashion ด้วยการเลิกสนับสนุนเสื้อผ้าเหล่านี้แต่ไม่ใช่ว่าสิ่งนี้จะทำได้ง่ายๆ เพราะด้วยเสื้อผ้าประเภทนี้นั้นมีราคาค่อนข้างถูก สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังไม่มากแต่อยากตามแฟชั่นหรือที่เรียกกันแบบราคานักเรียน นักศึกษา เลยยังคงทำให้มีผู้คนบางกลุ่มยังคงสนับสนุนต่อเนื่องเรื่อยมา ทำให้ตอนนี้นั้นก็ยังคงเป็นเรื่องที่ถกเถียงประเด็นกันได้ แม้ว่าจะมีกระแสของ ‘ slow fashion ’ ออกมาแล้วก็ตาม

แล้วแบบนี้เรียกว่า “ Slow Fashion ” หรือไม่

รูปภาพ:

กระแสของSlow fashionคือการสนับสนุนให้ผู้คนใส่เสื้อผ้าโดยมีการนำกลับมาใช้ซ้ำเรื่อยๆเป็นเวลานาน หรือใส่นานที่สุดเท่าที่ได้ และยังมีอีกคอนเซปต์ที่ว่าไม่จำเป็นต้องซักเสื้อผ้าบ่อยครั้ง เป็นแนวคิดที่เรียกได้ว่าถ้าใครที่อยู่เมืองร้อนต้องไม่ไหว เพราะด้วยอุณหภูมิที่สูงจึงร้อนมากอย่างประเทศไทย แม้ว่าจะพยายามหาเสื้อผ้าที่มีความระบายความร้อน หรือโล่ง ก็ยังคงไม่สามารถตอบโจทย์ของแนวคิดนี้ได้ เพราะด้วยเหงื่อที่ไหลอยู่ตลอดเวลาเพียงแค่เดินไปหน้าบ้านก็ตาม และปัจจุบันหลายแบรนด์ก็ได้มีการใช้เทคนิคในการผลิตเป็น greenwashingที่เป็นกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและยั่งยืนในอนาคต แต่เมื่อตรวจสอบหรือศึกษาจริงๆ ก็เป็นเพียงการโปรโมทด้านการตลาดให้กับแบรนด์ และให้ผู้ซื้อรู้สึกสบายใจเวลาซื้อเพียงเท่านั้นเพราะผลสุดท้ายคือไม่ได้ช่วยอะไรเลยเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม ฉะนั้นผู้คนเลยออกมาเรียกร้องให้สนับสนุนเสื้อผ้าที่มาจากท้องถิ่นหรือมีกระบวนการผลิตแบบจบในท้องถิ่นเป็นหลักเพื่อที่จะสามารถตรวจสอบได้ง่าย และไม่เป็นการเอารัดเอาเปรียบแรงงานจนเกินไป

✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿

3 ทริคเลือกเสื้อผ้ายังไงให้ใส่นานที่สุด ?

วิธีเลือกเสื้อผ้า วิธีที่ 1 เลือกเสื้อผ้าที่สามารถสวมใส่ได้นานๆ

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/02/85/d3/0285d3fa8fc8a27681b2aea26ec7b683.jpg

เทคนิคของการเลือกเนื้อผ้าที่สามารถใส่ได้นานๆ คือ การที่เรารู้จักกับชนิดของเนื้อผ้าว่ามีแบบไหนบ้าง และการเลือกเส้นใยของเนื้อผ้าที่คงทนอย่างที่ เดอ แคสโท ได้กล่าวว่า เสื้อผ้าที่ทำมาจากเส้นใยจากธรรมชาตินั้นมีความคงทนและสามารถนำไปรีไซเคิลได้ในอนาคต และยังแนะนำอีกว่าควรเป็นเส้นใยชนิดเดียวกันทั้งชุดเช่นเสื้อผ้าที่ผลิตจากฝ้าย 100%เป็นต้น

และการเลือกเสื้อผ้าอีกอย่างที่สามารถใช้ไปได้นานๆ คือดูจากการเย็บหรือร่องรอยตะเข็บว่ามีคุณภาพไหมโดยสิ่งที่ควรทำก่อนการเลือกซื้อคือต้องกลับด้านเสื้อผ้าออกมา และดึงด้ายทุกเส้นที่มองเห็น หากเสื้อผ้าที่ได้รับการผลิตที่ไม่ได้มาตราฐานก็จะมีการหลุดลุ่ยได้ง่าย ดังนั้นแล้วควรเลือกดีๆ

วิธีเลือกเสื้อผ้า วิธีที่ 2 ทำความสะอาดเสื้อผ้าให้ถูกวิธี

รูปภาพ:

เสื้อผ้าหากนำไปซักบ่อยๆ ความเสื่อมของเนื้อผ้าย่อมตามมาอยู่แล้ว แต่ก็ยังคงมีวิธีที่สามารถถนอมเนื้อผ้าให้อยู่กับเราไปนานๆ คือ อันดับแรกเราต้องเข้าใจก่อนว่าเสื้อผ้าแต่ละชนิดนั้นมีการดูแลที่แตกต่างกันออกไปอย่างเช่นชุดสูทผู้ชายที่ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อการซักแต่ออกแบบมาเพื่อให้ทำความสะอาดด้วยการแปรง และเมื่อต้องซักผ้าแน่นอนว่าปัจจุบันการใช้เครื่องซักผ้านั้นเป็นสิ่งที่ทุกบ้านก็คงใช้กัน เพราะประหยัดเวลาและประหยัดแรง ดังนั้นหากเราจะซักผ้าด้วยเครื่องซักผ้าการถนอมผ้าที่ดีคือนำผ้าไปใส่ถุงซักผ้าก่อน เพื่อลดการเสื่อมสภาพ และการปฎิบัติตามคำแนะนำของเสื้อผ้าที่แนบมาให้ ว่าสามารถใช้ความร้อนมากน้อยเพียงใดด้วยนั่นเอง และต้องดูประเภทเนื้อผ้าด้วยว่าเหมาะแก่การซักมือหรือซักด้วยเครื่องเพราะถ้าซักผิดเมื่อไรเสื้อผ้าก็สามารถผิดแปลกไปได้ทันที

วิธีเลือกเสื้อผ้า วิธีที่ 3 เก็บเสื้อผ้าให้อยู่กับเราไปนานๆ

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/23/5d/31/235d319874ce5b4e1c22d1864a119892.jpg

การจัดเสื้อผ้าเป็นการดูว่าเรายังใช้ตัวไหนอยู่บ้าง หรือตัวไหนที่เรายังไม่อยากใส่การจัดระเบียบเสื้อผ้าจะช่วยให้เรานั้นรู้ว่ามีเสื้อผ้าตัวไหนที่ควรพับเก็บไว้หรือนำมาแขวนเพื่อใช้วันถัดไป ยิ่งเป็นเสื้อผ้าที่เป็นแบรนด์เนมหรือราคาแพงที่ต้องมีการทะนุถนอมมากเป็นพิเศษก็ควรที่จะหาถุงที่ป้องกันฝุ่นแมลง หรือตัวไรมาเกาะกับเสื้อผ้าเราได้และยังเป็นการถนอมให้เสื้อผ้าไม่เสื่อมสภาพ และเมื่อพบว่ามีเสื้อผ้าที่ชำรุด ก็ให้ลองนำมาปรับแก้พื้นฐานดูก่อนว่าสามารถแก้ไขอะไรได้ไหม หรือหากเปื้อนเราสามารถซักออกได้หรือเปล่า เผื่อเป็นการรักษาเสื้อผ้าและสามารถเก็บไปใช้ต่อไปนานๆ

✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿

อย่างนั้นแล้วกระแสของSlow Fashionที่ออกมาอาจจะยังคงไม่ตอบสนองต่อปัญหาโดยตรงได้ เพราะยังคงมีช่องโหว่หรือประเด็นบางอย่างที่นำมาถกเถียงได้เสมอ รวมถึงประเด็นของ Fast Fashion ที่ยังไม่หายไปแม้ว่าหลายแบรนด์จะออกการผลิตหรือผลักดันสินค้าที่สามารถนำกลับมารีไซเคิลได้ก็ยังคงไม่สำคัญมาก เพราะกระแสที่ยังมีมาเรื่อยๆ แบบไม่หายไปแม้ว่าทุกคนจะออกมาต่อต้านกลุ่มนี้แล้วก็ตาม ดังนั้น Fast fashion ก็ยังคงอยู่ได้ต่อไปเรื่อยๆ

บทความแนะนำ ที่ซิสต้องไม่พลาด