ไหน ๆ ชาวซิสสายรักสัตว์อยู่ไหน มารวมตัวกันตรงนี้หน่อยเร็วว บทความนี้อยากเอาใจสายรักสัตว์ หรือใครที่กำลังมีแพลนอยากรับน้องสัตว์น้อยน่ารักมาเลี้ยงดู อย่างที่เราพอรู้กันว่าสัตว์แต่ละตัว มีนิสัย การใช้ชีวิตที่ไม่เหมือนกันเลย บางคนเลยไม่มั่นใจว่าตัวเราเองเหมาะกับสัตว์เลี้ยงแบบไหน หรือว่ามีแรงและกำลังพอที่จะเลี้ยงสัตว์เหล่านี้ไหวรึเปล่า บทความนี้เลยหยิบเอา คำแนะนำการเลี้ยงสัตว์เลี้ยง แต่ละประเภทมาฝากเพื่อน ๆ เป็นตัวเลือกในการตัดสินใจกันด้วย ว่า เราเหมาะกับสัตว์เลี้ยงอะไร และควรเลี้ยงสัตว์อะไรถึงจะเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของเรา ตามไปดูกัน


คนที่เหมาะเลี้ยงหมาพันธุ์ใหญ่


รูปภาพ:

  • ต้องมีพื้นที่กว้างและเวลามากพอ เพราะด้วยขนาดตัวของสุนัขพันธุ์ใหญ่ และด้วยนิสัยของหมาพันธุ์ใหญ่มักจะมาพร้อมกับ Energy เยอะ แรงเยอะ คนที่เหมาะกับการเลี้ยงหมาใหญ่เลยต้องมีพื้นที่กว้างขวาง เพื่อให้น้องได้วิ่งเล่น ปลอดปล่อยพลังงาน และนิสัยของสุนัขค่อนข้างต้องการได้รับความรัก เลยต้องมีเวลามาก ๆ พอ เพื่อเล่นกับน้อง ๆ พาน้องหมาใหญ่ไปวิ่งเล่นด้วย

  • ต้องมี Energy เยอะ อย่างที่บอกไปว่าหมาพันธุ์มาพร้อมกับแรงค่อนข้างเยอะ และต้องวิ่งเล่น กระโดดโลดเต้นปลดปล่อยพลังออกมา จะช่วยลดความเครียดของน้องหมาลงได้ด้วย เจ้าของเลยควรมีพลังเยอะให้พอ ๆ กับน้อง ๆ จะได้รับแรงเยอะ ๆ จากน้องหมาใหญ่ได้ด้วย

  • ต้องเป็นสายกิน เป็นนักโภชนาการ เพราะด้วยขนาดตัวของน้องหมาที่ตัวใหญ่ อาหารการกินก็ต้องมีปริมาณเยอะพอ ๆ กับขนาดตัว และถ้าอยากให้น้องหมาใหญ่สุขภาพดี อาหารที่ให้ต้องมีโภชนาการครบถ้วนแม่นยำ เพื่อให้เพียงพอเหมาะสมกับร่างกายสุนัขพันธุ์กลาง พันธุ์ใหญ่ในแต่ละวันด้วย ส่วนประกอบของอาหารจะเน้นไปทางโปรตีน แคลเซียม ฟอสฟอรัส ดูแลในเรื่องการให้พลังงาน บำรุงกระดูก ไขข้อ ฟันให้แข็งแรงสมบูรณ์ มีโอเมก้า 3 และ 6 ช่วยดูแลผิวหนัง บำรุงขนให้สวยเงางาม

  • มีนิสัยและไลฟ์สไตล์เข้ากับน้องหมา น้องหมาใหญ่แต่ละสายพันธุ์ก็มีนิสัยแตกต่างกัน บางสายพันธุ์เหมาะกับการเลี้ยงเพื่อป้องกันอันตราย เช่น ร็อตไวเลอร์ (Rottweiler) พิตบูล (Pit bull) บางแก้ว (Thai Bangkaew) เยอรมันเชพเพิร์ด (German Shepherd) ส่วนบางสายพันธุ์ก็ไม่ได้ดุ หรือพลังเยอะทุกตัว บางสายพันธุ์ใจดีเหมาะกับการเลี้ยงคู่กับเด็ก เช่น โกลเด้น (Golden Retriever) บิชอง ฟริเซ่ (Bichon Frise) ลาบราดอร์ (Labrador Retriever) ไอริช เซตเทอร์ (Irish Setter) บลูด็อก (Bulldog) บลูเทอร์เรีย (Bull Terrier) บีเกิล (Beagle) วิซสลา (Vizsla) นิวฟาวด์แลนด์ (Newfoundland)

คนที่เหมาะเลี้ยงหมาพันธุ์เล็ก


รูปภาพ:

  • ต้องมีพื้นที่เหมาะสม ของใช้ไม่สูงจนเกินไป ด้วยความที่ขนาดตัวของหมาตัวเล็ก คนและของในบ้านที่ล้วนใหญ่โตสูงกว่าน้องทั้งหมด จึงต้องดูให้ดีว่าของใช้ภายในบ้านไม่สูงใหญ่มากเกินไป เพราะอาจจะทำให้น้องหมาเล็กรู้สึกไม่สบายใจ และรู้สึกได้ว่าตัวเองถูกคุมคามขึ้นได้ อย่างเช่น ถ้าเราอนุญาตให้น้องหมาเล็กขึ้นไปนั่งบนเฟอร์นิเจอร์ได้ ควรดูว่าโซฟาอยู่สูงเกินไปมั้ย น้องหมาต้องกระโดดสูงขนาดไหน? สามารถก้าวขึ้นไปบนเฟอร์นิเจอร์อื่น ๆ ทีละขั้น เพื่อขึ้นไปอยู่บนเฟอร์นิเจอร์ที่สูงกว่าได้รึเปล่า?

  • เป็นสาย Healthy ควบคุมอาหารการกิน น้องหมาพันธุ์เล็กต้องการแคลอรี่ต่อน้ำหนักตัวที่มากกว่า เพราะไม่สามารถสะสมพลังงานแบบที่ลูกสุนัขพันธุ์ใหญ่สามารถทำได้ น้องหมาจึงต้องการอาหารมื้อเล็ก ๆ หลาย ๆ มื้อที่มีแคลอรี่สูง และเพื่อให้มั่นใจว่าน้องจะได้รับแคลอรี่ที่เพียงพอ ควรอ่านคำแนะนำในการให้อาหารที่ฉลากบรรจุภัณฑ์ และปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อรับคำแนะนำในการให้อาหารที่เหมาะสม

  • ต้องมีอุปกรณ์ที่พร้อมสำหรับขนาดตัวเล็ก ๆ ของน้อง ด้วยขนาดตัวของน้องหมาพันธุ์เล็กมาพร้อมกับไซส์มินิ จึงควรมีอุปกรณ์ของใช้ ทั้งเบาะนอน ชามใส่น้ำและอาหาร สายจูงและปลอกคอที่เหมาะกับขนาดตัวของน้อง เพื่อน้องหมาเล็กสามารถใช้งานได้สะดวก

  • ต้องมีเวลาให้ น้องหมาพันธุ์เล็กมีการใช้พลังงานที่แตกต่างจากสายพันธุ์ใหญ่ เนื่องจากมีพื้นผิวต่อน้ำหนักตัว 1 kg. ที่มากกว่า เจ้าตัวเล็กมักใช้พลังงานกับการทำงานปกติของร่างกาย เช่น การทำให้ร่างกายอบอุ่น หรือแม้กระทั่งการวิ่งเล่นทั่วไป ที่สูงกว่าหมาพันธุ์ใหญ่ด้วย

คนที่เหมาะเลี้ยงแมว


รูปภาพ:

  • ต้องมีความใส่ใจเรื่องความสะอาด ธรรมชาติของแมวน้องค่อนข้างรักสะอาด สังเกตได้จากการชอบเลียขนตัวเอง ถึงแม้ว่าแมวจะอาบน้ำได้ แต่น้องแมวก็ไม่ค่อยปลื้มเท่าไรเวลาจังอาบน้ำ หนึ่งในวิธีการจะสานสัมพันธ์ระหว่างแมวกับทาสแมวคนเลี้ยง คือการมองหาหวีและแปรงมาช่วยแปรงขนสลวย ๆ ให้นุ่มพริ้วไสว เงางาม พร้อมกำจัดขนเก่าที่หลุดร่วงออกมา เพื่อให้การเลียขนของน้องเหมียวสมูทมากยิ่งขึ้น

  • ต้องมีพื้นที่สำหรับน้องแมว น้องแมวเป็นสัตว์ค่อนช้างรักอิสระ และนอกจากนั้นยังมีนิสัยชอบเกา ชอบฝนเล็บ ถ้าเกิดไม่มีพื้นที่ให้น้องได้วาดลวดลายลงเล็บ น้องอาจจะไปฝากร่องรอยไว้ที่ขาโต๊ะ ขาตู้ หรือเฟอร์ในเจอร์ต่าง ๆ ภายในห้องได้ จึงควรมีพื้นที่นอน พื้นที่วิ่งเล่น ฝนเล็บสำหรับน้องแมวด้วย

  • เป็นสาย Healthy วางแผนสุขภาพให้น้องแมว เรื่องสุขภาพของน้องแมวก็สำคัญ และน้องแมวควรได้รับวัคซีนที่จำเป็นเมื่ออายุครบ 2 เดือนขึ้นไป อย่างเช่น วัคซีนโรคพิษสุนัขบ้าในแมว วัคซีนโรคหัดแมว วัคซีนโรคเอดส์แมว วัคซีนโรคไข้หวัดแมว และวัคซีนโรคลูคีเมียในแมว เพื่อสุขภาพที่ดีแข็งแรง และควรเข้ารับวัคซีนกระตุ้นซ้ำทุก ๆ ปีอีกด้วย

  • ต้องมีอุปกรณ์ที่พร้อมสำหรับน้องแมว สำหรับน้องแมวที่เลี้ยงในระบบปิด อุปกรณ์ของใช้ อย่าง ที่นอน ที่ฝนเล็บ กระบะทรายแมว หรือห้องน้ำแมว ชามอาหาร ปลอกคอ สายจูง รวมไปถึงของเล่น ก็เป็นสิ่งหนึ่งสำคัญทที่ควรเตรีบมไว้ให้น้อง เพื่อให้น้องใช้ชีวิตได้สะดวก และยังช่วยเสริมสร้างพัฒนาการของน้องแมวด้วย

คนที่เหมาะเลี้ยงหนู


รูปภาพ:

  • ต้องมีความเงียบสงบ ใจเย็น สำหรับใครที่อยากเลี้ยงหนู โดยเฉพาะหนูแฮมเตอร์ ต้องมั่นใจว่าเราเป็นมีความเงียบสงบ หรืออยู่ในบรรยากาศเงียบสงบ เพราะน้องหนู โดยเฉพาะแฮมเตอร์ เป็นสัตว์ที่ตกใจง่าย เมื่อหนูตกใจจะรู้สึกไม่ปลอดภัย และนอกจากเสียงดังแล้ว สิ่งที่หนูไม่ชอบ ก็คือการถูกสัตว์อื่นรบกวน การต้องอยู่รวมกันกับหนูตัวอื่น การถูกไล่จับ โดยเฉพาะจากด้านบนหรือจับตอนที่เขาไม่รู้ตัว การถูกรบกวนตอนนอน หรือการจับหรือเล่นที่รุนแรง เวลาเล่นกับน้องควรเบามือ และค่อย ๆ เข้าหาน้องกันด้วยน้า

  • ต้องมีพื้นที่สำหรับกรงที่กว้างขวาง อุณหภูมิเหมาะสม สำหรับกรงหนูควรเป็นกรงที่มีพื้นที่กว้างขวางพอที่จะให้น้องวิ่งเล่นและปีนป่ายได้อย่างคล่องตัว ควรเป็นกรงพลาสติก กรงเหล็ก หรือกรงที่ระบายอากาศได้ดี จัดวางกรงในบริเวณที่เงียบสงบ รองกรงต้องซับน้ำและกลิ่นได้ดี ไร้ฝุ่น นุ่มสบาย ไม่แต่งสีและกลิ่น เช่น ขี้เลื่อย ไม้แอสเพน และรองกรงที่ทำมาจากกระดาษ และควรมีอุณภูมิที่เหมาะสม ถ้าอากาศร้อนเกินไป หนูจะกินอาหารน้อยลง เนื่องจากคิดว่าไม่จำเป็นต้องสะสมไขมันในร่างกาย

  • ต้องมีอุปกรณ์ที่พร้อมให้หนูได้วิ่งเล่น น้องหนูเป็นสัตว์ที่ชอบวิ่งออกกำลังกาย ในแต่ละคืน น้องๆจะใช้เวลาออกกำลังกายประมาณ 3-4 ชั่วโมงเลยทีเดียว อุปกรณ์หนึ่งที่ต้องมีในกรงน้องเลยก็คือวงล้อให้น้องได้วิ่งเล่นออกกำลังกาย และบ้านส่วนตัว เพราะน้องเป็นสัตว์ขี้ตกใจ ชอบความเงียบ ควรมีที่หลบซ่อนให้รู้สึกปลอดภัยและอุ่นใจมากขึ้น

คนที่เหมาะเลี้ยงนก


รูปภาพ:

  • ต้องมีพื้นที่ที่เป็นธรรมชาติ ด้วยความที่นก ก็เป็นอีกหนึ่งสัตว์ที่ค่อนข้างอิสระ แถมยังมีปีกบินได้ตามใจ การเลี้ยงนกไว้ในกรงอย่างเดียวในที่แคบ ๆ หรือห้องแคบ ๆ อาจจะไม่เหมาะ และอาจจะทำให้นกเครียด ควรหาสถานที่มีความกว้างขวาง และถ้าเกิดมีความเป็นธรรมชาติด้วยจะยิ่งดี เพื่อให้นกรู้สึกเหมือนกันได้อยู่ในป่า

  • ต้องมีความช่างสังเกต การเลี้ยงนกลองสังเกตพฤติกรรมของน้องกันด้วย ว่ามีพฤติกรรมหรือว่าอาการอะไรแปลกไปรึเปล่า เช่น ซึมลง ขนฟู กินอาหารน้อย แสดงว่านกไม่ปกติ หรือเป็นโรคขึ้นได้ ถ้ารู้สึกว่าน้องมีอาการแปลกไป ไม่ค่อยดีก ควรทำการรักษาและนำส่งให้สัตวแพทย์ทันที

  • ต้องมีระเบียบ เนื่องจากนกค่อนข้างเป็นสัตว์รักอิสระ เลยจำเป็นต้องฝึกน้องเพื่อป้องกันไม่ให้นกเตลิดหายเข้าป่า นกบางชนิดก็อาจจะสามารถอยู่ในกรงตลอดได้ แต่นกบางชนิดก็อาจจะต้องเอามาให้สัมผัสกับธรรมชาติที่แท้จริงบ้าง ให้น้องออกมาเล่นนอกกรงสักวันละ 30 นาที หรือ 1 ชั่วโมง ฝึกน้องกินอาหาร หรือฝึกพูดคุยกับน้อง น้องจะได้รับรู้ว่าเป็นสัตว์เลี้ยงและมีเจ้าของ

  • ต้องมีความใส่ใจ มีเวลาให้ นกบางประเภทจะต้องกินอาหารตลอด โดยการให้อาหารทีละน้อย หรือนกบางอย่างก็จะกินเป็นเวลา ควรใส่ใจในการให้อาหาร และก่อนเลี้ยงควรศึกษาเข้าใจพฤติกรรมการกินของนกแต่ละชนิดก่อน และนกเป็นสัตว์ที่มีอายุขัยยืนยาว ช่วงอายุของนกอยู่ได้นานพอ ๆ กับคนเราเลย ก่อนเลี้ยงควรศึกษาให้ดี และมั่นใจว่าเราสามารถเลี้ยงและอยู่กับน้องไปได้ตลอดจนน้องสิ้นอายุขัย

คนที่เหมาะเลี้ยงกระต่าย


รูปภาพ:

  • ต้องมีความอบอุ่น ใส่ใจ ก่อนเลี้ยงกระต่ายควรอุ้มน้องให้ถูกวิธีอย่างทะนุถนอม ด้วยการอุ้มเหมือนเด็กทารก ใช้มือข้างนึงสอดเข้าไปใต้ขาหน้าทั้ง 2 ข้าง แล้วใช้มืออีกข้างประคองที่ก้นของน้องเอาไว้ และเห็นว่าน้องหูยาว แต่จะดึงหูน้องกระต่ายไม่ได้เด็ดขาดเลยนะ เพราะตรงใบหูของกระต่าย เป็นส่วนที่ละเอียดอ่อนมาก มีทั้งเส้นเลือดและเส้นประสาทอยู่มากมาย เรียกได้ว่าเป็นจุดตายของกระต่ายได้เลย

  • ต้องรักษาความสะอาด เพราะโดยธรรมชาติน้องกระต่ายเป็นสัตว์ที่รักความสะอาด และมักจะอาบน้ำบ่อย ๆ ด้วย และโดยปกติน้องกระต่ายมักจะผลัดขนปีละ 2 ครั้ง เลยต้องหมั่นแปรงขนให้กระต่าย เพื่อกำจัดขนส่วนเกินออกให้หมด เพื่อไม่ให้น้องกินขนตัวเองเข้าไป อาจจะทำให้เกิดปัญหาการย่อยอาหารอย่างรุนแรงได้

  • ต้องเป็นคนช่างสังเกต กระต่ายมีพฤติกรรมมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีความแตกต่างสัตว์เลี้ยงทั่วไป อย่างน้องหมา น้องแมว จึงควรหมั่นสังเกตพฤติกรรมของน้อง เรียนรู้เกี่ยวกับภาษากายที่เป็นเอกลัษณ์ เช่น นอนเหยียดยาว คือ อยากนอนพักไม่ต้องการรบกวน ทำหัวตก คือ อยากให้ทำความสะอาดให้ เอาจมูกมาดุน ๆ คือ อยากให้กอดและลูบหัว ฯลฯ

  • ต้องมีพื้นที่ที่ดี เหมาะสำหรับน้องกระต่าย สำหรับกรงของน้องกระต่ายควรมีระดับที่สูงพอที่น้องจะไม่กระโดดออกมาได้ หรือทำหลังคากันแดด กันฝน กันลมให้น้อง มีประตูปิดแน่นหนาและมั่นใจว่ามิดชิดพอที่น้องจะไม่หลุดออกมา และสัตว์อื่นๆ เช่น งู สุนัข แมว เข้าไปทำร้ายน้องไม่ได้ ปูพื้นกรงด้วยหญ้าหรือฟางจะช่วยเพิ่มความอบอุ่นในตอนกลางคืน ส่วนใครเลี้ยงแบบนอกกรง ควรฝึกน้องกระต่าย ควรสอนให้น้องมีการขับถ่ายเป็นที่เป็นทาง ทุกครั้งที่เห็นท่าทางของน้องมีอาการอยากจะฉี่หรืออึ ให้รีบอุ้มน้องไปยังบริเวณนั้น ฝึกจนกระทั่งน้องเริ่มชินกับพื้นที่ขับถ่ายและกลิ่นฉี่บริเวณนั้น และน้องจะเริ่มเรียนรู้ได้เอง

คนที่เหมาะเลี้ยงปลา


รูปภาพ:

  • ต้องมีความใส่ใจเป็นพิเศษ ถึงแม้ว่าจะดูเป็นสัตว์ที่เลี้ยงง่ายอยู่ในตู้ปลา แต่รายละเอียดของตู้ปลาเป็นเรื่องที่ต้องใส่ใจมาก ๆ ทั้งเรื่องของตกแต่งที่อยู่ในตู้ปลามีความปลอดภัยขนาดไหน และโดยเฉพาะเรื่องของน้ำ น้ำต้องไม่มีคลอรีน เพราะคลอรีนเป็นพิษสำหรับปลา ควรพักน้ำให้คลอรีนระเหยจนหมด หรืออาจใช้สารโซเดียมไธโอซัลเฟตหรือสารจับคลอรีนเพื่อเร่งให้คลอรีนหมดเร็วขึ้น เปิดเครื่องกรองน้ำให้ทำงานก่อนปล่อยปลาลงตู้ เพื่อปรับสมดุลแก่จุลินทรีย์ ล้างเครื่องกรองน้ำด้วยน้ำเลี้ยงปลาเดิม เพื่อรักษาจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ และควรมีการตรวจคุณภาพน้ำอยู่เป็นประจำด้วย

  • ต้องมีเวลาคอยให้อาหาร การให้อาหารปลา อาจจะแบ่งเป็น 2-3 ครั้งต่อวันก็ได้ ควรให้น้อยแต่บ่อยครั้ง ไม่มากเกินไปจนเหลือ ลองสังเกตจากอาหารปลาที่กินไม่หมด และตักอาหารที่เหลือออกหลังจากให้อาหาร 15-20 นาที เพราะอาหารเหลืออาจจะทำให้สภาพแวดล้อม และสภาพน้ำเปลี่ยน ทำให้ปลาป่วยได้

  • ต้องมีพื้นที่ปลอดโปร่ง มีอุณหภูมิคงที่ อุณหภูมิน้ำเป็นสิ่งที่สำคัญ ปลาสวยงามในเขตร้อน เช่น ปลามังกร ปลาหมอสี อุณหภูมิที่เหมาะสม อยู่ที่ 28 – 30 องศาเซลเซียส ใครอยากเลี้ยงปลาในห้องแอร์ ไม่ควรให้ตู้ปลาอยู่ในบริเวณที่แอร์ตก หรือใช้ใช้ฮีตเตอร์หรือเครื่องทำความร้อนในตู้ปลาไปด้วย และการจัดวางตู้ปลาใกล้ประตูหรือบริเวณทางเดิน อาจจะทำให้ปลาตื่นตกใจจากแสงตกกระทบ ทำให้ปลาชนตู้และกระโดดออกจากตู้ได้

  • ต้องมีอุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้ในการเลี้ยงปลา นอกจากตู้หรืออ่างที่จะใช้ในการใส่ปลาแล้ว ยังมีอุปกรณ์อื่น เช่น ปั๊มลม ปั๊มลมมีหน้าที่ในการดันลมลงไปในน้ำเพื่อให้เกิดฟอง เพื่อเพิ่มอากาศในน้ำ ช่วยให้ปลาได้รับออกซิเจนที่เพียงพอในการหายใจ

คนที่เหมาะเลี้ยงสัตว์ Exotic Pet


รูปภาพ:

ก่อนศึกษาวิธีเลี้ยงสัตว์ Exotic ลองมาทำความรู้จักกันก่อนว่า Exotic Pet เป็นยังไง สำหรับ Exotic Pet คือ สัตว์แปลก สัตว์หายาก หรือสัตว์ป่า แต่ในประเทศไทยส่วนใหญ่แล้วจะหมายถึง “สัตว์เลี้ยงชนิดพิเศษ” ที่จำเป็นต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษตามชื่อเรียกของน้อง


Exotic Pet แบ่งเป็น 6 ประเภทหลัก ๆ ได้แก่

  • กลุ่มสัตว์เลื้อยคลาน เช่น อีกัวน่า กิ้งก่า มังกรเครา งู หรือเต่างๆ
  • กลุ่มสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ เช่น กบลูกศรพิษ กบโกไลแอท กบแคระแอฟริกัน กบนา กบมะเขือเทศมาดากัสการ์ กบแอฟริกันบูลฟร็อก หรือซาลาแมนเดอร์
  • กลุ่มสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง เช่น ด้วง หรือแมงมุมทารันทูล่า
  • กลุ่มสัตว์ปีก เช่น นกคอกคาเทล นกแก้วมาคอร์ นกเหยี่ยว หรือนกยูง
  • กลุ่มปลาแปลก เช่น ปลาปักเป้าฟาฮากา หรือปลาเทพา
  • กลุ่มสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เช่น กระต่าย เฟอเรท แฮมสเตอร์ สุนัขจิ้งจอก แรคคูน แพรีด็อก เมียแคท บุชเบบี้ หรือชูการ์ไกลเดอร์

  • ต้องศึกษากฎหมายให้แน่ชัดก่อน อย่างที่ได้บอกไปว่าสัตว์ Exotic Pet คือสัตว์แปลก สัตว์หายาก หรือสัตว์ป่า เพราะฉะนั้นสัตว์บางตัวอาจจะไม่ได้รับอนุญาตให้นำมาเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยง จึงควรต้องศึกษากฎหมายให้แน่ชัดก่อนว่าสัตว์ตัวนั้นสามารถเลี้ยงได้มั้ย หนึ่งสิ่งที่ควรศึกษาก็คือ อนุสัญญาไซเตส (CITES) เป็นอนุสัญญาที่ว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งควบคุมไม่ให้มีการค้าสัตว์ป่าและพืชพรรณระหว่างประเทศที่อาจทำให้เกิดภัยคุกคามต่อความอยู่รอดของสัตว์ป่าและพืชพรรณเหล่านั้น

  • ต้องมีพื้นเหมาะสมกับ Exotic Pet เนื่องจาก Exotic Pet เป็นสัตว์แปลก สัตว์หายาก และส่วนใหญ่คือมีถิ่นอาศัยอยู่ในป่า ก่อนเลี้ยง Exotic Pet จึงควรศึกษาถึงที่อยู่อาศัย อาหารการกินของสัตว์เหล่านี้ให้ดี เพื่อช่วยให้น้องสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขแล้ว ยังช่วยให้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง เช่น

- สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ ควรอาศัยในที่ที่มีน้ำและพื้นดิน

- สัตว์ปีก หรือนก เป็นสัตว์เลี้ยงที่ดูแลค่อนข้างง่าย ไม่จำเป็นต้องดูแลตลอดเวลา แต่ต้องมีกรงขนาดใหญ่พอให้นกได้บินเล่น

- สัตว์เลื้อยคลาน เป็นสัตว์เลือดเย็น บางชนิดจำเป็นต้องใช้แสงยูวีเพื่อช่วยควบคุมอุณหภูมิร่างกาย และจำเป็นต้องมีขนาดกรงที่เหมาะสมกับขนาดตัว

- แมลงและแมง เป็นสัตว์ที่ดูแลไม่ยาก สามารถอาศัยอยู่ในกล่องที่จำลองให้มีลักษณะใกล้เคียงกับแหล่งที่อยู่อาศัยได้ โดยไม่ต้องใช้พื้นที่เยอะ แต่จะต้องระมัดระวังเรื่องของพิษ


  • ต้องมีความพร้อม มีทุนทรัพย์เพียงพอ ด้วยความที่ Exotic Pet เป็นสัตว์ชนิดพิเศษ ในเรื่องของการดูแลและการรักษาจึงมีค่าใช้จ่ายที่สูงตามไปด้วย และ Exotic Pet บางตัวอาจเป็นสัตว์มีพิษ ต้องระมัดระวังไม่ให้สัตว์เหล่านี้หลุดรอดออกไปข้างนอก ถ้าเกิดหลุดออกไปข้างนอก แล้วสามารถมีชีวิตรอด และสืบพันธ์ุได้ ก็อาจทำให้ระบบนิเวศเสียสมดุลได้


✩✩✩✩✩✩✩✩✩✩✩✩✩✩✩✩✩✩✩✩✩✩✩✩✩✩✩✩✩✩✩✩


สรุป

และนี่ก็คือ คำแนะนำการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงแต่ละประเภท ที่เราหยิบมาฝากเพื่อน ๆ ในบทความนี้ เราเหมาะกับสัตว์เลี้ยงอะไร ? หวังว่าจะได้คำตอบและช่วยในการตัดสินใจสำหรับการเลือกเลี้ยงสัตว์ได้บ้างนะคะ ใครอยากมีสัตว์เลี้ยงของตัวเอง ลองศึกษาข้อมูล ศึกษานิสัยและไลฟ์สไตล์ของสัตว์แต่ละชนิด ว่าเหมาะกับเรามั้ย และจากคำแนะนำทั้งหมดเราว่าสิ่งที่คนเลี้ยงควรมีเลยก็คือ การดูแลเอาใจใส่ใจที่ดีต่อสัตว์เลี้ยง เพราะสัตว์เลี้ยงก็มีชีวิต มีจิตใจ ควรได้รับความรักและการดูแลที่ดีจากเจ้าของ จริงมั้ยคะ?


ขอบคุณรูปภาพจาก istock

ข้อมูลอ้างอิงจาก






บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ