อีกไม่กี่วันก็จะเข้าสู่ เทศกาลแห่งความสุข อย่างวัน คริสต์มาส และ วันปีใหม่ แล้ว เรียกได้ว่าพร้อมโอบรับความสุขแบบยาว ๆ ตั้งแต่ช่วงสิ้นเดือนไปเรื่อยถึง ปีใหม่ เลยค่ะ! นี่คืออีกหนึ่งช่วงเวลาที่หลาย ๆ คนต่างรอคอย เพราะเป็นช่วงที่อบอวลไปด้วย งานเฉลิมฉลอง การได้พบปะพูดคุย การได้ ส่งมอบความสุข ให้กันและกัน และเป็นช่วงเวลาที่เราพร้อม เริ่มต้นสิ่งใหม่ ๆ พร้อม รีเซ็ต เรื่องเก่า ๆ
ด้วยเหตุนี้ หลายวัฒนธรรมจึงมีความเชื่อเกี่ยวกับช่วงเวลานี้มากมาย วันนี้ซิสจะพาชาวซิสไปดู ความเชื่อสุดว้าว เกี่ยวกับคริสต์มาสและปีใหม่ที่น่าสนใจจากหลายๆที่ของโลกกันค่ะ ไปดูกันเลย!
เลือกอ่านตามหัวข้อ

Ceppurii
Content Rookie
นักเขียนนิวบี้รุกกี้ของวงการ แต่ถึงจะเขียนได้ไม่นาน แต่จริงๆแอบอยู่หลังบ้านงานบิวตี้มานานเกือบ 5 ปี พร้อมแชร์ทริคและประสบการณ์สายบิวตี้กับชาวซิสทุกคน
ความเชื่อในวันคริสต์มาส-ปีใหม่ จากทั่วโลก
1. ทำไมต้องแขวนถุงเท้าในวันคริสต์มาสอีฟ ?

เพื่อน ๆ เคยสงสัยกันมั้ยว่า ทำไมต้อง แขวนถุงเท้าในคืน คริสต์มาสอีฟ? ความเชื่อเรื่องนี้เริ่มต้นจากตำนานสุดคลาสสิกของซานต้าต้นฉบับอย่าง นักบุญเซนต์ นิโคลัส หรือมีชื่อเต็ม ๆ ว่า นักบุญนิโคลัสแห่งไมรา (Saint Nicholas of Myra) นั่นเอง ท่านเป็นนักบุญที่มีชื่อเสียงในเรื่องของ ความเมตตา และมีเรื่องเล่าสุดใจบุญว่า มีพี่น้อง 3 คนที่ฐานะยากจนมาก ท่านจึงช่วยเหลือโดยแอบไป หย่อนเหรียญทอง ลงปล่องไฟ แล้วเหรียญทองก็บังเอิญตกลงไปใน ถุงเท้า ที่พวกเขานำมาแขวนไว้ที่ปล่องไฟพอดี!
นอกจากนี้ ยังมีอีกเรื่องเล่าว่า เวลาที่นักบุญนิโคลัสผ่านมา ท่านจะนำหญ้าแห้งไปให้ ลา ของท่านกิน แล้วท่านก็จะนำ เหรียญเงิน ใส่ไว้ในรองเท้าเพื่อเป็นค่าตอบแทน จากเรื่องราวเหล่านี้ก็กลายมาเป็น ธรรมเนียม การแขวนถุงเท้าไว้ที่เตาผิง หรือต้นคริสต์มาสอย่างที่เราเห็นกันในทุกวันนี้นั่นเองค่ะ
ด้วยความเมตตาและใจบุญของท่าน นักบุญนิโคลัสจึงได้รับการยกย่อง และกลายเป็นที่รู้จักในยุโรป จนในช่วงศตวรรษที่ 16 ท่านได้รับการยกย่องว่าเป็น บิดาแห่งคริสต์มาส และเมื่อชาวดัตช์เดินทางไปถึงสหรัฐอเมริกา ก็เรียกท่านว่า ‘ซินเตอร์คลาส’ (Sinterklaas) จากนั้นคำว่า ‘ซินเตอร์คลาส’ ก็กลายมาเป็น ซานตาคลอส แบบที่เราคุ้นเคยกันในปัจจุบันนั่นเองค่ะ! เป็นตำนานที่อบอุ่นหัวใจสุด ๆ เลยใช่ไหมล่า~
2. กำเนิดต้นคริสต์มาส

ซิสรู้มั้ยว่า ตำนานการเกิด "ต้นคริสต์มาส" สุดอลังการนั้น มาจาก ความบังเอิญเจอสิ่งสวยงาม! โดยเรื่องมีอยู่ว่า ขณะที่ มาร์ติน ลูเทอร์ ชายชาวเยอรมัน นักปฏิรูปศาสนาคนสำคัญ กำลังเดินกลับบ้านในคืนที่อากาศหนาวจัดอยู่นั้น เขาบังเอิญเหลือบไปเห็น แสงจันทร์ ที่ส่องผ่านกิ่งไม้ที่ปกคลุมด้วยหิมะ แล้วเกิดเป็นประกาย ระยิบระยับ สวยงามมาก! เขาก็เกิดความ ปิ๊งไอเดีย ขึ้นมาทันที! เขาจึงตัดต้นไม้ต้นเล็ก ๆ มาตกแต่งในบ้าน แล้วนำ เทียนไข มาประดับบนกิ่งไม้เพื่อจำลองแสงที่สวยงามในคืนนั้น เพื่อนบ้านมาเห็นก็เกิดความชอบ แล้วก็ทำตาม ๆ กัน จนการตกแต่งต้นไม้กลายเป็นที่นิยมไปทั่วเยอรมัน
ต่อมา ราชวงศ์อังกฤษ ก็ได้นำธรรมเนียมการตกแต่งต้นไม้นี้มาใช้อย่างจริงจังในช่วงคริสต์มาส ทำให้ธรรมเนียมการตกแต่ง ต้นคริสต์มาส ได้รับความนิยมแพร่หลายไปทั่วโลกเลยค่ะ เป็นเรื่องเล่าที่โรแมนติกสุด ๆ เลยใช่ไหมล่า~
3. มิสเซิลโท และ ฮอลลี

หากพูดถึงคริสต์มาส อีกสิ่งที่หลายคนนึกถึงก็คงหนีไม่พ้น "มิสเซิลโท" (Mistletoe)! ตามความเชื่อโบราณของชาวเคลต์ (Celts) นั้น มิสเซิลโท เป็นสัญลักษณ์ของ ชีวิตและความหวัง ส่วน ฮอลลี (Holly) เป็นตัวแทนของการ ปกป้องคุ้มครอง โดยมีความเชื่อว่าการนำฮอลลีไปห้อยที่ประตูบ้าน จะช่วยปกป้องสิ่งชั่วร้ายและช่วยปัดเป่าสิ่งไม่ดีออกไปได้ ซึ่งทั้งฮอลลีและมิสเซิลโทจึงมักจะถูกนำมาตกแต่งด้วยกันค่ะ
นอกจากนี้ ยังมี ตำนานสุดโรแมนติก ที่เชื่อกันว่า หากคู่รักได้ จูบกันใต้ต้นมิสเซิลโท ก็จะมีความรักที่ยืนยาวและรักกันตลอดไป แต่มีเรื่องเล่าที่ค่อนข้าง แซ่บ ในอดีตอีกว่า หากชายใดที่ได้จูบหญิงที่ตัวเองหมายปองใต้ต้นนี้ แล้วผู้หญิง ปฏิเสธ ชายผู้นั้นจะได้รับความ โชคร้าย ไปตลอดทั้งปี! แต่ถ้าผู้หญิงไม่ปฏิเสธก็จะกลายเป็นรักยืนยาวนั่นเองค่ะ เป็นธรรมเนียมที่ชวนให้ลุ้นระทึกไม่เบาเลยใช่ไหมล่า~
4. กินพาย 12 ชิ้น โชคดี 12 เดือน

"พายคริสต์มาส" (Christmas Pie) ไม่ได้แค่อร่อยอย่างเดียว แต่พายเป็นอาหารที่มี ความหมาย ลึกซึ้ง และการทำพายร่วมกันยังเป็นกิจกรรมที่สามารถ สร้างความอบอุ่นในครอบครัว ได้อีกด้วย!
ในอดีต การทำพายนั้นเป็นอะไรที่ค่อนข้างยาก ต้องใช้เวลาและส่วนผสมเยอะ ดังนั้นคนเลยนิยมทำอาหารชนิดนี้ในโอกาสพิเศษเท่านั้น โดยมีความเชื่อว่า การกินพาย 12 ชิ้น ในวันคริสต์มาส จะนำ โชคดี มาให้ตลอด 12 เดือนของปีหน้า และการ แบ่งพาย ให้แขกก็เหมือนการส่งต่อความสุขและคำอวยพร นอกจากนี้ ลักษณะสี่เหลี่ยมของพาย (แบบดั้งเดิม) นั้นยังสื่อถึง เปล หรือรางหญ้าที่พระเยซูประสูติอีกด้วยนะ! เป็นเมนูที่เต็มไปด้วยทั้งรสชาติและความหมายที่ดีงามจริง ๆ ค่ะ
5. เศษจาน = โชคลาภ

ท่องตำนานวันคริสต์มาสไปแล้ว มาท่อง ตำนานวันปีใหม่ กันบ้าง โดยเริ่มที่ ประเทศเดนมาร์ก กันก่อนเลย! บอกเลยว่า ชาวซิสจะต้อง อึ้งแบบสุด ๆ เพราะว่าชาวเดนมาร์กมี ธรรมเนียมแปลก ๆ ในการฉลองปีใหม่นั่นก็คือ... พวกเขาจะ เก็บสะสมจานและถ้วยชามที่แตก หรือไม่ได้ใช้ไว้ตลอดทั้งปี จากนั้นในคืนวันสิ้นปี พวกเขาจะนำจานเหล่านี้ไป เขวี้ยงใส่บ้าน ของเพื่อนหรือครอบครัว! ซึ่งเป็นการกระทำเพื่อแสดง ความรัก และส่งต่อ โชคลาภ ให้กันแบบไม่เหมือนใคร
แต่ถ้าบ้านไหนที่ไม่อยากดู รุนแรง เกินไป อาจจะแค่นำ เศษจาน ไปวางไว้หน้าประตูบ้านก็ได้เหมือนกันค่ะ พวกเขายังเชื่อกันอีกว่า ยิ่งบ้านมีเศษจานกองอยู่หน้าบ้านมากเท่าไหร่ ก็แปลว่าจะมีคน รัก และ คิดถึง เรามากเท่านั้น แถมเศษจานยังเชื่อกันว่านำ โชคดี มาให้ตลอดปีใหม่ด้วยนะ! เป็นการแสดงความรักที่ต้องระวังหัวกันหน่อยจริง ๆ ค่ะ!
6 . กินองุ่นให้ครบ 12 ลูก

มาต่อกันที่ธรรมเนียมจาก ประเทศสเปน กันบ้าง! ชาวสเปนมีความเชื่อว่า ในคืนวันที่ 31 ธันวาคม ก่อนเที่ยงคืน ให้เตรียม องุ่นไว้ 12 ลูก เมื่อเสียงนาฬิกาตีบอกเวลา 12 ครั้ง ในการตีแต่ละครั้ง เราจะต้อง กินองุ่น 1 ลูก ให้ทัน! โดยองุ่นแต่ละลูกเป็นตัวแทนของ โชคลาภ ในแต่ละเดือนของปีหน้านั่นเองค่ะ
ธรรมเนียมสุดท้าทายนี้เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2438 แต่เริ่มได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในปี พ.ศ. 2452 โดยชาวสวนในเมืองอาลีกันเตที่ต้องการ โปรโมตองุ่น ที่เก็บเกี่ยวในท้องถิ่น (เป็นแผนการตลาดที่ปังสุด ๆ!) นอกจากจะเป็นธรรมเนียมที่สนุกสนานและต้องแข่งกับเวลาแล้ว ยังมีความเชื่ออีกว่า การกินองุ่น 12 ลูก จะช่วยขับไล่สิ่งชั่วร้ายและนำ โชคดี มาสู่ชีวิตได้อีกด้วยค่ะ ใครอยากโชคดีตลอดปีหน้า ลองฝึกซ้อมกินองุ่นให้ทันกันดูนะคะ!
7. สิ่งกลม ๆ รอบกาย = รายล้อมด้วความโชคดี มั่งคั่ง

มาดูที่ ประเทศฟิลิปปินส์ กันบ้าง! ที่นี่ ของทรงกลม ถือเป็นสัญลักษณ์ของ ความโชคดีและความมั่งคั่ง ชาวฟิลิปปินส์จึงมีธรรมเนียมที่น่ารักในวันสิ้นปี นั่นคือการ ล้อมรอบตัวเองด้วยสิ่งของกลม ๆ อย่างเช่น การสะสม เหรียญ การเตรียม ผลไม้ทรงกลม 12 ชนิด หรือแม้กระทั่งการสวมใส่ เสื้อผ้าลายจุด (Polka Dots) ในวันปีใหม่ โดยมีความเชื่อว่า สิ่งของกลม ๆ เหล่านี้จะเป็นตัวแทนของความมั่งคั่งและความสำเร็จ
หากเราล้อมรอบไปด้วยสิ่งกลม ๆ ก็จะช่วย ดึงดูดความมั่งคั่ง และความเจริญรุ่งเรืองเข้ามาในปีใหม่ค่ะ เพราะวงกลมยังเป็นตัวแทนของ ความไม่สิ้นสุด เปรียบเสมือนความมั่งคั่งรุ่งเรืองที่ไม่มีวันจบสิ้นด้วยนั่นเอง! เป็นธรรมเนียมที่ทั้งน่ารักและมีสไตล์มาก ๆ เลยค่ะ!
8. กางเกงในสีนำโชค

มาดูธรรมเนียมสุดแซ่บจากประเทศแถบ อเมริกาใต้ อย่าง เม็กซิโก โบลิเวีย และบราซิล กันบ้าง! ที่นี่มีความเชื่อเรื่อง "กางเกงในสีมงคล" สุดปัง!
พวกเขาเชื่อกันว่าสีของ กางเกงใน ที่ใส่ในวันปีใหม่จะกำหนดโชคชะตาในปีนั้น ๆ เลยนะ! เช่น ถ้าใส่กางเกงใน สีแดง ก็จะมีโชคเรื่องความรักตลอดทั้งปี ถ้าใส่กางเกงใน สีเหลือง ก็จะมีโชคเรื่องเงินทองและความร่ำรวยตลอดปี และถ้าอยากมีความสุขตลอดปีให้ใส่กางเกงใน สีขาว
ยิ่งถ้าอยาก โชคดีแบบดับเบิ้ลคูณสอง ต้องใส่กางเกงในตัว ใหม่แกะกล่อง เท่านั้น! แถมถ้ากางเกงในตัวนั้นเป็น ของขวัญ ที่มีคนให้มานะ ก็จะยิ่งโชคดีแบบทวีคูณไปอีกค่ะ บางประเทศถึงกับมีธรรมเนียมสุดแปลก คือต้อง ใส่กางเกงในกลับด้าน ก่อนเที่ยงคืน แล้วค่อยเปลี่ยนกลับด้านให้ถูกเมื่อเวลา 00:00 น. เลยทีเดียว เป็นธรรมเนียมที่สนุกสนานและต้องเตรียมตัวก่อนวันปีใหม่ล่วงหน้าเลยใช่ไหมล่า~
9. แอบฟังน้องสัตว์เมาท์มอย ใส่ชุดหมี

ขอปิดท้ายด้วยอีกความเชื่อที่ น่ารักสุด ๆ มาจาก ประเทศโรมาเนีย ค่ะ! ชาวโรมาเนียเชื่อว่า ในคืนก่อนวันปีใหม่ ชาวนา บางคนจะพยายาม ฟังเหล่าสัตว์ในฟาร์ม ของตัวเอง เพราะเชื่อว่าในคืนนั้น สัตว์จะได้รับ พลังวิเศษ ที่ทำให้พูดคุยกันได้! หากพวกเขาได้ยินเสียงน้อง ๆ สัตว์พูดคุยกัน ก็จะได้ โชคลาภ และความเป็นสิริมงคลในปีหน้าด้วยค่ะ
นอกจากนี้ ชาวโรมาเนียยังมีธรรมเนียมที่โดดเด่นไม่แพ้กัน คือการ ใส่ชุดหมี ที่ทำมาจากขนของหมีจริง ๆ แล้ว เต้นรำ ไปตามท้องถนนเพื่อ ขับไล่วิญญาณร้าย ในวันปีใหม่ด้วย! เป็นธรรมเนียมที่ทั้งแปลกและเต็มไปด้วยสีสันแห่งความหวังจริง ๆ ค่ะ!
แนะนำ ของขวัญคริสต์มาส และ ของขวัญปีใหม่
ก่อนจากกันไป ซิสก็มีของขวัญน่ารักๆ มาแนะนำจะใช้เป็นของขวัญให้กับเพื่อนๆก็ได้ หรือจะนำไปเป็นไอเดียในการจับฉลากช่วงเทศกาลคริสต์มาส และ ปีใหม่ ก็ได้เช่นกันนะ ด้วยงบที่ไม่เกิน 5 ใบแดง แต่เป็นของที่ได้ใช้จริง มีประโยชน์และน่ารัก เรียกได้ว่าถูกใจผู้ให้ โดนใจผู้รับเลย จะมีอะไรบ้างไปดูกัน ซิสจะแปะพิกัดไว้ให้นะ

เเบรนด์ | รูปภาพ | พิกัด | รายละเอียด | ราคาคร่าวๆ |
|---|---|---|---|---|
| ![]() | ชุดกาน้ำเซรามิค เหมาะกับการเป็นของขวัญช่วงเทศกาลคริสต์มาส และปีใหม่ | 6 ใบแดงมีทอน | |
| ![]() | นาฬิกาตั้งโต๊ะ รูปแมวดำ ถูกใจทาสแมวแน่นอน แถมแมวดำยังความหมายดีด้วย | 3 ใบแดง | |
Imarflex | ![]() | เครื่องปิ้งขนมปัง ใช้แล้วตัวขนมปังจะเป็นรูปแมว | 400-500 บาท | |
| ![]() | เซ็ทแปรงแต่งหน้า ขนแปรงนุ่มพกพาง่าย | 300 | |
| ![]() | จานขนมปังเซรามิค ลายแมว สไตล์ญี่ปุ่น เหมาะกับเพื่อนที่ชอบแมว | 200 บาท | |
Lululun | ![]() | Hydration Face Mask จากประเทศญี่ปุ่น 1 กล่อง บรรจุ 5 แผ่น | 395 บาท |
สรุป ความเชื่อในเทศกาล คริสต์มาส-ปีใหม่ ทำอะไรถึงจะโชคดี
เรียกได้ว่า คริสต์มาส-ปีใหม่ เป็นช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองและเต็มไปด้วยความเชื่อ ตำนาน และเรื่องเล่ามากมาย จนกลายเป็น ธรรมเนียม และ ประเพณี ที่สืบทอดมาสู่ปัจจุบัน บางความเชื่อบางธรรมเนียมอาจจะมีความ แปลก อยู่บ้าง บางธรรมเนียมก็ดั่งดังข้ามโลกและอยู่มาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน แต่ทุกความเชื่อ ทุกธรรมเนียมนั้นก็ล้วนมีจุดประสงค์เดียวกันนั่นก็คือ ความโชคดี มีสุข เป็นการสร้างความหวังและความศรัทธา ให้เราใช้ชีวิตอย่างมีความหมายในปีถัด ๆ ไป ไม่ว่าจะเป็นการกินองุ่นให้ทัน 12 ลูก หรือการใส่กางเกงในสีมงคล ก็ล้วนเป็นการเริ่มต้นปีอย่างมีพลังงานบวกทั้งสิ้น! นอกจากความเชื่อที่เรานำมาฝากแล้ว เพื่อน ๆ ชาวซิส มีความเชื่อในวันคริสต์มาส-ปีใหม่ เรื่องอะไรกันบ้างคะ? มาเล่ากันด้วยน้าาา
ขอบคุณแหล่งข้อมูลอ้างอิงจาก : Vogue, Thaiger, สำนักพิมพ์ เม่นวรรณกรรม
บทความแนะนำ

เลี้ยงแมวกันผี ! ส่องตำนานเรื่อง "แมว" ในมุมของทาสจากทั่วโลก ! | บทความของ Tenshi Yuri | SistaCafe ครบเครื่องเรื่องบิวตี้
https://sistacafe.com/summaries/202584

ความเชื่อวันปีใหม่ ควรทำหรือไม่ควรทำอะไรบ้างนะ ? | บทความของ Yoong Peskyy | SistaCafe ครบเครื่องเรื่องบิวตี้
https://sistacafe.com/summaries/97682
รวมเรื่องลึกลับ สัตว์มหัศจรรย์ และอสูรกายในตำนาน | บทความของ ✞ *:.。.Madame LULU.。.:* ✞ | SistaCafe ครบเครื่องเรื่องบิวตี้
https://sistacafe.com/summaries/6500

ไขข้อข้องใจ ! ทำไมต้องแต่งผี วันฮาโลวีน ? | บทความของ Tenshi Yuri | SistaCafe ครบเครื่องเรื่องบิวตี้
https://sistacafe.com/summaries/202891

นางนพมาศเป็นใคร ? มีจริงไหม ในประวัติศาสตร์ | บทความของ Tenshi Yuri | SistaCafe ครบเครื่องเรื่องบิวตี้
https://sistacafe.com/summaries/203061








